ตอนที่ 729: ตราสัญลักษณ์สีฟ้า (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 729: ตราสัญลักษณ์สีฟ้า (1)

ตอนที่เจี้ยนเฉินถูกพาขึ้นรถม้ากับเจมมี่เพื่อไปยังสำนักงานใหญ่ของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ชายชราชุดขาวที่ดูเหมือนจะมีอายุประมาณเจ็ดสิบกว่าปีที่อยู่ในสนามรอบบ้านที่หรูหราของเขาได้ปล่อยให้พลังเซียนธาตุแสงที่หนาแน่นรอบ ๆ มือของเขาค่อย ๆ จางหายไป ที่อกของชายชรานั้นมีตราสัญลักษณ์สีฟ้าที่งดงามอยู่

ตราสัญลักษณ์สีฟ้าเป็นตัวแทนถึงเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 และถูกแจกจ่ายโดยสำนักงานใหญ่ของสมาคม เฉพาะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สวมใส่มันได้ ดังนั้นชายชราคนนี้จึงต้องเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 แน่นอน

ข้างหน้าชายชรานั้นมีเล่ยหมินเกานั่งอยู่ เล่ยหมินเกาเป็นคนที่มีเรื่องกับเจี้ยนเฉินก่อนที่กระดูกนิ้วของเขาจะหักโดยเสือขาวตัวเล็ก ๆ เขากำลังเคลื่อนไหวนิ้วชี้ข้างขวาของเขาซึ่งดูเหมือนมันจะถูกรักษาแล้วตอนนี้

“หมินเกา โชคดีที่เจ้ากลับมาที่ตระกูลทันเวลา ไม่อย่างนั้นหากเวลาผ่านไปนานกว่านี้ บาดแผลจะเริ่มแข็งตัว ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว แม้แต่ข้าก็ไม่มีพลังที่จะไปรักษามันได้ เฉพาะผู้อาวุโสของสมาคมเท่านั้นที่จะมีพลังการรักษาเช่นนั้น” เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 พูดกับเขาอย่างไร้อารมณ์

เล่ยหมินเกายืนขึ้นจากที่นั่ง เขาโค้งหัวอย่างเคารพไปที่ชายชราและพูด “ขอบคุณท่านมาก ท่านปู่สามสำหรับการรักษานิ้วของหมิงเกา หมิงเกาจะไม่ลืมการกระทำของท่านปู่ในครั้งนี้เลย”

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ถอนหายใจ “หมิงเกา แม้ว่าตระกูลเล่ยจะมีชื่อเสียงในเมืองแห่งเทพเจ้า แต่เราก็ไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น มันยังมีตระกูลที่มีอำนาจมากกว่าเรามากที่อยู่ในเมือง เจ้าไม่ควรจะไปก่อเรื่องให้มากนัก”

“หมิงเกาจะจำคำแนะนำของท่านปู่สามเอาไว้ในใจ” ต่อหน้าชายชราคนนี้ เล่ยหมินเกาไม่กล้าที่จะทำอะไรอวดดีด้วย ปู่สามของเขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เพียงคนเดียวในตระกูลรวมถึงยังเป็นสมาชิกหลักของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง เขามีตำแหน่งที่สำคัญมาก

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงพยักหน้ารับก่อนที่จะออกจากห้องไป ในทันทีที่เขาจากไป ความเคารพบนใบหน้าของเล่ยหมินเกาก็หายไป เขาหน้าตึงในขณะที่ขบฟันของเขาไว้ “แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงชั้นต่ำยังกล้าที่จะมาอวดดีต่อหน้าข้าและยังทำนิ้วข้าหักอีก ถ้าข้าไม่แก้แค้นละก็ ตระกูลเล่ยยังจะมีศักดิ์ศรีเหลืออีกหรือ ? “

“ท่านพี่ น้องชอบลูกเสือที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงชั้นต่ำครอบครองมากเลย ท่านต้องเอามันมาให้ข้านะ” หลังจากที่เล่ยหมินเกาพูดจบ เสียงของผู้หญิงก็ดังสะท้อนมาจากข้างนอก แม่นางที่มีตราสัญลักษณ์เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงสีเขียวเดินเข้ามา นางมีท่าทางเย่อหยิ่ง

เมื่อได้เห็นแม่นาง เล่ยหมินเกาก็เริ่มยิ้มขึ้นมาทันที “น้องข้า ไม่ต้องกังวลไป พี่จะต้องนำลูกเสือนั้นกลับมาได้แน่นอน พี่จะให้มันเป็นของขวัญแก่เจ้า” ต่อหน้าลูกพี่ลูกน้องคนสุดท้องของเขา เล่ยหมินเกาไม่กล้าที่จะไม่สุภาพต่อนาง สถานะลูกพี่ลูกน้องของเขาในตระกูลเล่ยนั้นพิเศษมากและยิ่งใหญ่กว่าเขาในฐานะที่เขาเป็นนายน้อยสาม

