ตอนที่ 832 ทวนพิฆาตมรรค
ฆ่าหมา
พูดสองคำนี้ออกมาอย่างราบเรียบ แต่กลับเหมือนคมดาบแหลมเล่มหนึ่งที่กระทุ้งเข้าไปในหัวใจของผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬเหล่านั้น
สีหน้าพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นเหยเกหาใดเทียบอย่างรวดเร็ว รู้สึกได้ถึงการลบหลู่อย่างไร้ที่สิ้นสุด
ในใต้หล้าตอนนี้ ความยิ่งใหญ่ของพวกเขาเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬกระจายไปทั้งดินแดนรกร้างโบราณ แม้แต่สำนักเก่าแก่บางสำนักยังไม่กล้าล่วงเกินง่ายๆ
แต่ตอนนี้กลับมีหญิงสาวลี้ลับคนหนึ่งมาขวางหน้าปากทางภูเขา ปากเอ่ยวาจาเพ้อเจ้อ นี่เป็นการดูหมิ่นและล้ำเส้นเกียรติยศของเผ่าพวกเขาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย
บรรยากาศกดดันหาใดเทียบ ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬทุกคนล้วนรู้สึกเดือดดาล
โดยเฉพาะสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันที่เอ่ยถามผู้นั้น เขาคิดว่าตัวเองเกรงใจมากพอแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าคำตอบที่รอนั้นกลับเป็นสองคำนี้!
นี่ทำให้ใบหน้าชราของเขาอึมครึม อัดอั้นจนไม่น่าดู อดไม่ได้จนพูดอย่างเหี้ยมเกรียมว่า “ผู้อาวุโส หากเผ่าข้ามีอะไรล่วงเกินก็ขอให้พูดมาตรงๆ ก็ได้ เหตุใดต้องดูหมิ่นเผ่าข้าเช่นนี้เล่า แม้พลังของท่านจะเหนือธรรมดา แต่ในเผ่าข้าก็มีอริยเทพบัญชาการเช่นเดียวกัน หากต่อสู้เข้าจริงคงไม่รู้ว่าใครจะแพ้หรือชนะ!”
วาจาเช่นนี้พูดออกมาอย่างแข็งกระด้างถึงที่สุด เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวเองว่า แม้เป็นอริยะที่แท้จริงก็ไม่ต้องการผิดใจกับเผ่าของพวกเขา
เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬคนอื่นๆ ก็จิตใจฮึกเหิม แน่นอน เผ่าของพวกเขานี้มีผู้อาวุโสระดับอริยเทพดูแลอยู่ บนโลกยุคปัจจุบันยังไม่เคยหวั่นกลัวผู้ใดมาก่อน!
“เฮอะ ใจหมานี่กล้าคับฟ้าดังคาดจริงๆ!”
วาจาหญิงสาวเจือไปด้วยความดูถูก เรียบเฉยถึงที่สุด
ประโยคว่าใจหมานี่กล้าคับฟ้าทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันผู้นั้นสีหน้ายิ่งเหยเกแล้ว เขากำลังจะโต้กลับ แต่ทันใดนั้นก็แข็งทื่อไปทั้งตัว
อันตรายยากบรรยายท่วมท้นร่างกายราวกระแสน้ำไหลหลาก ทำให้เขาสะท้านไปทั้งตัว อกสั่นขวัญแขวน ลอบร้องว่าแย่แล้วในใจ
ขณะเดียวกัน ข้างหูเขาก็มีเสียงเยียบเย็นราวน้ำแข็งดังขึ้น…
“ฆ่าหมา เริ่มจากเจ้าก่อนแล้วกัน”
ภายใต้สายตาจับจ้องนับไม่ถ้วน ก็เห็นว่าหญิงสาวผู้นั้นยื่นมืองามเรียวยาวขาวสะอาด เปล่งปลั่งแทบจะสมบูรณ์แบบข้างหนึ่งออกมา แล้วคว้ากลางห้วงอากาศง่ายๆ
พรวด!
จู่ๆ ร่างของสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันผู้นั้นก็ระเบิดออกเหมือนแมลงที่ถูกบี้แหลก แปรสภาพเป็นหมอกโลหิตเต็มฟ้า ย้อมห้วงอากาศให้เป็นสีแดง!
