บทที่ 2584 ครอบครัวพบหน้า 4 / บทที่ 2585 บาดเจ็บ

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2584 ครอบครัวพบหน้า 4

อวิ๋นเยียนหลีหน้าซีดปานศพ สองตาแดงฉาน จ้องคนชุดดำเขม็ง

“สารเลว เจ้าคือคนที่ชี้นำข้าในความฝัน!”

คนชุดดำยกมือลูบจมูก ยิ้มอย่างการุณ

“เด็กดี ในที่สุดเจ้าก็จำข้าได้แล้ว เพียงแต่ยามนั้นเจ้าเคารพนับถือข้ายิ่งนักเสมอมา เรียกขานข้าว่าท่านเทพอาวุโส นอบน้อมยิ่ง ข้าก็ทำให้วรยุทธ์ของเจ้าก้าวหน้าขึ้นอย่างมหาศาลในระยะเวลาสั้นๆ แล้วไง ไม่ได้หลอกเจ้าเสียหน่อย เจ้าไม่สำนึกบุญคุณก็แล้วไปเถิด ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดจาหยาบคายกับข้าเช่นนี้…นี่ช่างอกตัญญูนัก”

“การติดตั้งค่ายกลชั่วร้ายไว้ในเก้าเมืองต้องการตาค่ายที่แข็งแกร่งมีแรงอาฆาตพยาบาทมหันต์ใช่หรือไม่?”

ตี้ฝูอีเอ่ยเสียงทุ้ม

ยามนี้คนชุดดำก็ไม่ปิดบังแล้ว

“มิผิด มีเพียงวิญญาณอาฆาตจากซ่างเสินที่สิ้นชีพอย่างน่าอนาถถึงจะใช้ได้ คู่จักรพรรดิเซียนสามีภรรยาเหมาะสมที่สุดแล้ว”

“ไม่เพียงแต่คู่จักรพรรดิเซียนสามีภรรยาหรอก ยังมีแปดสัตว์ร้ายบรรพกาลด้วยกระมัง?!”

“อะไรก็ไม่อาจปกปิดเจ้าได้เลย”

คนชุดดำมองฟ้าทอดถอนใจ

“เพื่อให้เงื่อนไขเหล่านี้ครบครันข้าสิ้นเปลืองกำลังไปมากมายนัก เสียเวลาไปไม่รู้กี่หมื่นปีถึงจะฝืนรวบรวมมาได้…”

นัยน์ตาตี้ฝูอีสาดแสงวาบ

แผนการนี้วางไว้หลายหมื่นปีแล้วหรือ?!

หรือว่าความทุกข์ทรมานที่พ่อแม่ตนประสบในอดีตก็เป็นแผนของคนผู้นี้?

ราวกับคนชุดดำคาดเดาความคิดของตี้ฝูอีได้ จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น

“เดิมทีข้าเลือกบุพการีในปัจจุบันของเจ้าไว้เป็นตาค่าย แต่พวกเขาควบคุมได้ยากนัก พวกเขาหนีรอดไปได้ด้วยความบังเอิญ ดังนั้นข้าถึงได้เบนเป้าหมายไปที่คู่จักรพรรดิเซียนสามีภรรยา…”

“กล่าวเช่นนี้คือ อวิ๋นเยียนหลีร่วงหล่นสู่แดนอสุราแห่งนี้ก็เป็นการจัดการของเจ้าสินะ?”

กู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านข้างพลันเอ่ยสอด

สายตาคนชุดดำหันเหไปที่ร่างกู้ซีจิ่ว ยิ้มน้อยๆ

“แน่นอน คู่จักรพรรดิเซียนสามีภรรยาเป็นตาค่ายแหล่งกำเนิดวิญญาณอาฆาต ไอพยาบาทของพวกเขามีแต่ต้องให้บุตรชายของพวกเขามาดูดซับถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ส่วนคู่จักรพรรดิเซียนสามีภรรยาก็มีบุตรชายไม่มาก และมีเพียงอวิ๋นเยียนหลีที่มีพรสวรรค์สูงที่สุด เลยต้องเป็นเขา”

เขาเหลือบมองอวิ๋นเยียนหลีที่หน้าซีดเผือดแวบหนึ่ง ถอนหายใจอีกครั้ง

“แต่น่าเสียที่เขาจัดการเรื่องราวเหยาะแหยะไม่เด็ดขาด ห่วงหน้าพะวงหลัง หวั่นไหวโลเลได้ง่ายๆ จนตกอยู่ในสภาพเช่นวันนี้”

“เขาโชคดีที่มีนิสัยแบบนี้ มิเช่นนั้นหลังจากเขาฝึกฝนไปถึงขั้นสุดท้าย ก็จะสูญสิ้นสติสัมปชัญญะ กลายเป็นเครื่องจักรสังหารในกำมือเจ้าใช่หรือไม่?!”

