“อ๊ะ! ระวัง!”
คนในทีมคนนึงตะโกนออกมาแล้วก็มีลูกบอลสีขาวลอยลงมาที่หัวของนักเวทย์ในทีม
พวกเขากำลังยืนอยู่ในเขตแดนความมืดแล้ว ดวงตะวันแทบจะฉายแสงไม่ได้
เสี่ยวเฟิงและคนอื่นๆที่ยืนในป่าดงดิบของที่นี่ พวกต้นไม้ขึ้นรกรุงรังและเถาวัลย์ที่น่ากลัว
ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางอยู่ก็มีลูกบอลสีขาวตกลงมาใส่หัวของผู้เล่นนักเวทย์และฆ่าเขาทันที เขาตายที่จะรู้ตัวเสียอีก
“เชี่ย! ขยะแขยงฉิบหาย!”
ทุกคนตะลึงในขณะที่มองลูกบอลสีขาวนั่น ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือกและพระสาวก็อ้วกออกมา
มันคือแมลงสีขาวที่ตัวใหญ่มากมันส่งเสียงน่าเกลียดไปมาและทำให้ทุกคนหวาดกลัว
ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในขณะที่ผู้เล่นคนนึงในทีมถูกจัดการไปแล้ว มันคือดินแดนที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
เพราะว่าหมอกที่ปกคลุมที่นี่ทำให้สัมผัสของพวกเขาทื่อลง ระบบแผนที่เองก็บอกอะไรไม่ได้เช่นกัน
“พระ! บัฟฉันที! เดี๋ยวไปจัดการมันให้!”
หัวหน้านักรบที่เลเวล 14 เองก็รู้สึกสะอิดสะเอียนที่ได้เห็นเจ้าแมลงตัวนี้ แต่ก็อยากจะโชว์พาวต่อหน้าทุกคน เขาชักอาวุธออกและตะโกน
“อย่านะ! รีบหนีไป! นายต้องถูกมันฆ่าแน่ๆ!”
แต่ซูติงติงห้ามเขาทันที และทุกคนก็วิ่งหนี
เธอพูดถูก ไม่มีใครู้ว่าเลเวลของมันมีเท่าไหร่ แม้แต่สกิลสอดแนมของเสี่ยวเฟิงเองก็ไร้ค่า
หนอนขาวปีศาจ
ระดับ หายาก
ธาตุ ชีวิต
เลเวล ???
พลังชีวิต ???
พลังโจมตี ???
พลังป้องกัน ???
สกิล ???
คำอธิบาย มอนสเตอร์ทั่วไปที่เกิดในดินแดนความมืด มันตัวใหญ่ตุ๊ต้ะและจ้องจะโจมตีเหยื่อจากหมอก
เสี่ยวเฟิงหาเลเวลของมันไม่ได้ นั่นหมายความว่ามันต้องมีเลเวลที่เกิน 30 ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไคเซอร์ถึงมอบหมายเควสนี้ให้กับเขา เพราะว่ามันมีมอนสเตอร์แข็งแกร่งแบบนี้นี่เอง
เควสเนื้อเรื่องเป็นเควสที่ยากพอสมควร และผู้เล่นส่วนใหญ่คิดว่าเควสมันก็น่าจะง่ายๆเหมือนกันหมด ทว่าความยากที่แท้จริงจะปรากฎขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาทำเควสไปแล้วกว่า 20 เควส
ผู้เล่นทั้งหลายต้องทำเควสมากมายและทำตามเงื่อนไขให้ครบก่อนถึงจะสามารถรับเควสนี้ได้ แต่ในฐานะของอาร์คบิชอปผู้เปิดเควสนี้ เสี่ยวเฟิงจึงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
“เร็วเข้า! รีบหนีมา! มันไม่น่าจะวิ่งตามเราทันหรอก!”