นี่เป็นเพราะว่าลูกพี่ลูกน้องของเขานั้นมีพรสวรรค์มาก สามารถสำเร็จระดับ 4 ได้เมื่อนางอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น นางได้กลายเป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะของเมืองแห่งเทพเจ้าและเป็นความหวังของบรรดาผู้อาวุโสในตระกูล นางเคยถูกชื่นชมจากผู้อาวุโสของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงว่านางอาจจะสำเร็จระดับ 6 ในอีก 20 ปี และอาจจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะสำเร็จระดับ 7 ได้

ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าลูกพี่ลูกน้องคนเล็กสุดของเขาจะไม่ได้เป็นสมาชิกที่เป็นสายตรงของตระกูล แต่นางก็มีจุดยืนสูงกว่าเขาซึ่งเป็นนายน้อยสาม นี้เป็นเพราเรื่องที่ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ทุก ๆ คนจะมีตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสของสมาคมซึ่งเป็นฐานะที่สูงมาก มีผู้อาวุโสประมาณ 20 คนเท่านั้นที่สำเร็จระดับ 7

ในตอนนี้ ยามที่เล่ยหมินเกาได้ส่งให้ไปสะกดรอยเจี้ยนเฉินรีบพุ่งเข้ามา เขาคุกเข่าลงหนึ่งข้างและพูด “ขอรายงานนายน้อย เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงชั้นต่ำคนนั้นกำลังอยู่ในรถม้ากับรองผู้จัดการของสาขาชั้นสาม ดูจากทิศทางที่พวกเขากำลังจะไปแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรีบไปที่สำนักงานใหญ่ของสมาคม”

เมื่อได้ยินดังนั้น เล่ยหมินเกาก็ขมวดคิ้ว หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พึมพำกับตัวเอง “เขาจะไปที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมเพื่ออะไรกัน ? “

ในตอนนี้เอง หญิงสาวที่มีตราสีเขียวก็ครุ่นคิดและพูดกับตัวเอง “เจ้าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงชั้นต่ำนั้นเหมือนต้องการที่จะไปรับการทดสอบ สาขาชั้นสามที่ถนนพระอาทิตย์สามารถทดสอบได้แค่ถึงระดับ 4 ถ้าเกินกว่าระดับ 4 จะต้องไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อรับการทดสอบ บางทีเจ้าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ยังไม่ได้รับการทดสอบนี้อาจจะสำเร็จระดับ 5 ยังงั้นหรือ ? “

ทันทีที่เขาได้ยินว่าระดับ 5 ท่าทีของเล่ยหมินเกาก็เปลี่ยนไป เขาพูดอย่างรวดเร็ว “เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน เขาดูเด็กกว่าข้าเสียอีก เขาจะเป็นถึงเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 5 ได้อย่างไร ? “

นางคิดสักพักในขณะที่ขมวดคิ้ว หลังจากนั้น นางก็มองไปที่ยามด้วยความเย็นชาแล้วเอ่ยว่า “เตรียมรถม้าเร็ว ข้าจะไปที่สำนักงานใหญ่”

“ได้ขอรับ คุณหนูเล่ยหยิน” ยามตอบรับอย่างสุภาพก่อนจะรีบออกไป

หญิงที่ถูกเรียกกว่าคุณหนูเล่ยหยินไม่ลังเลที่จะออกไปทันทีเหมือนกัน

เล่ยหมินเกาลังเลเล็กน้อยในขณะที่เขามองดูเล่ยหยินที่กำลังหายไปอย่างช้า ๆ ในที่ไกล ๆ เขารีบที่จะไล่ตามนางไป “น้องข้า รอพี่ด้วย ข้าจะไปกับเจ้า”

เมืองแห่งเทพเจ้านั้นกว้างใหญ่มาก รถม้าหรูหราที่วิ่งมาตามถนนที่กว้างใหญ่ ในที่สุดก็มาถึงที่ศูนย์กลางของเมือง หลังจากที่เดินทางมาหนึ่งวันและหนึ่งคืนเต็มเต็ม มันได้มาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของปราสาทที่ใหญ่โต

ปราสาทนี้เป็นสำนักงานหลักของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ปราสาทนี้ใหญ่โตมากมากซึ่งสูงอย่างน้อย 100 เมตร ทั้งตัวปราสาทเปล่งแสงสีขาวอ่อนซึ่งทำให้มองดูศักดิ์สิทธิ์และทำให้ดูน่าสักการะบูชา อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เตะตาที่สุดคือยอดของตัวปราสาท มันมีลูกบอลแสงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตรและมีพลังเซียนธาตุแสงอยู่อย่างหนาแน่น พลังมันค้างอยู่อย่างนั้นและเหมือนจะค้างอยู่ที่นั้นตลอดไป

ทันทีที่เจี้ยนเฉินออกจากรถม้า เขาก็ทึ่งกับภาพที่เขาเห็นตรงหน้า สายตาของเขาหยุดไปที่ลูกบอลที่มีพลังเซียนธาตุแสงที่หนาแน่นและไม่สามารถละสายตาออกจากมันไปได้ เขารู้สึกได้ว่าลูกบอลแสงนี้บรรจุพลังเซียนธาตุแสงที่มากมายเอาไว้และพลังนั้นแข็งแกร่งมาก มันมากพอที่จะทำให้เจี้ยนเฉินชะงักไปชั่วครู่ทีเดียว

