“พวกแกต้องคอยจับตาดูไว้นะ แล้วอย่าให้ใครเข้ามาได้ ฉันจะผูกขาดวัตถุดิบพวกนี้”

“อย่าห่วงเลยลูกเพ่ ผลโลหิตคือวัตถุดิบหลักในการทำโพชั่นขั้นสูง ไม่มีใครหน้าไหนจะเอามันไปได้ ฉันส่งคนไปจัดการพวกที่รู้สูตรกันหมดแล้ว แถมไม่มีใครเข้าใกล้ที่นี่ได้เลย คนของฉันเก็บผลไม้นี่กันตลอดเวลาเลย”

ที่นี่คือป่าผลไม้ที่มีความใกล้เคียงกับผลตะวันแดงในป่ามูกวง แต่มันก็แตกต่างกันอยู่

เสี่ยวเฟิงได้ยินบทสนทนาพวกนั้นจากสองคนที่ยืนอยู่หน้าเขา

ชายหนุ่มมองอย่างสงสัยและเห็นผู้เล่นสองคน

คนแรกคือชายวัยกลางคนอ้วนๆที่มีชื่อว่า นักธุรกิจหิวเงิน และชายวัยกลางคนที่ยืนข้างเขาชื่อ เลโอพาร์ต

“ลูกพี่ ป่านี้มันติดกับกิลด์ใหญ่ด้วย ผมเกรงว่าพวกเขาจะต้องเจอที่นี่แน่ๆ กิลด์มันนี่ของพวกเราสู้มันไม่ได้หรอก”

เลโอพาร์ตพูดออกมา

“อย่าห่วงไปเลย มีน้อยคนนักที่เป็นผู้เล่นชีวิตแล้วมีเลเวลสูงๆน่ะ ไม่มีใครรู้หรอกว่าผลไม้โลหิตเนี่ยมันมีค่ามากแค่ไหนเพราะว่าไม่มีใครมีสกิลทำยามาก่อนน่ะสิ แถมของแบบนี้สำหรับพวกมันแล้วไม่มีค่าอะไรให้ถึงขั้นต้องฆ่าแกงกันพื่อแย่งชิงมันหรอก เชื่อฉันสิเพราะฉันคือหัวหน้าของแกไงล่ะ”

นักธุรกิจหิวเงินพูดด้วยความมั่นใจ เสี่ยวเฟิงเองก็สัมผัสได้ถึงความประหลาดจากชายคนนี้

“เข้าใจแล้วลูกพี่ ไม่มีใครหน้าไหนหรือกิลด์เก่งๆกล้าเผชิญหน้ากับยอดนักธุรกิจแห่งโลกมิทอย่างลูกพี่แน่ๆ แต่ถ้าเป็นแบบนี้จะมีคนรู้นะว่าลูกพี่มีความสัมพันธ์กับกิลด์มันนี่”

“คิดมากน่า ไม่สำคัญหรอก ฉันเชื่อว่าหัวหน้ากกิลด์เกง่ต่างก็รู้ดีอยู่แล้วแหละ เมื่อครั้งประมูลรอบที่แล้วตอนฉันยกมือขึ้นประมูลไปก็มีคนทำหน้าตาประหลาดแล้วก็ต้องน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ” ชายอ้วนโบกมือ

“ถ้าเป้นแบบนั้นกิลด์การค้าชื่อ ศาลาขุมทรัพย์ ที่เพิ่งจะก่อตั้งไปเนี่ย ชื่อของมันปรากฎขึ้นบนเขตฮัวเซียแถมมีคนพูดถึงบ่อยๆด้วย มันต้องเป็นองค์กรที่เก่งกาจมากแน่ๆ และผมสงสัยจริงๆว่าทำไมมันถึงโปรโมตตัวเองในเขตนี้” เลโอพาร์ตบอกกับเขา

“มันก็แค่สมาพันธ์การค้าธรรมดาๆแหละเดี๋ยวก็หายไปแล้ว หลังจากที่ระบบเปลี่ยนเงินเปิดในวันพรุ่งนี้ ฉันก็จะผูกขาดการค้าทุกอย่างที่เป็นโพชั่นขั้นสูง” ชายอ้วนพูดด้วยความหยามเหยียด

“แต่พวกเราได้ข้อมูลน่าสนใจจากที่นั่นด้วยนะ”

คำพูดพวกนั้นทำให้เสี่ยวเฟิงตั้งใจฟัง

“หมายความว่าไง?” นักธุรกิจหิวเงินเองก็ประหลาดใจในคำพูดนั่น

“เขาว่ากันว่าศาลาขุมทรัพย์นั่นตั้งโดยหญิงสาวที่ชื่อ เฉียนโตวโตว นั่นน่าจะไม่ใช่ชื่อตัวละครแต่น่าจะเป้นชื่อจริงเลย” เลโอพาร์ตพูดแล้วมองหน้าลูกพี่ของเขา

“อะไรนะ เฉียนโตวโตว? พูดจริงปะเนี่ย?” ชายอ้วนกระพริบตาปริบๆ

“ลูกพี่เชื่อในแหล่งข่าวเถอะ เขาเป็นลูกสาวพี่ใช่ไหมล่ะ?”

เสี่ยวเฟิงเองก็ตะลึงกับคำพูดนี่ เขาไม่คิดว่าเฉียนจะเป็นลูกสาวของชายอ้วนคนนี้

“นังเด็กเวรนี่! ฉันไม่เจอเธอมาหลายวันแล้ว ทำไมถึงมาตั้งกิลด์ในเกมออนไลน์ได้ล่ะ? อีกอย่างฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอทำแบบนั้นได้ด้วยตัวคนเดียว” ชายอ้วนสบถ

“เขาว่ากันว่าเธอมีพระขั้นเทพคอยหนุนเธออยู่ เขาเป็นผู้เล่นระดับท็อปของเขตฮัวเซียและน่าจะให้วัตถุดิบดีๆกับเธอแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้รับการช่วยเหลือจากทางเมืองช่วยโปรโมตด้วยนะ ผมว่านี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมสมาพันธ์นี้ถึงมีชื่อเสียง” เลโอพาร์ตบอก

“ผู้เล่นระดับท็อปงั้นเหรอ? หืม การที่สามารถจัดตั้งสมาพันธ์ด้วยตัวเองด้วยของที่ได้จากเขางั้นเหรอ? ฉันล่ะสงสัยจากในตัวตนของพระขั้นเทพคนนั้นจริงๆ ถ้าเป้นไปได้ก็อยากจะร่วมงานด้วยอยู่นะเนี่ย”

พวกเขาเดินไปด้วยกันเรื่อยๆจนเสี่ยวเฟิงไม่ได้ยินอะไรเพิ่มเติม ชายหนุ่มเองก็เดินไปตามทางของเขาและได้แต่สงสัยในสิ่งที่เขาพูด

เสี่ยวเฟิงกลับไปที่ภูเขากระดูกและเก็บเลเวลที่นั่นจนในที่สุดก็เลเวล 15 ในเช้านี้

“เฮ้ ยินดีด้วย คุณเลเวล 15 และได้รับแต้มสเตตัส 1 แต้ม”

ตอนนี้สกิลทั้งหมดของเขาเองก็เข้าสู่เลเวล 2 เช่นกัน แถมเสี่ยวสุยเองก็เลเวล 12 แล้วด้วย

“เฮ้ สัตว์ขี่ของคุณ ยูนิคอร์นแสงเลเวล 12 แล้ว”

“เฮ้ สกิลอวยพรอาวุธของคุณได้เข้าสู่ระดับกลางแล้ว”

“เฮ้ สกิลอวยพรกล้าหาญของคุณได้เข้าสู่ระดับกลางแล้ว”

“เฮ้ สกิลชำระล้างของคุณได้เข้าสู่ระดับกลางแล้ว”

“ติ๊ง สกิลค้อนยักษ์แห่งความยุติธรรมเข้าสู่เลเวล 2 แล้ว”

อวยพรอาวุธ (ระดับกลาง 0/500)

