“ฮี้!”

ยูนิคอร์นแสงนั้นตัวสูงและดูองอาจ แสดงออกได้ถึงพลังที่เข้มแข็ง

ถึงมันจะดูแฟนตาซีไปบ้างแต่เสี่ยวเฟิงก็ยอมรับได้

“ติ๊ง! จับกุมไม่สำเร็จ สกิลการจับกุมเพิ่มขึ้น”

ยูนิคอร์นตัวนี้เชิดหน้าขึ้นแล้วจึงบินหนีออกไปด้วยปีกของมัน

เสี่ยวเฟิงไม่ยอมแพ้และพยายามจะไปจับอีกตัวนึง ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะทำเป้าหมายของเขาสำเร็จ

ทว่า ความเป็นจริงมันก็ช่างต่างจากที่เขาคิดไว้เหลือเกิน

ชายหนุ่มเดินไปรอบๆภูเขาหิมะนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่เจออะไรแม้แต่ขนของยูนิคอร์นตัวนี้

“ไม่ยอมหรอกน่า! วันนี้ต้องจับให้ได้เลยว้อย!”

เขาพับแขนเสื้อ เบิกตากว้างและมองไปยังยอดเขาหิมะอย่างไร้จุดหมาย

เป็นอย่างที่เรนัลด์ได้บอกไว้ มันไม่ง่ายเลยที่จะจับยูนิคอร์นแสงที่โตเต็มวัย และแนะนำว่าให้เสี่ยวเฟิงจับตัวเล็กเพื่อใช้มันไปก่อนและรอให้มันโตก็ได้

แน่นอนว่าชายหนุ่มเจอพวกยูนิคอร์นตัวเล็กๆทันที

พวกตัวใหญ่ล้วนแต่บินวนอยู่แถวนี้เพื่อคอยปกป้องพวกตัวเล็ก ตัวที่นำหน้าสุดมีมงกุฎอยู่ด้วย

แต่พวกตัวเล็กๆนั้นกำลังเดินเล่นกันอย่างมื่นชื่น

ยูนิคอร์นพวกนี้มีขนสีขาวส่องแสงออกมาจตั้งแต่ใบหน้าไปตลอดลำคอ พวกมันชูคอขึ้นมองไปยังตัวที่สวมมงกุฎที่บินอยู่บนฟากฟ้า

เสี่ยวเฟิงมองพวกมันอย่างตะลึง พร้อมๆกับพวกยูนิคอร์นตัวเต็มวัยบินผ่านเหนือหัวเขาจนต้องรีบก้มหัวหลบ

ม้าสีขาวพวกนั้นมีท่าทางเย่อหยิ่งและไม่คิดจะเล่นกับพวกยูนิคอร์นเด็กๆพวกนั้น และมันก็ไปเดินกินหญ้าอย่างโดดเดี่ยว

แต่นี่ก็ทำให้เสี่ยวเฟิงได้โอกาสอันดีเยี่ยม ในเมื่อมันอยู่ตัวเดียวแบบนี้เขาก็รีบใช้สกิลจับกับมันทันที

“ติ๊ง จับกุมไม่สำเร็จ สกิลการจับกุมเพิ่มขึ้น”

ระบบแจ้งเตือนว่าเขาทำไม่สำเร็จอีกครั้ง และเมื่อยูนิคอร์นตัวนี้ก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นเสี่ยวเฟิงที่อยู่ห่างออกไป

จากนั้นมันก็ก้มหัวลงไปดมหิมะต่อ มันไม่ได้ใส่ใจในชายหนุ่มเลย

ด้วยการนั้น เสี่ยวเฟิงก็ไม่ได้ใจเสียแต่อย่างใด เขาค่อยๆเดินเข้าไปและเมื่อสกิลของเขาคูลดาวน์เสร็จแล้วก็ใช้มันจับยูนิคอร์นอีกครั้ง

“ติ๊ง จับกุมไม่สำเร็จ สกิลการจับกุมเพิ่มขึ้น”

เขายังทำจับไม่สำเร็จ ม้ายูนิคอร์นสีขาวนี้เองก็มองเขาด้วยสายตากวนตีน แต่มันก็ไม่ได้หนีไปไหนเช่นเคย

และเมื่อเสี่ยวเฟิงคูลดาวน์เสร็จแล้วก็เริ่มใช้สกิลต่อ

“ติ๊ง จับกุมไม่สำเร็จ สกิลการจับกุมเพิ่มขึ้น”

“ติ๊ง จับกุมไม่สำเร็จ สกิลการจับกุมเพิ่มขึ้น”

“ติ๊ง จับกุมไม่สำเร็จ สกิลการจับกุมเพิ่มขึ้น”

คูลดาวน์กว่า 1 นาทีของเสี่ยวเฟิงที่รวมๆกันตอนนี้ได้ประมาณ 10 นาทีแล้วสำหรับที่เขาเสียมันให้กับม้าตัวนี้แถมยังพลาดอีก

แล้วม้าเจ้ากรรมตัวนี้ดันไม่สนใจเขาเช่นเคย มันกินหิมะต่อไปอย่างไม่สนใจใยดีทำอย่างกับเสี่ยวเฟิงไม่มีตัวตน

ชายหนุ่มต้องข่มความโกรธไว้และพยายามจะจับมันให้ได้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าม้าตัวนี้มันกินหิมะเสร็จแล้วพยายามจะกางปีกหนี

“เดี๋ยว!”

เสี่ยวเฟิงไม่อยากจะให้มันหนีไปได้ไม่งั้นเขาจะต้องเสียเวลา 20 นาทีไปฟรีๆ เขาจึงกระโดดไป

“ฮี้!”

ยูนิคอร์นสีขาวกระพือปีกอย่างดุเดือดแล้วมองเสี่ยวเฟิงอย่างเหยียดหยาม

ชายหนุ่มมองมันด้วยสายตาเศร้าสร้อย เขาทำอะไรมันไม่ได้แล้ว แม้จะไม่อยากให้มันหนีไปแต่ก็ไม่อาจบุ่มบ่ามเข้าไปหามันได้เหมือนกัน

ชื่อของม้าพวกนี้เป็นสีเหลือง ถ้าเขาพุ่งเข้าไปทำร้ายมันจะกลายเป็นสีแดง แถมเขายังไม่สามารถเห็นเลเวลของพวกมันได้อีกด้วย ซึ่งถ้าเกิดว่าพวกมันเลเวลสูงมากเสี่ยวเฟิงจะลำบากเอา

ดังนั้นเสี่ยวเฟิงจึงเปิดกระเป๋าและหยิบวัตถุสีขาวออกมา

นั่นคือชิ้นเค้กที่เสี่ยวไป๋เหลือไว้ มันน่าจะใช้เป็นอาหารล่อพวกยูนิคอร์นได้ หลังจากคิดไปแบบนั้นชายหนุ่มก็หยิบมันออกมา

ด้วยสายตาที่งงงวย พวกม้ามองมาที่เสี่ยวเฟิงและเค้กในมือของเขา

ชายหนุ่มยื่นมือที่ถือเค้กเอาไว้ออกไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าและระมัดระวัง และพวกมันก็ไม่ได้มีท่าทีจะถอยหลังเลยแม้แต่น้อย และไม่กลัวชายคนนี้เลย

จากนั้นเขาก็เริ่มยื่นเค้กเข้าไปใกล้จมูกพวกมัน และพวกม้าก็ค่อยๆยื่นจมูกเข้ามาดมฟุดฟิด

“อาหารไง”

เสี่ยวเฟิงบอก เขารู้ตัวแหละว่ามันไร้สาระ แต่เหมือนว่าเจ้าม้านี่จะเข้าใจซะงั้น

หลังจากที่มันดมนิหน่อยก็เริ่มกัดและกินเค้กนั่นไป

จากนั้นเขาก็เห็นว่าดวงตาของมันเปล่งประกายพร้อมกับเส้นขนที่สั่นไหวด้วยความรวดเร็ว

ถ้าเทียบกับหิมะแล้ว เค้กน่าจะอร่อยกว่าอยู่แล้วล่ะนะ

“ก๊า!”

หลังจากที่สั่นไปทั่วร่าง ยูนิคอร์นตัวนี้ก็จ้องไปยังเค้กของเสี่ยวเฟิงแล้วก็กัดกินมันจนหมด

ด้วยเสียงนั่นเสี่ยวเฟิงต้องถอยมือกลับออกมาด้วยความกลัวว่ามันจะกัดนิ้วของเขา

ยูนิคอร์นที่กัดไม่โดนอะไรจึงได้แต่ทำหน้ามึนงง มองเสี่ยวเฟิงด้วยดวงตาเป็นประกาย

“นี่แกจะกินมือฉันด้วยไหมเนี่ย?”

เสี่ยวเฟิงพูดอย่างหวาดกลัว และคิดว่าอย่างน้อยก็ดีแล้วที่มันไม่ฉกเค้กจากมือของเขาด้วยปากของมัน จากนั้นเขาก็ยื่นชิ้นเค้กให้มัน

ดวงตาของม้าตัวนี้มองไปยังเค้กและเมินเสี่ยวเฟิงไป แต่ตอนนี้มันกลับค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปกัดเค้กอย่างเบาๆและนุ่มนวล แล้วก็มองมาที่เสี่ยวเฟิงราวกับว่าขออีกชิ้น

“กินไปให้หมดเลย”

ชายหนุ่มส่ายหัวด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นเค้กชิ้นที่หลือให้กับมัน

ดวงตาของยูนิคอร์นเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่จะค่อยๆกินเค้กทั้งหมดที่เหลือแล้วเลียมือของเสี่ยวเฟิง

ชายหนุ่มอาศัยจังหวะเพื่อลูบหัวมัน แต่มันก็ไม่สนใจ เขาน่าจะเตะมันไปแล้วถ้ายังเป็นเมื่อกี้

หลังจากที่มันกินเสร็จ ยูนิคอร์นก็เลียมือของเขาต่อราวกับว่ากำลังขอเพิ่ม

เสี่ยวเฟิงมองไปในกระเป๋าแล้วก็หยิบเค้กนมสตอว์เบอร์รี่มายื่นให้มัน

เจ้าม้ากินเค้กไปอีกชิ้นแล้วก็มองเขาต่อ

เสี่ยวเฟิงสัมผัสได้ถึงความนุ่มของขนมันที่ประดุจดั่งผ้าไหม และเขาก็หยิบเค้กช็อกโกแลตมาให้กับมัน

ทว่า คราวนี้ยูนิคอร์นรู้สึกหยะแหยงกับเค้กช็อกโกแลต มันพยายามเพื่อที่จะกินแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ราวกับว่ามันไม่อาจกินของที่มีสีดำได้

เสี่ยวเฟิงตะลึงก่อนที่จะไปหยิบเค้กครีมอันใหม่ ครั้งนี้เจ้าม้ากินด้วยความรวดเร็วเหมือนเดิม

เสี่ยวเฟิงใช้สกิลจับมันอีกครั้ง และตอนนี้มันก็สำเร็จ

“ติ๊ง จับกุมสำเร็จ! ยินดีด้วยสำหรับการได้รับสัตว์ขี่ – ยูนิคอร์นแสง โปรดตั้งชื่อมันด้วย!”

“ติ๊ง สัตว์เลี้ยงของคุณ เสี่ยวไป๋ คือสัตว์เลี้ยงตัวแรกในเขตฮัวเซีย คุณต้องการจะปกปิดชื่อตัวเองไหม?”

“ติ๊ง เพราะชื่อของคุณไม่ได้รับการยืนยัน เราจะปกปิดชื่อคุณให้โดยอัตโนมัติ”

“ติ๊ง เพราะคุณจับยูนิคอร์นแสงได้ ยูนิคอร์นแสงทุกตัวเพิ่มค่าดุร้ายต่อคุณ 10 รีบหนีออกจากที่นี่ทันที”

แสงสีขาวส่องสว่างเหนือหัวของเจ้าม้าตัวนี้ และมันก็ได้เข้าไปอยู่ในกระเป๋าของเสี่ยวเฟิง

ชายหนุ่มดีใจสุดๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้ดูสเตตัสของม้าตัวนี้ ชื่อพวกยูนิคอร์นทั้งหลายก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและบินเข้ามาหาเขาพร้อมกัน

หา? ไอ้ม้าเวรตัวนี้เป็นเจ้าหญิงของพวกมันรึไงวะ?

เมื่อเห็นฝูงพวกยูนิคอร์นกำลังพุ่งเข้ามาด้วยดวงตาสีแดง ด้วยเวลาอันกระชั้นชิด เสี่ยวเฟิงรีบใช้คัมภีร์วาร์ปกลับเมืองทันที ถ้าช้ากว่านี้เขาตายแน่ๆ

โชคยังดีที่เวลายังพอเหลือให้เขาทำแบบนั้นได้ เมื่อแสงส่องลงมาเสี่ยวเฟิงก็ไปอยุ่ที่จุดวาร์ปของเมืองเฉิงฉุย

ชายหนุ่มถอนหายใจพร้อกมับนั่งอ่านข้อความจากระบบ

ขั้นตอนแรกก็คือตั้งชื่อ เสี่ยวไป๋ตามสีขนของมันที่ขาวนวลแบบนี้ แต่เพราะว่าชื่อนี้ถูกใช้ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเจ้าม้าตัวนี้คือเจ้าหญิงของฝูงยูนิคอร์นพวกนั้นด้วย

“งั้นเอาเป็น เสี่ยวสุย”

“ติ๊ง คุณตั้งชื่อสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณว่า เสี่ยวสุย”

จากนั้นเสี่ยวเฟิงก็เปิดดูค่าสเตตัสของเสี่ยวสุยขึ้นมา