บทที่ 1376 ล้างแค้นให้เฮยทั่น

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

บทที่ 1376 ล้างแค้นให้เฮยทั่น Ink Stone_Fantasy

เหมียวอี้ก็ไม่ใช่คนโง่ ใช้กำลังปะทะกับจ้านหรูอี้ยังเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ แต่เขากังวลว่าบนตัวจ้านหรูอี้จะมีของวิเศษล้ำค่าอะไร ภูมิหลังวงศ์ตระกูลของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรก็เห็นๆ กันอยู่ กลัวว่าจะเสียเปรียบเพราะรับมือไม่ทัน ถึงได้ลงมือสังเวยดาบสายฟ้าออกมาหยั่งเชิงดูก่อน

พอหยั่งเชิงแล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ในมืออีกฝ่ายมีของดีที่สามารถเก็บของวิเศษของคนอื่นได้ สามารถเก็บของวิเศษได้ก็ย่อมเก็บคนได้ เหมียวอี้โชคดีที่ไม่ได้ลงมืออย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ ถึงได้ใช้ของวิเศษอีกชิ้นรับมือกับเหตุการณ์เฉพาะหน้า

ถึงแม้จ้านหรูอี้จะมีศักยภาพไม่ธรรมดา แต่ถ้าพูดถึงประสบการณ์ในการเข่นฆ่าและต่อสู้ ก็ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับเหมียวอี้เลย จ้านหรูอี้เป็นคนที่เข้าร่วมการทดสอบสองครั้งเท่านั้น ยามปกติจำเป็นต้องให้นางลงมือเสียที่ไหนกัน ส่วนเหมียวอี้นั้นเดินเข้าสู่เส้นทางการเข่นฆ่าตั้งแต่เริ่มเป็นมือใหม่แล้ว ผ่านอุปสรรคทั้งเล็กทั้งใหญ่ ผ่านความเป็นความตายมาจนกระทั่งทุกวันนี้ การที่แสดงความอ่อนด้อยต่อหน้าจ้านหรูอี้ก็แสดงว่ามีเงื่อนงำแน่นอน

บางครั้งการต่อสู้เข่นฆ่าก็ไม่ได้ใช้กำลังอย่างเดียว ยังต้องใช้สมองด้วย

เมื่อเห็นจ้านหรูอี้โดนกดดันจนต้องโยนของวิเศษออกจากมือ เหมียวอี้ก็แอบดีใจ สิ่งที่เขาต้องการก็คือให้ของวิเศษหลุดออกจากมือนาง ไม่อย่างนั้นถ้าอาศัยวรยุทธ์ของจ้านหรูอี้นั้นหลบหลีกได้เร็วมาก น้ำเต้าวิเศษไม่มีทางทำอะไรนางได้เลย

เหมียวอี้รีบใช้นิ้วร่ายอิทธิฤทธิ์ พอดีดนิ้ว ตาข่ายแดงที่คายออกมาจากน้ำเต้าวิเศษก็พลันกางออก ความเร็วในการดีดยิงตาข่ายเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน ชั่วพริบตาเดียวก็ใหญ่กว่ากระจกบานใหญ่ที่ตบเข้ามาแล้ว พอตาข่ายครอบเข้าไป ก็ทำให้กระจกทองแดงโดนห่อเข้าในตาข่าย

จ้านหรูอี้ตกใจมาก ดันทุรังร่ายอิทธิฤทธิ์ หวังจะให้กระจกทองแดงหลุดกลับมา

ทว่าของสิ่งหนึ่งข่มของสิ่งหนึ่ง อานุภาพของกระจกทองแดงไม่ได้อยู่บนแรงดึงเลย แต่แรงดึงอันป่าเถื่อนของตาข่ายบนน้ำเต้าวิเศษกลับไม่น้อย ของวิเศษที่หลอมสร้างให้กลายเป็นแบบนี้ย่อมมีประโยชน์การใช้งานนี้อยู่แล้ว เมื่อครอบกระจกทองแดงได้แล้วก็รีบดึงเข้าในปากน้ำเต้าของตัวเอง เมื่อถูกน้ำเต้าวิเศษครอบไว้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่กระจกทองแดงจะเก็บน้ำเต้าวิเศษได้อีก แต่กลับหดเล็กลงอย่างรวดเร็วเพราะพื้นที่ว่างและความสามารถในการดูดของน้ำเต้าวิเศษ