กู้ซีจิ่วตัดบทเขา เงยหน้าจ้องมองคนชุดดำ

“ตอบคำถามว่าใช่หรือไม่?!”

แววตาคนชุดดำวูบไหว มองกู้ซีจิ่วด้วยสายตาอ่อนโยนดุจวารี

“ซีจิ่ว เจ้าพูดถูกแล้ว เจ้าฉลาดมาก คาดเดาได้ถูกต้องหมดเลย!”

สายตาที่เขามองอวิ๋นเยียนหลีเสมือนมองกระบี่ชั้นดีเล่มหนึ่งที่ตีหลอมไม่สำเร็จ เต็มไปด้วยความเสียดาย

“อันที่จริง อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จอยู่แล้ว”

กวาดสายตามองไปรอบๆ แวบหนึ่ง

“รู้ไหมว่าแผนการเดิมของข้าเป็นยังไง? รูปสลักหยกตี้ฝูอีถูกทำลาย วิญญาณบาดเจ็บสาหัส และสัตว์ร้ายทั้งแปดก็จะทำลายทุกคนในแดนอสุรา ไอพยาบาทพวยพุ่งสูงเทียมฟ้าถูกอวิ๋นเยียนหลีดูดซับจนหมดสิ้น เขาจะกลายเป็นตัวตนที่ร้ายกาจที่สุดในใต้หล้า ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ พอถึงตอนนั้นเขาจะสูญสิ้นสติสัมปชัญญะเชื่อฟังเพียงข้า ข้าสามารถพาเขาไปกวาดล้างหกภพภูมิได้…”

ฝูงชนฟังแล้วอกสั่นขวัญแขวน แววตาที่มองชายชุดดำเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ที่แท้เขาลอบวางแผนมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อบ่มเพาะเครื่องจักรสังหารชั้นเลิศชิ้นหนึ่ง!

“ไอ้บ้า!”

คุนเสวี่ยอี๋เอ่ยถ้อยคำที่อยู่ในใจของทุกคนออกมา

คนชุดดำยิ้มอย่างไม่แยแสแวบหนึ่ง

“นกกระจอกไฉนเลยจะเข้าใจปณิธานพญาหงส์ได้?”

“แต่อวิ๋นเยียนหลีไม่ได้เดินไปตามแผนการที่เจ้าจัดวางไว้อย่างสมบูรณ์ และเขาไม่ได้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารของเจ้า แผนชั่วของเจ้าเผยออกมาหมดแล้ว เจ้ายังมีอันใดให้ภูมิใจอีก?”

กู้ซีจิ่วกล่าวอย่างเยียบเย็น

….

————————————————————————————-

บทที่ 2585 บาดเจ็บ

คนชุดดำยิ้มแล้ว รอยยิ้มราวกับดอกฝิ่นผลิแย้ม ในความงดงามแฝงความชั่วร้ายเอาไว้

“ทั้งหมดเผยออกมาแล้วงั้นหรือ?”

จรดนิ้วร่ายอาคม ดีดออกไปในทันใด ซากผีดิบวิญญาณอาฆาตทั้งสองพลันระเบิดเสียงโหยหวนสองสาย เขี้ยวคมงอกออกมาจากปาก หมายจะกัดอวิ๋นเยียนหลีที่ถูกพวกมันรัดอยู่!

น้ำเสียงคนชุดดำราวกับคำสาป แว่วขึ้นมา

“ชีวิตนี้ดับสิ้นแล้ว อวิ๋นเยียนหลี เจ้าจะโคจรเคล็ดจันทร์ชาดดูดซับแรงอาฆาตทั้งหมดของพวกมัน ทำให้ดวงวิญญาณมันแตกสลายโดยสมบูรณ์ หรือว่าจะทำตัวกตัญญู ให้พวกมันสูบกลืนพลังชีวิตจนแห้งเหือดเล่า!”

สีหน้าอวิ๋นเยียนหลีซีดขาวจนน่ากลัว เขาลำบากลำบนดิ้นรนมาหลายปี ที่แท้เป็นเพียงตัวหมากของผู้อื่น! ที่แท้เขาก็เห็นคนผู้นี้เป็นบิดา เห็นคนที่ทำร้ายบุพการีจนน่าเวทนาเช่นนี้เป็นเทพเซียน ที่แท้คนผู้นี้สิถึงจะเป็นตัวการที่ทำลายครอบครัวเขา เพียงแต่เขาไม่มีความสามารถพอจะล้างแค้นได้…

เป็นเช่นนี้เอง!

