อาวุธที่โจวเหวินชอบที่สุด
พอเห็นว่าธิดาปีศาจกลืนแกนกลางนั้นเข้าไปแล้ว โจวเหวินกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ทันใดนั้นร่างของธิดาปีศาจก็ปลดปล่อยคลื่นเวทมนตร์ออกมาความแรงสูงบ่งบอกว่ามันกำลังจะได้พัฒนา ธิดาปีศาจบินเข้าหาโจวเหวินก่อนที่จะกลับไปเป็นรอยสัก แต่รอยสักนั้นมันต่างออกไปจากเดิม มันกลายเป็นรอยสักกลุ่มก้อนควันหนาแน่นจนมองไม่เห็นข้างใน
“จะกลายเป็นระดับเร้นลับแล้วซินะ” โจวเหวินดีใจ หลังจากที่พัฒนาสำเร็จแล้วบางทีเขาอาจจะได้รู้ความลับของกรงล้อแห่งโชคชะตาของนางมากขึ้นก็ได้
“น่าเสียดายที่ยังฆ่าราชาหยินฟูไม่ตาย”โจวเหวินมองทะเลสาบแล้วคิด ก่อนจะออกไปจากที่นี้พร้อมหยาเอ๋อ
พอออกมาจนมีสัญญาณแล้วโทรศัพท์ของโจวเหวินก็ดังทันที เฟิงชิวเยี่ยนส่งข้อความมาก่อนหน้านี้
“ตอนนี้ผมอยู่ที่ภูเขาไท่ฉาง มีพื้นที่ต่างมิติเอาไว้หลบมาอยู่ได้ครับ ล่อมันมาได้เลย…”
น่าเสียดายที่โจวเหวินไม่ได้เห็นข้อความนี้ เขาไม่ว่างที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาดูแถมเขายังต้องหนีตลอดทำให้ไม่มีสัญญาณเลย
“จบเรื่องแล้ว ฉันกำลังจะกลับแล้ว รีบกลับลั่วหยางให้ไวที่สุดที่ทำได้เลย”โจวเหวินส่งข้อความกลับมา
ถึงแม้ว่าเขาจะยังฆ่าราชาหยินฟูไม่ได้ แต่ราชาหยินฟูเองก็คงเจ็บหนักมากๆพอสมควรแหล่ะ การระเบิดตัวเองครั้งใหญ่แบบนั้น ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องรักษาตัวอีกยาว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามมาหาเขาเร็วๆนี้
รอบนี้ถ้าเขากล้ามาอีก โจวเหวินคิดว่าต้นกล้วยเซียนน่าจะพัฒนาร่างสำเร็จกลายเป็นระดับความกลัวพอดี
“น่าเสียดายแหะ ที่ตามหาตัวมันเองก็ไม่ได้ ไม่งั้นฉันใช้จังหวะนี้ตัดไฟแต่ต้นลมซะได้ก็ดี”โจวเหวินหยิบลูกบอลทองแดงออกมาเล่น จากที่ราชาหยินฟูพูด นี้คือทองแดงโจวชาน แร่ทองแดงที่ดูดซับเลือดและวิญญาณของเหล่าเทพและผู้คนนับไม่ถ้วน
แต่ถึงอย่างนั้น โจวเหวินเองก็ลองหลายวิธีแล้ว เขายังหาทางเองไม่ได้เท่าไรเลยโจวเหวินรู้แค่วิธีการทำให้มัเผาไหม้ ถ้ามันร้อนจนถึงขีดสุดละก็ มันจะมีประกายสีม่วงปรากฏออกมา
“ลูกบอลทองแดงอันขนาดนี้เนี่ยนะเหรอ คือต้นกำเนิดของยาอมตะ เป็นไปได้เหรอ ถึงฉันจะอยากได้ยาอมตะก็เถอะ แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง บางทีฉันอาจจะกำลังกินคนตายเป็นร้อยเลยก็ได้ เอามันไปทำอาวุธน่าจะดูคุ้มกว่านะ อย่างน้อยมันก็คงไม่แตกง่ายๆแน่ๆละ แต่การจะเอามันมาทำอาวุธก็คงไม่ง่ายเหมือนกันซินะ จะใช้มันเป็นอาวุธทั้งเป็นลูกบอลแบบนี้ก็คงไม่ไหวซินะ …เดี๋ยวก่อนซิ…”โจวเหวินคิดอะไรได้บางอย่างก่อนจะอัญเชิญยาลมปราณออกมา
“ก่อนหน้านี้ฉันใช้ยาลมปราณเหมือนกับเป็นยามาตลอด แต่ฉันมองข้ามไปว่าจริงๆแล้วมันเหมือนกับเป็นอาวุธมากกว่า ถ้ามันเป็นอาวุธจริงๆละก็ มันก็ควรจะมีรูปร่างที่แน่นอนหลังจากที่มันกลายเป็นขั้นพัฒนาแล้ว นั้นเป็นเหตุผลที่มันยังไม่พัฒนาซักที เพราะว่าฉันยังไม่ได้กำหนดร่างอาวุธให้มันงั้นเหรอ”โจวเหวินคิดแล้วมันก็ยิ่งน่าจะใช่
วิญญาณชีวิตนั้นเกิดมาจากทั้งพรสวรรค์และพรสวรรค์ ประสบการณ์ในชีวิตและในตอนนั้น การสกัดวิญญาณชีวิตออกมานั้นไม่ได้ใช้แค่พลังงานเท่านั้น แต่ใช้พลังใจของเจ้าของด้วย
โจวเหวินเองไม่ได้มีความสนใจอะไรในอาวุธอะไรพิเศษ เขาใช้อาวุธอะไรก็ได้ที่อยู่ในมือ สำหรับเขา อาวุธมันเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น เขาไม่ได้มีความรู้สึกอื่นเลย
โจวเหวินคิดว่านี่มันต้องเป็นเหตุผลแน่ๆว่าทำไมวิญญาณชีวิตยาลมปราณถึงยังไม่พัฒนาซักที
“ถ้ามันเป็นอาวุธละก็ อาวุธแบบไหนละที่ฉันต้องการ มีดเหรอ หรือดาบ หรือปืน”โจวเหวินคิดซักพัก แต่สำหรับเขาทุกอย่างมันก็เหมือนกัน ยกเว้นที่ปรกติแล้วเขาไม่ค่อยได้ใช้ปืนเท่าไร ส่วนดาบกับมีดนั้นโจวเหวินค่อนข้างใช้งานบ่อย แต่ทุกอย่างมันก็เหมือนกัน ยกเว้นแค่ว่าดาบมันยาวกว่าและใช้การควบคุมที่มากกว่า
“ยังไงก็เถอะ ในเมื่อมันเหมือนๆกันหมดงั้นก็เอาดาบละกัน”โจวเหวินคิดถึงรูปร่างของดาบในใจ จากนั้นก็เปิดใช้วิชาสกัดลมปราณ พยายามจะพัฒนาวิญญาณชีวิตยาลมปราณ
แต่สุดท้าย มันก็ไม่เป็นผล ในขั้นตอนสุดท้ายนั้น ยาลมปราณเหมือนจะเสถียรแล้วแต่มันก็ยังไม่พัฒนา
“มันพลาดตรงไหนกันละเนี่ยทำไมยาลมปราณถึงยังไม่กลายเป็นอาวุธเลยละ”โจวเหวินเริ่มเครียด
ตอนที่โจวเหวินกลับมาถึงลั่วหยางเฟิงชิวเยี่ยนกลับมาถึงก่อนตั้งนานแล้ว แต่เพราะว่าเขาบาดเจ็บทำให้เขาไปรักษาที่โรงพยาบาล และน่าจะยังไม่กลับมาที่มหาลัยอีกซักพักใหญ่ๆ ประมาณ 10วันถึงครึ่งเดือน
หลังจากแวะไปเยี่ยมเฟิงชิวเยี่ยนแล้วโจวเหวินก็กลับมาที่มหาลัย
ตอนนี้โจวเหวินตั้งหน้าตั้งใจพยายามหาทางทำให้วิญญาณชีวิตยาลมปราณมันพัฒนาให้ได้ก่อน เขารู้สึกได้ว่าเขาน่าจะมาถูกทางแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมยาลมปราณถึงยังไม่พัฒนาซักที
“หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าฉันต้องเลือกอาวุธที่ตรงใจฉันจริงๆถึงจะพัฒนาวิญญาณชีวิตได้งั้นเหรอ”โจวเหวินคิดแล้วตัดสินใจที่จะศึกษาอาวุธทุกรูปแบบอย่างละเอียด พยายามจะหาว่าอาวุธแบบไหนที่เขาชอบมากที่สุดกันแน่
อย่างแรกคือดาบ โจวเหวินนั้นเรียนรู้วิชาดาบก่อน ไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบดาบมากที่สุด แต่เพราะว่าเขามีเกมส์สุสานดาบโบราณอยู่ ที่นั้นมีดาบจำนวนมากทำให้โจวเหวินมีโอกาสและประสบการณ์คลุกคลีกับดาบมาก
