อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 781 จัดการงานศพ
บนม้วนหนังแกะโบราณที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเขียนวิธีการต่างๆไว้ว่า จำเป็นต้องใช้เลือดของนาง เป็นความจริงครึ่งหนึ่งเป็นเท็จครึ่งหนึ่ง

สิ่งที่จำเป็นจริงๆ คือเลือดหัวใจของนาง จำเป็นต้องให้นางอุทิศตัวทั้งร่างกาย……

และไม่ใช่ว่าให้นางกรีดสุ่มสี่สุ่มห้าไปสองสามมีด หยดเลือดไม่กี่หยดลงไปก็จะสามารถจัดการได้……

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมบรรพบุรุษของเผ่าหยกจึงได้สืบทอดต่อมา ว่าจำเป็นต้องให้พวกนางที่มีสายเลือดธิดาเทพเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าได้

“ทำไมไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้หน่อย” กู้ชูหน่วนมองไปที่ดวงตาอันเจ็บปวดคู่นั้นของสุดยอดผู้อาวุโส กล่าวน้ำเสียงเฉยเมย มองอารมณ์ของนางไม่ออก

“ข้า….ข้ามัวแต่ยุ่งอยู่กับการเข้าฌานเพื่อหาวิธีไขรหัสของมุกมังกรเม็ดที่แปด…..ตอนนั้นก็ร้อนใจเกินไป ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากมายนัก และคิดไม่ถึงว่าอี้เฉินเฟยและเผ่าน้ำแข็งจะทำการอุทิศตัวบูชา”

คิดไม่ถึง….

เหอะ…..

คิดไม่ถึงได้ดี

ตอนนั้นเผ่าหยกก่อตั้งเผ่าน้ำแข็ง ก็ไม่ได้เพื่อรอวันนี้หรือ?

กู้ชูหน่วนปล่อยมือที่จับมือของสุดยอดผู้อาวุโสออก แล้วออกจากห้องประชุมไปด้วยความเหม่อลอยไร้วิญญาณ

สุดยอดผู้อาวุโสคิดจะตามไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรหลังจากที่ตามไปแล้ว

ให้นางสละชีพตัวเองเพื่ออุทิศตัวบูชาหรือ?

หรือให้นางล้มเลิกการหลอมรวมมุกมังกร ล้มเลิกการถอนคำสาปโลหิต?

หากเป็นตอนที่อี้เฉินเฟยและคนอื่นๆยังมีชีวิตอยู่ บางทีนางอาจจะไตร่ตรองอยู่บ้าง

แต่ตอนนี้….

กว่าร้อยชีวิตเสียชีวิตอย่างอนาถต่อหน้านาง นางยังมีทางเลือกเหลือให้เลือกอีกหรือ?

ถ้านางล้มเลิก กลัวเพียงแค่ทั้งชีวิตนี้นางคงต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้การประณามของจิตใจที่รู้จักผิดชอบชั่วดีไปตลอด

สุดยอดผู้อาวุโสทอดถอนใจ นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเหม่อลอยไร้เรี่ยวแรง

นอกห้องประชุม

ทันทีที่กู้ชูหน่วนออกมา จอมมารและคนอื่นก็ล้อมเข้าไป

เห็นนางหน้าซีดเผือด ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆก็ประหลาดใจ

แต่จอมมารกลับเดือดดาลอย่างสุดขีด “ข้ารู้อยู่แล้วว่าตาแก่นั่นไม่ใช่คนดีอะไร ข้าจะไปมอกเขาซะ”

“อาโม่ ไปเดินเป็นเพื่อนข้าได้หรือไม่”

กู้ชูหน่วนจับมือเขา ส่งยิ้มหวานให้เขา

นางกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มนั่นกลับทำให้คนปวดร้าวไปทั้งใจ

ผู้อาวุโสรองถามหยั่งเชิงว่า “หัวหน้าเผ่า สุดยอดผู้อาวุโสพูดอะไรบ้าง มุกมังกรสามารถหลอมรวมได้หรือไม่?”

กู้ชูหน่วนมองผู้อาวุโสรองอย่างลึกซึ้งรอบหนึ่ง มองจนทำให้ผู้อาวุโสรองขนหัวลุก สันหลังเย็นยะเยือก

แล้วในขณะที่ผู้อาวุโสรองกำลังเหงื่อตกนั้น ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็เก็บสายตา จูงมือของจอมมารแล้วจากไป

ผู้อาวุโสรองงงงันแล้ว

“นี่หัวหน้าเผ่าเป็นอะไรไป? ทำไมใช้สายตาแบบนั้นจ้องมองข้า?”

ผู้อาวุโสหกจ้องมองเขาด้วยความโมโหเป็นอย่างมาก

“ทุกครั้งก็เป็นเจ้าที่พูดมากที่สุด เวลาที่หัวหน้าเผ่าควรให้พวกเรารู้ ก็จะให้พวกเรารู้เองเป็นธรรมดา”

“นี่……มุกมังกรทั้งเจ็ดเม็ดก็หาเจอหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหลอมรวมได้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมพวกเจ้าแต่ละคนถึงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้?”

