ตอนที่ 1064

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ภายในห้องขังมีสัตว์อสูรทั้งหมดเจ็ดตัว พวกมันทุกตัวต่างจ้องมองหลิงฮันด้วยความสับสนและไม่อยากจะเชื่อ

เผ่ามนุษย์ผู้นี้กำลังจะช่วยเหลือพวกข้า?

ถึงแม้จะเป็นเรื่องล้อเล่น พวกเขาก็ต้องการหนี!

“เผ่ามนุษย์เอ่ย ตราบใดที่เจ้าช่วยเหลือข้า หมีเฒ่าผู้นี้จะชดใช้หนีบุญคุณนี้ให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!” อสูรหมีดำที่สูงแค่สามฟุตกล่าว แต่มันมีดวงตาเป็นสีม่วง

สัตว์อสูระดับภูผาวารีนั้นจะพัฒนาสติปัญญาของตนเองและสามารถแปลงกายให้อยู่ในร่างมนุษย์ได้ แต่ตอนนี้พวกมันถูกปิดผนึกพลังและถูกย่อขนาด นี่ทำให้พวกมันรู้สึกโกรธและอับอาย ซึ่งไม่ต่างไปจากความอัปยศ

หมีตาม่วงนั้นมีเชื้อสายของสัตว์อสูรเทพโบราณ การที่มันถูกทำให้ตกต่ำถึงขนาดนี้ ทำให้มันรู้สึกโกรธแค้นมาก   หลิงฮันกล่าว “ข้าสามารถปล่อยเจ้าได้ แต่เจ้าคิดหรือว่าจำนวนแค่นี้จะสามารถหลบหนีไปจากที่นี่ได้?”

“ถ้างั้นเจ้าจะทำยังไง?” อสูรลาถาม ร่างกายของมันทั้งตัวเป็นสีทองและดูภาคภูมิใจตัวเองมากกว่าอสูรม้า

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ข้ามีวิธีการลับบางอย่างที่ทำให้ข้าสามารถมาที่นี่ได้อย่างอิสระ ดังนั้นแผนการของข้าจะเป็นเช่นนี้ ข้าจะปล่อยนักโทษทั้งหมดที่อยู่ที่นี่หลบหนีพร้อมกัน แต่แน่นอนว่าจะต้องมีบางส่วนที่หนีรอดไปได้และบางส่วนที่ต้องตายอยู่ที่นี่”

สัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัวมองหน้ากัน และพยักหน้า

หากมีพวกเขาแค่ไม่กี่คน โอกาสที่จะหลบหนีออกไปได้คงน้อย แต่ถ้าปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ที่นี่และหลบหนีพร้อมกัน มันก็จะเป็นอย่างที่หลิงฮันพูด แม้ว่าจะต้องมีหลายคนที่ถูกฆ่าตายอยู่ที่นี่ แต่ก็จะมีบางส่วนที่โชคดีและหลบหนีออกไปได้

“ข้าเห็นด้วย!” สัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัวกล่าว

หลิงฮันปล่อยสัมผัสสวรรค์เข้าไปในสัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัวทันที – ตอนนี้พวกมันถูกปิดผนึกพลังอยู่ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำเช่นนี้ และพาสัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัวเข้าไปในหอคอยทมิฬเพื่อฟื้นคืนพลังให้กับพวกมัน

หลิงฮันพาสัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัวออกมาจากหอคอยทมิฬ เขาคลายสัมผัสสวรรค์และปลุกสัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัว แล้วนั่นทำให้สัตว์อสูรทั้งเจ็ดตัวต้องตกตะลึงทันที เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ทำไมจู่ๆพวกมันก็หมดสติและพลังฟื้นคืนกลับมา?

อย่างไรก็ตาม เมื่อพลังของพวกมันกลับมา ขวัญกำลังใจของพวกมันก็กลับมาทันที ถึงกระนั้นพวกมันก็ยังไม่รีบร้อน และรอสัญญาณที่จะออกไปจากที่นี่ ในเวลาเดียวกัน ถ้าตอนนี้พวกมันถูกทหารยามพบ แผนหลบหนีออกไปจากที่นี่ของพวกมันก็จะล้มเหลว

พวกเขาตกลงกันว่าถ้าแผนการแตกก็จะดำเนินแผนการหลบหนีทันที

เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงมากที่ทหารยามจะพบความผิดปกติ หากถึงตอนนั้นไม่ว่าพวกเขาจะมีจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม พวกเขาก็พร้อมที่จะสู้เพื่ออิสระภาพ

หลิงฮันย้ายจากห้องขังหนึ่งไปยังอีกห้องขังหนึ่ง และพูดอย่างเดียวกัน

สำหรับนักโทษที่อยู่ที่นี่ พวกเขาทำได้แค่นอนรอความตาย แต่ตอนนี้พวกเขามีประกายแห่งความหวังเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรู้สึกขอบคุณหลิงฮันเป็นอย่างมาก และยินดีที่จะให้ความรวบมือกับเขา

แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่นอย่างไม่คาดคิด แม้ว่าหลิงฮันจะปลดปล่อยนักโทษหลายห้องขัง ถึงกระนั้นก็ไม่อาจทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้

เขาไม่กังวลว่าความลับของหอคอยทมิฬจะถูกเปิดเผย เพราะเขาปกปิดกลิ่นอายของตัวเองด้วยปราณอสูร ถ้าเขาปรากฏตัวด้วยสภาพปกติคงไม่มีสัตว์อสูรและมนุษย์คนใดตระหนักได้ว่าเป็นเขา

หลังจากเสร็จจากชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ชั้นสาม หลิงฮันก็ยังคงขึ้นไปที่ชั้นถัดไป และเมื่อเขาเห็นทหารยาม เขาก็จะพาเข้าไปในหอคอยทมิฬ

ทหารยามพวกนั้นต่างก็เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารี แต่เป็นแค่ระดับภูผาวารีขั้นต้นและขั้นกลางเท่านั้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่ศัตรูของหลิงฮัน เพียงแค่ใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหารก็สามารถจัดการกับทหารยามพวกนั้นได้แล้ว

“พวกเจ้าต้องการหลบหนีออกไปจากที่นี่หรือไม่?” หลิงฮันปลดผนึกให้กับนักโทษหนึ่งในสามไปแล้ว และเมื่อเขาไปห้องขังใหม่ เขาก็ยังคงพูดเหมือนเดิม

มีสี่คนอยู่ภายในห้องขังกับลูกสุนัขอีกหนึ่งตัว และพวกเขาเป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติเท่านั้น

ทั้งสี่คนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากที่หลิงฮันบอกแผนการ พวกเขาก็เห็นด้วยและตอบตกลงทันที

หลิงฮันพาทั้งสี่คนกับลูกสุนัขอีกหนึ่งตัวเข้าไปในหอคอยทมิฬ หลังจากออกมาจากหอคอยทมิฬ พวกเขาก็ต้องตกลงหลังจากที่พบว่าพลังของตัวเองนั้นกลับมาแล้ว

ในขณะที่หลิงฮันกำลังจากไป ลูกสุนัขก็วิ่งเข้ามากัดขากางเกงของเขา

“หืม?” หลิงฮันมองไปที่ลูกสุนัข

“ข้าต้องการติดตามท่าน” ลูกสุนัขพูด มันเองก็เป็นสัตว์อสูรระดับทลายมิติเหมือนกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพูดได้ แต่สัตว์อสูรส่วนใหญ่นั้นต้องการทะลวงผ่านระดับภูผาวารีเพื่อเติบโตขึ้น และนี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของพวกมัน สัตว์อสูรทุกตัวสามารถทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทรา หรือแม้กระทั่งระดับดาราได้เหมือนกับจอมยุทธ

.”ทำไมล่ะ?” หลิงฮันถาม

“ข้าสามารถช่วยท่านได้!” ลูกสุนัขกล่าว และทันใดนั้นมันก็หายตัวไป

หืม!

หลิงฮันปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของลูกสุนัข แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ ลูกสุนัขก็ปรากฏตัวอีกครั้งในตำแหน่งเดิม แต่ไม่กัดขากางเกงเขาอีกต่อไป

“เจ้าหายตัวได้อย่างนั้นรึ?” หลิงฮันถามด้วยความสงสัย ความสามารถของมันเหมือนกับหอคอยทมิฬ

“ข้าสามารถหายตัวได้แค่ชั่วครู่เท่านั้น ไม่งั้นข้าคงไม่ถูกจับ” ลูกสุนัขกล่าว

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าจะไม่เป็นตัวถ่วงของข้า?” หลิงฮันถามอีกครั้ง เขารู้สึกสนใจความสามารถของลูกสุนัขตัวนี้มาก เพราะเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวหลังจากเข้าไปหลบในหอคอยทมิฬได้ แต่ลูกสุนัขตัวนี้สามารถทำได้

“ไม่!” ลูกสุนัขกล่าวด้วยความมั่นใจ

ถึงแม้มันจะเป็นแค่ลูกสุนัข แต่ใครสนกันล่ะ?

“ดี!” หลิงฮันพยักหน้า

แผนการหลบหนีของเขาจะต้องมีหลายคนที่ต้องตายอยู่ที่นี่ และมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่สามารถหลบหนีออกไปได้ ดังนั้นถ้าเขาไม่ต้องการให้ลูกสุนัขตัวนี้ตาย มันคงดีกว่าถ้าจะพามันไปด้วย

หลิงฮันไม่กลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายรู้ว่าเขามีอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์ เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่คนที่มีตัวตนอยู่จริง

คนหนึ่งคนและลูกสุนัขหนึ่งตัวเดินไปห้องขังถัดไปและปลดปล่อยนักโทษ

นอกเหนือจากความสามารถหายตัวของมันแล้ว มันยังมีฟันที่แหลมคมมากอีกด้วย และสามารถกัดกรงขังได้อย่างง่ายดาย

มีลูกสุนัขตัวนี้ มันดูน่าเชื่อถือกว่าจักรพรรดิจอมอสูรหลายเท่า

หลิงฮันคิดเช่นนั้น

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน พวกเขาก็สามารถปลดปล่อยนักโทษได้สองในสามจากทั้งหมด

แต่ในตอนนั้นเอง หลิงฮันก็ได้ยินเสียงรถม้ากำลังมุ่งหน้ามา

“ไม่ได้การ!”

หลิงฮันอุทานเบาๆ เขาไม่คิดเลยว่าการขนส่งนักโทษชุดใหม่จะเร็วขนาดนี้ สถานการณ์ที่ชั้นล่างจะต้องความแตกอย่างแน่นอน

แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด หลังจากนั้นชั่วครู่ เสียงต่อสู้ก็เริ่มดังขึ้นจากชั้นล่างพร้อมกับเสียงเตือนภัย แล้วนักโทษจากหลายห้องขังก็เริ่มเคลื่อนไหวและต่อสู้เพื่อชีวิตของตัวเอง

“เร็วเข้า!”  หลิงฮันไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ แต่รีบลงมือปลดปล่อยนักโทษให้เร็วขึ้น

ลูกสุนัขพยักหน้า หลังจากที่สังเกตมานาน ทำให้มันรู้ว่าหลิงฮันมีอุปกรณ์มิติระดับศักดิ์สิทธิ์ แล้วถ้าต้องเผชิญหน้ากับอัตราย เขาก็คงพามันเข้าไปด้วย

ดังนั้น ลูกสุนัขจึงดูไม่ร้อนรนอะไร ตราบใดที่มันอยู่กับหลิงฮัน มันก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะถูกฆ่าตาย