เป็นจางลี่เฉินที่แจ้งข้อมูลหาตำรวจนิวยอร์กจนพวกเขามาถึงที่เกิดเหตุการณ์ได้ทันเวลาก่อน FBI จะจากไป ทันทีที่ขับรถออกจากที่เกิดเหตุเขาก็ได้ติดต่อหาเอ็ดเวิร์ด หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของเขาและอธิบายถึงการโจมตีที่เกิดขึ้นแบบคร่าว ๆ
“แล้วตอนนี้บอสอยู่ตรงไหนครับ?” เอ็ดเวิร์ดที่กำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ขณะสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสบายสะดุ้งตัวตื่นเพื่อมารับโทรศัพท์จากจางลี่เฉิน เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์และได้ฟังคำบอกเล่าถึงสถานการณ์เลวร้ายที่ชายหนุ่มได้เผชิญทำให้ตอนนี้เขาตื่นและหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“กำลังขับเข้านิวยอร์ก”
“ฟังผมให้ดีนะครับบอส! รีบโทรหาตำรวจและปิดโทรศัพท์หลังจากนั้นทันที! ให้ขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ในแมนฮัตตันและรอผมอยู่ที่ล็อบบี้ ผมจะรีบไปหาคุณในทันทีแล้วค่อยคุยกับแบบส่วนตัวที่นั่นนะครับ!” แม้เอ็ดเวิร์ดจะไม่ทราบสาเหตุการโดนโจมตีของจางลี่เฉิงในครั้งนี้แต่เนื่องจากเขาเป็นคนแรกที่จางลี่เฉินเลือกโทรหาแทนการโทรหาตำรวจโดยตรง เอ็ดเวิร์ดจึงตัดสินใจเลือกหนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้อย่างระวัง
“โอเคเอ็ดเวิร์ด โอ้ใช่ โทรหาแม่ผมด้วย! ตอนที่เกิดการโจมจีผมกำลังคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่ ไม่แน่ว่าตอนนี้แม่อาจเป็นกังวลจนแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่แล้วก็ได้!”
เอ็ดเวิร์ดตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านักธุรกิจรายใหญ่ที่เขากำลังทำงานให้อยู่นี้ยังเป็นเพียงวัยรุ่นที่อายุไม่ถึง 20 ปีดี “ได้ครับบอส! ไว้ผมจะพาคุณนายแล้วพาไปพบกับคุณที่นั่นนะครับ แล้วเจอกันครับ”
“แล้วเจอกันเอ็ดเวิร์ด” จางลี่เฉินวางสายโทรศัพท์แล้วรีบโทรแจ้งตำรวจตามคำแนะนำหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของเขา ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ตำรวจรีบไปยังสถานที่เกิดเหตุเขาก็รีบปิดโทรศัพท์แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแมนฮัตตัน
จนถึงตอนนี้พระอาทิตย์ได้ขึ้นประดับท้องฟ้าจนสว่างสดใสไปทั่วทั้งเมืองแล้ว แสงไฟนีออนของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลเริ่มจางหายไปภายใต้แสงจากดวงอาทิตย์ เมื่อชายหนุ่มลงจากรถ เขาปรับปกเสื้อด้วยท่าทีสุขุมและยื่นเงิน 5 ดอลล่าร์ให้กับพนักงานรับรถที่เข้ามาต้อนรับ ทำตัวเหมือนชายหนุ่มทั่ว ๆ ไปที่มีการศึกษาดีที่มาจากครอบครัวคุณภาพเพื่อเข้าพักในโรงแรมหรืออย่างคนที่มาที่นี่เพื่อพบปะกับเพื่อน ๆ เขาเดินเข้าไปในโรงแรมโดยไม่ทำตัวให้เป็นที่น่าสนใจใด ๆ
ทางเข้าของโรงแรมเป็นล็อบบี้รูปไข่พร้อมแผนกต้อนรับที่อยู่ทางด้านซ้ายและน้ำพุในร่มภายใต้โคมระย้าคริสตัลสีสันสดใสขนาดใหญ่
น้ำใส ๆ ที่ไหลจากน้ำพุเปล่งประกายแวววาวราวกับไข่มุกภายใต้เงาสะท้อนของโคมระย้าคริสตัลที่ส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา โซฟาที่ล้อมรอบโต๊ะหินอ่อนสวยงามวางประดับอยู่รอบ ๆ น้ำพุสำหรับแขกที่เข้ามาพักผ่อน
“มีอะไรพอให้ดิฉันช่วยเหลือบ้างไหมคะ?”