“ทองไม่รู้ร้อน? เจ้าเห็นผู้ใดบ้างที่เป็นทองไม่รู้ร้อน? หรือทุกคนจะต้องแสดงออกบนสีหน้าเช่นเจ้าอย่างนั้นหรือ? ผู้อาวุโสใหญ่บาดเจ็บสาหัสยังไม่หาย เฝ้าระวังอยู่นอกห้องหลอมยาทุกวัน เขาไม่ร้อนใจหรือ? หัวหน้าเผ่าหลอมรวมมุกมังกรไม่ได้พักมาทั้งวันทั้งคืน แทบจะปล่อยเลือดออกไปจนหมดตัวแล้ว นางไม่ร้อนใจรึไง? เจ้าคิดว่ามีเจ้าคนเดียวที่ร้อนใจหรือไงกัน?”

“เจ้าตะคอกใส่ข้าทำไม?”

“แล้วเจ้าไปโวยวายกับหัวหน้าเผ่าทำไมกันล่ะ?”

“ข้าไปโวยวายกับหัวหน้าเผ่าตอนไหน? เจ้าหก เจ้าตั้งใจจับผิดข้า อยากจะทะเลาะกับข้าใช่หรือไม่?”

ผู้อาวุโสทั้งสองพูดจาไม่ลงรอยกัน เริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง

ผู้อาวุโสใหญ่หันตัวกลับด้วยความหงุดหงิด ชำเลืองมองเงาหลังที่จากไปของกู้ชูหน่วน ท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่เสมอ

แต่นึกไม่ออกว่าเกิดปัญหาขึ้นตรงไหนกันแน่

สำหรับว่าทำไมจึงหลอมรวมมุกมังกรไม่ได้ สุดยอดผู้อาวุโสก็ไม่ยอมพูดความจริงกับเขา

ในภูเขาโฮ่วซานของเผ่าหยก

กู้ชูหน่วนและจอมมารนั่งข้างกันอยู่บนยอดเขา มองดูดอกไม้บานสะพรั่งในสถานที่ไกลออกไป

จอมมารกล่าวว่า “พี่สาวพาข้ามาที่นี่ เพียงเพื่อชมดอกไม้เหรอ?”

คงจะไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้นหรอกมั้ง…….

กู้ชูหน่วนยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม หนุนศีรษะลงบนแขนของตัวเอง มองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีคราม

“ข้าไม่ได้ชมฟ้าครามเมฆขาวมานานมากๆแล้ว สวยงามมากจริงๆ ดอกไม้ที่เบ่งบานของเผ่าหยกก็งดงามยิ่งกว่า ปลายจมูกยังมีกลิ่นของดอกพุดอีกด้วย”

“สวยมาก”

หากว่าไม่มีเรื่องการอุทิศตัวบูชา และไม่มีเรื่องคำสาปโลหิต คิดว่าทิวทัศน์เช่นนี้คงจะสามารถทำให้คนที่ได้ดูสบายใจได้

จอมมารเลียนแบบท่าทางของนาง หนุนศีรษะไว้บนแขน แหงนหน้ามองฟ้าครามเมฆขาว กระทั่งนับเมฆขาวทีละก้อนๆ

เขายิ้มแล้วกล่าว “ดอกไม้เผ่าปีศาจของพวกเราเบ่งบานสะพรั่งงดงามยิ่งกว่าซะอีก พี่สาวมีเวลาว่างเมื่อไหร่ ข้าจะพาท่านไปดูที่เผ่าปีศาจ”

“ได้สิ ข้าดมกลิ่นของดอกพุดนี้แล้วชั่งหอมนัก เผ่าปีศาจมีดอกพุดหรือไม่?”

“นี่….เหมือนจะไม่มี แต่ถ้าพี่สาวชอบ อาโม่ก็จะไปปลูก ปลูกดอกพุดไว้เป็นผืนๆทั่วทั้งหุบเขาป่าไม้ให้พี่สาวได้ชื่นชม”

“ดีสิ……ตอนนี้ข้าชักอยากจะไปดูดอกพุดเป็นทั้งผืนแผ่นแล้วสิ”

กู้ชูหน่วนเอียงหน้า ในดวงตาแฝงไปด้วยความปรารถนา

จอมมารคิดว่านางล้อเล่นเพียงเท่านั้น

คิดไม่ถึงว่าในดวงตาจะเต็มไปด้วยความจริงจัง ไหนเลยจะมีการล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว

“ตอนนี้ก็อยากดูดอกพุดทั้งผืนแผ่นแล้วเหรอ?”

“เจ้าพูดไว้แล้วนี่ เพียงแค่ข้าอยากดู เจ้าก็จะปลูก?”