นี่เป็นถึงราชันผู้หนึ่ง โอหังเหนือทั่วสารทิศ อานุภาพคับฟ้า แต่ตอนนี้กลับไม่ทันได้โต้ตอบก็ถูกสังหารคาที่!
ชั่วขณะหนึ่งผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬทั้งบนล่างเขาเถื่อนเมฆินทร์พากันงงงวย เดิมทีพวกเขาไม่หวาดกลัว คิดว่าต่อให้อริยะที่แท้จริงมาเยือนก็ไม่กล้าเปิดฉากสังหารใหญ่สุ่มสี่สุ่มห้า
แต่ตอนนี้พวกเขาแทบพังทลาย!
ใครเคยเห็นภาพน่าตื่นตะลึงเช่นนี้บ้าง ราชันระดับสังสารวัฏผู้ผงาดเหนือระดับใหญ่ทั้งห้ากลับถูกกำจัดเหมือนวัชพืช
ไม่ทันได้ตอบโต้
และไม่ทันได้ร้องโหยหวน
ภายใต้สายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้อง ถูกบี้ตายเหมือนแมลงไปทั้งอย่างนั้น!
นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!
คนใหญ่โตเหล่านั้นล้วนสะท้านขวัญขนลุกเกรียว ส่วนฝีมือพวกธรรมดาในเผ่ายิ่งตกใจจนร่างกายอ่อนยวบลงไปกับพื้น อกสั่นขวัญหาย
แต่ไม่ว่าเป็นใคร ในใจต่างก็มีความคิดเดียวกันผุดขึ้นมา…
วันนี้เกรงว่าเผ่าของพวกเขาจะประสบเคราะห์ใหญ่หลวงที่ไม่เคยมีมาก่อน!
ดังคาด หญิงสาวเคลื่อนไหวแล้ว เงาร่างของนางคลุมเครือไม่ชัดเจน ถูกโซ่เทพเป็นระเบียบงดงามและเจิดจรัสพันพัว อานุภาพพุ่งทะลุเก้าชั้นฟ้า ขย่มขวัญทุกหย่อมหญ้า ก้าวเท้าออกไปก้าวเดียววายุเมฆาโหยหวน ห้วงอากาศเกิดเสียงโครมครามน่าครั่นคร้าม
รัศมีเทพไร้ที่สิ้นสุดเปล่งประกายราวละอองแสงเซียนโบยบิน ลอยละล่องเหนือเงาร่างราวนิมิตมายานั้นของหญิงสาว ชั่วพริบตานั้นฟ้าดินบริเวณนี้ก็เกิดปรากฏการณ์อันแล้วอันเล่า
ทั้งเจินหลงร้องคำราม หงส์เซียนกระพือปีก เต่าดำกลืนสมุทร… ทั้งยังมีมารเทพโหยหวน เสียงธรรมครั่นครื้น ราวกับอสนีเทพระลอกแล้วระลอกเล่าแผ่กระจาย
พรูดๆๆ!
เขาเถื่อนเมฆินทร์กำลังถล่ม หมอกโลหิตวงแล้ววงเล่าระเบิดออกบนร่างผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬในภูเขา ราวประทัดที่เรียงกันแน่นขนัด
นองเลือด
งดงาม
น่าพรั่นพรึง!
ก้าวเดียว ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬอย่างน้อยหลักพันในที่นั้นก็ถูกสังหาร!
ภาพนองเลือดเช่นนั้นช่างประหนึ่งนรกปรากฏขึ้นในโลกา ฟ้าดินบริเวณนี้ล้วนมีสีแดงฉานไปหมด
“ไม่…!”
“น่าชังนัก!”
“เจ้ากล้า!”
“อย่านะ…!”