เมื่อเห็นว่าของวิเศษของตัวเองกำลังจะถูกเก็บไป จ้านหรูอี้ก็ตกใจมาก ที่บอกว่า ‘ข้ายอมให้เจ้าสามท่า’ นั้นเป็นคำพูดเหลวไหลล้วนๆ ทำให้นางร้อนรนจนสามารถทำได้ทุกอย่าง นางพลันถลันตัวพุ่งใส่เหมียวอี้ แทงทวนออกมาอย่างดุดัน ต้องจัดการคนที่ถือของวิเศษก่อน เดี๋ยวก็จะได้ของวิเศษกลับมาเอง

นางเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก ความเร็วในวันเก่าๆ เทียบไม่ติดแล้ว เหมียวอี้ก็ต้านทานไม่ไหวเช่นกัน เท่านั้นยังไม่พอ ชั่วพริบตาที่ทวนแทงเข้าไปหาเหมียวอี้ ทวนในมือจ้านหรูอี้ก็พลันระเบิดรัศมีสีฟ้าออกมา สังหารนำไปก่อนหนึ่งก้าว

เหมียวอี้วรยุทธ์สู้นางไม่ได้ แต่ความเร็วในการรับมือกลับไม่ใช่เล่นๆ พอดันฝ่ามือออกมา ลูกกลมสีแดงลูกหนึ่งก็ทุ่มออกมาขวางไว้ กำบังรัศมีสีฟ้าที่โจมตีเข้ามา แต่กลับต้านทวนของจ้านหรูอี้ที่โจมตีเข้ามาอย่างรุนแรงไม่ไหว

ทุกคนเบิกตากว้างมองดูฉากที่ใช้กำลังอันแข็งแกร่งปะทะกัน หยางชิ่ง สวีถังหรานและคนอื่น ๆ กลับหนังตากระตุก พวกเขาเคยเห็นความประหลาดของลูกกลมสีแดงนี้มาก่อน ไม่ได้มีประโยชน์แค่เป็นโล่ป้องกันเหมือนที่เห็นภายนอกแน่นอน แอบพูดในใจว่าจ้านหรูอี้แย่แล้ว

บึ้ม!มีเสียงระเบิดดังขึ้น

จ้านหรูอี้ที่โจมตีโดนลูกกลมแดงก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเช่นกัน ระดับความแข็งแรงทนทานของลูกกลมแดงเหมือนจะเหมือนจะไม่เป็นตามที่คาดการณ์เอาไว้ กว่ารู้ตัวตอนนี้ก็สายเกินไป ภาพตรงหน้าพร่ามัว ภายใต้ความตระหนกตกใจ คิดอยากจะถอยก็ไม่ทันแล้ว ยิ่งอานุภาพในการลงมือของนางมีมากเท่าไร ความเร็วที่ ‘ลูกกลมตีไม่พัง’ จะตอบสนองเมื่อโดนกระตุ้นก็จะมากขึ้นเท่านั้น

แกร๊ง! พอเงาสีแดงกะพริบ เงาร่างของจ้านหรูอี้ก็ถูกกักไว้ในนั้นแล้ว เหมียวอี้รีบร่ายอิทธิฤทธิ์ชี้ ‘ลูกกลมตีไม่พัง’ ด้านในมีเสียงดังแกร๊ก โดนกักไว้แน่นแล้ว

“ไป!” แเหมียวอี้ตะโกนเบาๆ เฮยทั่นที่อยู่ใต้เท้าก็ถลันตัวกระโจนออกไปทันที

ปั้งๆๆ! บนล่างซ้ายขวาของ ‘ลูกกลมตีไม่พัง’ พุ่งชนมั่วไปหมด จ้านหรูอี้ ที่โดนขังอยู่ใน ‘ลูกกลมตีไม่พัง’ โจมตีอย่างบ้าคลั่ง หมายจะตีฝ่าการปิดล้อมออกไป ทว่าของที่ทำจากลึกแดงจะพังง่ายๆ ขนาดนั้นได้อย่างไร

เฮยทั่นกางกรงเล็กทั้งสี่โผเข้าไปแล้ว มันหมอบอยู่บน ‘ลูกกลมตีไม่พัง’ และกอดไว้แน่น ใช้กำลังอันป่าเถื่อนต้านทานพลังพุ่งชนด้านใน ไม่ปล่อยให้จ้านหรูอี้หนีไป

จ้านหรูอี้ที่โดนขังอยู่ข้างในประสาทเสียแล้ว คำรามเสียงแตกอย่างเดือดดาลว่า “หนิวโหย่วเต๋อ ใช้อุบายเจ้าเล่ห์แบบนี้นับว่าเก่งอะไรล่ะ ถ้ามีความสามารถก็เอาความสามารถที่แท้จริงออกมาสู้สิ!”

