จางกวังพูดว่า “ไปนัดสู้ตอนนี้ไม่ได้แน่นอน แต่ถ้านัดสู้เป็นช่วงเวลา ต้องไม่โดนใครจับผิดแน่นอนครับ”

ฉินอวิ่นอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดว่า “จางกวังนายหมายถึงตอนไหน”

จางกวังพูดช้าๆ ว่า “เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี!”

ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ในนี้พยักหน้าพร้อมกัน

จูจวิ้นยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เลว เทศกาลเซ่นไหว้ประจำปีเป็นโอกาสดีจริงๆ พลุเต็มท้องฟ้า ประลองบู๊ต้อนรับปีใหม่ ผู้แข็งแกร่งส่งเสียงเชียร์ ผู้อ่อนแอก็กลับบ้านไป”

ในที่สุดใบหน้าฉินอวิ่นก็มีรอยยิ้ม เขาพยักหน้าพูดว่า “จางกวังนายฉลาดจริงๆ ใช่แล้ว ช่วงเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ไปนัดประลองบู๊กับเขา เป็นเรื่องปกติมาก ไม่แน่นายไม่ไปหาเขา เขาอาจมาหาถึงที่ก็ได้ โอเค งั้นตกลงเป็นช่วงเวลานี้แล้วกัน”

จางกวังโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ไท่จื่อทรงพระปรีชาสามารถ!”

คนที่เหลือรีบพูดตาม “ไท่จื่อทรงปรีชาญาณ”

ฉินอวิ่นหัวเราะร่า

เขากำมือ มีประกายในดวงตา ราวกับเขาเห็นเลือดลู่ฝานแปดเปื้อนเมืองหลวงแล้ว

……

ในเจดีย์ยา เพียงพริบตาก็ผ่านไปสามวันแล้ว

เวลาสามวันเต็มๆ ลู่ฝานหนังอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ดูมีความสุขและพึงพอใจ

เจ้าดำกับสิบสาม เริ่มช่วยกันแยกประเภทของสมุนไพร

แต่ความสามารถของทั้งสองคน ทำได้เพียงแยกสมุนไพรต้นเล็กกับต้นใหญ่

ส่วนสรรพคุณทางสมุนไพรอะไรทำนองนั้น ไม่รู้สักอย่างเลย!

ชั้นวางที่วางอยู่ในโกดังยา โดนพื้นฐานแบ่งจากสรรพคุณของยา

ฝั่งไหนวางยาที่สามารถขจัดพิษได้ ฝั่งไหนวางยาที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้

ถ้าคนไม่มีความรู้สักหน่อย คงแยกไม่ออกจริงๆ

ถึงเป็นผู้ฝึกชี่ที่ทำงานที่นี่มานาน ไม่แน่อาจต้องค้นในสมุดภาพเพื่อที่จะแบ่งแยก

ในเวลาสามวัน ผู้ฝึกชี่อายุน้อยที่เคยทำงานที่นี่แวะมาดู เห็นว่าลู่ฝานไม่ได้แยกสมุนไพร แต่กำลังดูสมุดภาพ ก็ออกไปอย่างดูหมิ่น ที่เหลือก็มีสัตว์ตัวนายมาส่งอาหาร

พูดขึ้นมาแล้ว อสูรวิเศษตัวน้อยที่ทำงานในเจดีย์ยาน่ารักมาก สองสามวันนี้ลู่ฝานเห็นหมูวิเศษตัวอ้วนตั้งหลายตัว

จู่ๆ ประตูห้องเปิดออก

สิบสามกับเจ้าดำหันไปมอง ยังไม่ถึงเวลาอาหารเลย ไม่น่าจะมาตอนนี้นะ

หลังจากนั้นเงาของตาเฒ่าซูปรากฏออกมา ใบหน้ามีความโมโห เขาเดินจ้ำอ้าวเข้ามาข้างใน

เห็นลู่ฝานที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ ตาเฒ่าซูตวาดเสียงดังว่า “ไอ้หนุ่ม ได้ยินว่านายกำลังอู้งานใช่ไหม! ฉันจะบอกนายนะ ถ้านายยังไม่เริ่มทำงานอีก ฉันสามารถรายงานนายต่อเบื้องบนตามกฎได้ จากนั้นนายก็รอไสหัวออกไปได้เลย”

ลู่ฝานปิดหนังสือ หันมามองตาเฒ่าซูแล้วพูดว่า “แค่ท่องจำหนังสือภาพก่อนเท่านั้น อู้งานที่ไหนกันล่ะ”

ตาเฒ่าซูส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “อย่างนายเนี่ยนะ จะท่องจำหนังสือภาพ งั้นฉันถามนายหน่อย หญ้าเปลวเพลิงควรแยกยังไง”

ลู่ฝานพูดว่า “อยู่ในธาตุไฟของธาตุทั้งห้า มีคุณสมบัติรักษาอาการบาดเจ็บ สามารถใส่เข้าไปในยาได้ แยกไว้ที่ชั้นวางยาที่สองด้านซ้ายมือ”

ตาเฒ่าซูอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นถามอีก “แล้วผลทำลายวิญญาณล่ะ”

“คุณสมบัติเย็น อยู่ในธาตุน้ำของธาตุทั้งห้า ไม่มีคุณสมบัติรักษาอาการบาดเจ็บ เอาไปใส่ในยาค่อนข้างยาก แยกไว้ที่ชั้นวางยาที่สองด้านขวามือ”

ลู่ฝานตอบอย่างราบเรียบ

ตาเฒ่าซูอ้าปากค้าง จู่ๆ เขารู้สึกไม่อยากเชื่อ

“ดูเหมือนนายท่องจำอะไรได้นิดหน่อยแล้วจริงๆ”

จู่ๆ ตาเฒ่าซูพูดอย่างไม่สบอารมณ์

ลู่ฝานยิ้มแล้วมองเขา จากนั้นพูดว่า “งั้นตอนนี้อย่ารบกวนผมทำงานได้ไหม”

ลู่ฝานทำท่าเชิญ ตาเฒ่าซูอ้าปากจะพูด แต่ก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ

ตาเฒ่าซูสะบัดแขนเสื้อ เดินจ้ำอ้าวออกไป พูดด้วยเสียงแค้นว่า “ฉันจะดูสิว่าอีกไม่กี่วัน นายจะทำหน้าที่สำเร็จไหม”