ปลายปีมานี้เขาทำร้ายเสด็จพ่อเสด็จแม่จนน่าเวทนาเช่นนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะชดใช้ให้แก่พวกเขาแล้ว…

เขาก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

คมเขี้ยวนั้นกำลังจะกัดลงบนลำคอของอวิ๋นเยียนหลี ตี้ฝูอีกำลังจะดีดอาคมในมือออกไปในทันใด…

พลันมีของเหลวหยดหนึ่งหล่นลงมาที่คอของอวิ๋นเยียนหลี ในความเย็นยะเยือกแฝงกลิ่นคาวเหียนไว้จางๆ

อวิ๋นเยียนหลีรีบลืมตาขึ้น มองเห็นใบหน้าของสองผีดิบขยายใหญ่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าของซากศพน่าสยดสยองยิ่ง แต่ในดวงตาของพวกมันกลับมีของเหลวหลั่งรินออกมาหยดแล้วหยดเล่า…

พวกมันกำลังร้องไห้?! พวกมันจำเขาได้?!

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่! พวกท่านจำลูกได้ใช่หรือไม่?!”

ปากที่อยู่บนหน้าของผีดิบทั้งสองพยายามอ้าออกอย่างสุดกำลัง เขี้ยวยาวโง้งยืดๆ หดๆ พวกมันถูกควบคุมไว้ เมื่อได้รับคำสั่งแล้วต้องปฏิบัติตามทันทีกลายเป็นสัญชาตญาณที่ฝังลึกลงไปในใจพวกมันแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันจดจำบุตรของตนได้ ไม่อยากทำลาย…

“โอ๊ว…”

ในที่สุดผีดิบตัวหนึ่งก็เปล่งเสียงพยางค์หนึ่งออกมาได้

ถึงแม้เสียงนี้จะคลุมเครือไม่ชัดเจน แต่อวิ๋นเยียนหลีเข้าใจได้ทันที

มันบอกว่า ‘ไป!’

มันกำลังบอกให้เขาไป! พวกมันจำเขาได้จริงๆ!

น้ำตาอวิ๋นเยียนหลีร่วงรินดั่งสายฝน คุกเข่าลงหน้าซากสองร่างนั้นเสียงดังตุบ

“เสด็จพ่อเสด็จแม่! ลูกผิดต่อพวกท่าน!”

“โอ๊ว…”

“โอ๊วอา…”

ร่างกายของสองผีดิบทั้งสองพลันสั่นสะท้านขึ้นมา ราวกับทรมานสุดขีด ร้องโหยหวนอีกครั้ง…

“ฮ่าๆ อวิ๋นเยียนหลี ลืมบอกเจ้าไป พ่อแม่ของเจ้ายังมีสติอยู่ พวกมันรู้ตัวดียิ่งนักว่าตนทำอะไรอยู่ เพียงแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านั้น พวกมันหักใจสังหารเจ้าไม่ลง แต่ถ้าพวกมันไม่สังหารเจ้าก็จะเป็นการขัดคำสั่ง และการขัดคำสั่งจะทำให้พวกมันได้รับความทรมานดุจหมื่นพันดาบกรีดเถือ ดังนั้น…เจ้าจงโคจรพลังดูดซับพวกมันเถอะ นับว่ามอบทางพ้นทุกข์ให้พวกมัน ถึงจะเป็นการกตัญญูต่อพวกมัน…”

เสียงของคนชุดดำดุจคำสาปที่แว่วเข้าสู่สมอง ก้องอยู่ในหูอวิ๋นเยียนหลีไม่หยุด

เล็บของอวิ๋นเยียนหลีจิกเข้าไปในฝ่ามือแล้ว จิกจนเลือดไหลออกมา!

สองตัวเลือกที่ยากจะตัดสินใจได้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนล้วนย้อนคืนไม่ได้ทั้งนั้น!

‘อวิ๋นเยียนหลี เจ้าไม่ต้องพูด แค่ฟังก็พอ ข้ามีอยู่วิธีหนึ่ง ทำให้เจ้าไม่จำเป็นต้องดูดซับบุพการีกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร และไม่ทำให้บุพการีเจ้าต้องทุกข์ทรมานจนเกินไป…’

ตี้ฝูอีส่งเสียงแว่วเข้าไปในหูอวิ๋นเยียนหลี

‘ถ้าเจ้าเห็นด้วยจงทำตามที่ข้าบอก โคจรพลังยุทธ์ด้วยมหาปรัชญาสูตร…’

คนชุดดำหยักมุมปากนิดๆ วิธีที่ดูดซับไอพยาบาทจากวิญญาณร้ายก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เห็นทีว่าสุดท้ายแล้วอวิ๋นเยียนหลีก็หักใจทำให้บุพการีทุกข์ทรมานไม่ลง ทำได้เพียงยอมฟังเขา…