เหมียวอี้ขี้เกียจจะสนใจนาง ชั่วพริบตาเดียวน้ำเต้าวิเศษก็เก็บกระจกทองแดงไว้แล้ว พอกวักมือ น้ำเต้าวิเศษก็ลอยกลับมา เก็บใส่ไว้ในกระเป๋าแล้ว

ทว่าพวกคังเต้าผิงที่อยู่ตรงข้ามกลับสีหน้าเปลี่ยนไปมาก พอมองดูความเคลื่อนไหวนี้ ทั้งยังมีเสียงพยายามตะโกนสุดชีวิตของจ้านหรูอี้ ก็รู้แล้วว่าเกิดปัญหากับจ้านหรูอี้ นางโดนขังแล้วออกมาไม่ได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นผู้หญิงที่โอหังอวดดีจะเสียอาการขนาดนี้ได้อย่างไร

ทั้งสิบคนมองหน้ากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็หยิบอาวุธออกมา พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ต้องการจะช่วยชีวิตจ้านหรูอี้ ทว่าพุ่งมาได้ครึ่งเดียว ทุกคนก็รีบหยุดกะทันหันด้วยสีหน้าที่นิ่งค้างราวกับโดนตะคริวกิน

พอสวีถังหรานโบกมือ กำลังพลของทัพกลางที่ดึงตัวออกมาสองพันคนก็ง้างธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ แต่ละคนง้างสายธนูแล้ว กำลังเล็งไปที่พวกเขา สวีถังหรานก็ยกมือขึ้นข้างหลังเช่นกัน เหลือบมองสิบคนนั้นอย่างลำพองใจ ความชั่วร้ายบนใบหน้ากำลังบอกอย่างชัดเจนว่า ‘เข้ามาสิ ถ้าไม่กลัวตายก็ลองลงมือดูสิ’

ในสายตาเขา ผู้บัญชาการใหญ่หนิวโหย่วเต๋อแทบจะไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย คอนนี้พบว่าก่อนหน้านี้กังวลไปเสียเปล่าๆ จ้านหรูอี้วรยุทธ์สูงแล้วยังไงล่ะ เมื่ออยู่ใต้เงื้อมมือของผู้บัญชาการใหญ่ก็เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง จัดการได้โดยไม่เปลืองแรงเลยสักนิด

หยางชิ่งและคนอื่นๆ สบตากันอย่างพูดไม่ออก พบว่าก่อนหน้านี้กังวลไปเสียเปล่าๆ เช่นกัน  ขนาดผู้หญิงคนนี้ก็ยังโดนกดดันให้ยอมแพ้ ทนมือของผู้บัญชาการใหญ่ไม่ไหวเลย

“กรร…” เฮยทั่นส่งเสียงคำรามเป็นระยะ กอดลูกกลมสีแดงเอาไว้และเขย่าไม่หยุด

จ้านหรูอี้กำลังร่ายอิทธิฤทธิ์สุดชีวิตเพราะอยากหลุดออกไปจากลูกกลมสีแดง นางอยากจะประลองกับเฮยทั่นมาก พบว่าเดรัจฉานแรงเยอะเกินไป ไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย จึงตะโกนเกรี้ยวกราดเสียงดังอีกครั้ง “หนิวโหย่วเต๋อ ถ้าแน่จริงก็มาประลองกับข้าแบบตรงไปตรงมาสักยกสิ!”

จู่ๆ รัศมีสีฟ้าสายหนึ่งออกทะลุออกมาจากรอยแยกตาข่ายของ ‘ลูกกลมตีไม่พัง’ ลุกลามตรงไปบนตัวของเฮยทั่น แทรกซึมเข้าไปในเพราะรบบนตัวเฮยทั่นแล้ว

เฮยทั่นพลันตัวสั่นทันที เหมียวอี้ตกจมาก รีบถลันตัวเข้าไปช่วเยหลือ เขาตบฝ่ามือบนตัวเฮยทั่น จะช่วยกำจัดแสงสีฟ้าที่อยู่ในร่างกายเฮยทั่นให้หมดไป

“กรร!” ใครจะคิดว่าจู่ๆ เฮยทั่นจะเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า บนตัวพลันพ่นหมอกออกมา ตามติดด้วยสายฟ้าหลายสายตากลางเมฆหมอก มีเสียงดังแสบแก้วหูไม่หยุด

