บทที่ 1499 ความคิดของซือหม่าเจา
สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นก็ขับรถตรงไปยังที่อยู่ของกองกำลังจี้หวง
เป่ยโต่วกับชีซิงไม่วางใจจึงตามเธอไปด้วย ตลอดทางเป๋ยโต่พูดเกลี้ยกล่อมไม่หยุดปาก แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับใจเย็นไม่อ่อนไหวติงแม้แต่น้อย
ระหว่างที่พูดคุยกัน รถเฟอร์รารีสีแดงสดคันนั้นก็แล่นฉิวขับไปตรงหน้าส่งปลูกสร้างสไตล์ยุโรปโบราณหลังหนึ่ง
มองทะลุผ่านหน้าต่างรถไปสามารถมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินแถวออกมาจากภายในตึกใหญ่ ชายหนุ่มบุคลิกสง่างามอ่อนโยนดุจหยกที่นำหน้าคนนั้น ก็คือจี้หวง
ที่ตามอยู่ด้านหลังมีเบื้องบนหลายคนของกองกำลังจี้หวง แล้วก็ยังมีหัวหน้าขององค์กรอื่นๆ อีกไม่น้อย ทั้งหมดต่างเป็นยบุคคลทรงอำนาจของรัฐอิสระ คาดว่าวันนี้คงกำลังปรึกษาหารือเรื่องอะไรบางอย่างกันพอดี
“จี้หวงไม่ทราบว่าจะให้เกียรติไปกินข้าวสักมื้อด้วยกันไหมครับ ผมจองร้านอาหารไว้แล้ว!”
เจ้าพ่อหลายคนเอ่ยเชื้อเชิญพร้อมกัน
ในหน้าต่างรถ เป่ยโต่วมองคนตั้งมากมายที่ข้างนอกก็ยิ่งอยากร้องไห้แล้ว เจ้าพ่อมีหน้ามีตามากมายขนาดนี้ล้วนอยู่ที่นี่ ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ถ้าพี่เฟิงทำแบบนั้นจริงๆ ฉากนี้เขาไม่กล้าจินตราการเลยสักนิด
“ขอบคุณอะไรกัน…พี่เฟิง…นี่ไม่ใช่การขอบคุณนะพี่…นี่พี่ยิ่งอยากปิดยิ่งโผล่…ปิดหูขโมยกระดิ่ง…ความคิดของซือหม่าเจาคนผ่านทางยังล่วงรู้[1]ชัดๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นลูบๆ หัวหมาของเป่ยโต่ว จากนั้นจึงเปิดประตูรถลงไปโดยตรง
อีกด้านหนึ่ง จี้ซิวหร่านกำลังจะเอ่ยปาก แต่จู่ๆ สายตากลับพลันมองไปยังจุดไม่ไกลที่ด้านหน้า
ดังนั้นคนอื่นๆ ที่ด้านข้างจึงมองตามสายตาของจี้ซิวหร่านไปโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนเห็นแค่ว่า เฟอร์รารีสีแดงสดคันหนึ่งส่งเสียงบรื้นพลางจอดลงตรงประตูทางเข้า ผ่านไปชั่วครู่ประตูรถก็เปิดออก หญิงสาวสวมชุดจิ้นจวงสีดำ [2]มัดผมทรงหางม้า ดูห้าวหาญงามสง่าคนหนึ่งเดินลงมาจากในรถ ชวนให้คนตาลุกวาว
“เด็กคนนั้นคือใคร…” หนึ่งในหัวหน้าองค์กรพึมพำ
ช่วงนี้การกระทำของเยี่ยหวันหวั่นเด่นดังมาก ดังนั้นในที่นั้นจึงมีคนที่จำตัวตนเธอได้อย่างรวดเร็ว เสียงตกตะลึงหนึ่งดังขึ้นในกลุ่ม “ปะ…ไป๋เฟิง…นั่นไป๋เฟิงไม่ใช่เหรอ”
“ไป๋เฟิง? ไป๋เฟิงไหน?”
“รัฐอิสระยังจะมีไป๋เฟิงกี่คนได้! แน่นอนว่าต้องเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแบดเจอร์!”
“ว่าไงนะ! แบดเจอร์?”
ทันทีที่ได้ยินคำว่าพันธมิตรอู๋เว่ยกับแบดเจอร๋ ทุกคนก็หน้าเปลี่ยนสีแล้ว
สมกับเป็นพันธมิตรอู๋เว่ยกองกำลังที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุด ชื่อนี้เพียงพอให้สะเทือนหูได้เลย
“จำผิดหรือเปล่า แบดเจอร์กลับเป็นเด็กสาวบอบบางขนาดนี้เนี่ยนะ?” มีคนถามอย่างด้วยสีหน้าเปี่ยมความเหลือเชื่อ
อีกคนเอ่ยปากขึ้น “บอบบาง? กำลังล้อเล่นเหรอ ช่วงก่อนหน้านี้หลิงฮั่วของแก๊งไอรอนเฮดไปหาเรื่องที่ ผลคือถูกแบดเจอร์ทรมานฝ่ายเดียวเชียวนะ!”
ทุกคนฟังถึงคำพูดนี้ก็พลันมีสีหน้าสยองขวัญ คนไม่น้อยถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
หลิงฮั่วก็เป็นบุคคลโหดเหี้ยมในรัฐอิสระ ได้ยินว่าตอนนั้นถูกพันธมิตรอู๋เว่ยกำจัดและแทนที่ไป นึกไม่ถึงว่าหลังผ่านไปหลายปีหวนคืนกลับมา ก็ยังถูกทรมานอีกครั้ง
พันธมิตรอู๋เว่ยตั้งแต่ที่ผู้นำหายตัวไป พลังอำนาจก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ดูท่าจะฟื้นคืนกลับมาอีกแล้ว…
“วันนี้แบดเจอร์มาที่นี่คิดจะทำอะไร คงไม่ใช่มาหาเรื่องอีกแล้วหรอกนะ!”
“พันธมิตรอู๋เว่ยนี่อวดดีชะมัด! ที่นี่เป็นอาณาเขตของจี้หวงนะ! พวกเขากล้าไม่เกรงใจเหรอ”
“แค่ก นั่นคือพันธมิตรอู๋เว่ยเชียวนะ มีอะไรที่พวกเขาไม่กล้าทำบ้าง…หลายปีก่อนไม่ใช่ว่ายังทำลายสาขาย่อยหลายแห่งของจี้หวงหรอกเหรอ…”
“เนื้อร้ายพรรค์นี้ควรบีบคอให้ตายในรัฐอิสระซะ!”
“ถูกต้อง!”
แม้ทุกคนตะโกนว่าสู้ว่าฆ่า แต่ทว่าล้วนไม่มีใครกล้าขึ้นหน้าสักก้าว
——————————————————————————————
บทที่ 1500 คิดจะทำอะไรอีกแล้ว
ใครเต็มใจล่วงเกินพันธมิตรอู๋เว่ยกองกำลังอย่างนี้กัน ไม่ใช่หาเรื่อวยุ่งยากหรอกเหรอ!
เมื่อก่อนแบดเจอร์หายตัวไปยังดี ตอนนี้พอแบดเจอร์กลับมา พันธมิตรอู๋เว่ย…เกรงว่าจะกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง ยิ่งไม่มีใครกล้ายั่วยุแล้ว
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทุกคนที่ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่ตัวไป๋เฟิงไม่สังเกตเห็นคือ ตรงข้ามถนน รถสีดำไร้ทะเบียนคันหนึ่งกำลังแล่นมายังทางนี้ช้าๆ
“เชี่ย! นี่มันสถานการณ์อะไรเนี่ย” หลินเชวียสังเกตเห็นสถานการณ์ไม่ไกลอย่างตาแหลมจึงรีบบังคับพวงมาลัยขับเข้าไปจอดใกล้ๆ
“พี่เก้า! พี่รีบดูสิ! นั่นไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่นเด็กคนนั้นเหรอ”
ชายหนุ่มที่นั่งหลับตาอยู่ที่นั่งด้านหลังตลอดลืมต้าช้าๆ ดวงตาคู่เย็นชาค่อยๆ หันไปมองบริเวณไม่ไกลที่ตรงข้าม
จากนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวกำลังนำคนไปยืนด้านหน้าจี้หวงและผู้นำทุกคน
เพราะระยะห่างไม่นับว่าไกลมาก จึงพอได้ยินเสียงพูดคุยของฝ่ายนั้นรางๆ
“เวร! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เด็กคนนั้นถ่อมาตึกสำนักงานของจี้หวงทำไม” ใบหน้าของหลินเชวียแทบจะแนบติดกับกระจกแล้ว
วันนี้พวกเขาออกมาทำธุระข้างนอก เดิมทีไม่ผ่านทางนี้ แต่นี่เยี่ยหวันหวั่นหญิงสาวคนนั้นก็โดนกู่พิศสวาสมาหลายวันแล้วแต่กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักอย่างแล้วก็ไม่มาหาสักที เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงยังอ้อมมาทางนี้ดู
นึกไม่ถึงว่ารถยังไม่ได้ทันถึงพันธมิตรอู๋เว่ยเลยนะ ตอนที่ผ่านทางสำนักงานใหญ่ของจี้หวงก็เห็นเธอเข้าก่อนแล้ว…
เห็นแค่ว่าภายใต้สายตาหวาดกลัวของทุกคน เยี่ยหวันหวั่นยิ้มน้อยๆ ยกมือทักทายทุกคน “ไฮ ทุกท่าน ไม่เจอกันนานยังสบายดีนะ!”
