บทที่ 1722 ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1722 ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

 

ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ของราชันมงกรทําให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ราชันมังกรมองสายธารแห่งกาลเวลาด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนและถอนหายใจเบาๆ “เห้อ.บัวแดงข้าเห็นท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตและสนับสนุนอนาคตของเจ้าแล้ว ตอนนี้ให้ข้าแสดงท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ให้เจ้าดู!”

 

คํากล่าวของราชันมังกรทําให้ผู้อมตะภาคเหนือโกรธ

 

เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมด มีเพียงเทพปีศาจบัวแดงเท่านั้นที่อยู่ในสายตาของเขา

 

ผู้อมตะภาคเหนือล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ พวกเขามีความเย่อหยิ่งและความภาคภูมิใจในตนเอง แต่พวกเขาไม่สามารถตอบโต้คํากล่าวของราชันมังกร เพราะการดํารงอยู่ของพวกเขาในเวลานี้เป็นผลมาจากท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจบัวแดงจริงๆ

 

“เจ้าแก่ พูดมาก!”

 

“อย่าดูถูกพวกเรา!”

 

“พวกเราจะแสดงพลังให้เจ้าดู!”

 

ผู้อมตะของภาคเหนือพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร

 

ราชันมังกรหัวเราะและปลดปล่อยปราณมังกรสีม่วงทองออกไปอย่างต่อเนื่อง

 

“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม”

 

ราชันมังกรอาละวาดอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือ ในทางตรงข้ามกลุ่มผู้อม ตะภาคเหนือพบกับความทุกข์ทรมานจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม

 

ราชันมังกรรวดเร็วเกินไป กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือไม่สามารถหยุดเขา

 

ทุกท่าไม้ตายอมตะต้องใช้เวลาเตรียมตัว

 

ราชันมังกรให้ความสําคัญกับแท่นบูชาแห่งโชคมากที่สุด เขาไม่ต้องการเสียเวลากับกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือ

 

“หยุดเขา!”

 

“อย่าหนี หากมีความกล้าก็มาสู้กับข้า!”

 

“เราต้องหยุดเขา!”

 

ปราณมังกรสีม่วงทองระเบิดออกมาอีกครั้ง

 

สนามรบเงียบลง ชิงช่ายฉวนเงยหน้าขึ้น

 

ในที่สุดราชันมังกรก็มาถึงแท่นบูชาแห่งโชค

 

“โอ้ ไม่” เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของปีงช่ายฉวน

 

ในเวลาต่อมาราชันมังกรก็คํารามและใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเขา

 

ท่าไม้ตายอมตะปราณกลืนภูเขาและแม่น้ํา

 

แรงกดดันมหาศาลและร่วงหล่นลงจากอากาศ

 

โลกราวกับหยุดนิ่ง ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่

 

“บึม!”

 

แท่นบูชาแห่งโชคไม่สามารถต่อต้านและถูกส่งลงสู่พื้น

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์มองราชันมังกรด้วยตกใจและประหลาดใจ

 

เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดด้วยตัวเขาเพียงลําพัง

 

“บัดซบ! ราชันมังกรเคยใช้ท่าไม้ตายอมตะปราณกลืนภูเขาและแม่น้ําที่ทะเลตะวันออกแต่พลังของมันมากกว่าเดิมสิบเท่า!” ชิงช่ายฉวนไม่สามารถปกปิดความตกใจบนใบหน้า

 

ราชันมังกรแข็งแกร่งเกินไป

 

“เจ้าแก่นี่แข็งแกร่งมาก ดูเหมือนพวกเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากท่านปูเหมาผู้ นี้!” ไกลออกไปเหมาหลี่ซิวและร่างแยกของมันต้องการเข้าไปช่วย

 

“ต้องการจากไปงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!” กระเรียนหยกเขียวกรีดร้องและโจมตีร่างแยกของเหมาหลีชิว

 