โจวเหวินกลับมาที่หอ ทันทีที่เปิดประตูออก เจ้านกอ้วนก็บินเข้าหาโจวเหวินทันที ขนาดของมันโตขึ้นมาอีกน้อยแล้ว ดูเหมือนอาเซิงจะให้มันกินแต่ของดีๆ ไม่มีอดมีอยากกันเลยทีเดียว
ส่วนเจ้าละมั่ง3ตาตอนนี้มันก็ยังคงนอนอยู่บนโซฟา ตอนที่โจวเหวินกลับมา มันก็ลืมตาขึ้นมามองอย่างขี้เกียจ ก่อนจะหลับตาหลับต่อ
“ไอ้หมอนี้มันกินนอนทั้งวันเลย พลังของมันไม่ลดลงบ้างรึไงวะ ลองพยายามฆ่ามันแล้วจับมันมาทำแกะย่างเกลือซะดีไหมเนี่ย”โจวเหวินมองละมั่งแล้วคิดกับตัวเอง
แต่เขาก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น โจวเหวินตอนนี้แอบๆสงสัยแล้วว่าละมั่ง3ตานั้นพลังของมันอาจจะเป็นถึงระดับความกลัวเลยก็ได้ เพราะงั้น ถ้ามันคิดจะสู้จริงๆ บางทีโจวเหวินอาจจะตายหายวับไปเลยก็ได้
โจวเหวินอัญเชิญสัตว์อสูรตัวอื่นๆออกมาเล่นข้างนอกจากนั้นก็แบ่งขนมที่ซื้อมาให้เจ้านกอ้วนกินก่อนจะให้หยาเอ๋อไปเล่นกับพวกมัน ส่วนโจวเหวินกลับขึ้นไปที่ห้องนอนก่อนจะเริ่มฟาร์มเกมส์ในสุสานดาบโบราณ
ดาบที่ดึงไม่ออกนั้นก็ยังคงเสียบอยู่ที่เดิม ทุกๆครั้งที่เกมส์รี ดาบนั้นจะเปลี่ยนตำแหน่งไป แต่ไม่ว่ายังไงดาบนั้นก็จะยังคงอยู่ โจวเหวินลองดึงมันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วแต่ก็กลับดึงไม่ออก
“รูปร่างของดาบนี้มันประหลาดเกินไป ไม่ใช่แบบที่ฉันชอบเลย”โจวเหวิยมองดาบที่ดึงไม่ออกแล้วส่ายหัวก่อนที่มองไปที่ดาบเล่มอื่นๆ
ในสุสานดาบโบราณนั้นมีดาบสวยๆมากมาย บางอันเป็นดาบที่โจวเหวินใช้ แต่ไม่ว่าเขาจะชอบมันมากแค่ไหน เขาก็ใช้ดาบพวกนั้นแค่ในฐานะอาวุธ ไม่ได้เหมือนกับเฟิงชิวเยี่ยนที่ดาบกับวิญญาณสมานกันเป็นหนึ่ง
หลังจากที่เก็บตัวอยู่ในสุสานดาบโบราณมาซักพักใหญ่ๆ โจวเหวินก็รู้ได้เลยว่าตัวเองคงไม่มีทางเป็นนักดาบที่ชอบดาบขนาดนั้นแน่ๆ เขาเลยยอมแพ้แล้วไปหาข้อมูลต่อ
“ลองดูมีดหน่อยละกัน บางทีฉันอาจจะไม่ได้เกิดมาเป็นนักดาบก็ได้”โจวเหวินลองเปลี่ยนใจดู
การจะลองมีดดูนั้นมันออกจะไม่สะดวกเทท่าดาบ เพราะมันไม่มีมีดในสุสานดาบโบราณ แต่ในมหาลัยซีหยางนั้นมีคลังที่จัดแสดงอาวุธมากมายหลากหลาย ซึ่งส่วนมากเป็นมีดทั้งนั้น
ทำไมมีดถึงมีเยอะที่สุดนะเหรอ ก็เพราะว่ามีดมันเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดยังไงละ ดาบนั้นมี2คม ในแง่ของการผลิตถึงมันจะดูมีประโยชน์กว่ามีดก็จริง แต่การมีประโยชน์เยอะไม่ได้หมายความว่ามันจะใช้ง่าย วิชาดาบนั้นมันต้องใช้เวลาและลงทุนหลายๆอย่างไปกับมัน ต่างจากมีดที่ใครๆก็ใช้ได้ เรียบง่ายและใช้งานสะดวก