“หึ…” ทุกคนล้วนมีสายตาดูถูกหาใดเปรียบ
“ไป๋เฟิง เธอคิดจะทำอะไร” มีคนตวาดถามเสียงเข้ม
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มหยีเอ่ย “อย่าเครียดนักสิ แค่มาพูดไม่กี่ประโยคกับจี้หวงเท่านั้นเอง”
มาหาจี้หวง?
ทุกคนพลันมองหน้าสบตากันก่อนสายตาจะยิ่งทวีความหวาดกลัวพร้อมกัน
อย่าบอกนะว่าแบดเจอร์นี่อยากมาก่อเรื่องอีก
ใบหน้าจี้หวงประดับรอยยิ้มราวอาบลมวสันต์ มองหญิงสาวด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ไม่ทราบว่าผู้นำไป๋มาหาผมมีธุระอะไรเหรอ”
“อา…มีธุระๆ…” เยี่ยหวันหวั่นหันหน้าไปเอ่ยปากกับเป่ยโต่วกับชีซิงที่อยู่ด้านหลัง “มัวเหม่ออะไรอยู่ ยังไม่เปิดท้ายรถอีก!”
เป่ยโต่วเอ่ย “ผมเชื่อมปิดตายแล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตัวมองไป “เชื่อไหมว่าฉันก็เชื่อมนายตายได้”
เป่ยโต่วหมดคำพูด
ช่วยไม่ได้ เป่ยโต่วได้แต่กดรีโมตควบคุมเปิดท้ายรถอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
“ไม่ดีแล้ว! ทุกคนระวัง!”
“ถอยไป! ทั้งหมดถอยไป! จี้หวงระวังนะครับ!”
ทุกคนเห็นจู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นให้เป่ยโต่วเปิดท้ายรถยังนึกว่าหลังรถวางกับดักอะไรไว้จึงต่างตื่นกลัวหน้าถอดสี
มีแค่จี้หวงที่ยังคงยืนอยู่กับที่อย่างลมเอื่อยเมฆนิ่ง สายตาตกอยู่ที่ตัวของหญิงสาว สีหน้าไร้การเปลี่ยนแปลงใดๆ
ในรถสีดำหลินเชวียเบิกตากว้างแล้ว “ท้ายรถคงไม่ได้ใส่ระเบิดไว้หรอกนะ”
ชายหนุ่มที่ด้านหลังไม่เอื้อนเอ่ยสักคำ นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ราวกับสัตว์ร้ายที่เพิ่งตื่น
ภายใต้การบังคับสั่งการของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วได้แต่ต้องหลับตากัดฟัน และออกแรงกดรีโมตควบคุมเปิดฝาท้ายรถออก
วินาทีถัดมาฝาท้ายรถก็ยกสูงขึ้นช้าๆ…
ภายใต้สายตาหวาดผวาขอทุกคน ในที่สุดฝาท้ายรถก็เปิดออกโดยสมบูรณ์…
จากนั้น…ด้านในก็เผยให้เห็น…กุหลาบอัดเต็มท้ายรถ…
……………………………..
[1] ซือหม่าเจาเป็นบุคคลในยุคสามก๊ก สำนวนความคิดของซือหม่าเจาคนผ่านทางยังล่วงรู้หมายถึง แผนการลับที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
[2] ชุดจิ้นจวงคือ ชุดจีนโบราณเน้นความคล่องตัวไม่รุ่มร่าม พบเห็นได้บ่อยในภาพยนตร์ เกม นิยายแนวกำลังภายใน