“หยุดอยู่ตรงนั้น!” พยัคฆ์ปีศาจคว้าขาหลังด้านขวาของเหลาหลีชิวเอาไว้

 

“พวกโง่!” เหมาหกี่ชิวโกรธจัด มันไม่สามารถหลบหนีจากสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งสอง

 

สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งสองอาจไม่สามารถพลิกสถานการณ์ แต่พวกมันยังสามารถยื้อเวลาได้เล็กน้อย

 

“ไปให้พ้น!” แท่นบูชาแห่งโชคลอยขึ้นมาอีกครั้งขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือใช้ท่าไม้ตายอมตะโจมตีราชันมังกรอย่างพร้อมเพรียง

 

แม้ราชันมังกรจะแข็งแกร่ง แต่เขายังไม่สามารถทําลายแท่นบูชาแห่งโชคและกําจัดผู้อมตะภาคเหนือทั้งหมดได้ในครั้งเดียว

 

“ไปช่วยท่านราชันมังกร!”

 

“เราจะให้ถ้ําสวรรค์นิรันดรชดใช้ด้วยเลือด!”

 

“วังสวรรค์จะถูกยั่วยุได้อย่างไร?”

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์เร่งเข้าไปสนับสนุนราชันมังกร

 

ผู้อมตะภาคเหนือส่วนหนึ่งปิดกั้นผู้อมตะวังสวรรค์ขณะที่อีกส่วนต่อสู้กับราชันมังกร

 

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค หัวใจของปิงชายฉวนจมดิ่งลง

 

ตอนนี้วังสวรรค์เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน

 

ค์นิรันดรไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเทพอมตะหรือเทพปีศาจ พวกเขาจะล้มเหล วในการบุกวังสวรรค์

 

เป้าหมายของพวกเขาคือการฉกชิงวิญญาณชะตากรรม แต่ตอนนี้พวกเขาแทบไม่สามารถรักษาชีวิตโดยไม่ต้องกล่าวถึงการฉกชิงสิ่งใด

 

ในความเป็นจริงถ้ําสวรรค์นิรันดรอยู่ห่างจากความสําเร็จเพียงก้าวเดียว มันเป็นเพียงเพราะการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์ที่ทําลายแผนการของพวกเขา

 

“แม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะล้มเหลว แต่วังสวรรค์ของพวกเจ้าก็ไม่สามารถประสบความสํา เร็จ!”ดวงตาของปิงช่ายฉวนส่องประกายขึ้น

 

เขาตัดสินใจและออกคําสั่งให้ผู้อมตะภาคเหนือทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถฉกชิงวิญญาณชะตากรรม พวกเขาก็ต้องหยุดวังสวรรค์จากการฟื้นฟูมัน

 

ด้วยวิธีนี้วังสวรรค์จะต้องจัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอีกครั้งในอนาคตเพื่อซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรมต่อไป

 

นั่นจะทําให้อีกสี่ภูมิภาคมีเวลาพักหายใจ

 

แม้ถ้ําสวรรค์นิรันดรจะไม่มีโอกาสบุกวังสวรรค์อีก แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก สถานการณ์บังคับให้ปิงชายฉวนต้องตัดสินใจเช่นนี้

 

“ทราบแล้ว!” ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุรับคําสั่งก่อนจะเริ่มโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

“พรวด!”

 

กงเยี่ยนกระอักเลือดออกมา

 

แต่เขายังเผยรอยยิ้มบาง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเทพธิดาจ่อเว่ยจึงให้ข้าดูแลค่ายกลวิญญาณอมตะนี้? เมื่อข้าอยู่ที่นี่ พวกเจ้าจะไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

 

ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุขมวดคิ้ว

 

พวกเขาตระหนักว่าการโจมตีของพวกเขาถูกย้ายไปที่กงเยี่ยน นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่ งกฎกงเยียนสามารถโอนถ่ายความเสียหายมาที่ตัวเอง

 

“พวกเจ้าต้องการทําลายค่ายกล แต่คิดว่าพวกเราจะอนุญาตงั้นหรือ?”