ผู้เล่นคนอื่นเห็นด้วยกับติงติงและรีบหนีไป
ผู้เล่นทั้ง 7 คนรีบขี่ม้าออกไปด้วยความรวดเร็ว และเจ้าหนอนนี่ก็ไม่ยอมตามพวกเขาไป
ทว่า ที่นี่คือพื้นที่ของเจ้าหนอนอ้วนนี่ มันปรากฎตัวมากมายและทำให้ทุกคนต้องหนีกันกระเจิงไปคนละทิศทาง
ผู้เล่นทั้ง 7 ต่างก็ขี่สัตว์คนละชนิดกัน ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเร็วที่ไม่เท่ากัน เสี่ยวเฟิงวิ่งนำทุกคนไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มไม่รู้จะพูดยังไงดี เขาจับแผงขนของเสี่ยวสุยและให้มันพักก่อนชั่วคราว เขาเปิดหน้าจอของทีมเพื่อดูอะไรบางอย่าง
ในตอนนี้พวกเขาออกมาจากป่าได้โดยที่ไม่โดนหนอนกินตายไปมากนัก
“นายอยู่ไหน? บอกตำแหน่งมา!”
“ฉันเพิ่งออกมาจากป่า นายอยู่ที่ไหนกัน! มันมืดมากฉันกลัว!”
“เดี๋ยวฉันไปหา!”
“ออกมาจากป่าให้ได้นะ! เดี๋ยวฉันจะไปรับ!”
พระสาวถูกทิ้งเอาไว้ในป่านั่น ผู้เล่นชายบางคนจึงอยากจะเข้าไปช่วยเธอ
ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เพราะเขาอยู่ห่างจากพวกคนในทีมมาก และมันเป็นการยากเกินไปที่พวกเขาจะไปรวมกุล่มกันใหม่
หลังจากคิดไปซักพักเสี่ยวเฟิงจึงมุ่งหน้าไปต่อทันที เขาคิดจะจบเควสนี้ด้วยตัวคนเดียว
เสียงพุ่มหญ้าสั่นไหว
เขากำลังจะเดินทางต่อแต่ก็ได้ยินเสียงเหล่านั้น เสี่ยวเฟิงหันกลับไปมองยังทิศทางของเสียงทันที
ปรากฎว่าเป็นเด็กสาวคนนึงเดินออกมาจากพงหญ้านั่น เธอมองเสี่ยวเฟิงด้วยสายตาน่ารัก
เสี่ยวสุยเองก็จ้องมองไปยังเธอด้วยความตื่นกลัว
เสี่ยวเฟิงให้ความสนใจไปที่เธอทันที
NPCเหรอ?… ไม่สิเธอใส่ชุดที่มีอยู่บนโลกจริง แถมยังแตกต่างจากNPCบนโลกนี้อีก หรือว่าเธอจะใส่ชุดแฟชั่นอยู่!
เธอไม่น่าจะใช่ผู้เล่นแน่ๆ อายุของเธอน่าจะต่ำกว่า 10 ขวบ ซึ่งเป็นอายุที่เกมนี้ได้บังคับเอาไว้ว่าห้ามเล่น
“พี่ชายเห็นหมีน้อยของหนูไหม?”
เด็กสาวถามขึ้น เธอดูอ่อนแอและผอมแห้งซีดจากการขาดสารอาหาร เธอใส่เสื้อแขนสั้นและกางเกงยีนส์ที่มีรูขาดวิ่น
เธอดูเหมือนเด็กในครอบครัวที่ยากจนเลย และเสี่ยวเฟิงไม่คิดว่าเธอน่าจะใส่ชุดแฟชั่นแน่ๆ
ชายหนุ่มไมได้ตอบคำถามเธอ เขาครุ่นคิดอย่างละเอียดว่านี่น่าจะเป็นบั๊คของเกม?
เด็กสาวทำสีหน้าผิดหวังที่ไม่ได้คำตอบอะไร และเสี่ยวเฟิงก็ได้ยินเสียงหญ้าสั่นไหวอีกครั้ง
ชายหนุ่มกระพริบตาแล้วเด็กสาวก็หายไป เขาไม่ได้ยินเสียงหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอเลยราวกับว่านี่เป็นภาพลวงตา
เสี่ยวเฟิงขมวดคิ้วด้วยความหวาดกลัวและตะลึง เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงภาพลวงตาหรอก
ในตอนนี้ดวงตาของเสี่ยวเฟิงเต็มไปด้วยแสงสีทองแลเขามองไปยังต้นหญ้าเหล่านั้น ทันใดนั้นเอง ทุกๆอย่าง ทั้งใบหญ้าและอากาศก็โค้งมนเข้ามาในความคิดของเสี่ยวเฟิง
ถ้าเกิดว่ามีใครบางคนกำลังทดสอบยากับร่างกายของเขาในโลกความจริงอยู่ล่ะก็ พวกเขาน่าจะพบว่าหัวใจของเสี่ยวเฟิงเต้นเร็วกว่าคนทั่วไป 3 เท่า!
ดวงตาของเสี่ยวเฟิงกลายเป็นสีทองและตาดำก็หายไปอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างตรงหน้าเขาเริ่มพร่ามัว
ชายหนุ่มเองก็ไม่สามารถหาตัวเธอได้อีก
ดวงตาสีทองของเขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่เสี่ยวเฟิงดูท่าว่าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเลย
นี่เขาเห็นภาพหลอนงั้นเหรอ?
บางทีอาจจะเป็นแค่ภาพในเกมก็ได้
เสียงใบหญ้าสั่นไหวอีกครั้ง
คราวนี้มันมาจากด้านหลังของเขา ชายหนุ่มหันไปทันทีและได้พบกับหญิงสาวคนนึง
“อ๊า! นายทำฉันกลัวนะ!”
ปรากฎว่านั่นคือซูติงติงบบนหลังหมาป่าสีเทา เธอยกมือขึ้นทาบอกตัวเองก่อนจะบ่นกับเสี่ยวเฟิง
“ทำไมถึงไม่อยู่กับทีมล่ะ?”
เสี่ยวเฟิงถามเธอ
“แล้วนายล่ะ?”
แต่ก็โดนสวนกลับมาจนไม่รู้จะตอบยังไง
“มาตั้งทีมกัน ยังไงพวกนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้เราเสร็จเควสเร็วขึ้นหรอก” ติงติงบอก
“โอเค” เสี่ยวเฟิงเห็นด้วย อย่างน้อยเธอก็มีฝีมือมากกว่าพวกผู้เล่นคนอื่นๆในทีมแน่นอน
“เสียงนายคุ้นๆนะ เหมือนเคยได้ยินมาก่อน” ติงติงขมวดคิ้วมองไปยังเสี่ยวเฟิงที่ใส่หน้ากากอยู่
“ฮ่า…ฮ่าฮ่า คิดไปเองมั้ง”
เสี่ยวเฟิงหัวเราะแห้งๆออกมา เขาไม่กลัวหรอกที่เธอจะจำได้ แต่เขายังตะลึงกับคำพูดของเธอมากกว่า
“คงงั้น… ไปกันเถออะ” โชคดีที่ติงติงเมินปัญหาจุดนี้ไปและขี่หมาป่าของเธอ
“นายมีสัตว์ขี่เท่ๆดีนี่ คงจะเลเวลสูงน่าดู” ติงติงเองก็เป็นคนที่พูดมาพอสมควร และเสี่ยวเฟิงรู้ดีเพราะเขาเป้นคนที่ทำงานในร้านเน็ตเมื่อก่อน เขาจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เธอจะถามอะไรแบบนี้
“ใช่แล้ว ของโคตรดีเลยล่ะ” เสี่ยวเฟิงตอบกลับไป
“เทียบหมาฉันไม่ได้หรอก” ติงติงลูบหัวสัตว์ขี่ของเธอ
“ต้าเฮ่ย คือสุดยอดของสัตว์ขี่แล้ว! มันเคยเป็นบอสที่ฉันจับมาเลยนะ!”
เสี่ยวเฟิงพูดไม่ออกพลางลูบหัวเสี่ยวสุย และไม่อยากจะบ่นเกี่ยวกับเซ้นส์ในการตั้งชื่อของเธอซักเท่าไหร่