เหนือฟ้ามีฟ้า

“โฮ่ ถ้าเช่นนั้นข้าเองก็อยากจะรู้เหตุผลของเจ้าเช่นกัน ทำไมข้าต้องพาเจ้าออกไปด้วย” สาวหิมะดูไม่โกรธ ในความคิดของเธอ การที่โจวเหวินพูดแบบนั้น เหมือนกับมดที่ไปอวดขนาดกับช้าง ในมุมของนาง นางคิดว่านี้เป็นเรื่องขำขันเต็มรูปแบบมาก

โจวเหวินพูด “ง่ายมากๆเลย เพราะว่าเธอเป็นคนบอกเองนี้ว่าจะออกไปจากนี้ภายใน3ชั่วโมงเพราะงั้นหมายความว่าขอแค่ฉันเข้ามาในปราสาทน้ำแข็งนี้ตามเวลา3ชั่วโมงเป๊ะ ไม่ว่าเธอจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ยังไงเธอก็ต้องไปจากที่นี้และพาฉันออกไปด้วย”

“อ้อ เพราะงั้นเจ้าเลยคิดว่าจะโยนตัวเองลงกับดักว่างั้นเถอะ”สาวหิมะเยาะเย้ย

เพราะว่าโจวเหวินนั้นสามารถวาปได้ การจะไล่ตามจับโจวเหวินในที่กว้างนั้นมันไม่ค่อยสะดวกเท่าไร แต่พอเป็นในปราสาทน้ำแข็งถึงปราสาทจะใหญ่ขนาดไหน แต่ตัวปราสาทน้ำแข็งเองก็เหมือนมีบัฟให้เธอแกร่งขึ้นอยู่แล้ว

ด้วยพลังของเธอเอง เธอสามารถละลายน้ำแข็งทำน้ำท่วมปราสาทยังได้เลย ตราบใดที่โจวเหวินยังอยู่ ยังไงเขาก็หนีไปไหนไม่ได้แน่ๆ ก่อนหน้านี้เพราะว่าเธอยากจะให้โจวเหวินล่อบาซิลิสก์เอาไว้เพื่อที่จะให้เธอสามารถจัดกับกับบาซิลิสก์ได้ง่ายๆ เธอเลยปล่อยให้โจวเหวินหลุดออกจากปราสาทได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้เธอไม่มีห่วงอะไรแล้ว ทันทีที่โจวเหวินเข้ามาในปราสาท เขาก็จะกลายเป็นเหมือนนกในกรงทันที

“ไม่ใช่กับดักซักหน่อยแต่เป็นกรงนกตั่งหาก”โจวเหวินมองปราสาทแล้วพูด ถ้าเกิดเขาอยากจะออกจากที่นี่เขาก็จำเป็นต้องเข้ามาที่นี้ด้วยตัวเอง ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

สาวหิมะยิ้มออกมา ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ในชีวิตของเธอ เธอแทบจะนับครั้งที่ยิ้มได้เลย แต่ครั้งนี้เธอยิ้มออกมาจริงๆ และก็เป็นยิ้มอย่างความสุขจริงจัง เหมือนกับเธอได้ยินเรื่องตลกที่สุดในชีวิตมา

“ถ้างั้นก็เข้ามาเลย ข้าจะพาเจ้าไปชมเองว่าปราสาทเหมันต์ของข้านั้นมันเป็นเช่นไรกัน”สาวหิมะพูด

โจวเหวินไม่ลังเลอีกต่อไป เขาประมาณกาลเวลาไว้เป๊ะๆแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในปราสาท

โจวเหวินเข้าปราสาทไป สาวหิมะเองยังไม่ได้ทำอะไรทันที นางแค่มองโจวเหวินอย่างสนใจ  แล้วพูด “ข้าเองเคยเห็นมนุษย์มาเยอะแยะมากมาย แต่มีเจ้าเป็นคนแรกเนี่ยแหล่ะที่กล้าหาญโอหังเช่นนี้ เจ้าเป็นคนแรกเลย เจ้าต้องการอะไรกันละ เจ้าบุกมาเยือนยังปราสาทแห่งข้าแล้ว เจ้าต้องการสิ่งใดอีกเล่า”

“ถ้าเธอไม่ทำอะไรฉัน ฉันก็ยินดีเป็นแขกที่ดีนะ”โจวเหวินพูด

“นี้เจ้ารู้รึเปล่าเนี่ยว่าเจ้ากำลังพูดกับใครอยู่”สาวหิมะคนนั้นมองโจวเหวินด้วยสายตาเย็นเฉียบจนสัมผัสได้

“ฉันเองก็กำลังจะถามเหมือนกันเลย”โจวเหวินไม่รู้เรื่องจริงๆว่าสาวหิมะคนนี้เป็นใคร

“จิ้งจอกเก้าหางกล้าหาญส่งเจ้ามาเพื่อขโมยระฆังนภา แต่นางกลับไม่บอกเจ้าเนี่ยนะ ว่าผู้ที่ครอบครองระฆังนภาอยู่นั้นเป็น1ใน4จอมราชันต์ปีศาจหน่ะ”

“อะไรคือ4จอมราชาปีศาจหน่ะ”โจวเหวินถาม

“เจ้านี้ช่างเป็นมนุษย์ที่โง่เขล่าเสียจริง ไม่รู้แม้แต่เรื่อง4จอมราชาปีศาจ ถ้างั้นเจ้าคงเป็นไอ้โง่ที่โดนสาวงามหลอกใช้มาให้ขโมยระฆังนภาซินะ แต่ไม่เป็นไรหรอก สำหรับมนุษย์ที่มีความโอหังไร้ความหวาดกลัวอย่างเจ้า ถ้าเจ้ารู้ว่า4ราชันต์ปีศาจเป็นยังไงเจ้าคงไม่กล้าคิดจะมาเหยียบที่แห่งนี้ด้วยซ้ำ” เธอคนนั้นพูดต่อ “บนโลกของเจ้านั้น สิ่งที่เรียกกันว่าระดับเร้นลับนั้นเป็นได้แค่มดปลวกของพวกเราเผ่าพันธ์ต่างมิติ ระดับความกลัวนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความแข็งแกร่ง ระดับมหันตภัยนั้นถึงจะสามารถครองพื้นที่ในโลกต่างมิติได้ ส่วน4ราชาปีศาจที่ว่านั้นคือตระกูลชั้นสูงทั้ง4ของเผ่าพันธุ์ปีศาจ ผู้สืบทอดของ4ตระกูลนั้นคือระดับมหันตภัยและข้าราชินีเหมันต์คือราชินีแห่ง1ใน4เผ่าพันธุ์ชั้นสูงนั้น”

“อ้อ ถึงว่าทำไมถึงเก่งขนาดนี้ แล้วเธอได้เป็นระดับมหันตภัยแล้วว่างั้นเถอะ”โจวเหวินถามแล้วมองราชินีเหมันต์

ราชินีเหมันต์กลืนน้ำลายทันที การจะกลายเป็นระดับมหันตภัยนั้นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย ถึงเธอจะเป็นราชินีของเผ่าก็จริง แต่เธอนั้นมีแค่พรสวรรค์กับคววามเป็นไปได้ที่จะสามารถกลายเป็นระดับมหันตภัยเท่านั้น การจะกลายเป็นระดับมหันตภัยเต็มตัวได้นั้น ใช้แค่พรสวรรค์อย่างเดียวไม่พอ มันต้องใช้พรแสวงและอื่นๆให้เต็มที่ด้วย

“ถึงจะไม่ใช่ระดับนั้นแต่ก็ฆ่าคนได้ง่ายๆหน่า”ราชินีเหมันต์พูด

ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะไม่ใช่คนคุยเก่ง  แต่ถ้าเขาปล่อยราชินีเหมันต์ไม่พูดอะไรแบบนั้นต่อไป นางอาจจะเปลี่ยนใจอยากฆ่าเขาแทนก็ได้ เขาเลยคุยกับนางไปเรื่อยๆ

“แล้วรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร”โจวเหวินถามอย่างจริงจัง

“เจ้าหรอ เจ้าเป็นแค่มนุษย์ เหตุใดข้าจึงต้องรู้จักเจ้าด้วย”ราชินีเหมันต์พูดแล้วเม้มปาก

“แหงละ เธอคงจะไม่อยากรู้จักชื่อฉันแน่ๆ แต่อาจารย์ของฉันบางทีเธออาจจะรู้จักก็ได้”โจวเหวินพูด

“อาจารย์ของเจ้าใครกันละ มนุษย์งั้นเหรอ”ราชินีเหมันต์พูด แบบไม่สนใจที่โจวเหวินเล่าแม้แต่น้อย

“ใช่แล้วเขาเคยเป็นมนุษย์ อาจารย์ของฉันคือหวังหมิงหยวน เธอเองก็คงเคยได้ยินชื่อนี้ซินะ”โจวเหวินเอาเข้าจริงตั้งใจจะหาข่าวเกี่ยวกับอาจารย์หวังหมิงหยวน

ถึงอาจารย์หวังหมิงหยวนจะแกร่งมากในหมู่มนุษย์ แต่ยังไงเขาเองก็เป็นระดับเร้นลับมาได้ไม่นาน  อีกอย่างระดับเร้นลับนั้นเอาจริงในโลกต่างมิติ มันกระจอกมากๆ

โจวเหวินพูดกับราชินีเหมันต์ด้วยน้ำเสียงเชิงโม้ แต่จริงๆ เขาพยายามจะเค้นข่าวออกมาให้มากที่สุด แต่ราชินีเหมันต์กลับแสดงท่าทีที่เหนือจากที่โจวเหวินคิด ราชินีเหมันต์มองโจวเหวินด้วยความตกใจ แล้วพูด “เจ้าคือลูกศิษย์ของหวังหมิงหยวนงั้นรึ”

โจวเหวินผงะเล็กน้อยพอเห็นท่าทีของราชินีเหมันต์แล้ว ตอนที่เธอพูดถึงหวังหมิงหยวน สีหน้าของเธอไม่ได้เหมือนกับการดูถูกมนุษย์แบบที่เคยทำ

“ใช่แล้วฉันเนี่ยละ คือลูกศิษย์เอก คนโปรดและเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากสุดในบรรดาลูกศิษย์แล้ว เทียบกับเธอพอได้รึยังละ”โจวเหวินพยายามโชว์ความมั่นใจ

ราชินีเหมันต์พูด “หวังหมิงหยวนนั้นสามารถเอาชนะเทพมังกรได้และขึ้นเป็นราชาเทพเจ้ามังกรคนใหม่ เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมก็จริง แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นอาจารย์ที่แกร่งแค่ไหน เขาก็มาถึงนี้เพื่อมาช่วยเจ้าไม่ได้หรอกนะชีวิตของเจ้ายังคงอยู่ในมือของข้า ส่งลูกแก้วมาซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะส่งเจ้าไปหาราชาเทพมังกรด้วย

โจวเหวินตกใจทันที ตอนแรกเขาคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับหวังหมิงหยวนแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นหวังหมิงหยวนนั้นกลายเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก

แม้แต่ราชินีเหมันต์ที่ดูถูกมนุษย์ยังแอบอิจฉานิดหน่อยเลยตอนที่โจวเหวินพูดถึงหวังหมิงหยวนแต่ก็เก็บอาการเอาไว้

ที่โจวเหวินไม่รู้คือ ในตำแหน่งของราชาเผ่าพันธ์ทั้ง8นั้น ทั้งหมดเป็นระดับมหันตภัยทั้งหมด แต่มันก็จะแบ่งระดับอ่อนระดับเก่งไปอีก  ในบรรดาตระกูลทั้งหมดนั้น มี2ตระกูลที่เรียกได้ว่าน่าเกรงขามที่สุด แม้แต่ในพื้นที่ต่างมิติก็ยังโด่งดัง 1ในนั้นคือตระกูลมังกร

ต้นตระกูลของราชามังกรนั้นตอนแรกก็เป็นแค่ระดับเดียวกับหัวหน้าทั้งหลายแหละ แต่พอหวังหมิงหยวนเอาชนะราชาเทพมังกรรุ่นก่อนได้ เรื่องนี้ทำให้หลายๆเผ่าพันธุ์เริ่มสั่นคลอน

ส่วนตระกูลที่แข็งแกร่งอย่างราชินีเหมันต์ ที่มองมนุษย์เป็นแค่ขยะกลับไม่ได้มองหวังหมิงหยวนแบบนั้นแม้แต่น้อย เธอมองหวังหมิงหยวนไม่ใช่คนไปแล้วด้วยซ้ำ

โจวเหวินไม่ได้รู้เรื่องนี้แต่ฟังจากที่ราชินีเหมันต์พูด แสดงว่าหวังหมิงหยวนเองยังคงอยู่ในโลกต่างมิติ ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับเขาเพราะว่าโจวเหวินเอาผลไม้เทพไป แค่นี้มันก็พอใจแล้ว

โจวเหวินมองราชินีเหมันต์แล้วพูด “เธอบอกเองไม่ใช่แหรอที่บอกเองว่าเผ่าพันธุ์ต่างมิตินั้นไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงหรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ถ้างั้นเราจะรู้ได้ไงว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า”

“เจ้าหมายความเช่นใดกัน”ราชินีเหมันต์พูดเหมือนไม่เข้าใจ”เธอไม่เข้าใจสำนวนของมนุษย์

“มันหมายความว่าอาจารย์เจ๋งยังไง ลูกศิษย์ก็จะดีกว่านั้นไปอีกขั้นนึงไง”โจวเหวินอธิบาย