ตอนที่ 830 การกระทำเยี่ยงโจร

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีถามขึ้น “มีอะไรเหรอ?”

“นายท่านมิได้สังเกตหรือว่ากำแพงในห้องแห่งนี้มีอะไรแตกต่างออกไป?” หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว

มู่เฉียนซีตะลึงงัน นางกล่าว “เมื่อฟังเจ้าพูดแล้ว ดูเหมือนว่ากำแพงแห่งนี้จะแตกต่างออกไปอยู่บ้าง”

หอฉงโหลวบนเมฆาหัวเราะและกล่าวว่า “แน่นอนว่ามันแตกต่างกัน เพราะว่ากำแพงแห่งนี้ล้วนแต่เป็นหินแห่งมิติน่ะสิ!”

“ทั้งผนังล้วนแต่เป็นหินแห่งมิติ เจ้าคิดที่จะทำอะไร?” มู่เฉียนซีถามขึ้น

“แน่นอนว่าจะต้องทุบมัน! นับจากนี้มันจะเป็นสิ่งล้ำค่าเพียงสิ่งเดียวที่ข้าจะต้องพึ่งพาอาศัยเพื่อให้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้! สามารถเอาไปได้มากเท่าไรก็เอาไปให้มากเท่านั้น นายท่านท่านว่าเช่นไรเล่า?”

มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อยแล้วกล่าว “สิ่งที่เจ้าพูดมานี้มิผิด”

มู่เฉียนซีได้บอกกับจวินโม่ซีในเรื่องนี้ เขาแสยะมุมปาก “สาวน้อย คงมิต้องเอาให้มันหมดเกลี้ยงไปเช่นนั้นกระมัง?”

“นั่นเป็นถึงหินแห่งมิติเชียว! หากมิใช่เพราะว่าในครั้งนี้พวกเราโชคดีได้พบกับมันเข้า หลังจากนี้ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถมาพบเจอมันเข้าได้อีก! ดังนั้นแล้วสามารถขนไปได้มาเท่าไรก็ขนไปให้มากเท่านั้น ตอนนี้เจ้าไปทุบมันเสีย” มู่เฉียนซีกล่าวพร้อมชี้ไปทางกำแพงเบื้องหน้า

“ทําไมต้องเป็นข้า?”

“เพราะเจ้าแข็งแกร่งกว่าข้า!”

“ลงมือเสียสิ! อย่าได้สิ้นเปลืองเวลา ข้ารู้สึกว่าที่แห่งนี้มันไม่ค่อยปกติเท่าไร” มู่เฉียนซีกล่าว

“ได้ ได้ ได้! เอาตามที่เจ้าว่า!” จวินโม่ซีเองก็กล่าวอย่างจนปัญญาเป็นที่สุด

เขาได้ชักกระบี่ของตนออกมาและรวบรวมพลังทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ระเบิดมันออกไปทางกำแพง

“ตูม!”

จวินโม่ซีจับกระบี่ขึ้นมาอย่างกะทันหันจากนั้นก็ฟาดฟันไปทางกำแพง นั่นทำให้พวกหัวหน้าหุบเขาซือคงประหลาดใจยิ่งนัก!

“พวกเขาจะทำอะไร?”

เขามองไปทางจวินโม่ซีที่กําลังระเบิดพลังออกมา ระเบิดกำแพงแตกกระจายออกมามากเท่าไรมู่เฉียนซีก็เก็บสิ่งที่ระเบิดออกมาไปได้มากเท่านั้น

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “กำแพงแห่งนั้นก็เป็นหินแห่งมิติ”

“อะไรนะ? เพื่อหินแห่งมิติ แม้แต่กำแพงก็ยังไม่ปล่อยไป พวกนั้นจะมากเกินไปแล้วกระมัง!”

“เก็บกวาดหินแห่งมิติไปจนหมดเกลี้ยงแล้วก็ยังไม่เท่าไร ยังจะไปลงมือกับกำแพงอีก เช่นนี้ไหนเลยจะเหมือนกับศิษย์แห่งหุบเขาหมอเทวดาของพวกเรา นี่มันเป็นโจรชัด ๆ”

“……”

ในตอนนี้พวกเขามองเห็นหินแห่งมิติเบื้องหน้าแต่มิอาจเข้าไปแย่งชิงได้ พวกเขาทำได้เพียงยืนพูดคุยบิดตัวไปมากันอยู่ด้านข้างเท่านั้น

“ตูม!”

หลังจากถูกระเบิดไปหลายครั้ง กำแพงทั้งกำแพงก็ได้แตกสลายไปจนจะหมดสิ้นแล้ว

“ฮู่ว!” จวินโม่ซีเหนื่อยเสียจนแทบไม่ไหว!

“ตกลงกันไว้แล้วนะว่าเจ้าให้ข้าทำงานหนักเช่นนี้ ครั้งนี้ออกไปเจ้าจะต้องเพิ่มจำนวนอาหารให้ข้านะ!” จวินโม่ซีมองไปทางมู่เฉียนซีพร้อมกล่าว

มู่เฉียนซีพยักหน้า “ได้! เพิ่มอาหาร พอใจหรือยัง!”

จวินโม่ซีช่างเกลียดชังเสียจริง ใครกันที่สร้างหอศิลาเช่นนี้ขึ้นมา!

แม้แต่กำแพงก็ยังเอาสิ่งล้ำค่าเช่นหินแห่งมิติมาสร้าง ช่างกินข้าวอิ่มท้องแล้วไม่มีอะไรทำเสียจริง

ถ้าหากมิใช่เพราะเช่นนี้ละก็ เขาก็คงไม่ต้องมาเป็นแรงงานทำงานหนักเช่นนี้หรอก

สำหรับการกระทำที่ทุบจนหมดสิ้นและกวาดจนเกลี้ยงของมู่เฉียนซี กลุ่มคนเหล่านี้ของหุบเขาหมอเทวดารู้สึกดูถูกและหมดคำพูดเป็นอย่างยิ่ง!

“ตูม!”

เสียงดังสนั่นทำให้ดวงตาสีดำคู่หนึ่งในส่วนลึกที่สุดของหอศิลาลืมตาขึ้นมา

“หึหึหึ! มีมดตัวน้อย ๆ บุกเข้ามาในหอศิลาของข้า และยังทำอึกทึกครึกโครมเช่นนี้อีก ช่างน่าสนใจจริง ๆ เจ้าว่าเช่นไรเล่าที่รัก?”

ไม่มีใครตอบคำถามของเขา เขายิ้มแล้วกล่าว “มีมดตัวเล็ก ๆ บุกเข้ามาก็ดี ข้านั้นไม่ได้กินให้อิ่มท้องมานานมากแล้ว”

ปึก ปึก ปึก!

ทันใดนั้นในห้วงมิติก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาด มีคนจำนวนไม่น้อยในหอศิลาได้สิ้นชีพไป

“อ๊าก!”

“อ๊าก!”

“ช่วยด้วย!”

ภายในหอศิลาได้เกิดเสียงร้องโหยหวนลอยมาเป็นช่วง ๆ

ในความมืดมิด เสียงหนึ่งที่เต็มไปด้วยความดื่มด่ำได้กล่าวออกมา “ช่างเป็นดนตรีที่ไพเราะนัก! เจ้าเองก็ชอบมัน ไม่ใช่เหรอที่รัก?”

หมอกควันแห่งความตายกระจายตัวไปทั่วหอศิลาแห่งนี้อย่างช้า ๆ

หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “นายท่านอย่าเพิ่งเก็บหินแห่งมิติเลย ข้ารู้สึกว่าในหอศิลาแห่งนี้มีบางสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก พวกเราจะต้องรีบออกไปจากหอศิลาแห่งนี้ ต้องรีบออกไป!”

“ข้าจะหาทางออกให้นายท่าน ถ้าหากว่าไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ท่านสุ่ยจิงอิ๋งส่งตัวนายท่านออกไป”

“อย่างไรเสียเจ้าก็ให้นางผู้หญิงบ้านี่ใช้ความพยายามของตนเองเถอะ! เมื่อครู่นี้พี่สาวเพิ่งจะพานางออกมาจากหินหลอมเหลวและได้ใช้พลังไปจนหมดสิ้น คิดที่จะออกไปจากที่นี่ ยาก!” อาถิงกล่าวเสียงขรึม

ตอนนี้เขาเองก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก!

หวังเพียงว่าอย่าให้เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น!

หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “เช่นนั้น ก็ต้องพึ่งพาข้าในการส่งตัวนายท่านออกไปเท่านั้น เป็นเพราะข้านั้นโลภมากถึงได้ก่อให้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้น ข้าจะไม่ให้เกิดเรื่องกับนายท่านเป็นอันขาด”

มู่เฉียนซีจับจวินโม่ซีเอาไว้แล้วกล่าว “จวินโม่ซี พวกเราไปกัน! เร็วเข้า!”

“ได้!”

“พวกเขารีบหนีไปอย่างรวดเร็วเช่นนั้นทำไม? ที่ห้องด้านข้างนั้นยังมีหินแห่งมิติอยู่อีก ไม่เอามันแล้วหรือยังไง? นี่มันจะสิ้นเปลืองไปหน่อยหรือไร”

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “ตามพวกเขาสองคนไป อย่าให้คลาดกันไปได้เด็ดขาด!”

ตลอดทางมานี้ หัวหน้าหุบเขาซือคงรู้สึกว่าสาวน้อยกับไอ้หนุ่มนั่นแปลก ๆ

พวกเขาสองคนแปลกยิ่งนัก!

แต่ทว่าสัญชาติญาณของเขาบอกตัวเขาว่า เมื่ออยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ มีเพียงแต่ตามสองคนนั้นไปแล้วถึงจะปลอดภัย!

ตูม!

ตามที่คาดไว้ หลังจากที่พวกเขาได้ออกจากที่แห่งนั้นไป มิติที่ด้านหลังพวกเขาก็ได้เริ่มพังทลายลง!

สถานที่อื่น ๆ ก็เช่นกัน!

มิติจำนวนนับไม่ถ้วนได้พังทลายลง มีคนสิ้นชีวิตไปในที่แห่งนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ได้ถูกไล่มาจนถึงห้องโถงที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง

คนของกลุ่มพันธมิตรร้อยสำนักใหญ่ที่เข้าไปในหอศิลา นอกจากผู้ที่ได้ตายไปแล้ว คนที่เหลืออยู่ก็ล้วนแต่มารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้

จำนวนคนกลับสูญสิ้นไปมากกว่าครึ่ง

เจ้าสำนักเฟินกล่าวขึ้น “ทุกท่านได้อะไรมาบ้างหรือไม่?”

มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องหินแห่งมิติแล้ว ถ้าหากว่าพวกเราตายกันอยู่ที่นี่ ถึงต่อให้ได้หินแห่งมิติมาจำนวนมากมายกว่านี้ ก็ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมค่ายกลมิติส่งตัวระยะไกลได้!”

“สาวน้อยผู้นี้ช่างไร้มารยาทเกินไปแล้วกระมัง! ถือว่าตนเองเป็นศิษย์คนสนิทของผู้เฒ่าหมอเทวดา เลยกลับกล้าพูดจาเช่นนี้กับท่านหัวหน้าสำนัก”

“ที่แห่งนี้ไร้ซึ่งอันตราย พักผ่อนเสียก่อน แค่ถามว่าได้อะไรมาบ้างหรือไม่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ผิดอะไรกระมัง!”

“…….”

คำพูดของมู่เฉียนซีก่อให้เกิดความไม่พอใจจากแต่ละกลุ่มกองกำลัง

เจ้าสำนักเฟินกล่าว “สาวน้อยพูดมิผิด สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คืออกไปจากที่นี่! แต่ว่า…..”

แล้วจะออกไปข้างนอกได้อย่างไรกัน? ใบหน้าของทุกคนล้วนมีสีหน้าที่สับสน!

“หึหึหึ! การละเล่นได้เริ่มขึ้นแล้ว ส่งของเล่นเล็กๆน้อยไปเล่นกับพวกมันก่อน” เสียงอันชั่วร้ายในความมืดเสียงหนึ่งได้กล่าวขึ้น

“ที่รัก เจ้าว่าพวกนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ หรือของเล่นน้อยๆจะเป็นฝ่ายชนะ?”

ไม่มีใครสนใจเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ และดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหมอนี่เพียงคนเดียวที่กำลังพูดกล่าวอยู่กับตัวเอง

ครืน!

ครั้งนี้พวกเขามิได้โดนการฆ่าฟันจากมิติ แต่ทว่าที่รอบด้านนั้นล้วนแต่เป็นพื้นที่ปิด มันเหมือนกับว่าพวกเขาได้เข้ามาในกรงที่ปิดผนึกเอาไว้

ตูม! เสียงดังสนั่นเสียงหนึ่งดังขึ้น ที่รอบด้านได้ปรากฏสิ่งมหึมาตัวสีดำมืดจำนวนมากขึ้นมา

เจ้ายักษ์นั่นช่างตัวโตเสียจริง มันดูเหมือนกับกิ้งก่ายักษ์ก็มิปาน พวกมันสะบัดหางไปมา และพุ่งไปทางหมู่ผู้คน!

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์!” พวกเขาอุทานออกมา

“เตรียมรับมือเร็วเข้า!”

“……”

เพียงแต่ว่าสัตว์ร่างเช่นกิ้งก่าเจ็ดตัวนี้กลับทำให้ผู้คนตกอยู่ในความหวั่นกลัว เพราะว่าพวกมันนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ

อาจกล่าวได้ว่าแม้มีผู้แข็งแกร่งดั่งเจ้าสำนักเฟินที่เป็นระดับมหาจักรพรรดิขั้นที่หกสักสิบคนก็ยังไม่สามารถที่จะเอาชนะกิ้งก่ายักษ์ได้สักตัวหนึ่ง

มันคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์หรือ?

มู่เฉียนซีมองเข้าไปในนัยน์ตาของกิ้งก่าเหล่านั้น มันไม่มีประกายเงาเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับว่าได้ตายไปแล้วเป็นพันเป็นหมื่นปีก็มิปาน แล้วจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไปได้อย่างไร?”