เสียงร้องแหลมน่าหดหู่และหวาดหวั่นดังขึ้น พวยพุ่งไปในฟ้าดิน ทำให้ที่นี่เหมือนโรงฆ่าสัตว์ พาให้ชาหนึบไปทั้งหัว
ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬบางคนจะหลบหนี แต่กลับถูกรัศมีเทพสายแล้วสายเล่ากวาดโดน ร่างกายเผาไหม้จนระเหยไปในอากาศ ขนาดเถ้ากระดูกยังไม่หลงเหลือ
ส่วนผู้แข็งแกร่งบางคนก็คุกเข่ากับพื้นร้องขอชีวิต แต่ต่อให้ทำเช่นนี้ก็ยังไม่อาจหลีกหนีจุดจบที่ถูกฆ่าตายได้ดังเดิม!
นี่น่าครั่นคร้ามเกินไปแล้ว
สถานที่พันลี้ที่มีเขาเถื่อนเมฆินทร์เป็นศูนย์กลางถูกพลังน่ากลัวหาใดเทียบผนึกไว้ ในฟ้าดินบริเวณนี้ สตรีผู้นั้นประหนึ่งนายเหนือหัว เพียงดีดนิ้วก็ทำลายทุกอย่างเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อน!
อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งทั่วไป แม้แต่คนใหญ่คนโตอย่างราชันกึ่งระดับและสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชัน ในตอนนี้ก็ดูเล็กจ้อยร่อยราววัชพืช ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็เปล่าประโยชน์
หญิงสาวผู้นั้นเหนือธรรมดาและศักดิ์สิทธิ์เกินไปแล้ว ทั้งกายอาบชโลมด้วยแสงธรรมเจิดจรัส พร่าเลือนและอรชรดูไม่เหมือนผู้คนในโลก แต่เหมือนเทวดาองค์หนึ่งมองเหยียดหยันลงมายังเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ควบคุมความเป็นความตายของสรรพชีวี!
ตูม!
เขาเถื่อนเมฆินทร์ถล่มลง หมอกโลหิตเบ่งบานดอกแล้วดอกเล่า รุ้งเทพโชติช่วงปกคลุมไปทั้งพื้นที่ ตั้งแต่เริ่มจนจบนางทำเพียงก้าวออกไปก้าวเดียวเท่านั้น
ทว่าก้าวนี้ กลับสะท้านฟ้าสะเทือนดิน!
……
“สวรรค์ ข้าเห็นอะไรเข้า เพียงผู้เดียวเท่านั้น กลับเหยียบย่ำเขาเถื่อนเมฆินทร์จนสลาย บุกสังหารเข้ามายังอาณาเขตของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ!”
“ต่อหน้านาง ระดับราชันถูกปลิดชีพตามใจนึกราววัชพืช นาง… เป็นใครกันแน่ ทั้งมีพลังปราณเพียงใดกัน”
“น่ากลัวไปแล้ว! เข้าออกเขาคุนอู๋เหมือนเข้าเขตแดนไร้ผู้คน ขนาดอริยะชางเจิ้งแห่งเรือนกระบี่เร้นปุจฉายังไม่กล้าฝืนรั้ง และตอนนี้ยังบุกเข้ามาในเขาเถื่อนเมฆินทร์ นี่หมายจะกระทุ้งฟ้าให้แตกรึ!”
ห่างออกไปจากเขาเถื่อนเมฆินทร์ไกลสุดลูกหูลูกตา ผู้แข็งแกร่งระดับราชันกลุ่มหนึ่งที่ตามมาล้วนศีรษะชาหนึบ จิตวิญญาณสั่นระริก รู้สึกได้ถึงความสั่นสะท้านใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แข็งแกร่งไปแล้ว!
แม้เป็นเพียงการมองจากที่ไกลๆ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกแทบหายใจไม่ออก ไม่กล้าคาดคิดเลยจริงๆ ว่าหากเผชิญหน้ากับหญิงสาวผู้นั้นจะน่าหวาดผวาและกดดันเช่นไร
นางเป็นใครกันแน่
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้!
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่สะเทือนฟ้า ทันทีที่แพร่งพรายออกไปยังโลกภายนอกจะก่อให้เกิดแรงสะเทือนครั้งยิ่งใหญ่!
ความน่าเกรงขามและพลังราวอริยเทพเช่นนี้สามารถทำให้ผู้อื่นตกใจจนตายได้ ที่ต้องรู้ก็คือ ในดินแดนรกร้างโบราณในปัจจุบัน บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดที่ล่วงรู้กันนั้นมีเพียงอริยะ
แต่พลังของหญิงสาวผู้นี้แม้ไม่อาจดูออกอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ไม่ต้องสงสัยว่าจะต้องไม่อ่อนแอกว่าบุคคลระดับอริยะแน่!