“ผมกำลังรอเพื่อนอยู่ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ขอโค้กเย็น ๆ ให้ผมสักแก้วหนึ่งจะขอบคุณมาก” เมื่อเดินเข้าไปในโรงแรม จางลี่เฉินเดินตรงไปยังโซฟากลมที่อยู่ไม่ไกลและยื่นเงินให้พนักงานคนนั้นไป 20 ดอลลาร์
คำขอของชายหนุ่มไม่ได้เป็นเรื่องที่พิเศษเกินไปแต่ส่วนค่าทิปที่เขาให้มานั้นช่างใจกว้างอย่างมาก พนักงานรับเงินมาด้วยความตะลึงงันก่อนจะพูดว่า “กรุณารอสักครู่นะคะ”
“ขอบคุณ” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาทรงกลมและมองดูน้ำพุที่อยู่ข้าง ๆ สักพักหนึ่งพนักงานคนนั้นก็นำโค้กเย็น ๆ ที่เขาต้องการมาให้และในที่สุดหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและแม่ของเขาที่รีบร้อนมายังโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ก็มาถึง
“แม่ ผมอยู่นี่!” เมื่อเห็นลิลี่กำลังเดินเข้ามาหาเขาด้วยความเร่งรีบ จางลี่เฉินก็ลุกขึ้นยืนเพื่อกอดรับแม่ของเขา
“เกิดอะไรขึ้นลูกรัก? ทำไมลูกถึงหายไปทันทีหลังทิ้งข้อความแบบนั้น? และตอนนี้ทำไม…”
“ขอโทษทีนะเอ็ดเวิร์ด ขอผมอยู่กับแม่เพียงลำพังก่อนจะได้ไหม?”
“แน่นอนครับ หากบอสเสร็จธุระเมื่อไหร่ก็ค่อยโทรเรียกหาผมอีกทีนะครับ ผมจะไปดูความเสียหายของรถและภาพจากการกล้องในรถก่อน … ”
“ตกลง” จางลี่เฉินโบกมือเรียกหาพนักงานรับรถและให้ทิปกับเขาอีกครั้งเพื่อให้เขาพาเอ็ดเวิร์ดไปยังที่จอดรถ จากนั้นเขาก็หันมากระซิบกับลิลี่ว่า “แม่ไม่ต้องห่วง นั่งลงก่อนแล้วผมจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง … ตอนนี้สายเลือดพิเศษและความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์กำลังสร้างปัญหาให้กับผม ผมได้ยินข่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ดังนั้นผมจึงไปซ่อนตัว … ”
“โอ้พระเจ้า! ใครกันที่รู้ความลับนี้ของลูก? รัฐบาลสหรัฐฯงั้นเหรอ? โอ้ไม่! ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครแม่จะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาจับตัวลูกไปได้เป็นอันขาด! ไม่มีทาง…” ลิลี่ที่เพิ่งนั่งลงบนโซฟาลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยความสับสน
“ใจเย็น ๆ ก่อนแม่ ใจเย็น ๆ ! สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แม่คิด ตอนนี้ผมค่อนข้างมีอิทธิพลในนิวยอร์กและได้เป็นเพื่อนกับคนที่มีอำนาจมากมาย เมื่อสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ใครบางคนจะช่วยผมคิดหาวิธีแก้ปัญหา … ” จางลี่เฉินปลอบโยนผู้เป็นแม่ของเขาซักพักหนึ่งก่อนจะจงใจพูดต่อ “กล่าวอีกนัยหนึ่งคือแม่ไม่ต้องเป็นห่วงตัวผมและห้ามเข้ามาแทรกแซงวิธีการที่กำลังจะทำด้วยเช่นกัน แม่ไม่ต้องห่วง ผมจะกลับมาที่อเมริกาอีกครั้งภายในหนึ่งปี…”
ชายหนุ่มพยายามรับรองความปลอดภัยของตัวเองให้ผู้เป็นแม่ได้ฟังจนในที่สุดลิลี่ก็ยอมสงบและพยักหน้ายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มโทรตามเอ็ดเวิร์ดเพื่อให้เขากลับมาที่ล็อบบี้ของโรงแรมและนั่งอยู่บนโซฟาทรงกลมที่อยู่ถัดจากน้ำพุอีกครั้งหลังตรวจดูความเสียหายของรถและกล้องระวังเรียบร้อยแล้ว
หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ LS ได้เดินเข้าหาเจ้านายของเขาในทันทีก่อนจะเข้าสู่บทสนทนาประเด็นหลัก “บอส วิดีโอจากกล้องในรถของคุณดูท่าจะไม่สามารถใช้การได้เท่าไหร่ ผมเพิ่งโทรหาเพื่อนที่อยู่ในกรมตำรวจนิวยอร์กเมื่อสักครู่นี้มา เขาบอกว่าเมื่อเช้านี้ไม่ได้มีเหตุการณ์โจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด มันเป็นเพียงการฝึกซ้อมที่ดำเนินการโดย FBI ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันก็เท่านั้น”