“เป็นเช่นนั้นไม่ผิด แต่ว่าดอกพุดจะเบ่งบานได้ ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ไม่เช่นนั้นข้าพาท่านไปดูดอกไม้อย่างอื่นแทนละกัน”

ดอกพุดทั้งผืนแผ่น ทั้งหุบเขาป่าไม้ที่เต็มไปด้วยดอกพุด ดอกพุดสีขาวดุจหิมะ ก็เหมือนกับเจ้าที่ไร้เดียงสาไร้พิษสงเช่นนั้น

จอมมารใจอ่อนลงมาในพริบตา

ตั้งแต่เล็กจนโตมีผู้ใดบ้างที่ไม่ได้พูดว่าเขาโหดเหี้ยมจิตใจอำมหิต

นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าเขาไร้เดียงสาไร้พิษสง สะอาดเหมือนกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง

“ข้าจะให้คนไปปลูกเดี๋ยวนี้ ไม่ช้าดอกไม้ก็จะบานแล้ว”

“คนอื่นปลูกจะมีความหมายอะไร ข้าอยากดูเพียงดอกพุดที่เจ้าปลูกด้วยตัวเองเท่านั้น อาโม่เขาตั้งฉวินของเผ่าปีศาจว่างเปล่าไปทั้งผืนไม่ใช่หรือ? ข้าเห็นว่าตำแหน่งที่ตั้งตรงนั้นดีมาก

“ได้……แค่พี่สาวชอบ อาโม่ก็ยอมทั้งหมด”

เขาตั้งฉวิน ที่นั่นคือภูเขาที่ทุรกันดารแห่งหนึ่ง

ทั้งยังเป็นภูเขาหินทั้งลูกอีกด้วย

ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ตรงนั้นจะเป็นสิ่งของประเภทใดก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ดอกพุดก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้

ทำไมพี่สาวถึงได้คิดให้เขาไปปลูกดอกพุดที่นั่นล่ะ?

กู้ชูหน่วนยิ้มแล้วกล่าว “ยังไงซะก็เป็นอาโม่ที่ดีกับข้าที่สุด”

“อยู่แล้วล่ะ อาโม่แทบอยากจะเอาของที่ดีที่สุดในโลกนี้มามอบไว้เบื้องหน้าของพี่สาวเชียวนะ”

อารมณ์จิตใจของกู้ชูหน่วนแปรปรวนสับสน

นางรู้อย่างแน่นอน

ดังนั้นนางจึงยิ่งต้องการจะกำหนดความสัมพันธ์กับจอมมารให้ชัดเจน

ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งไม่ช้าไม่เร็ว ภาพที่สระโลหิตก็คงจะเป็นจริงอีกครั้ง

“เช่นนั้นเจ้ากลับไปปลูกตอนนี้เลยละกัน ข้ารอเจ้า”

“พี่สาวรีบร้อนไล่ข้าไปขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ? หรือว่าพี่สาวยังคิดจะปล่อยเลือดเพื่อหลอมรวมมุกมังกรต่อไป?”

“สุดยอดผู้อาวุโสพูดแล้วว่า ไม่มีวิธีหลอมรวมมุกมังกร แม้ว่าข้าจะปล่อยเลือดออกมาทั้งหมด ก็หลอมรวมมุกมังกรไม่ได้ ข้าล้มเลิกแล้ว……คิดว่าเจ้าก็น่าจะรู้ ในตัวของข้าเองก็โดนคำสาปโลหิตเช่นกัน ข้าแค่อยากจะใช้ชีวิตที่เหลือของข้าให้เต็มที่ยิ่งขึ้น และอยากจะมีชีวิตดีๆเพื่อตัวเองสักครั้ง”

จอมมารเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นท่านก็กลับไปเผ่าปีศาจพร้อมกับข้า ข้าปลูกดอกไม้ด้วยตัวเองให้ท่านดู”

“ไม่แล้วล่ะ พี่เฉินเฟยเพิ่งจากไป ข้าต้องเฝ้าศพให้เขาร้อยวัน รอหลังจากร้อยวันแล้ว ข้าจะไปหาเจ้าที่เผ่าปีศาจ”

จอมมารไม่ไป

หนึ่งร้อยวันแน่ะ

ต้องเป็นเวลาที่นานมากๆเชียวนะ…..

เขาไม่ต้องการแยกกับพี่สาวหรอก

“อาโม่ รอจนถึงเวลาที่ดอกพุดที่เจ้าปลูกด้วยตัวเองบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหุบเขา ข้าก็จะแต่งงานกับเจ้า เจ้าจัดขบวนแบกเกี้ยวมาหามข้ากลับไปได้เลย”

“แต่งงานกับข้า?”

จอมมารหวั่นไหวแล้ว อารมณ์จิตใจก็ตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

“ใช่ แต่ว่าเงื่อนไขแรกคือ เจ้าต้องปลูกดอกพุดที่ข้าต้องการออกมาให้ได้ ทั้งยังจำเป็นต้องปลูกด้วยมือของเจ้าเองด้วย ไม่สามารถยืมมือผู้อื่นได้ อีกทั้งยังต้องปลูกให้สำเร็จภายในหนึ่งเดือนด้วยล่ะ”

บทที่780 สายเลือด

บทที่ 782 สืบทอดตำแหน่งให้ฮัวฉีหลัว