เวลานี้ทั้งแคว้นคันฉ่องทมิฬตกอยู่ในความสั่นสะเทือน ผู้ฝึกปราณมากมายก็รู้สึกถึงกลิ่นอายไร้เทียมทานที่น่าครั่นคร้ามหวาดผวา
พวกเขากระวนกระวายอยู่ไม่สุข ไม่รู้ชัดว่าเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่
แต่พวกเขากลับคาดการณ์ได้ว่า ภายในแคว้นคันฉ่องทมิฬวันนี้จะต้องมีเรื่องใหญ่น่าสยดสยองสะท้านฟ้าดินเกิดขึ้นแล้ว!
……
เพียงครู่เดียวเท่านั้นการต่อสู้ก็ปิดฉากลง
เขาเถื่อนเมฆินทร์ที่สูงหลายพันจั้ง งดงามอัศจรรย์เหนือธรรมดา แต่ตอนนี้กลับถูกทำลายจนกลายเป็นที่ราบ นองเลือดและยับเยินไปทั่ว
ยังผ่านไปไม่นาน ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งระดับราชันบางคนถึงเพิ่งกล้าเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง
“สวรรค์!”
หลังจากเห็นภาพน่ากลัวตรงหน้าอย่างชัดเจน สัตว์ประหลาดเฒ่าที่เห็นโลกมาจนชินชาเหล่านี้ก็ตกใจจนอ้าปากค้าง
ที่นี่มีเลือดสดๆ คละคลุ้งไปทั่ว เศษซากเต็มไปหมด ศพนอนกระจัดกระจาย นอกจากนี้ทั้งเขาเถื่อนเมฆินทร์ก็ถูกทำลายจนถล่มราบเป็นหน้ากลอง!
“ฟ้าจะเปลี่ยนแล้ว!”
ผู้แข็งแกร่งระดับราชันเหล่านี้สูดหายใจเยียบเย็น เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬกระจายไปทั่วดินแดนรกร้างโบราณ แม้ว่าเขาเถื่อนเมฆินทร์นี้จะเป็นเพียงหนึ่งในแหล่งพำนักของพวกเขา แต่ในแดนฐิติประจิมกลับเรียกได้ว่าเป็นขุมอำนาจใหญ่เก่าแก่เผ่าหนึ่ง
แต่ตอนนี้ทั้งเขาเถื่อนเมฆินทร์และเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่พำนักอยู่ภายในนั้นกลับถูกทำลายจนสิ้นซาก ขนาดระดับราชันยังไม่อาจเอาชีวิตรอด!
นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับทำลายอิทธิพลที่สำนักแห่งหนึ่งสร้างขึ้น
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงครู่เดียว และผู้ที่ลงมือนั้นกลับเป็นสตรีเพียงผู้เดียว
สตรีที่เทียบเทียมกับจักรพรรดินีโบราณผู้หนึ่ง!
ข่าวย่อมปิดไว้ไม่อยู่ เริ่มแพร่งพรายและกระจายออกไป เขาเถื่อนเมฆินทร์ถูกทำลาย ที่นี่เกิดศึกสะท้านโลกา ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬล้วนถูกสังหารสิ้น
ทันทีที่ข่าวนี้กระจายออกไปก็ก่อให้เกิดคลื่นสะท้านฟ้า ครู่เดียวก็สั่นสะเทือนทั้งแดนฐิติประจิม ทั้งโลกล้วนตื่นตระหนก สายตานับไม่ถ้วนพากันมองไปยังเขาเถื่อนเมฆินทร์ในแคว้นคันฉ่องทมิฬ สายสืบมากมายเริ่มไปสืบหารายละเอียดราวเสียสติ
ขณะเดียวกันในหมู่ภูเขาไพศาล หญิงสาวก้าวย่างไปกลางห้วงอากาศ และเริ่มย้อนกลับมาแล้ว
การเดินของนางคราวนี้ รอยเท้ากระจายไปทั่วอาณาเขตมากมายในแดนฐิติประจิม นึกใคร่ครวญถึงศึกแห่งการดับสูญคราวนั้นแล้วก็ให้ถอนใจอย่างยิ่ง
จากนั้นนางก็หันกายเหยียบย่างเข้าสู่แคว้นคันฉ่องทมิฬ ทำลายเขาเถื่อนเมฆินทร์ให้ราบเป็นหน้ากลอง กวาดล้างแหล่งพำนักแห่งหนึ่งของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงชั่วหนึ่งก้านธูปเท่านั้น!