ในตอนนี้ เจมมี่และหลินไป่ออกมาจากรถม้าด้วยอาการเหน็ดเหนื่อยทั้งคู่ สายตาของเขาก็หยุดไปที่ลูกบอลแสงที่ยอดสุดของปราสาทเช่นกัน

“นั่นคือสัญลักษณ์ของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ที่จุดศูนย์กลางของลูกบอลแสงที่หนาแน่นไปด้วยพลังเซียนธาตุแสงนั้นมีวัตถุเซียนที่ทำให้เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงสำเร็จถึงระดับ 7 ได้ มันจะทำงานทุก ๆ 50 ปี และในทุก ๆ ครั้งที่มันทำงาน มีแค่ 10 คนเท่านั้นที่สามารถเข้าไปและได้รับโอกาสในการสำเร็จระดับ 7 อีกแค่ 1 ปี 5 เดือนและ 18 วันเท่านั้นที่จะถึงการทำงานของมันในครั้งต่อไป” เจมมี่อธิบายให้เจี้ยนเฉินฟัง นี่ไม่ใช่ความลับของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเกือบทุกคนรู้เรื่องนี้

เจี้ยนเฉินจ้องลึกไปในบอลที่ทรงพลังที่มีพลังเซียนธาตุแสงที่อยู่บนยอดของปราสาท แม้ว่ามันจะมีวัตถุเซียนที่ทำให้ผู้คนสำเร็จระดับ 7 ได้ แต่เขาก็ไม่เห็นมันเลย ความหนาแน่นของพลังเซียนธาตุแสงนั้นทรงพลังเกินไปและก็ยังมีสิ่งห่อหุ้มที่ทรงพลังมากปกป้องมันอยู่อีก แม้แต่พลังที่เขามีก็ไม่ทำให้สามารถเห็นมันได้

“ใครจะไปคิดล่ะว่าสมาคมจะเอาของที่มีค่าแบบนี้ไว้บนนั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะเตรียมตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยของวัตถุเซียนและไม่กลัวว่าใครจะมาเอามันไป” เจี้ยนเฉินคิด เขาข่มความคิดที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผุดขึ้นมาภายในจิตใจของเขาก่อนที่จะตามเจมมี่และหลินไป่เข้าไปในปราสาท

เจมมี่พาเจี้ยนเฉินเข้าไปในปราสาทที่ใหญ่โต ภายในปราสาทมีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงหลายคนอยู่ในชุดขาวและมีตราสัญลักษณ์สีที่แตกต่างกันไป พวกเขารวมกันพูดคุยเป็นกลุ่มเล็ก ๆ

เจี้ยนเฉินตามเจมมี่ไปที่โต๊ะทำงาน หลังโต๊ะทำงานมีชายชราที่มีตราสัญลักษณ์สีฟ้านั่งอยู่

“เจมมี่ เจ้าแก่จอมล่อลวง เจ้ามาทำอะไรที่สำนักงานใหญ่ของสมาคม ทำไมเจ้าไม่อยู่ที่สาขาล่ะ ? เจ้าพาเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 5 เพื่อมาทดสอบอย่างนั้นหรือ ? “

“กีเตอร์ เจ้าเดาถูกแล้วล่ะ ข้ามาที่นี่ครั้งนี้เพื่อพาบางคนมาทดสอบสำหรับระดับ 5” เจมมี่หัวเราะคิกคัก

กีเตอร์รวบรวมสายตาและเพ่งมองไปที่หลินไป่อย่างตั้งใจ เขาคิดอย่างตกใจ “บางทีเจ้าหนุ่มนี้อาจจะสำเร็จระดับ 6 แล้วกระมัง ? เขาเหมือนจะยังอายุไม่ถึง 50 ปีเลย นี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงจริงสำหรับเขาที่สามารถสำเร็จระดับ 6 ได้ด้วยอายุที่น้อยเพียงนี้ เขาฝึกฝนเร็วกว่าพวกนักสู้หลายเท่าเลยทีเดียว”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกตกใจ แต่กีเตอร์ก็ไม่ได้ลังเลอะไร “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปรับการทดสอบ”

ไม่นานหลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและคนอื่นอื่นก็ตามกีเตอร์เข้าไปที่ห้องลับ กีเตอร์ก็ดึงเอาลูกปัดขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือออกมาจากกล่องที่ตกแต่งสวยงามที่อยู่ในห้อง ก่อนที่จะไปข้างหน้าหลินไป่อย่างเคร่งครึม เขาพูด “เจ้าสำเร็จการทดสอบระดับ 5 มาแล้ว เจ้าน่าจะรู้กฎดีอยู่แล้ว ข้าว่าข้าคงไม่ต้องบอกซ้ำอีก”