เพิ่มพลังโจมตีให้กับเพื่อน (15% ของพลังโจมตีเป้าหมาย + ค่าแข็งแกร่งผู้ร่าย) เป็นเวลา 60 วินาที

คูลดาวน์ 30 วินาที

ใช้มานา 15

อวยพรกล้าหาญ (ระดับกลาง 0/500)

เพิ่มพลังเวทย์มนต์ให้เพื่อน (15% ของพลังเวทย์เป้าหมาย + ค่าปัญญาผู้ร่าย) เป็นเวลา 60 วินาที

คูลดาวน์ 30 วินาที

ใช้มานา 15

ชำระล้าง (ระดับกลาง 0/500)

ล้างสถานะผิดปกติของเพื่อน โอกาสสำเร็จ (เลเวลเป้าหมาย + เลเวลสกิล – ค่าเลเวลของสถานะผิดปกติ) x 100%

คูลดาวน์ 15 วินาที

ใช้มานา 15

ค้อนยักษ์แห่งความยุติธรรม (เลเวล 2 0/500)

เปลี่ยนค้อนตัวเองให้กลายเป็นค้อนแห่งความยุติธรรมและโจมตีเป้าหมายด้านหน้า สร้างความเสียหายธาตุแสง (พลังโจมตี x 200%)

คูลดาวน์ 60 วินาที

ใช้มานา 20

เสี่ยวเฟิงใส่รองเท้าระดับตำนานที่เขาต้องการได้เสียที รองเท้าซาลาแมนเดอร์ และใส่เข็มขัดระดับเยี่ยมยอดที่เขาดรอปได้ในถ้ำซาลาแมนเดอร์ เขาสนใจสกิลหลบของมันเป็นอย่างยิ่ง

แต่อาวุธเลเวล 15 ทั้งสองเองก็ช่วยเพิ่มค่าสเตตัสของเขาเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นสกิลวัฎจักรชีวิตเองก็ให้ค่าสเตตัส 3 แต้ม เพราะเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว

ผู้เล่น แด็ด

เลเวล 15

อาชีพ ผู้ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์

ชื่อเสียง 320

ธาตุ ศักดิ์สิทธิ์

พลีงชีวิต 333/333

มานา 321/321

พลังโจมตี 125-133

พลังเวทย์ 102-102

ป้อกงัน 92-97

ป้องกันเวทย์ 81-87

ค่าสเตตัส

แข็งแกร่ง 125

ทนทาน 114

ว่องไว 99

ปัญญา 102

จิตใจ 108

แต้มค่าสเตตัสที่เหลืออยู่ 0

ทาเลนต์อาชีพ – พลังเทพเจ้า (เลเวล 5),กายาศักดิ์สิทธิ์ (เลเวล 1)

สกิลอาชีพ

โฮลี่ไลท์(กลาง),ชำระล้าง(กลาง),อวยพรอาวุธ(กลาง),อวยพรกล้าหาญ(กลาง),ค้อนแห่งความยุติธรรม (2)

สกิลชีวิต

สอดแนมขั้นสูงและเก็บของ

เทียบกับผู้เล่นทั่วไปเสี่ยวเฟิงมีค่าสเตตัสที่น่ากลัวมาก ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามีแค่ครึ่งเดียวของเสี่ยวเฟิงทั้งนั้น

แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่พอใจ อุปกรณ์ของเขาเองก็ล้าหลังเกินไปแถมยังเป็นของเริ่มต้นอีก ดังนั้นค่าสเตตัสที่ได้จากมันย่อมไม่สูงอยู่แล้ว

แต่การที่จะได้อุปกรณ์ระดับสูงมันก็ยากเอาการอยู่ อันที่จริงแล้วแม้แต่อาวุธหายากเองก็สมชื่อของมันในตอนนี้มาก

ดังนั้นเสี่ยวเฟิงจึงเลือกที่จะปักหลักอยู่ที่โซนเลเวล 15 เพื่อหาอุปกรณ์ดีๆต่อไป

เขามองเวลาที่ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว นั่นหมายความว่ามอนสเตอร์พวกนี้จะกลับมาใหม่อีกครั้ง

แต่ก่อนที่เขาจะเข้าโซนเร่งรีบ เสี่ยวเฟิงต้องหาคนที่จะให้เขาเปลี่ยนอาชีพที่เมืองเตียนหลงก่อนเพื่อที่จะได้เรียนสกิลที่เลเวล 15

“ว้าว ของเขาแม่งโคตรเทพเลย!”

“ท่านอาจารย์ต้องการศิษย์ไหม?”

“พี่ชาย ช่วยพวกเราเก็บเวลหน่อได้ไหม? ช่วยพวกเราทีเถอะ!”

“ท่านเทพต้องการลูกน้องไหม? ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวังเลย”

“เฮ้พวก อยากขายของหน่อยไหม?”

เตียนหลงเต็มไปด้วยผู้คนมากมายในตอนเช้า พวกผู้เล่นเริ่มต้นยืนอยู่ที่ห้องเปลี่ยนอาชีพ ไม่มีใครจำเสี่ยวเฟิงที่สวมหน้ากากได้ แต่อย่างน้อยก็สะดุดตาด้วยอาวุธของเขา

ชายหนุ่มเมินพวกเขาและเดินต่อไปยังโถงเปลี่ยนอาชีพ

ไม่มีใครกล้าหยุดเขา หลายๆคนต่างก็หลักทางให้และเสี่ยวเฟิงก็เห็น NPC ที่ชื่อเตียนหลงพาลาดิน

และเสี่ยวเฟิงก็เดินลัดคิวไปยังด้านหน้าของผู้เล่นหญิงทั้งหมด เขาเห็น NPC สาวคนเดิมที่เคยเป้นคนเปลี่ยนอาชีพให้กับเขา

“อาร์คบิชอป! อะไรนำท่านกลับมาที่นี่กัน?”

เสี่ยวเฟิงปกปิดตัวตนของเขาด้วยฐานะอาร์คบิชอป แต่NPCสาวต่างก็ทักทายเขาอย่างดิบดีหลังจากเห็นตราบนหน้าอกเขา พวกผู้เล่นทั้งหลายต่างก็มองตาปริบๆ

เขาเป็นNPCด้วยเหรอ?

“ฉันมาเรียนสกิลน่ะ เธอคงจะสอนฉันได้สินะ?”

เสี่ยวเฟิงบอกเขาไปทันที เขาเปลี่ยนอาชีพเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดังนั้นเขาไม่คิดว่าน่าจะเรียนสกิลได้จากNPCคนเดิม

“ท่านอยากจะเรียนสกิลงั้นหรือ? แต่ฉันสามารถสอนสกิลธรรมดาให้กับท่านได้เท่านั้น…” ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เธอจะพูดแบบนี้ออกมา

“ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากจะเรียนสกิลธรรมดานี่แหละ”

เสี่ยวเฟิงไม่ได้อยากจะบังคับเธอเท่าไหร่ เขาเลือกที่จะเรียนสกิลเลเวล 15 ไว้ก่อนอย่างน้อยมันก็ยังช่วยเขาได้บ้าง

“ถ้างั้นท่านอาร์คบิชอป โปรดเลือกสกิลที่ท่านต้องการ แต่ทุกคนจะเลือกได้ตอนที่เลเวล 15 และท่านไม่ใช่ข้อยกเว้น”

หญิงสาวแสดงหน้าจอสกิลให้เสี่ยวเฟิงดู

ชายหนุ่มเลือกไว้นานแล้ว เขาเลือกสกิลอวยพรชีวิตทันที และเมื่อเขาเรียนสกิลนี้ก็จะไม่มีใครตั้งแง่ในตัวเขาในฐานะของฮีลเลอร์อีกแล้ว

“เฮ้ คุณได้เรียนสกิลอวยพรชีวิต”

อวยพรชีวิต (0/100)

เพิ่มขีดจำกัดพลังชีวิตของเป้าหมาย (คำนวนจากค่าแข็งแกร่งของผู้ร่ายทั้งหมด) เป็นเวลา 60 วินาที

คูลดาวน์ 30 วินาที

ใช้มานา 15