ตอนที่ 1257 เครื่องจักรที่ชื่อประเทศชาติ

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1257 เครื่องจักรที่ชื่อประเทศชาติ โดย Ink Stone_Fantasy

“ข้าต้องการสร้างโรงงานผลิตแอมโมเนียกับโรงงานผลิตดินประสิว เรื่องนี้เจ้าน่าจะเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?” โรแลนด์ถาม

ก่อนหน้านี้ทั้งสองอย่างนี้ติดปัญหาอยู่ที่ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ต้องใช้ความสามารถของอกาธากับเปเปอร์มาช่วยแก้ไขปัญหา ปริมาณการผลิตนั้นอยู่ในระดับที่ไม่สูงไม่ต่ำมาโดยตลอด เมื่อเทียบกับวิธีการผลิตกรดดินประสิวในตอนแรกสุดนั้นถือว่าสูงกว่าไม่น้อย แต่เนื่องจากขีดจำกัดของพลังเวทมนตร์ของแม่มดกับจำนนวนประชากรจึงทำให้ไม่สามารถขยายขนาดการผลิตได้

หลังจากที่เขาจัดทำตารางธาตุออกมา งานแรกที่ห้องทดลองเคมีทำก็คือก็คือการจัดการทำธาตุตัวอย่างออกมา ด้วยความสามารถในการแยกธาตุของลูเซีย ตอนนี้กองอุตสาหกรรมเคมีจึงมีธาตุตัวอย่างที่ใช้เทียบกับธาตุบนตารางธาตุ นี่ทำให้ธาตุที่หายากบางอย่างจึงไม่ใช่ของแปลกอีกต่อไป อย่างเช่นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มักจะใช้บ่อยๆ ในการผลิตดินประสิว แพลทตินัมกับโรเดียม

ในแง่ของประสิทธิภาพแล้ว บางทีมันอาจจะสู้อกาธากับเปเปอร์ไม่ได้ แต่ขอเพียงมีคน โรงงานจะสร้างขึ้นมาเท่าไรก็ได้ ก็เหมือนคำกล่าวที่ว่าถ้าคุณภาพไม่พอก็ให้เน้นปริมาณ

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” เคโมตอบอย่างฉะฉาน “กระหม่อมได้ทดลองดูหลักการของมัน แล้วก็ได้สร้างท่อปฏิกิริยาขนาดเล็กขึ้นมาเพื่อจำลองกระบวนการสังเคราะห์ ขอเพียงมีคนงานเพียงพอก็สามารถเริ่มงานได้ทันทีพ่ะย่ะค่ะ

“ข้าจะจัดผู้อพยพที่รู้หนังสือไปให้เจ้าก่อน เดี๋ยวเลิกประชุมแล้วไปเตรียมตัวได้เลย” โรแลนด์ชะงักไปเล็กน้อย “นอกจากนี้ ข้ายังคิดที่จะเปิดสายการผลิตใหม่เพื่อใช้ในการสร้างแบตเตอรี่ตะกั่วกรด”

หัวหน้ากองอุตสาหกรรมเคมีไม่ได้ทำสีหน้าประหลาดใจ คนอื่นๆ บางทีอาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาอ่านเคมีระดับต้นกับระดับกลางจนทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว เนื้อหาในหนังสือเขาล้วนแต่จำได้ขึ้นใจ

แบตเตอรี่ตะกั่วกรดยังมีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันติดปากว่าแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ วัสดุที่ใช้สร้างขึ้นมันเรียบง่ายอย่างมาก ขอแค่มีตะกั่ว เลดไดออกไซ์และกรดเจือจาง ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องยากลำบากอะไรสำหรับกองอุตสาหกรรมเคมีในตอนนี้เลย อีกทั้งการใช้สารละลายอิเลคโตรไลต์มาทำให้หลอดไฟสว่างก็ถือเป็นการทดลองที่เป็นพื้นฐานอย่างมากในเคมีระดับชั้นมัธยม

ข้อดีของแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้คือมันสามารถใช้ซ้ำๆ ได้หลายครั้ง ขอแค่คอยเติมน้ำกลั่นเข้าไปในแบตเตอรี่ก็พอ ความยากในการผลิตตะกั่วและแผ่นเลดไดออกไซด์นั้นแทบจะเป็นศูนย์ ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ทำการผลิตมันขึ้นมาเป็นเพราะว่ามันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้มาก ในสถานการณ์ประชากรมีไม่มากพอประโยชน์ของมันจึงมีไม่สูงนัก

“ปริมาณที่พระองค์ทรงต้องการคือ…” เคโมหยิบสมุดออกมาจด

“เดือนละร้อยกว่าเครื่องก็พอ” โรแลนด์ตอบ

แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ส่วนใหญ่จะใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ลูกสูบ เครื่องบินปีกสองชั้นนั้นถือเป็นเพชรเม็ดเอกของอุตสาหกรรมของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ แต่เวลาที่มันจะขึ้นบิน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยังต้องมาคอยหมุนสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่นานสองนาน ดูแล้วล้าหลังเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้มีคนไม่พอก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้เมืองเนเวอร์วินเทอร์มีผู้อพยพเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนั้นอีก

มีคนเยอะก็หมายความว่าอยากจะทำอะไรก็ได้

“จำนวนแค่นี้ เลือกคนงานใหม่มาสิบกว่าคนจากในโรงงานก็สามารถทำได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ” เคโมตอบ “แต่แน่นอนว่าพวกแผ่นตะกั่วกับเปลือกนอกยังคงต้องการความช่วยเหลือของฝ่าบาทอันนามาช่วยในการสร้างอยู่พ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้าเจ้ามีแบบมาให้ ทางกองอุตสาหกรรมก็ไม่มีปัญหา” อันนาพยักหน้า

“อย่างนั้นขอกระหม่อมได้คิดซัก 2 – 3 วัน แล้วเดี๋ยวกระหม่อมจะส่งแบบให้ทางกองอุตสาหกรรมพ่ะย่ะค่ะ”

โรแลนด์ดื่มชาอย่างพึงพอใจ หลังผ่านการฝึกฝนมาเป็นเวลาหลายปี ตอนนี้ในสำนักบริหารมีคนที่มีความสามารถอยู่เต็มไปหมด การข้ามไปร่วมงานกับอีกหน่วยงานกลายเป็นเรื่องปกติ นี่ทำให้หลายโครงการเขาเพียงแค่พูดเปิดประเด็นขึ้นมา ส่วนที่เหลือก็จะมีคนจัดการจนเสร็จเรียบร้อย

“ต่อไป ก็เป็นภารกิจของกองอุตสาหกรรม…”

หลังจบศึกทาคิลา ภายในหัวเขาก็มีอะไรหลายอย่างที่จำเป็นต้องทำการปรับปรุงและเพิ่มเติมเข้าใน ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เวลาปล่อยมือแล้ว

สิ่งแรกที่ต้องรีบจัดการก็คือเพิ่มความสามารถในการรบให้กับหน่วยทหารราบ

หรือก็คือแผนปืนกลเอนกประสงค์

ใช้วัสดุที่เบาขึ้นมาสร้างปืนกลแม็กซิม แล้วก็ปรับปรุงโครงสร้างให้ดีขึ้น ทำให้ตัวปืนและขาตั้งปืนสามารถถอดประกอบและให้ทหารแบกได้ ส่วนกระสุนก็จะใช้เป็นสายกระสุนหรือไม่ก็แมกกาซีน แบบนี้ไม่ว่าจะเจอศัตรูที่ไหนก็จะสามารถยิงตอบโต้ได้ทันที ถึงแม้ศัตรูจะเป็นปีศาจระดับสูง แต่ขอเพียงมันไม่ได้โจมตีอย่างปุบปับ พวกเขาก็สามารถยิงเพื่อเปิดโอกาสให้ยิงกระสุนระเบิดต่อต้านปีศาจได้

เนื่องจากโครงสร้างไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ส่วนสำคัญของการที่จะทำให้มันมีน้ำหนักเบาลงจึงอยู่ที่วัสดุ อย่างเช่น อัลลูมีเนียมอัลลอย แล้วก็พลาสติกที่ทำมาจากของเหลวจากตัวแมลงยาง —- แต่ปริมาณการผลิตของอัลลูมีเนียมอัลลอยกับพลาสติกนั้นมีไม่สูงนัก ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องบินก็จำเป็นต้องใช้วัสดุสองอย่างนี้ในปริมาณที่สูงมาก ดังนั้นปริมาณของปืนกลที่ผลิตได้คงจะไม่สูงเท่าไร

แต่ว่ามันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นอัศวินอากาศเป็นก็จำเป็นต้องใช้ปืนกล โปรเจคนี้จึงเรียกได้ว่าเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ในความคิดของโรแลนด์ ถึงแม้กองทัพที่หนึ่งจะไปทำศึกที่วูล์ฟฮาร์ทหรืออีเทอร์นอลวินเทอร์ พวกเขาก็ควรต้องพยายามรักษาความได้เปรียบในเรื่องกำลังพลและอาวุธเอาไว้ สุดยอดทีมที่มีภารกิจพิเศษในการสอดแนม คุ้มกันและช่วยเหลือถึงจะมีอาวุธพวกนี้

นอกจากนี้ปืนยาวกึ่งอัตโนมัติที่แวนนาทำการปรับปรุงขึ้นมาก็ได้มอบให้ทางโรงงานทหารได้ลองผลิตออกมาแล้ว ตอนนี้สามารถแทนปืนยาวลูกเมื่อได้ในอัตราส่วน 1 : 5 หรือก็คือในจำนวนทหาร 5 คนจะมีทหาร 1 คนที่มี ‘ปืนยาวแวนนา’ สาเหตุที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนทั้งหมดก็เป็นเพราะคำนึงถึงเรื่องการขนส่ง แล้วก็โครงสร้างการยิงต่อเนื่องจะทำให้ความทนทานลดลง แล้วก็ทำให้เกิดอาการติดขัดในขณะที่ยิงได้ง่าย

แต่ว่ามันก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทหารได้จริงๆ

อันดับต่อมาก็คือเครื่องบินปีกสองชั้น หลังผ่านการทดสอบอย่างหนักมาเป็นเวลาเกือบสี่เดือน ในที่สุดเครื่องบินปีกสองชั้นรุ่นแรกก็เสร็จสมบูรณ์ แล้วก็ถูกตั้งชื่อว่า ‘เฮฟเว่นเฟลม’ มันไม่ได้ต่างจาก ‘ยูนิคอร์น’ มากนัก เมื่อเปิดออกดูโครงสร้างของมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เพียงแต่ถ้าจะให้คนงานที่เป็นคนธรรมดามาผลิตและประกอบ สุดท้ายจะผลิตออกมาได้กี่เครื่องก็ยังไม่อาจรู้ได้ ส่วนเครื่องยนต์นั้นยังคงต้องให้อันนาเป็นคนผลิตไปก่อน

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ โรแลนด์ก็ยังคิดที่จะรวบรวมคนงานที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในเขตอุตสาหกรรมมาเพื่อทำลายอุปสรรคตรงนี้ไปให้ได้ ตั้งแต่ที่ผลิตเครื่องจักรไอน้ำเครื่องแรกออกมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสามปีกว่าแล้ว เหล่าช่างเหล็กที่เมื่อก่อนเอาแต่เหวี่ยงค้อนเหล็กก็กลายมาเป็นคนควบคุมเครื่องจักรฝีมือดี ระดับการผลิตของเมืองเนเวอร์วินเทอร์พัฒนาไปจนถึงระดับไหนกันแน่ ตอนนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ลองทดสอบดู

ถ้าอยากจะหยุดการเคลื่อนไหวของอสูรสยองให้ได้ อย่างนั้นการแย่งน่านฟ้าก็คือหนทางเพียงหนึ่งเดียว

ส่วน ‘เฮฟเว่นเฟลม’ นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นอย่างไม่ต้องสงสัย

สุดท้ายก็คือการจัดการกับอสูรยักษ์แมงมุมที่ปีศาจสร้างขึ้นมาใหม่และจุดอ่อนที่กองทัพที่หนึ่งแสดงออกมา — โรแลนด์คิดจะสร้างปืนใหญ่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างปืนครกและปืนใหญ่ป้อมขึ้นมาอีกชนิดเพื่อเอาไว้สู้กับพวกอสูรยักษ์ ขนาดลำกล้องของมันตอนนี้กำหนดเอาไว้ที่ 75 มม. กองทัพสามารถขนมันออกไปรบได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮัมมิ่งเบิร์ดมาลดน้ำหนักแล้วก็ไม่ต้องมีถนนแข็งๆ ด้วย ปกติแค่มีม้าสองตัวก็ใช้ได้แล้ว ถ้าไม่มีม้าก็ใช้คนขนก็ได้

ปืนใหญ่สนับสนุนทหารราบชนิดนี้ไม่มีความยากในด้านเทคโนโลยี แค่ย้ายคนงานเก่าบางส่วนมาจากโรงงานปืนใหญ่เดิมมาก็สามารถเริ่มการผลิตได้ทันที แต่ว่าก่อหน้านั้นเขาจำเป็นต้องทำการทดลองผลิตและทดสอบยิงปืนใหญ่ตัวอย่างก่อน

เรื่องพวกนี้โรแลนด์เคยคุยกับอันนาเป็นการส่วนตัวมาหลายรอบแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก แค่พูดเพียงประโยคเดียวอีกฝ่ายก็เข้ามา

โรงงานเกือบ 10 โรงงานเปิดพร้อมกัน มีแรงงานเข้าไปทำงานในโครงการใหม่ทีเดียว 2 – 3 หมื่นคน ถือได้ว่าเป็นแผนการผลิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่สร้างเมืองเนเวอร์วินเทอร์ขึ้นมา

และเมื่อประชากรอพยพเข้ามาเร็วขึ้น การเปลี่ยนแปลงให้เป็นอุตสาหกรรมของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ไม่เพียงแต่จะไม่หยุดลง หากแต่ยิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นทุกวัน

เครื่องจักรที่ชื่อ ‘ประเทศชาติ’ ได้เริ่มเปิดเครื่องแล้ว

……………………………………………………