 

“มีพวกเราอยู่ที่นี่ อย่าแม้แต่จะคิด!”

 

ด้านนอก กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเช่นกัน

 

ปิงช่ายฉวนเปลี่ยนเป้าหมายและพยายามทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม ฝ่ายของวังสวรรค์ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปกป้องมันเท่านั้น

 

ด้วยวิธีนี้การต่อสู้จึงเข้าสู่สภาวะชะงักงัน

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ทั้งหมดปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะ มีเพียงราชันมังกรที่กําลังโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค

 

แม้ราชันมังกรจะถูกขัดขวางโดยผู้อมตะภาคเหนือ เขาก็ยังสามารถโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค

 

แท่นบูชาแห่งโชคถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่มันยังสามารถยืนหยัด ในความเป็นจริงมันกระทั่งสามารถตอบโต้ราชันมังกร

 

อย่างไรก็ตามจุดประสงค์หลักของแท่นบูชาแห่งโชคในเวลานี้คือการรักษาท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตเอาไว้

 

หากปิงช่ายฉวนหยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีต สถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเลวร้าย

 

การโจมตีของราชันมังกรทําให้หัวใจของปิงชายฉวนสั่นไหว เขาไม่รู้ว่าแท่นบูชาแห่งโชคจะอดทนได้นานเพียงใด

 

ตอนนี้วังสวรรค์เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน

 

“เปรี้ยง!”

 

สายฟ้าฟาดลงบนแผ่นหลังของราชันมังกร

 

แต่ร่างของราชันมังกรไม่ขยับแม้แต่น้อย เมื่อแสงสว่างจางหาย แผ่นหลังของเขาเผยให้เห็นเกล็ดมังกรสีม่วงทอง

ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ทําให้ร่างกายของราชันมังกรแข็งแกร่งและขยายใหญ่ขึ้น

กรงเล็บมังกรของเขาแหลมคมขึ้น หางมังกรยาวขึ้นเขามังกรเติบโตขึ้นและดูเหมือนมงกุฎขนาดใหญ่วางอยู่บนศีรษะของเขา

 

ราชันมังกรแข็งแกร่งขึ้นทุกวินาที

 

ชิงช่ายฉวนและกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้

 

“สัตว์ประหลาด!” ผู้อมตะภาคเหนือบางคนตะโกนด้วยความเกลียดชัง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเรา ผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือ ชอบจัดการสัตว์ประหลาด!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะเจ็ดคนเดินออกมาจากสายธารแห่งกาลเวลา

 

“อา…เป็นพวกเขา!” ชิงช่ายฉวนรู้สึกประหลาดใจและมีความสุข

 

ผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือเป็นสมาชิกตระกูลฮวงจิน สามคนเป็นผู้อมตะระดับแปด อีกสี่คนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขามาจากช่วงเวลาเดียวกันในประวัติศาสตร์

 

ในยุคของพวกเขา สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานออกอาละวาดและสร้างหายนะครั้งใหญ่ดังนั้นตระกูลฮวงจินจึงรวมตัวกันและคัดเลือกผู้อมตะเจ็ดคนเพื่อเรียนรู้ค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณสุดท้ายพวกเขาจึงสามารถคืนความสงบสุขให้กับภาคเหนือ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณ ความสิ้นหวังทั้งเจ็ด!

 

กลุ่มผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือกลายร่างเป็นยักษ์ทองคําสามเศียรสี่กรที่มีวงแหวนโลหะอยู่ด้านหลัง

 

ท่าไม้ตายอมตะดาปวงแหวน!

 

ยักษ์ทองคําส่งดาบวงแหวนออกไปและสร้างภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง

 

“ดาบวงแหวน?” รูม่านตาของราชันมังกรหดเล็กลง เขารู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรง