บทที่ 630 เขาไม่สนใจฉันแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 630 เขาไม่สนใจฉันแล้ว
แสนรักได้เห็น ดวงตาของเขาก็เกิดความรังเกียจขึ้นมา เขามองออกไปด้านนอกอย่างหมดความอดทนจึงตะโกนออกไป:“ใครก็ได้เข้ามาซิ!”

“ท่านประธาน”

“ลากตัวเธอออกไป และก็ต่อไปนี้ถ้าผมไม่อนุญาต อย่าให้เธอเข้าใกล้แผนกผู้บริหารแม้แต่ก้าวเดียว”

ใบหน้าหล่อเหลาคม ของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเย็นชา หลังจากนั้นพูดประโยคนี้ออกมาอย่างไม่ได้แคร์ความรู้สึกของคนอื่นสักนิด เขาที่นั่งอยู่ด้านในของโต๊ะทำงาน ไม่มองมาที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามอีก

ระหว่างคิ้ว เต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างรุนแรง!

เส้นหมี่มองอยู่นิ่งๆ

จนเธอถูกลากตัวออกไปจากออฟฟิศนี้ ทั้งที่เธอยังคงมึนงง แม้แต่ตัวเองอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย รู้สึกเพียงว่าในเมื่อสักครู่นั้นเหมือนเป็นความฝันความฝันหนึ่งเท่านั้น

เขากลับอยากหย่ากับเธอ

อีกทั้งยังตัดสินใจอย่างนั้น เธอไม่ยอมหย่า เขากลับจะไปฟ้องศาล

ทำไมล่ะ?

ไม่นานมานี้พวกเขาพึ่งจะพูดกันว่าให้ลืมเรื่องราวในอดีต ต่อไปนี้คนในครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ?ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันล่ะ?

เส้นหมี่ที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์

“คุณผู้หญิง คุณจะไปไหน แผนกบริหารการจัดการอยู่ทางด้านโน้น”คนที่พาเธอลงมา ชี้ไปที่แผนกบริหารการจัดการในตำแหน่งทางด้านขวา

แต่ว่า เส้นหมี่นั้นเหมือนกับว่าอะไรก็ไม่ได้ยินแล้วทั้งนั้น

เธอยืนนิ่งอยู่ที่ประตูหน้าลิฟต์สักพัก วินาทีนี้ เธอเดินไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ก้าวเดินไปทีละก้าวเดินออกจากบริษัทไป

“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่าจะถูกตรวจสอบเจอว่ามีปัญหาขึ้นมาจริงๆ”

“ยังจะต้องพูดอีกเหรอ คุณดูสิสติหลุดไปแบบนั้น ได้ยินว่า เมื่อกี้เธอวิ่งขึ้นไปชั้นบนมา”

“……นึกไม่ถึงจริงๆ ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งภรรยาของประธานบริษัทแล้ว เธอคิดอะไรอยู่กันแน่นะ”

“……”

คนในบริษัทที่อยู่ด้านหลัง หลังจากได้เห็นสีหน้าของเธอแบบนี้ จึงวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด

ใช่สิ เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?

เส้นหมี่เหมือนวิญญาณเร่ร่อนก็ไม่ต่างเดินออกมาจากบริษัท ก็ไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหน? หลังจากนั้นมองไปทั้งสี่ทิศรอบด้าน วินาทีนี้ หันมาแล้วมองไปที่ด้านขวาแล้วเดินตรงไป

หลังจากนั้นสิบกว่านาที เคมีรีบวิ่งเข้าไปในออฟฟิศของท่านประธานทันที

“ไม่ดีแล้ว ท่านประธาน คุณผู้หญิงเธอ……ไปที่สถานีรถไฟใต้ดินแล้ว”

“……”

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในออฟฟิศกำลังทำงานอยู่ แม้แต่ปลายปากกาก็ไม่ได้หยุดลง:“ทำไมเหรอ คุณอยากจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเหรอ”

เคมี:“……”

นี่มันเป็นคำพูดแบบไหนกัน ไม่ใช่ผู้หญิงของเขาสักหน่อย เขาจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอทำไมกัน?

ไม่ใช่ว่า……กลับมารายงานเรื่อง“เกี่ยวกับทหาร”ไม่ใช่หรือ?

แต่ว่าครั้งนี้ทำให้เคมีเกิดความสงสัยขึ้นมาคือ เมื่อก่อนนั้นแค่ได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นเดินไปไกลเพียงสองก้าว ชายหนุ่มก็จะทิ้งงานที่อยู่ในมือแล้วก็ไปหาเธอทันที

วันนี้ตอนเช้า เหมือนกับว่าจริงๆแล้วโลกของเขาไม่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ยังไงอย่างงั้น

“ต่อไปนี้อย่าให้ผมได้ยินคุณพูดถึงผู้หญิงคนนั้นจากปากของคุณอีก นอกเสียจากว่า คุณจะไปไกลๆซะ!”

“……”

“แล้วก็ประกาศลงไปที่ชั้นล่างทันที ให้บริษัทติดประกาศการละเมิดของเธอ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอไม่ต้องมาทำงานอีกแล้ว”

ชายหนุ่มคนนี้ สุดท้ายกลับเลือกทำให้สิ่งที่เลือดเย็นเป็นอย่างมาก เป็นการตัดสินใจที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่า

เคมีนิ่งอึ้งไป

เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า? ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมขึ้นมาอย่างกะทันหันล่ะ?

เคมีไม่เข้าใจการกระทำของBOSSท่านนี้เลยสักนิด แต่ว่า เขาเป็นเพียงเลขานุการของเขา แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ เขาก็ไม่กล้าถาม ยิ่งไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ในวันนี้ เส้นหมี่เหมือนกับร่างไร้วิญญาณยังไงอย่างงั้นนั่งอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน

เรื่องน่าอับอายของเธอ ถูกเผยแพร่ออกมาในบริษัทแล้ว

อีกทั้งผลลัพธ์ของบทลงโทษของเธอ สุดท้ายก็น่าอับอายสิ้นดี——ไล่ออก!

“คุณน้า ทำไมคุณถึงกินไอศกรีม ในวันที่อากาศหนาวขนาดนี้ กินแล้วจะทำให้ป่วยเอาได้นะ”

ในสถานีรถไฟใต้ดินคนผ่านไปผ่านมาไม่มาก ตอนที่เส้นหมี่ที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวกำลังกินไอศกรีมอยู่ที่นั่น จะพูดว่าบังเอิญก็ได้ กลับมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมองเห็นเธออีกแล้ว

เส้นหมี่ค่อยๆหันหน้ามา:“ไม่ป่วยหรอก น้าคิดแค่ว่า กินหมดแล้ว ก็จะกลับบ้านแล้ว”

“อ๋อ……”

เด็กน้อยจึงทำเป็นเหมือนเข้าใจแล้วก็พยักหน้า

ใช่สิ กินหมดแล้ว ก็สามารถกลับบ้านได้

ก็เหมือนกับครั้งที่แล้วที่อยู่ที่เมืองเดอะซี หลังจากนั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็จะมารับเธอกลับบ้าน

เธอนึกถึงเรื่องเมื่อครั้งที่แล้ว ยิ่งจับช้อนไม้แน่นขึ้น ตักคำใหญ่ๆออกมาจากถ้วยแล้วก็ยัดเข้าปาก

ผลลัพธ์ ครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามากเกินไปแล้วหรือเปล่า? หรือว่าเหตุผลอย่างอื่น เธอกลับหนาวขึ้นมาจนต้องหดตัว หลังจากนั้นรอให้ความเหน็บหนาวนั้นค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วร่าง

กะพริบตา “เปราะแประ”เสียงนี้ น้ำตาร้อนหยดหนึ่งร่วงลงไปในถ้วยไอศกรีม

ไม่มีบ้านแล้ว เธอต้องหย่าร้างแล้ว ที่ไหนๆก็ไม่ใช่บ้านแล้ว?

ทันใดนั้นเธอก็ปวดใจขึ้นมาเหมือนโดนมีดกรีด เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างดึงออกมาจากข้างใน จากเลือดเนื้อของเธอ กรีดออกมาสดๆ เจ็บจนในที่สุดเธอก็กินต่อไม่ไหวแล้ว กุมถ้วยอันนี้เอาไว้อย่างเจ็บปวดแล้วร้องไห้ขึ้นมา

“คุณผู้หญิง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม เป็นอะไรหรือเปล่า”

มีคนเห็นเธอแล้ว จึงเป็นห่วงขึ้นมาในทันใด

แต่เส้นหมี่เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เธอเพียงแค่อยากจะร้องไห้ เธอจมอยู่กับความโศกเศร้าและความเสียใจที่ปกคลุมลงมาทั่วทั้งฟ้าดิน ในหูของเธอ ไม่ได้ยินสิ่งอื่นใดอีกแล้ว

คนคนนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไง จึงทำได้เพียงแค่นั่งลงข้างๆเธออย่างเงียบๆ

ร้องไห้อยู่ประมาณสิบกว่านาที ถือว่า อารมณ์ของเส้นหมี่ ค่อยๆสงบลงแล้ว

“ดีขึ้นหรือยัง เช็ดน้ำตาหน่อยไหม”คนด้านที่อยู่ข้างมองเห็นแล้ว ส่งกระดาษทิชชูมาอย่างเอาใจใส่

บทที่ 629 เส้นหมี่ พวกเราหย่ากันเถอะ