บทที่ 1732 ตอบโต้อย่างไร้ปรานี

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1732 ตอบโต้อย่างไร้ปรานี

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

“พวกเขาพยายามทําสิ่งใด?” เฉินอี้และคนอื่นๆ ค้นพบพฤติกรรมที่ผิดปกติของฝ่ายตรงข้าม

 

ฟงจิวเก้อขมวดคิ้ว “พวกเขากําลังสร้างค่ายกล!”

 

“ค่ายกลภายในค่ายกลั้นหรือ?” เพ่ยกังซุ้ยก่นเสียงเย็น “พวกเขาประเมินเราต่ำเกินไป!”

 

การจัดตั้งค่ายกลภายในค่ายกลเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะเมื่อคนผู้หนึ่งพยายามจัดตั้งค่ายกลในค่ายกลของศัตรู

 

เนื่องจากค่ายกลวิญญาณอมตะเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจะส่งอิทธิพลอย่างมากต่อค่ายกลวิญญาณอมตะส่วนใหญ่

 

วังสวรรค์ย่อมไม่ปล่อยให้ศัตรูประสบความสําเร็จ พวกเขากระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะและส่งคลื่นกระแทกเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะที่พึ่งสร้างขึ้นทันที

 

“อย่าหวัง!”

 

“มีพวกเราอยู่ที่นี่ พวกเจ้าสามารถจัดตั้งค่ายกลได้อย่างไร้กังวล!”

 

วูหยง เหยากวง และคนอื่นๆปกป้องอยู่รอบๆค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขา

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ จื่อชิวหยู ผู้อมตะคลื่นทมิฬ และฟางหยวนทํางานอย่างเร่งรีบ

 

“วางอีกาเพลิงสามร้อยหกสิบตัว!” ผู้อมตะคลื่นทมิฬปาดเหงื่อบนหน้าผาก

 

“เรายังขาดวิญญาณดาบเดี่ยวระดับห้าอีกสี่สิบสี่ดวง พวกมันจะมาถึงเมื่อใด?” จื่อชิวหยูติดต่อผู้อมตะในสวรรค์สีเหลือง

 

ร่างกายของฟางหยวนสันเล็กน้อย วิญญาณอมตะในมือของเขาถูกส่งออกไปราวกับสายฝน

 

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ เขาหยุดเคลื่อนไหว “วิญญาณโซ่อมตะระดับหกถูกวางไว้ในตําแหน่งที่เหมาะสมแล้ว”

 

จื่อชิวหยูและผู้อมตะคลื่นทมิฬชําเลืองมองฟางหยวนและคิดเหลือเชื่อ! ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนสูงมาก นอกจากเขาจะสามารถอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาคใหม่ทั้งหมด เขายังจัดตั้งมันได้อย่างรวดเร็ว

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนอยู่ในระดับปรมาจารย์ มันต่ำกว่าจื่อชิวหยูและผู้อมตะคลื่นทมิฬ แต่เขามีประสบการณ์มากมายในการจัดตั้งค่ายกล

 

ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะชําระล้างตนเอง ค่ายกลวิญญาณอมตะท่องรอบทิศ ค่ายกลวิญญาณอมตะทะเลเกล็ดมังกร ค่ายกลวิญญาณอมตะตกอสูรปี ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกสวรรค์ ค่ายกลวิญญาณอมตะสระแก่นแท้ปี และอื่นๆ พวกมันถูกสร้างขึ้นโดยเขาทั้งสิ้น

 

แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะห้าภูมิภาค แต่เขายังทํางานได้อย่างราบรื่น

 

หากข้าต้องจัดตั้งมันเพียงผู้เดียว ข้าต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่ด้วยความช่วยเหลือจากจื่อชิวหยูและผู้อมตะคลื่นทมิฬ เราสามารถจัดตั้งมันได้อย่างรวดเร็ว เราต้องรีบทําให้สําเร็จ!” ฟางหยวนใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า

 

สมรภูมิวังสวรรค์

 

“หลี่ฮวง ชิงเย่ และคนอื่นๆไปถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติแล้ว วายุไร้ขอบเขตของวูหยงถูกกําหราบโดยหอคอยวายุ ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ชายฟังเซี่ยนยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ข้าไม่เข้าใจเจตนาของฟางหยวนในการสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ นอกจากนี้กําลังเสริมของเรากําลังจะไปถึงถ้ำมังกรเร้น” เทพธิดาคือเว่ยรายงานสถานการณ์ต่อราชันมังกร

 

ราชันมังกรตอบขณะต่อสู้ “แม้ข้อมูลขององค์ชายฟงเซี่ยจะไม่ถูกเปิดเผยในเวลานี้ แต่เราไม่สามารถละเลย ฟางหยวนรู้เรื่องนี้แต่ยังนิ่งเงียบ เจ้าต้องให้ความสําคัญกับประเด็นนี้ แจ้งสถานการณ์กับเฉินอี้และคนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขาเตรียมพร้อมช่วยเหลือองค์ชายฟงเซี่ยน”

 

เทพธิดาจอเว่ยรับคําสั่ง “ทราบแล้ว”

 

ราชันมังกรกลับไปตั้งใจต่อสู้กับความสิ้นหวังทั้งเจ็ดอีกครั้ง

 

“ถึงเวลาแล้ว” ราชันมังกรกําหมัดแน่น

 

ท่าไม้ตายอมตะมังกรสวรรค์!

 

อายุขัยของราชันมังกรลดลงอย่างรวดเร็วขณะที่พลังการต่อสู้ของเขาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

 

“โฮก….”

 

เสียงคํารามของมังกรดังขึ้นพร้อมกับปราณมังกรสีม่วงทองที่ปะทุออกมา

 

“บึม!”

 

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา มันถูกส่งลอยกลับหลังราวกับอุกกาบาตและพุ่งชนกําแพงปราณอย่างรุนแรง

 

“บัดซบ! ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง!”

 

“ท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของพวกเรากลายเป็นไร้ประโยชน์”

 

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราจะถูกจับ”

 

“พลังการต่อสู้ของราชันมังกรเหนือกว่าพวกเราไปแล้ว”

 

“ในกรณีนี้เราจะใช้การโจมตีเป็นการป้องกัน เราจะโจมตีราชันมังกรจากทุกทิศทาง!”

 

กลุ่มผู้อมตะเจ็ดดาวเหนือพูดคุยและบังคับความสิ้นหวังทั้งเจ็ดเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง

 

ราชันมังกรปรากฏตัวขึ้นด้านบน

 

“ยังสามารถยืนขึ้นอีกสั้นหรือ?” ราชันมังกรเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและส่งกรงเล็บมังกรพุ่งลงไป

 

“บึม!”

 

กรงเล็บมังกรราวกับมดตัวน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับร่างอันใหญ่โตของความสิ้นหวังทั้งเจ็ด อย่างไรก็ตามมันกลับสามารถสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ให้กับยักษ์ตัวนี้

 

ศีรษะของความสิ้นหวังทั้งเจ็บถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ยักษ์ที่ขาดศีรษะล้มลงบนพื้น

 

ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ

 

ราชันมังกรลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและคํารามด้วยความพึงพอใจ

 

ในจังหวะนี้ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง เกล็ดมังกร หางมังกร และเขาบนศีรษะของเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ราชันมังกร ไปตายซะ!” ผู้อมตะระดับแปดของภาคเหนือปรากฏตัวขึ้นด้านหลังราชันมังกร

 

“ปัง!”

 

แต่คนผู้นี้กลับถูกหางมังกรส่งลอยกลับหลังและกระอักเลือดคําโตออกมาจากปาก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือผลกระทบย้อนกลับของท่าไม้ตายอมตะนําเขาไปสู่ความตาย

 

ผู้อมตะระดับแปดอีกสามคนของภาคเหนือเคลื่อนไหวพร้อมกัน ท่าไม้ตายอมตะสามท่าโจมตีราชันมังกรอย่างต่อเนื่อง

 

“เราประสบความสําเร็จ!”

 

แต่ใบหน้าแห่งความสุขของสามผู้อมตะระดับแปดของภาคเหนือกลับแข็งค้างเมื่อพวกเขามองเห็นราชันมังกรยังยืนตัวตรงอยู่ที่เดิม

 

ไม่มีแม้แต่รอยบาดแผล

 

“อันใด!?”

 

“เราคํานวณมาแล้ว ท่าไม้ตายอมตะสามประสานของพวกเราสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกัน!”

 

“การป้องกันแข็งแกร่งนัก!”

 

สามผู้อมตะภาคเหนือรู้สึกกังวลและเร่งล่าถอย

 

“พวกเจ้าเกาหลังให้ข้างั้นหรือ?” ราชันมังกรหันหลังกลับอย่างช้าๆและมองไปที่สามผู้อมตะภาคเหนือ

 

สามผู้อมตะภาคเหนือรู้สึกถึงอันตราย หัวใจของพวกเขาราวกับถูกกดทับด้วยภูเขาทั้งลูก

 

“ราชันมังกร เราคือคู่ต่อสู้ของเจ้า!”

 

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดย้อนกลับมาหลังจากฟื้นตัว ศีรษะของมันกลับมาแล้ว

 

“พวกเจ้าไม่สามารถขัดขวางข้าได้อีกต่อไป” ราชันมังกรเย้ยหยันขณะชําเลืองมองความสิ้นหวังทั้งเจ็ดอย่างเฉยเมยก่อนจะหันหน้าไปทางแท่นบูชาแห่งโชค

 

ตราบเท่าที่แท่นบูชาแห่งโชคถูกโจมตีและได้รับความเสียหายในระดับหนึ่ง ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตจะถูกทําลาย

 

หากไม่มีผู้อมตะภาคเหนือจากอดีต วังสวรรค์จะมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ ถ้ำสวรรค์นิรันดรจะไม่สามารถตอบโต้อีกต่อไป

 

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค หน้าผากของปิงชายฉวนเต็มไปด้วยเหงื่อ

 

“บัดซบ! วิญญาณชะตากรรมกําลังฟื้นตัว ผู้อมตะของภาคเหนือจากอดีตกําลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ”

 

“ในทางตรงข้าม สมาชิกวังสวรรค์ได้รับการสนับสนุนจากท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์”

 

“สิ่งสําคัญที่สุดคือเราไม่สามารถหยุดราชันมังกร พลังการต่อสู้ของเขาก้าวข้ามระดับแปดไปแล้ว กระทั่งท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเขา…”

 

ขณะที่ปิงช่ายฉวนคิดเรื่องเหล่านี้ ราชันมังกรก็ทุบทําลายความสิ้นหวังทั้งเจ็ดอีกครั้ง

 

หลังจากกําจัดสิ่งกีดขวาง ราชันมังกรพุ่งตรงไปยังแท่นบูชาแห่งโชค

 

“ฮืม!” ดวงตาของปิงช่ายฉวนส่องประกายด้วยความแน่วแน่ “นี่จะเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของเรา!”

 

“บึม!”

 

แท่นบูชาแห่งโชคระเบิดแสงสว่างราวกับดวงอาทิตย์ออกมา

 

ผู้อมตะทั้งหมดปิดเปลือกตาลง กระทั่งราชันมังกรยังต้องหรี่ตา

 

เขางุนงง “ปิงช่ายฉวนใช้พลังอํานาจของแท่นบูชาแห่งโชค เขาไม่กลัวมันจะส่งผลกระทบต่อ ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตงั้นหรือ?”

 

แสงสว่างหยุดการเคลื่อนไหวของทุกคนไว้ชั่วขณะ

 

แท่นบูชาแห่งโชคราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรง มันพุ่งเข้ากระแทกค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอย่างดุเดือด

 

“เร็ว หยุดเขา!” เทพธิดาจื่อเว่ยกรีดร้อง

 

“คือ?” ราชันมังกรประหลาดใจเมื่อพบว่าท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตยังทํางานอยู่

 

แม้ภาพมายาของสายธารแห่งกาลเวลาจะเริ่มสลายตัว แต่ความเร็วในการสลายตัวของมันช้ามาก มันยังอยู่ได้อีกนาน

 

“บัวแดง!” ราชันมังกรเต็มไปด้วยความโกรธ

 

เขาตระหนักว่าตนเองตกลงสู่หลุมพรางของเทพปีศาจบัวแดง

 

ความเข้าใจที่เขามีเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีตมาจากความทรงจําเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะสนับสนุนอนาคต

 

ครั้งนั้นเขาโจมตีเทพปีศาจบัวแดงหลายครั้งและสามารถขัดขวางท่าไม้ตายอมตะสนับสนุนอนาคต

 

“ท่านอาจารย์ ท่านช่างมีไหวพริบ ท่านมองเห็นข้อบกพร่องของท่าไม้ตายนี้แล้ว” ในความทรงจําของราชันมังกร เทพปีศาจบัวแดงเผยรอยยิ้มพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากปาก

 

“ศิษย์เลว! เขากล่าวออกมาโดยเจตนา! นอกจากนี้ปิงช่ายฉวนก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแต่กลับจงใจหยุดตัวเองเอาไว้!” ราชันมังกรโกรธมาก สิ่งนี้เกิดขึ้นโดยฉับพลัน เขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์เร่งใช้ท่าไม้ตายอมตะโจมตีแท่นบูชาแห่งโชค

 

แต่แท่านบูชาแห่งโชคทําให้ท่าไม้ตายอมตะเหล่านั้นล้มเหลวอย่างน่าสังเวช พวกเขาได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง

 

แท่นบูชาแห่งโชคยังพุ่งชนค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอย่างไร้ปรานี

 

“บึม!”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกทําลายเป็นส่วนใหญ่

 

ในที่สุดหอคอยดวงตาสวรรค์ก็เผยตัวออกมา