“การฝึกซ้อมของ FBI?” จางลี่เฉินอ้าปากค้าง เขารู้ดีว่าเขากำลังถูกโจมตีจากเจ้าหน้าที่ 10 คนพร้อมอาวุธ แต่ตอนนี้มันกลับถูกเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘การฝึกซ้อม’ แทน
“ใช่ครับ ดูเหมือนว่าทุกอย่างตอนนี้จะเป็นเพียงเรื่อง ‘เข้าใจผิด’ ถึงอย่างนั้น ผมได้เตรียมตั๋วชั้นหนึ่งไปยังโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้เวลา 11:30 น. สำหรับคุณในวันนี้ให้แล้ว ผมได้ยินจากชาร์ลีว่าคุณวางแผนที่จะไปแอฟริกาเพื่อที่คุณจะได้ทำสิ่งที่ต้องการล่วงหน้าในอนาคตอันใกล้ ถ้าอย่างนั้นผมจะอยู่ตรวจสอบเบื้องหลังเพื่อดูว่า “ความเข้าใจผิด” ในนิวยอร์กนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรและใครจะเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับ”
“เยี่ยมมากเอ็ดเวิร์ด ทำในสิ่งที่คุณพูดมาได้เลย” จางลี่เฉินมองหน้าหัวหน้าฝ่ายกฏหมายที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ
เขาไม่รู้ว่าชายที่แต่งตัวดูดีและหวีผมมาอย่างเรียบร้อยที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้จะได้ยินความลับจากเขาไปมากแค่ไหน แต่เขารู้ดีว่าพวกเขาทั้งสองคนยังมีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่ ความผูกพันดังกล่าวแข็งแกร่งยิ่งกว่าความสัมพันธ์ครอบครัวหรือมิตรภาพใด ๆ “ถ้างั้นผมก็จะไปแอฟฟริกาแล้วคุณก็อยู่ที่นิวยอร์ก บางเรื่องมิสเตอร์ดั๊กลินอาจสามารถให้ความช่วยเหลือได้ เพราะท้ายที่สุดเราก็กำลังช่วยเหลือเขาในบางเรื่องเช่นกัน”
“ครับบอส ไม่ต้องห่วงนะครับ นอกจากนี้ผมรู้สึกอีกว่าการพึ่งพาพลังของคนอื่นไม่ใช่ทางออกที่ดีในระยะยาว เราเองก็ควรรักษา ‘การโต้ตอบ’ ที่ดีกับนักการเมืองที่มีศักยภาพไว้ด้วยเช่นกัน”
“โอ้ เห้อ … ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึง 2 ปีและที่ผมต้องการทั้งหมดก็แค่ชีวิตที่มั่นคงและสงบสุข…” เอ็ดเวิร์ดฟังชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาบ่นอยู่เงียบ ๆ ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “เอ็ดเวิร์ด คุณมีผู้สมัครที่ดีสำหรับคำแนะนำของคุณไว้แล้วหรือเปล่า?”
“ผมรู้จักนักการเมืองที่แข็งแกร่งและมีความทะเยอทะยานที่ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างเวลลิ่งตัน ฮูก ปัจจุบันเขาเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองมอร์กาน่าซึ่งเป็นเมืองดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดนอกเมืองนิวยอร์ก เขาตั้งใจลงแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์กเมื่อวุฒิสภาได้รับการเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า”
“เพื่อนที่ดีของคุณใช่ไหม? ในกรณีนี้ถ้าเป็นเขาผมจะเลือกเอง” จางลี่เฉินหยิบสมุดเช็คออกมาเซ็นแล้วส่งให้กับเอ็ดเวิร์ด “ให้เขามีส่วนร่วมทางการเมืองที่เหมาะสมในระหว่างการหาเสียงซะ ผมไม่รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือเปล่าแต่ในช่วงระยะสั้น ๆ จงทำให้แน่ใจว่ามิสเตอร์เวลลิ่งตัน ฮูกจะเข้าใจถึงความจริงใจของผม”
“ครับบอส!” เอ็ดเวิร์ดรับเช็คนั้นมาถือไว้ในมือ
“โอ้ ใช่แล้วเอ็ดเวิร์ด บอกกับชาร์ลีด้วยว่าในช่วงที่ผมไม่อยู่ให้เขาขยายโรงงานต่อไปได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการขยะในระบบนิเวศตราบใดที่ยังดำเนินการตามภาพวาดการออกแบบ ทุกอย่างจะยังคงเรียบร้อย หวังว่าเมื่อผมกลับมาที่นิวยอร์กอีกครั้ง LS จะได้ผูกขาดตลาดในเขตนิวยอร์กเรียบร้อยแล้วนะ เมื่อถึงตอนนั้นผมจะแจกจ่ายส่วนแบ่งให้กับพวกคุณทั้งสองคนเอง”
“ไม่มีปัญหาครับ!” เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า ลิลี่รู้สึกว่าลูกชายเริ่มทำความคุ้นเคยกับเธอได้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว มันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะจินตนาการว่าเด็กชายที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและอึดอัดใจในตอนที่เดินเข้าโรงแรมระดับห้าดาวเป็นครั้งแรกเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมาจะสามารถผสมผสานตัวเองเข้ากับวงการธุรกิจของนิวยอร์กได้เป็นอย่างดีขนาดนี้ เขาได้เรียนรู้วิธีควบคุมสถานการณ์ทางการเมืองราวกับการสั่งลมสั่งฝนได้ตามต้องการโดยที่เธอไม่เคยรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน
“ผมไม่มีทางเลือกอื่น ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ผมจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อผมยังสามารถขยายอิทธิพลของตัวเองต่อไปได้” ราวกับสัมผัสได้ว่าแม่ของเขากำลังมองมาด้วยท่าทีแปลก ๆ จางลี่เฉินจูบแก้มของผู้เป็นแม่เบา ๆ หลังส่งมอบหน้าที่ต่าง ๆ ให้หัวหน้าฝ่ายกฎหมายเรียบร้อยแล้ว “แม่ ผมต้องไปสนามบินแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปส่งผมก็ได้ ตอนนี้เป้าหมายของผมคือการทำอะไรแบบไม่ให้เป็นที่น่าสนใจให้ได้มากที่สุด แล้วผมจะส่งข้อความกลับมาเมื่อไปถึงแอฟริกาใต้แล้ว”
“ลูกรัก แม่รู้ว่าแม่ไม่สามารถไปตำหนิอะไรลูกได้ เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วก็ดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะจ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของแม่ ปิดโทรศัพท์ของลูกและถอดแบตเตอรี่ออกหลังจากที่ลูกส่งข้อความหาแม่เสร็จแล้วด้วยนะ…” ลิลี่กอดลูกชายของเธอและเตือนเขาถึงเรื่องความปลอดภัย
แม้จางลี่เฉินจะรู้ว่าคำแนะนำของแม่นั้นได้มาจากวิธีการป้องกันการติดตามจากภาพยนตร์แอ็คชั่นหรือละครน้ำเน่าที่ดูเหมือนจริงบนหน้าจอแต่ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังรับฟังเธออย่างตั้งใจ ลิลี่หยุดพูดและจูบแก้มลูกชายพร้อมสั่งลาเขาด้วยน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้า
หลังจากชายหนุ่มอำลาแม่ของเขาเสร็จ ก่อนที่เขาจะเดินออกจากล็อบบี้โรงแรมไป เขาได้หันมากระซิบกับเอ็ดเวิร์ดเมื่อพวกเขาจับมือกันเพื่ออำลาและกล่าวว่า “เอ็ดเวิร์ด วันนี้ผมฆ่าเอฟบีไอไป 10 คน อย่าปล่อยให้พวกเขารบกวนครอบครัวของผมได้”
เอ็ดเวิร์ดที่ได้ยินแบบนั้นก็ตัวแข็งทื่อไปในทันที จากนั้นความสงบก็กลับคืนสู่เขาอีกครั้งไม่นาน เขาตอบกลับด้วยเสียงกระซิบไปว่า “ไม่ต้องห่วงนะครับบอส แม้ว่าวิดีโอบนรถคุณจะไม่สามารถตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ ได้เนื่องจากควันแก๊สน้ำตาที่บดบังแต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าวิธีการต่อต้านของคุณซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามมันจะได้รับการยอมรับว่าเป็นเรื่องของการป้องกันตัวตามปกติภายใต้สถานการณ์ร้ายแรงที่เกิดกับชีวิต การปกปิดของ FBI นั้นเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้ ที่นี่คือสหรัฐและไม่ได้มีหมาบ้ามากมายนักระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยข่าวกรอง ไม่จำเป็นต้องกังวลเลยครับ อย่างไรก็ตามเนื่องจากคุณได้ช่วยเหลือตัวเองในการกู้คืนความเสียหายพร้อมทั้งเงินทุนและดอกเบี้ยเช่นนี้ ผมกลัวว่ามันจะยากสำหรับเราที่จะติดตามเรื่องนี้ได้อีกครั้ง นี่คือบางสิ่งที่…ผมจะใช้คำว่าอย่างไรดี…”
“กฎที่ไม่ต้องพูด ผมเข้าใจดี ถ้างั้นแล้วไว้เจอกันใหม่เอ็ดเวิร์ด” จางลี่เฉินยิ้มจาง ๆ และปล่อยมือจากหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและเดินออกจากโรงแรมไป จากนั้นเขาก็ขึ้นแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคนเนดี