บทที่ 1730 เสถียรภาพ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1730 เสถียรภาพ

 

วูหยง เหยากวง และคนอื่นๆรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะกลุ่มดาวเพื่อจัดการเทพปีศาจไร้ขอบเขตตํานานกล่าวว่าเทพปีศาจไร้ขอบเขตต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทําลายมัน

 

แล้วพวกเขาจะทําเช่นเดียวกับเทพปีศาจได้อย่างไร?

 

สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดก็คือพวกเขาต้องแข่งขันกับเวลา เมื่อวิญญาณชะตากรรมฟื้นฟูขึ้นอย่างสมบูรณ์ โอกาสชนะของพวกเขาจะกลายเป็นศูนย์

 

“พวกเราควรทําอย่างไร?” จักรพรรดิสวรรค์ไปซูขมวดคิ้ว

 

“นี่เป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะกลุ่มดาว ไม่แปลกใจเลย ไม่แปลกใจเลย” ผู้อมตะคลื่นทมิฬถอนหายใจ

 

จื่อชิวหยูรู้สึกถึงปัญหา “แม้เราจะรวบรวมผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลทั้งโลกเพื่ออนุมานค่ายกลนี้ แต่ข้าเกรงว่ามันยังมีโอกาสน้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้นเวลาของเราก็มีน้อยลงทุกขณะ…”

 

วูหยงหัวเราะเสียงดัง

 

“ท่านผู้นํา ท่านหัวเราะเพราะเหตุใด? ท่านมีวิธีทําลายค่ายกลนี้งั้นหรือ?” จื่อชิวหยูถามด้วยความงุนงง

 

วูหยงสายศีรษะ “แม้ข้าจะไม่มีวิธี แต่ข้าเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของวังสวรรค์แล้ว อย่ากังวลในความคิดของข้า เรากําลังประเมินมันสูงเกินไป”

 

“ลองคิดให้ดี”

 

“ค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะกลุ่มดาวถูกใช้โดยผู้อมตะจํานวนมากของวังสวรรค์เพื่อต่อต้านเทพปีศาจไร้ขอบเขต แต่มันก็ไม่ประสบความสําเร็จ เทพปีศาจไร้ขอบเขตสามารถทะลวงผ่าน หลังจากมันถูกทําลาย ค่ายกลนี้ย่อมได้รับความเสียหายครั้งใหญ่”

 

“แม้วังสวรรค์จะมีรากฐานที่ยิ่งใหญ่และสามารถกู้คืนวิญญาณอมตะทั้งหมด ในกรณีเลวร้ายที่สุดเรากําลังเผชิญหน้ากับค่ายกลที่สมบูรณ์ แต่ผู้ควบคุมค่ายกลนี้ไม่ใช่สมาชิกของวังสวรรค์ทั้งหมด อาจมีสมาชิกของวังสวรรค์เพียงไม่กี่คนอยู่ที่นี่ หลี่ฮวงและชิงเย่อยู่ที่เมืองจักรพรรดิราชันมังกร เทพธิดาจื่อเว่ย หยวนเชียงตู๋ เช่อเว่ย และกงเยี่ยนอยู่ในวังสวรรค์ ภาคกลางถูกโจมตีโดยผู้อมตะจากสี่ภูมิภาค พวกเขาถูกบังคับให้จัดตั้งค่ายกลขึ้นที่นี่ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีกําลังรบไม่เพียงพอ สมาชิกของพวกเขากระจัดกระจายเกินไป พวกเขาทําได้เพียงตั้งรับเท่านั้น”

 

ดวงตาของวูหยงส่องประกายด้วยความมั่นใจ

 

เขากล่าวต่อ “สิ่งสําคัญที่สุดก็คือพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาอ่อนแอเพียงใด ก่อนหน้านี้เฉินอี้และเพ่ยกังซุ้ยออกมาต่อสู้กับพวกเรา เฉินอี้เกือบตาย หากค่ายกลนี้ไม่สามารถทะลวงผ่านได้จริง เหตุใดเฉินอี้และเพ่ยกังซุ้ยต้องออกมาเสี่ยงชีวิตกับพวกเรา? พวกเขาเพียงต้องการถ่วงเวลาอยู่ภายในค่ายกลนี้เท่านั้น”

 

“ก่อนหน้านี้การโจมตีของเราทําให้พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคาม ตอนนี้เราได้รับความช่วยเหลือจากสหายภาคเหนือ นี่เป็นโอกาสที่ดี แม้ค่ายกลนี้จะทรงพลัง แต่มันขึ้นอยู่กับว่าผู้ใดเป็นผู้ควบคุม และผู้ใดเป็นผู้โจมตี!”

 

“ถูกต้อง มีเหตุผล!”

 

“ฮ่าฮ่า แท้จริงแล้วสิ่งที่ต้องทํามีเพียงการโจมตีที่รวดเร็ว การป้องกันของวังสวรรค์ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด”

 

“ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้ากลัวชื่อเสียงของเทพอมตะกลุ่มดาว”

 

คํากล่าวของวูหยงทําให้ขวัญกําลังใจของทุกคนพุ่งสูงขึ้น

 

วูหยงยิ้มแต่ลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นชนชั้นสูง พวกเขาไม่ได้โง่แต่พวกเขาถูกข่มขู่โดยค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบและรู้สึกถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่

 

‘ผู้อมตะของทะเลตะวันออกและทะเลทรายตะวันตกล่าถอยไปแล้ว ทั้งสองภูมิภาคไม่สามารถรวมใจเป็นหนึ่ง พวกเขาไม่เหมือนภาคใต้และภาคเหนือที่สามารถสร้างความร่วมมือที่จริงใจ’

 

‘ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว’

 

‘เห้อ….เราต้องการใช้วิธีบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนเพื่อจัดการค่ายกลนี้ แต่ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะมีวิธีควบคุมกายาแห่งความฝัน มันเป็นเพราะพวกเขาสามารถจับเทพปีศาจจิตวิญญาณนั้นหรือ?’

 

‘ข้าสงสัยว่าผู้ใดที่สามารถหยุดฟางหยวน?’

 

วูหยงยังคาดเดาและประเมินสถานการณ์ต่อไป

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าสิบเก้ารูปแบบ ใบหน้าของฟงจิวเก้อยังซีดขาวแต่เขากลับเผยรอยยิ้มอบอุ่น

 

“ฮวงเอ๋อ ทําได้ดีมาก” เขามองฟงจินฮวงด้วยความภาคภูมิใจ

 

คนที่หยุดฟางหยวนไม่ใช่ผู้ใดนอกจากบุตรสาวของฟงจิวเก้อ ฟงจินฮวง!

 

ฟงจินฮวงกล่าว “ท่านพ่อ ข้าไม่กล้ารับความดีความชอบ ข้าสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะเพราะความช่วยเหลือจากค่ายกลนี้”

 

“ถึงกระนั้นเจ้าก็สามารถต่อต้านฟางหยวน นี่เป็นความสําเร็จที่น่าเหลือเชื่อ เจ้าสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับวังสวรรค์แล้ว” เพ่ยกังซุ้ยยิ้ม

 

เฉินอี้พยักหน้า เขามองฟงจิวเก้อและฟงจินฮวง “สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ”

….

 

วังสวรรค์

 

การโจมตีที่รุนแรงสิ้นสุดลงแล้ว

 

ราชันมังกรได้รับบาดเจ็บแต่เขายังยืนมองความสิ้นหวังทั้งเจ็ดด้วยสายตาเย็นชา

 

‘ข้าไม่สามารถทําลายมันเพราะอาการบาดเจ็บของข้า…’

 

ราชันมังกรที่ได้รับการสนับสนุนจากท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์ทรงพลังมาก แต่เขาถูกยับยั้งโดยอาการบาดเจ็บของตนเอง

 

มันเป็นอาการบาดเจ็บเก่าๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

 

‘หากปราศจากอาการบาดเจ็บเหล่านี้ ข้าจะสามารถทําลายความสิ้นหวังทั้งเจ็ดได้อย่างไม่ยากลําบากมากนัก’

 

ราชันมังกรกันเสียงเย็น

 

ก่อนหน้านี้เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตน แต่การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลัง รายละเอียดเล็กๆน้อยๆจะส่งผลต่อการต่อสู้

 

ปิงช่ายฉวนและกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นราชันมังกรถูกหยุดยั้ง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยและฝ่ายของวังสวรรค์แสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน พวกเขาตระหนักว่าเวลาของราชันมังกรใกล้จะหมดลงแล้ว นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา เขาเหมือนดอกไม้ไฟที่สว่างไสวก่อนจะดับมอดลงอย่างถาวร หลังการต่อสู้ครั้งนี้ วังสวรรค์จะสูญเสียผู้อมตะในตํานานที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดาจื่อได้รับการติดต่อจากราชันมังกร

 

“จื่อเว่ย สถานการณ์เป็นอย่างไร?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเร่งตอบกลับ

 

“เมืองจักรพรรดิถูกทําลาย มนุษย์จํานวนมากเสียชีวิต หลี่ฮวงและชิงเย่กําลังเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติที่ถ้ํามังกรเร้น ผู้อมตะของทะเลตะวันออกกําลังต่อสู้อย่างดุเดือด…”

 

ราชันมังกรคิดก่อนกล่าว “ดีมาก เจ้าจัดการได้ดีแล้ว เมืองจักรพรรดิถูกทําลายโดยภัยธรรมชาติ มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตอบ “ทั้งหมดต้องขอบคุณท่านราชันมังกร วังมังกรมีวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งความฝัน ตราประทับความฝัน มันสามารถควบคุมผู้อมตะระดับแปด ด้วยการควบคุมกลุ่มของจางหยิน จุดอ่อนด้านกําลังรบของเราจึงหมดไป ท่านราชันมังกรได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อให้ได้รับวังมังกร หากไม่ใช่เพราะท่าน เราจะประสบปัญหาใหญ่”

 

ราชันมังกรกล่าว “นั่นเป็นเรื่องจริง ข้าไม่แปลกใจกับการคงอยู่ของวิญญาณอมตะตราประทับความฝัน”

 

เขานึกย้อนกลับไปถึงการต่อสู้ที่ทะเลตะวันออก

 

กลุ่มของจางหยินปรากฏตัวพร้อมกัน นั่นทําให้ราชันมังกรรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะระดับแปด ในช่วงเวลาปกติพวกเขาจะไม่ร่วมมือกัน

 

ราชันมังกรสงสัยมากขึ้นระหว่างการต่อสู้

 

กลุ่มของจางหยินวางใจกันมาก สิ่งนี้ทําให้ราชันมังกรมั่นใจในการคาดเดาของเขา หลังจากวังมังกรบินหนีไป คนทั้งสี่ยังย้อนกลับมาและไล่ตามวังมังกร ขณะเดียวกันพวกเขายังโจมตีราชันมังกรต่อไป

 

หากพวกเขามีความตั้งใจของตนเองและต้องการยึดครองวังมังกร พวกเขาจะไม่ทําเช่นนี้

 

ตามตรรกะ พวกเขาจะไล่ล่าวังมังกรและพยายามหลีกเลี่ยงราชันมังกร การต่อสู้กับราชันมังกรของพวกเขาดูเหมือนเป็นการปกป้องวังมังกรมากกว่าต้องการยึดครองวังมังกร

 

ราชันมังกรรู้สึกว่าผู้อมตะทั้งสี่มีความเกี่ยวข้องกับวังมังกร หลังจากได้รับวังมังกร การคาดเดาของเขาก็ได้รับการยืนยัน

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางแผนให้กลุ่มของจางหยินแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้อมตะของทะเลตะวันออก

 

ราชันมังกรออกคําสั่งเทพธิดาจื่อเว่ย “ให้ความสําคัญกับถ้ํามังกรเร้นมากขึ้น เราไม่สามารถประมาท กําแพงภูมิภาคกําลังจะหายไป เมื่อเวลานั้นมาถึงพลังการต่อสู้ของจางเฉิงจะฟูงสูงขึ้น มันอาจเทียบเท่ากับข้า”

 

ราชันมังกรเข้าใจตี้จางเฉิงมากกว่าเทพธิดาจื่อเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเข้าใจเจตนาของราชันมังกรทันที

 

สถานการณ์เริ่มเกิดเสถียรภาพ ไม่ว่าจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ วังสวรรค์ หรือถ้ํามังกรเร้นทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของวังสวรรค์

 

หลี่ฮวง ชิงเย่ และคฤหาสน์วิญญาณอมตะกําลังเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

มีเพียงถ้ํามังกรเร้นที่อาจเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง

 

วังมังกรคือกับดัก ผู้ที่สามารถเป็นเจ้าของวังมังกรมีเพียงมนุษย์มังกร เว้นเพียงพวกเขาจะแยกส่วนวังมังกร แต่วิธีการส่วนใหญ่จะไม่ส่งผลกระทบต่อวังมังกร

 

สิ่งที่ราชันมังกรกังวลคือความไม่เสถียรของวังมังกรอาจทําให้จางเฉิงสามารถหลบหนี

ตี้จางเฉิงเกลียดชังวังสวรรค์และราชันมังกรเป็นอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้น มันจะมาแก้แค้นอย่างแน่นอน

 

ราชันมังกรกําลังจะตายในไม่ช้า แต่จางเฉิงไม่มีวันตาย

 

หากฟางหยวนและคนอื่นๆฉวยโอกาสนี้ ปัญหาใหญ่จะตามมาอย่างแน่นอน