เหมียวอี้ที่หวังดีเข้าไปช่วยเหลือโดนสายฟ้าโจมตีจนตัวสั่น รีบถลันตัวถอยหลบ สะบัดแขนที่โดนกระแสไฟฟ้าจนเหน็บชา

“อ๊า…” จ้านหรูอี้ที่อยู่ในลูกกลมสีแดงกรีดร้องเสียงแหลม ราวกับโดนงูกัด

ทุกคนเบิกตากว้างมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า เห็นเพียงบนตัวเฮยทั่นมีสายฟ้าไหลเวียน มันกอดลูกกลมสีแดงเขย่าอย่างบ้าคลั่ง สะบัดคนที่อยู่ข้างในได้ชนกระแทกกลิ้งไปกลิ้งมา และบนลูกกลมสีแดงก็มีสายฟ้าหลายสายเลื้อยไปมาไม่หยุด

“หนิวโหย่วเต๋อ เจ้าบังอาจ รีบปล่อยผู้บัญชาการใหญ่ของพวกเรา!” พวกคังเต้าผิงที่อยู่ตรงข้ามมองจนหวาดเสียวและร้องบอกอย่างโมโห แต่จนใจที่โดนลูกธนูมากมายจ่อไว้ ทำให้ไม่กล้าเข้าใกล้ ทำได้เพียงร้องตะโกนอย่างร้อนใจอยู่อย่างนั้น

พวกหยางชิ่งมองหน้ากันไปมองหน้ากันมาอย่างงุนงง ในดวงตาเหยียนซิวฉายแววประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าเฮยทั่นยังมีความสามารถนี้อยู่ด้วย

กำลังพลของธงพยัคฆ์ดำแอบรู้สึกทึ่ง ผู้บัญชาการใหญ่ของพวกเราช่างมีทรัพย์สินเยอะ นำของวิเศษออกมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า สัตว์พาหนะก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

ในดวงตาของหยางเจาชิงฉายแววงุนงง อย่าบอกนะว่าเฮยทั่นก็ฝึกเคล็ดวิชาสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามาเหมือนกัน แต่แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ เพราะเคล็ดวิชาสวรรค์เก้าชั้นฟ้าไม่ได้พ่นเมฆหมอกออกมาได้

เหมียวอี้ก็แปลกใจมากเช่นกัน รู้เพียงว่าก่อนหน้านี้เฮยทั่นสามารถกลืนเมฆพ่นหมอก ไม่กลัวสายฟ้าที่อยู่ในเมฆหมอก นึกไม่ถึงว่าพอหลายปีผ่านไป เฮยทั่นก็มีความสามารถเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะควบคุมและใช้สายฟ้าได้ สงสัยยาเจี๋ยตันที่กินไปหลายปีจะไม่ได้ลงท้องมันแบบสูญเปล่า กลับประเมินพลังอภินิหารของเฮยทั่นต่ำเกินไปหน่อย

“นายท่าน จะฆ่าจ้านหรูอี้ไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นจะอธิบายกับเบื้องบนไม่ได้” หยางชิ่งถ่ายทอดเสียงเตือนได้เหมาะสมกับเวลา

เหมียวอี้เองก็ได้สติกลับมาแล้ว จ้านหรูอี้ที่อยู่ในลูกกลมสีแดงไม่ขยับแล้ว โดนเฮยทั่นสะบัดชนมั่วๆ อยู่ในนั้น แล้วก็โดนกระแสไฟฟ้าของเฮยทั่นต่อไป จะปล่อยสะแสไฟฟ้าให้จ้านหรูอี้ตายให้ได้ เขาก็อยากจะฆ่าจ้านหรูอี้ทิ้งเหมือนกัน แต่จนใจที่เบื้องบนถ่ายทอดคำสั่งลงมา คำสั่งทหารมีนำหนักดุจขุนเขา เขารับผลที่ตามมาจากการขัดคำสั่งไม่ไหว

“โจรอ้วน พอแล้ว!” เหมียวอี้ตะโกนบอก

เฮยทั่นหยุดสะบัดอย่างบ้าคลั่งทันที มันหันกลับไปมองเหมียวอี้แวบหนึ่ง สายฟ้าหายไปอย่างช้าๆ เมฆหมอกที่วนเวียนอยู่ข้างกายก็ถูกดูดกลับเข้าในร่างกายแล้วเช่นกัน การหยุดครั้งนี้ เหมียวอี้ก็สังเกตเห็นเช่นกันว่าเฮยทั่นก็เสียเปรียบ แสงสีฟ้าที่จ้านหรูอี้ปล่อยออกมายังคงส่งผลกระทบต่อมัน ในดวงตาเฮยทั่นฉายแววหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายสั่นเทิ้มอยู่อย่างนั้น ร่างกายใหญ่โตแต่กลับทำท่าหวาดกลัวเหมือนหนูตัวหนึ่ง

เห็นได้ชัดเจนมาก สันดานเจ้าคิดเจ้าแค้นของเฮยทั่นกำลังล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง

พอเห็นเฮยทั่นเสียเปรียบ เหมียวอี้ก็เดือดดาลทันที เฮยทั่นกับเขาคือเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกันอย่างแท้จริง มีหรือที่จะยอมเห็นเฮยทั่นเสียเปรียบแบบนี้ จะต้องออกหน้าแน่นอน

เขาพลิกมือหยิบขวดใสใบหนึ่งออกมา ข้างในบรรจุของเหลวสีเขียวเอาไว้ เปล่งแสงสีเขียวเล็กน้อย ตกลงบนลูกกลมสีแดงที่เฮยทั่นกำลังขยุ้ม เขาเปิดจุกขวดออก ร่ายอิทธิฤทธิ์ควบคุมเสาแสงสีเขียวให้กรอกเข้าในรอยแยกตาข่ายของลูกกลมตีไม่พัง เรียกได้ว่าเอาหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง

พวกคังเต้าผิงที่อยู่ตรงข้ามตกใจจนหน้าถอดสี แต่ละคนร้องตะโกนห้ามอย่างร้อนใจ “หนิวโหย่วเต๋อ เจ้าบังอาจ!”

มีคนรีบนำระฆังดาราออกมาเขย่า เรียกรวมกำลังพลของธงพยัคฆ์น้ำเงินให้เข้ามา

กำลังพลฝั่งธงพยัคฆ์ดำมองจนตาค้างพูดไม่ออก แม่เจ้าโว้ย กรอกลงไปทั้งขวด ถึงคราวที่จ้านหรูอี้จะได้รับความทรมานแล้ว

มีบางคนแอบเสียดาย ของในขวดเล็กๆ นี้มีมูลค่าไม่น้อย การล้างแค้นแบบนี้ขาดทุนเกินไปแล้ว ถึงอย่าไงคนก็ตกอยู่ในมือเข้าแล้ว

ของเหลวสีเขียวถูกใช้หมดทั้งขวด เหมียวอี้ถึงได้หยุดมือแล้วเตะลงไปหนึ่งที ในลูกกลมสีแดงมีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น “หงิงๆ” เหมือนประสาทเสียดังมาแว่วๆ

“อู…” เฮยทั่นปล่อยลูกกลมสีแดงพร้อมส่งเสียงครางตกใจ เหมียวอี้เก็บมันเข้าในกระเป๋าสัตว์ ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่โดนบีบคั้น เขาก็ไม่อยากจะใช้เคล็ดวิชาอัคนีดาราแก้พิษเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาต่อหน้าฝูงชน

พอเก็บเฮยทั่นแล้ว ก็ใช้นิ้วร่ายวิชาชี้ออกมา ที่ลูกกลมตีไม่พังคลายผนึกเสียงดังแกร๊ก มันพลิกกลับหลัง แล้วหดเล็กกลายเป็นลูกกลมแดงแขวนอยู่บนเกราะรบของเหมียวอี้

เมื่อเห็นจ้านหรูอี้ที่โผล่หน้าออกมาอีกครั้ง ขนาดเหมียวอี้ก็อึ้งเช่นกัน ทุกคนพากันตะลึงค้างแล้ว

น้องจ้านคนสวยในเวลานี้ ใช้คำว่าสะบักสะบอมเกินทนคำเดียวมาบรรยายไม่ได้ เกราะรบบนตัวยุ่งเหยิง เกราะหัวแขวนอยู่บนบ่า ใบหน้าฟกช้ำดำเขียว ผมเผ้ายุ่งสยาย นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่อย่างนั้น น้ำตานองอาบหน้า ไม่รู้เกิดเรื่องเศร้าโศกอะไรจึงทำไห้ร้องไห้หนักขนาดนี้

หญิงสาวที่งามเลิศล้ำคนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายสภาพเป็นอย่างนี้ โดนสายฟ้าโจมตีจนกลายเป็นแบบนี้ ทุกคนแทบจะจำไม่ได้แล้ว

…………………………