จบเรื่องก็สะบัดแขนเสื้อจากไป ซุกซ่อนความสามารถและชื่อเสียงเรียงนาม ล้วนเป็นเช่นนั้น
เปรี๊ยะ!
และในยามที่หญิงสาวเดินอยู่นี้เอง จู่ๆ ก็หยุดเดิน ดวงตาทั้งสองมองไปยังขอบฟ้า สีหน้าเรียบเฉยเย็นชาดังเดิม เพียงแต่หว่างคิ้วกลับมีความเคร่งครัดเพิ่มขึ้นมา
ก็เห็นว่าเหนือฟ้ากระจ่างปรากฏรอยแยกมายาที่น่าสะท้านขวัญ กลิ่นอายสังหารยากบรรยายกระจายออกมาจากคมทวน
ชิ้ง!
ชั่วพริบตานั้นราวกับมีเทพเทวาองค์หนึ่งฟื้นคืนจากคมทวน พลังสูงส่งที่ถักทอระหว่างมรรคและวิชาทิ่มแทงลงมาอย่างครึกโครม ปลายทวนชี้ไปยังหญิงสาวผู้นั้น
นางไม่ได้หลบหนี ยืนสงบอยู่เช่นนั้น
นางรู้ว่าหลบไปก็ไร้ประโยชน์ ในยุคบรรพกาลก็เคยมีผู้เทียมฟ้ามากมายถูกโจมตีด้วยคมทวน แล้วจากไปอย่างคับแค้นใจ มรรคาที่เสาะหาก็ว่างเปล่าโดยสมบูรณ์
เพราะทวนนี้มีที่มาไม่แน่ชัด ราวเป็นร่างจำแลงของมหามรรค แต่กลับมีนัยถึงความอัปมงคลและความตาย!
มัน ยังถูกมองว่าเป็น ‘ทวนพิฆาตมรรค” ด้วย!
ฟุ่บ!
ตำแหน่งทรวงอกของหญิงสาวถูกแทงทะลุ นางกลับเหมือนไม่รู้สึกสักนิด เงาร่างหายวับลับไปจากอากาศ
ส่วนคมทวนนั้นไม่อาจหาเป้าหมายพบ สืบเสาะกลางห้วงอากาศครู่ใหญ่ ในที่สุดก็กลับเข้าไปในรอยแยกกลางอากาศนั้น
รอยแยกหายไปในฉับพลัน ฟ้าครามคืนสู่ความสงบราบเรียบอีกครั้ง ราวกับทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น
หน้าถ้ำที่เคยทำให้โก่วหยางป๋อกับโก่วหยางทงตายไปอย่างคับแค้นใจ เงาร่างพร่ามัวลางเลือนเงาหนึ่งปรากฏขึ้น เทียบกับแต่ก่อนแล้วท่าทางน่าเกรงขามของนางก็ยังคงเดิม
เพียงแต่เงาร่างกลับยิ่งลางเลือนเหมือนหมอกควันเสียแล้ว ราวกับจะหายไปเมื่อไรก็ได้…
“ในที่สุดมหาสงครามก็ใกล้มาเยือนแล้ว แต่พลังพิฆาตมรรคของเจ้ายังไม่น่ากลัวพอ!”
หญิงสาวชำเลืองมองเวิ้งฟ้าด้วยสีหน้าเย็นชาครั้งหนึ่งก่อนหันกายลับไปในถ้ำนั้นอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน เหนือเวิ้งฟ้าก็มีรอยแยกห้วงอากาศรอยหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นอย่างเลือนราง เพียงแต่ไม่ทันปรากฏออกมาก็สงบลงอีกครั้ง แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย