ตอนที่ 1070

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันเดินเข้าไปโอบกอดนางพร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้องกังวล เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้ามีไพ่ลับอยู่กี่ใบ?”

สุ่ยเยี่ยนยวี่ซุกตัวเองในอ้อมแขนของเขาและไม่พูดตอบกลับอะไร

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงของสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่มีให้กับเขา ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะตื้นตันใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพลอดรักกัน

“ข้าขอตัวไปหาราชินีที่เก้าก่อน ข้ามีความลับที่น่าทึ่งที่ต้องบอกนางให้เร็วที่สุด” หลิงฮันกล่าว

เขาต้องการไปหาหูเฟยหยิน แต่เมื่อนางรู้ว่าหลิงฮันกลับมาแล้ว นางก็รีบออกมาต้อนรับเขาและพูดว่า “จ้าวหลุนจับเจ้าเข้าไปในกลุ่มลอบโจมตีของเขา มันทำให้ข้าเป็นห่วงเจ้าอยู่ตลอดเวลา แต่โชดดียิ่งนักที่เจ้ากลับมาได้อย่างปลอดภัย!”

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของท่าน อย่างไรก็ตาม ข้าได้ค้นพบข้อมูลที่น่าทึ่งจากกองทัพศัตรู ดังนั้นข้าจึงอยากกลับไปที่เมืองหลวงทันทีเพื่อรายงานเรื่องนี้ให้องค์จักรพรรดินีทราบ!”

“มันสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ?” หูเฟยหยินกระพริบตาด้วยความสงสัย

“มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก!” หลิงฮันพยักหน้า

หูเฟยหยินคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ก็ได้ พวกเราจะเดินทางกลับเดี๋ยวนี้!”

หากไม่ได้ราชินีที่เก้าช่วย หลิงฮันคงไม่มีทางเข้าพบจักรพรรดินีได้แน่ และด้วยสถานะของราชินีที่เก้า ถ้านางจะเดินทางกลับ ใครจะขัดขวางนางได้?

หลิงฮัน สุ่ยเยี่ยนยวี่ ราชินีที่เก้า พวกเขาทั้งสามคนกลับไปที่เมืองจักรพรรดิของจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะทันที ด้วยพาหนะแหวกเมฆา

ในตอนที่พวกเขาเดินทางมาที่นี่ พวกเขาใช้เวลาสองเดือน แต่ขากลับพวกเขาเวลาแค่สามวันเท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าพาหนะแหวกเมฆารวดเร็วเพียงใด

เมื่อกลับมาที่เมืองจักรพรรดิ หลิงฮันก็จอดพาหนะแหวกเมฆาไว้ที่ด้านหน้าประตูเมือง เพราะไม่มีใครกล้าบินเข้าไปในเมืองหลวงโดยตรง มิฉะนั้นอาจถูกโจมตีได้

ภายใต้การนำทางของหูเฟยหยิน ทำให้พวกเขาสามารถเดินเข้าไปในเมืองได้โดยที่ไม่มีใครขวาง และในไม่ช้าพวกเขาก็เดินมาถึงประตูพระราชวัง

หูเฟยหยินขอให้องครักษ์หญิงรายงานองคจักรพรรดินีว่าจะเข้าเฝ้า หลังจากรอครึ่งวัน ในที่สุดพวกเขาก็ถูกเรียกตัวเข้าพบ

“พี่สาว!” หูเฟยหยินรีบเดินเข้าไปหาและพูดว่า “ข้าไม่อยากเห็นคนอื่นต้องตายอีกแล้ว!”

จักรพรรดินีนั่งอยู่บนบัลลังก์ ซึ่งอยู่สูงจากพื้นประมาณครึ่งฟุต ใบหน้าของนางยังคงเบลอเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางได้ แต่ร่างกายที่เพรียวบางและสมบูรณ์แบบของนางนั้นเป็นของจริง

“คารวะองค์จักรพรรดินี!” หลิงฮันคุกกล่าวทำความเคารพและคุกเข่าลงข้างหนึ่ง

สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ได้มากับพวกเขาด้วย เพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องพานางมาที่นี่

จักรพรรดินีจ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาที่เย็นชา และไม่พูดให้เขาลุกขึ้นยืน แรงกดดันจากดวงตาของนางเป็นเหมือนภูเขาที่กดทับเขา

ในตอนนี้เอง แม้แต่หูเฟยหยินก็ยังไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว ไม่มีใครสามารถล่วงเกินจักรพรรดินีได้

“ทำไมเจ้าถึงเร่งเร้าให้น้องของข้าพาเจ้ากลับมาที่นี่?” ในที่สุดจักรพรรดินีก็กล่าวถามด้วยความไม่พอใจ

หลิงฮันเข้าใจว่าจักรพรรดินีไม่ได้โกรธพวกเขาทั้งสองคนที่หนีออกมาจากแนวหน้าอย่างกะทันหัน แต่ที่นางโกรธคืออิทธิพลของหลิงฮันที่มีต่อหูเฟยหยิน

หลิงฮันกล่าวว่า “ข้าค้นพบเรื่องที่น่าอัศจรรย์บางอย่างและต้องการรายงานเรื่องนี้ให้องคจักรพรรดินีทราบให้เร็วที่สุด แต่ข้ามีตำแหน่งต่ำเกินไป มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าพบท่านได้ ดังนั้นหนทางเดียวของข้าคือร้องขอความช่วยเหลือจากราชินีที่เก้า”

“เจ้ามีเรื่องสำคัญอันใด?” จักรพรรดินีปล่อยวางเรื่องส่วนตัวไว้ชั่วคราว

หลิงฮันจัดเรียงความคิดของตัวเอง จากนั้นเขาก็เริ่มพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์

“เจ้าพูดว่าไงนะ!” หูเฟยหยินแสดงสีหน้าตกใจและเขย่าแขนของจักรพรรดินีพร้อมกับพูดว่า “พี่สาว ข้าควรทำเช่นไรดี? ข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง?”

จักรพรรดินียังคงนิ่งเฉยและกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องพวกนั้นมาหลายปีแล้วว่าบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์นั้นคือบรรพบุรุษตระกูลฉัง แต่หลังจากมหาสงครามครั้งใหญ่ ทำให้ตระกูลฉังล้มสลายและถูกแทนที่ด้วยจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม”

“แต่จักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามก็ประสบกับวิกฤติครั้งใหญ่หลายครั้ง ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาลดลงและไม่อาจรักษาเสถียรภาพเอาไว้ได้ จนท้ายที่สุดตระกูลฉังก็กลับมาลุกขึ้นอีกครั้งและสถาปนาจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์”

หลิงฮันตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร มันมีความบาดหมางอย่างลึกซึ้งระหว่างจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสองแห่ง

ด้วยเหตุนี้ จักรพรรดิราชวงศ์นภาสีครามและจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์จึงมีรากฐานมาจากจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ ในขณะที่จักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะเพิ่งก่อตั้งได้หนึ่งล้านปีเท่านั้น

มันคงเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานสำหรับโลกใบเล็ก แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เวลาหนึ่งล้านปีไม่ได้ยาวนานอะไรเลย แล้วไม่ใช่ว่าจักรวรรดิทั้งสองแห่งมีประวัติศาสตร์มานานกว่าร้อยปีหรอกหรือ?

“ข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง!” จักรพรรดินีลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน

“พี่สาว จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์มีดาบเก้าอสูรกาย มันคงดีกว่าถ้าพวกเราร่วมมือกับจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีคราม ไม่เช่นนั้นมันจะอันตรายเกินไป!” หูเฟยหยินรีบกล่าวแนะนำ

“ไม่ต้องกังวล!” น้ำเสียงของจักรพรรดินีเต็มไปด้วยความมั่นใจ

หลิงฮันรู้ว่านางเอาความมั่นใจมาจากไหน อย่างน้อยมันจะต้องเกี่ยวกับหินต้นกำเนิดสวรรค์ที่สามารถดูดซับการโจมตีได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน

แม้ว่าดาบเก้าอสูรกายจะทรงพลังมาก แต่การโจมตีของมันอยู่แค่ในระดับวารีนิรันดร์เท่านั้น ซึ่งยังห่างจากขีดจำกัดที่หินต้นกำเนิดสวรรค์จะสามารถดูดซับได้ ดังนั้นในเมื่อมีหินแปลกประหลาดอยู่ในมือ จักรพรรดินีจึงไม่สนใจดาบเก้าอสูรกายมากนัก

จักรพรรดินีหันไปมองหลิงฮันเหมือนกับว่านางเดาความคิดของหลิงฮันออก

หลิงฮันแสดงสีหน้าเคร่งขรึมและไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมาให้เห็น

จากนั้นจักรพรรดินีหยุดมองหลิงฮันและเดินไปข้างหน้า เบื้องหลังนางมีดาวหลายดวงปรากฏอยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นร่างของนางก็กลายเป็นลำแสงและหายขึ้นไปบนท้องฟ้าในพริบตา

“พวกเราเองก็ไปกันเถอะ!” หลิงฮันวิ่งออกไปจากพระราชวังพร้อมกับหูเฟยหยิน แต่พวกเขาไม่ใช่จักรพรรดินีที่สามารถบินในเมืองได้อย่างอิสระ พวกเขาจะต้องออกไปจากเมืองก่อนแล้วขึ้นพาหนะแหวกเมฆาเพื่อมุ่งหน้าไปยังแคว้นพิรุณบูรพา

เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง แคว้นราชสีห์ทองคำก็ล่าถอยไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดินีต่อสู้กับจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์เช่นไร  พวกเขาไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขารู้แค่ว่าจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์คงกลัวที่จะทำสงครามเต็มรูปแบบกับจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ พวกเขาจึงเลือกที่จะล่าถอย

สงครามได้สิ้นสุดอย่างกะทันหัน

แต่หลิงฮันรู้ว่ามันจะต้องเป็นจักรพรรดินีที่เป็นฝ่ายชนะ หรือย่างน้อยก็เป็นฝ่ายได้เปรียบ

หินต้นกำเนิดสวรรค์ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!

หากไม่มีหินต้นกำเนิดสวรรค์ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จักรพรรดินีจะพ่ายแพ้ แม้จะเป็นแค่ด้ามดาบของดาบเก้าอสูรกายก็ตาม

ท้ายที่สุดแล้วหินต้นกำเนิดสวรรค์จะสามารถป้องกันการโจมตีได้กี่ครั้ง?

จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาจะต้องได้รับผลกระทบ ถ้าเขาทำลายหินต้นกำเนิดสวรรค์ได้เท่านั้น ถึงจะเอาชนะจักรพรรดินีได้

อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนท้าย ดาบเก้าอสูรกายยังคงอยู่ในมือของจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หรือว่ามันจะถูกปล้นโดยจักรพรรดินีและกลายเป็นรางวัลของนางไปแล้ว?

แต่ดาบเก้าอสูรกายเป็นอาวุธที่จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์สร้างขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จักรพรรดินีจะใช้มันได้ เพราะนางไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ทั้งยังมีระดับพลังที่ต่ำกว่า