ตอนที่ 414 มองผิด เห็นตาปลาเป็นไข่มุก

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

สาวน้อยผู้นั้นรับฟังอย่างตั้งใจ ทั้งยังไม่ขัดคำพูดของนาง เพียงแต่ขณะที่ฟังคำพูดเหล่านั้นไปสายตาของนางก็ยังหยุดอยู่บนร่างของตู๋กูซิงหลัน

 

 

นับตั้งแต่ที่นางเข้ามาในวังมังกร ก็เห็นนางตั้งแต่แรกแล้ว

 

 

สตรีผู้นี้งดงามเพียงพอ มีคุณสมบัติจะเป็นอนุของไท่จื่อ

 

 

หลิ่วฮุ่ยยังคงรำพันด้วยความขื่นขมต่อไป “ท่านผู้มารับตัวเจ้าสาว ท่านโปรดจัดการให้กับพวกเราด้วย เวยเอ๋อร์ของข้าเป็นมังกรทอง เป็นผู้มีพรสวรรค์และความหวังของทะเลตะวันตก หากเผ่ามังกรทมิฬต้องการจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง ย่อมไม่พ้นต้องการกำลังจากพวกเราทะเลตะวันตกใช่หรือไม่?”

 

 

“ชือหลี บุตรสาวที่ไม่รักดีของข้าผู้นั้นถูกพวกมนุษย์ชั้นต่ำหลอกลวงจนสองตามืดมัวไปแล้ว ของเพียงท่านช่วยแก้แค้นให้กับพวกเรา นำศาสตราวุธของเวยเอ๋อร์กลับคืนมา ต่อไปพวกเราทั้งทะเลตะวันตกก็จะขอฟังคำบัญชาของเผ่ามังกรทมิฬ!”

 

 

ในสายตาของนาง ถึงเผ่ามังกรทมิฬจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังถูกกักขังเอาไว้ใต้ก้นทะเลจะอย่างไรก็ยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลืองของเผ่ามังกรทั้งสี่ทะเลอยู่

 

 

เงื่อนไขที่นางมอบออกไปในตอนนี้มิได้เกินไป

 

 

เพียงแต่พอเอ่ยออกไป ก็เห็นสาวน้อยผู้นั้นมองดูนางด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง

 

 

ทั้งเย็นชาและโหดเ**้ยม!

 

 

แทบจะไม่ต่างอะไรกับตู๋กูซิงหลัน!

 

 

ในใจของนางรู้สึกหวาดผวาขึ้นมาในทันที ที่จริงแล้ว ตอนที่เห็นว่าผู้ที่มารับตัวเจ้าสาวเป็นเพียงสาวน้อยนางหนึ่ง นางก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาเท่าใดนัก

 

 

แต่ว่าแววตานั้น ทำให้นางคิดไปถึงพลังยามที่ตู๋กูซิงหลันฆ่าฟันขึ้นมา

 

 

จนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย รู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งตัว

 

 

“เจ้าเป็นใครกัน? ถึงมีสิทธิจะมาถกเงื่อนไขกับข้า?” สาวน้อยสะบัดแขนเสื้อขึ้นมา สายลมหอบหนึ่งก็ซัดออกไป ตบใบหน้าของหลิ่วฮุ่ยจนเลือดกลบปากทั้งยังต้องถ่มฟันออกมาสองซี่

 

 

ไม่ชอบฟังวาจาไร้สาระ….อืม แม้แต่จุดนี้ก็ไม่ต่างกับตู๋กูซิงหลันเท่าไหร่

 

 

ว่าแล้ว นางก็หันไปมองดูลู่เวยแวบหนึ่ง ในดวงตามีแต่ความรังเกียจอย่างที่สุด “มังกรทอง? คนของเผ่ามังกรตาบอดกันไปหมดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทองจริงหรือทองปลอม ก็แยกแยะไม่ออกแล้วหรือ?”

 

 

พอนางเอ่ยขึ้นมา คนที่หน้าเสียก่อนใครก็คือลู่กว่าง

 

 

“ท่านผู้รับเจ้าสาวหมายความเช่นไร? เวยเอ๋อร์เกิดมาก็เป็นมังกรทองตั้งแต่แรกแล้ว! หลายปีมานี้นางฝึกฝนจนก้าวหน้าอย่างว่องไว เป็นผู้มีพรสวรรค์แถวหน้าของเผ่ามังกรทั้งสี่ทะเลเลยนะ!”

 

 

ตลอดหลายปีมานี้ ลู่กว่างถือเอาการมีบุตรสาวเป็นมังกรทองคือความภาคภูมิใจของตนมาโดยตลอด

 

 

เหล่าราชามังกรอีกสามทะเลต่างก็พากันอิจฉาเขาอย่างยิ่ง ตลอดหลายปีมานี้ สามราชามังกรทะเลเหล่านั้นต่างก็คอยอ้าปากชะเง้อขอแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับเขา

 

 

เหล่าองค์ชายมังกรทั้งหลายต่างก็ทำตัวเป็นผักขาดขาวขอให้เขาไปทำการเลือกสรร แต่พอคิดถึงฐานะมังกรทองของเวยเอ๋อร์ เขาย่อมไม่เห็นองค์ชายมังกรเหล่านั้นอยู่ในสายตา

 

 

มังกรทองสมควรคู่กับมังกรทอง

 

 

รอให้เหล่าผู้เยาว์ของเผ่ามังกรเผ่าไหนกำเนิดเป็นมังกรทองออกมา ค่อยพิจารณาให้คู่กับเวยเอ๋อร์ของพวกเขา

 

 

แต่ว่าตอนนี้กลับมีคนบอกว่าอะไร? ทองจริงทองปลอมแยกแยะไม่ออก?

 

 

ลู่กว่างยอมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว!

 

 

เขาคิดว่าคนของเผ่ามังกรทมิฬคงจะอยู่ใต้ก้นทะเลลึกมานานเกินไป จึงแยกแยะตาปลากับไข่มุกไม่ออกแล้ว

 

 

ตู๋กูซิงหลันก็เหลือบตามองดูสาวน้อยผู้นั้นแวบหนึ่ง

 

 

หัวคิ้วของสตรีผู้นั้นขยับยกขึ้น กวาดตามองผู้คนอื่นราวกับมาจากเบื้องบน ดวงตามีแต่ความเย็นชา ทั้งยังแฝงความรังเกียจ

 

 

ช่างไม่เหมือนกันเผ่ามังกรทมิฬที่นางเคยคิดเอาไว้สักเท่าไร

 

 

สาวน้อยผู้นี้มิได้ใส่ใจใยดีราชามังกรตะวันตกและครอบครัวของเขาเลยสักนิด

 

 

ทั้งยังฉีกหน้าเปิดเผยฐานะมังกรทองจอมปลอมของลู่เวยออกมา

 

 

หากฝ่ายตรงข้ามยังไม่ลงมือ นางก็จะไม่เคลื่อนไหววู่วาม

 

 

เนื่องเพราะอย่างไรความเข้าใจที่มีต่อเผ่ามังกรทมิฬที่นางรู้ก็มีแต่ในตำราโบราณเท่านั้น

 

 

ตู๋กูซิงหลันย่อมมิได้หวาดกลัว นางกุมดาบยักษ์ของพี่ใหญ่เอาไว้ ในมือเปรอะไปด้วยเลือดของลู่กว่าง

 

 

มืออีกข้างหนึ่งของตู๋กูซิงหลันแผ่ออกมา ใจกลางฝ่ามือมีมุกมังกรที่เกิดจากแก่นชีวิตของชือหลี สีแดงเลือดที่อยู่บนมุกเลือนหายไปแล้ว กลับคืนเป็นสีฟ้าดังเดิม

 

 

ด้านในมีมังกรสีทองตัวน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่

 

 

แม้แต่ลู่กว่างก็ยังสามารถมองเห็นมังกรตัวนั้นได้อย่างชัดเจน

 

 

มุกมังกร คือสิ่งที่เมื่อเผ่ามังกรของพวกเขาสามารถแปลงเป็นร่างมนุษย์ได้แล้ว ก็จะทำการฝึกฝนบำเพ็ญเพียรจนสามารถสร้างลูกแก้วแก่นชีวิตขึ้นมา

 

 

ปกติแล้วในมุกมังกรจะไม่มีสิ่งใดทั้งนั้น แต่ว่าในมุกมังกรนี้ทำไมถึงได้มีมังกรทองตัวน้อยอยู่ด้วย?

 

 

เขาไม่เข้าใจเลย

 

 

สีหน้าของหลิ่วฮุ่ยเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ พอนางคิดถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนขึ้นมา….นางก็อดที่จะใจสั่นไม่ได้

 

 

ฝ่ามือของตู๋กูซิงหลันปัดออกไปเบาๆ ก็ส่งมุกมังกรนั้นผนึกกลับเข้าไปในร่างของชือหลีอีกครั้ง

 

 

มุกมังกรคืนสู่ร่าง นางก็เปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้นมา สีหน้าไม่ซีดขาวเป็นกระดาษอีกต่อไป

 

 

เหลือแต่ตะปูตรึงมังกรที่อยู่บนอกของนางดอกนั้นที่ยังไม่ได้ถูกถอดออกมา

 

 

มีแต่เผ่ามังกรเท่านั้นที่จะสามารถถอดตะปูตรึงมังกรออกได้

 

 

“เห็นแล้วหรือไม่? มุกมังกรนี้เป็นของบุตรสาวที่เจ้าเรียกว่า ‘เศษสวะ’” ตู๋กูซิงหลันมองดูลู่กว่างด้วยสายตาเย็นยะเยือก

 

 

ลู่กว่างแทบจะ….ไม่อยากเชื่อเลยว่า ชือหลีที่ถูกถอดกระดูกมังกรออกไปแล้ว ยังจะสามารถฝึกฝนจนสร้างมุกมังกรได้ นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

 

พอคิดย้อนกลับไป นางถูกถอดกระดูกมังกร ขับไล่ออกจากทะเลตะวันตก ทอดทิ้งให้แตกดับไปเอง แต่หลังจากนั้นมีหลายปีก็ยังสามารถสร้างกระดูกใหม่ขึ้นมา ถึงจะบอกว่าเป็นกระดูกงู….แต่ก็ยังเป็นเทพธิดาแห่งสายน้ำไปได้

 

 

ถึงแม้ว่าการเป็นเทพของมนุษย์…..จะไม่ถือว่าเก่งกาจอันใด

 

 

 

 

แต่ว่าจาก ‘เศษสวะ’ผู้หนึ่งก็ยังสามารถทำได้ถึงเพียงนี้ ……หัวใจก็พลันหนาวยะเยือกขึ้นมา

 

 

ยามที่สาวน้อยจากเผ่ามังกรทมิฬผู้นั้นได้เห็นมุกมังกร นางมิเพียงไม่ได้แปลกใจ ซ้ำยังกล่าวอย่างไร้อารมณ์ว่า “มังกรทองตัวนี้ก่อนที่จะถือกำเนิดขึ้นมาก็ถูกลอบเล่นงานแล้ว ถูกลักเอาร่างมังกรทองไป แต่ว่าน่าเสียดาย….ที่ขโมยผู้นั้นไม่อาจทำได้อย่างหมดจด ได้ไปแต่ร่างทองภายนอก สิ่งที่อยู่บนแก่นกระดูกย่อมไม่อาจเอาไปได้”

 

 

นางมองเพียงแวบเดียวก็ดูออกแล้ว

 

 

ช่างแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

 

 

“ใช่แล้ว ดังนั้นมุกมังกรที่ชือหลีสร้างขึ้นมา จึงเป็นพลังจากร่างมังกรทองที่มิได้ถูกลักขโมยไป”

 

 

เพียงแค่ประโยคเดียว ก็ทำเอาหลิ่วฮุ่ยระเบิดอารมณ์ออกมา นางกำลังหวาดกลัวความผิด จนตัวสั่นไปทั่งร่าง “เจ้าพูดจาไร้สาระอันใดกัน? ใต้หล้านี้จะมีเรื่องแบบนั้นได้อย่างไรกัน!”

 

 

ตอนนั้นนางใช้พลังในร่างไปจนหมดถึงสามารถแลกกับเวทย์ที่สามารถลักร่างมังกรทองมาได้ แต่กลับไม่อาจเอามาได้ทั้งหมด?

 

 

มิน่าเล่า…..มิน่าถึงเวยเอ๋อร์จะมีร่างเป็นมังกรทอง แต่พอใช้พลังในร่างทะลวงการฝึกฝนกลับสุดแสนยากลำบาก…..ตลอดหลายปีมานี้เพียงเพราะต้องการเสาะหาเม็ดยาเพื่อช่วยเสริมการฝึกฝนให้กับลูก นางก็ต้องสละสมบัติควรเมืองต่างๆไปมากมายไม่รู้เท่าใด

 

 

ผู้ที่ช่วยเหลือนางลักพลังของร่างทองในตอนนั้นหลอกลวงนาง! มิได้ดึงออกมาอย่างหมดจด!

 

 

ลู่กว่างสายตาเลื่อนลอยไปแล้ว ความหมายของพวกนางก็คือ ชือหลีต่างหากที่เป็นมังกรทอง ส่วนลู่เวยที่เขาโปรดปรานมานานหลายปี……ไม่เพียงเป็นแค่หัวขโมย ทั้งยังเป็นของปลอม?

 

 

ตอนนั้น…..เพราะเข้าใจว่าลู่เวยคือร่างมังกรทอง ดังนั้นพอเขารับสืบทอดตำแหน่งราชามังกรมาไว้ในมือ ก็รีบต้อนรับพวกนางแม่ลูกเข้าวังมังกร เป็นเหตุให้ชือฉางมักจะทะเลาะกับเขาอย่างใหญ่โตอยู่เสมอ ถึงได้ทำให้เกิด น้ำท่วมใหญ่ในภายหลัง

 

 

เหล่าทวยเทพเกิดโทสะ เขาไม่มีหนทางอื่นได้แต่ถอดกระดูกชือหลีและชือฉิงเพื่อแสดงการชดเชย

 

 

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทะเลตะวันตกก็หมดความสำคัญในสายตาของเหล่าทวยเทพเบื้องบน หลายปีมานี้ต้องผ่านวันเวลาไปอย่างทุลักทุเล

 

 

ที่แท้แล้ว เขาก็พลาดไปเห็นตาปลาเป็นไข่มุกหรือ?

 

 

คำพูดนั้นหากออกจากปากของผู้อื่น บางทีเขาอาจจะไม่เชื่อถือ แต่ว่ามันกลับมาจากปากของคนเผ่ามังกรทมิฬที่มารับตัวเจ้าสาว

 

 

เผ่ามังกรทั้งสี่ทะเลต่างก็รู้ดีว่า ในสายตาของเผ่ามังกรด้วยจะไม่ยอมให้มีผงทรายปะปน

 

 

ลู่กว่างตื่นตระหนกเข้าจริงๆแล้ว…..

 

 

คำพูดของหลิ่วฮุ่ยทำให้สาวน้อยผู้นั้นหันกลับมาจ้องมองนางในทันที “เจ้ากำลังสงสัยในตัวข้าหรือ?”

 

 

เผ่ามังกรที่ประคองเปลือกหอยสีดำเอาไว้กวาดตามองไป ก็จับจ้องหลิ่วฮุ่ยด้วยสายตาโหดเ**้ยมว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเจ้านี้คือผู้ใดกัน?”

 

 

 

 

 

 

…………………………….

 

 

ตอนต่อไป “เยี่ยอิง”