I บทที่ 940 คุมขังสาวหิมะ

พอกลับมายังปราสาทน้ำแข็ง สาวหิมะก็ใช้ระฆังนภาอีกครั้ง แต่หลังจากครั้งนี้ เธอดูอ่อนแอลงอย่างมาก

“แม้แต่ระดับความกลัวยังใช้พลังงานมหาศาลในการใช้ระฆังนภาเลยเหรอ ไม่รู้ว่าจักรพรรดินีจะเอาระฆังนภาไปทำไมกันนะ”โจวเหวินตอนนี้มั่นใจแล้วว่าเขาไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายข้ามมิติมายังสถานที่ที่จักรพรรดินีบอกไว้ตั้งแต่แรกแต่ระฆังนภานั้นเป็นระฆังที่เหมือนและเป็นแบบเดียวกับที่จักรพรรดินีอธิบายไว้เป๊ะๆ บางทีมันอาจจะเป็นระฆังเดียวกันก็ได้

ปราสาทน้ำแข็งถูกวาปเคลื่อนย้ายกลับมายังเขตภูเขาไฟอีกครั้ง พอนางมาถึง นางก็ออกจากปราสาทน้ำแข็งแล้วลดขนาดของปราสาทลงเหลือแค่ขนาดเท่าแหวนเพื่อเก็บปราสาทเอาไว้

โจวเหวินพาสาวหิมะลงไปยังเขตภูเขาไฟแล้วพูด “เอาละทีนี้ลงไปในน้ำเต้าได้แล้ว”

สาวหิมะขมวดคิ้วแล้วพูด “เจ้าเปิดประตูมิติก่อนซิ แล้วค่อยให้ข้าเข้าไปข้างในก็ยังได้”

“ถึงฉันจะไม่ค่อยฉลาดแต่ฉันก็ไม่ได้โง่นะ ถ้าฉันเปิดประตูมิติแล้วเธอเข้าไปในนั้น ฉันก็จะโดนทิ้งไว้ให้ตายที่นี้หน่ะซิ”โจวเหวินส่ายหัวทันที

สาวหิมะคิดซักพักก่อนจะพูด “ถ้างั้นก็เอาน้ำเต้ามาซิ”

สาวหิมะมั่นใจว่านางเองนั้นจะไม่โดนขังอยู่ในน้ำเต้าแน่นอน นางเลยไม่ได้ขัดขืนอะไรมาก

โจวเหวินมอบน้ำเต้าให้กับสาวหิมะ แล้วนางก็เข้าไปข้างในทันที

“โอเค งั้นฉันจะเปิดประตูมิติแล้วนะ รอซักแปปนะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปที่โลกเดี๋ยวนี้ละ”โจวเหวินพูดแล้วหยิบน้ำเต้าขึ้นมาก่อนจะเก็บน้ำเต้านั้นกลับเข้าไปยังห้วงมิติแห่งความวินาศทันที

น้ำเต้านั้นอาจจะแตกได้แต่ห้วงมิติแห่งความวินาศเป็นสมบัติของเทพเคอัสในตำนาน โจวเหวินคิดว่าไม่ว่าสาวหิมะจะมีพลังมากแค่ไหน ยังไงก็คงทำลายห้วงมิติออกมาไม่ได้ง่ายๆอยู่แล้วว

สาวหิมะเองก็เหมือนจะไม่รู้ตัวเลยด้วยว่าตัวเองโดนย้ายเข้าไปอยู่ในห้วงมิติแห่งความวินาศแล้ว โจวเหวินเองก็ไม่ได้บอกด้วย โจวเหวินคิดว่าไว้ปล่อยเธอออกมาก่อนแล้วค่อยบอกก็ยังไม่สาย

แน่นอนที่โจวเหวินบอกว่าปล่อยนั้นคือปล่อยออกมาจากน้ำเต้า นางยังคงอยู่ในห้วงมิติต่อไป

โจวเหวินไม่รู้ว่าเขามาทันเวลา36ชั่วโมงไหม แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะช้าอีกต่อไปแล้ว เขารีบตรงไปยังปล่องภูเขาไฟที่เขาจากมาทันที

โจวเหวินนั้นหลอกสาวหิมะได้อย่างอยู่หมัด ตัวของเขาเองนั้นเปิดประตูมิติเองได้ซะที่ไหนละ ความจริงแล้วประตูมิติจะเปิดค้างเอาไว้36ชั่วโมงตั่งหาก ตอนที่โจวเหวินไปถึงที่นั้น โชคดีที่ประตูมิติยังคงเปิดคาเอาไว้อยู่ที่ โจวเหวินเลยรีบเข้าประตูมิติไปทันที แต่ในใจของเขา เขาก็ยังกังวลอยู่ ว่าถ้าเกิดการวาปขัดข้องหรือผิดพลาดขึ้นมา เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหนหรือจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

หลังจากการวาปที่ยาวนาน ในที่สุดโจวเหวินก็กลับมายังแท่นทองแดงประตูมิติต้นทาง โดยมีจิ้งจอกเก้าหางมองเขาอยู่ทำให้เขาดีใจมากๆ

“เรื่องที่ข้าไหว้วานเจ้าไป ได้นำส่งเรียบร้อยดีไหม”จิ้งจอก9หางถามกับโจวเหวิน

“ถึงจะมีเรื่องตะกุกตะกักไปบ้าง แต่สุดท้ายฉันก็ได้พบกับตี้ฉินและส่งมอบข้อความเรียบร้อยแล้ว”โจวเหวินพูดพร้อมคืนลูกแก้วจิ้งจอก9หาง

“เขาได้พูดอะไรไหม”จิ้งจอกเก้าหางถามอย่างลังเล

“เขาฝากให้ตอบกลับมาด้วย มีแค่คำเดียวเท่านั้น” โจวเหวินพูดคำที่ตี้ฉินบอกให้กับจิ้งจอก9หาง

จิ้งจอก9หางเองก็ดูตกใจมาก สีหน้าของมันนั้นแสดงความเป็นมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นซักพักใหญ่ๆมันก็อ้าปากแล้วกลืนลูกแก้วจิ้งจอก9หางกลับเข้าปากไป

“ไปซะเถอะ”จิ้งจอก9หางไม่ได้มีทีท่าจะฆ่าโจวเหวิน และไม่ได้ติดใจหรือสงสัยในคำพูดของโจวเหวินเลยว่ามันจะเป็นจริงหรือเท็จ

บางทีแล้วนางอาจจะยังขัดใจอยู่นิดๆ แต่พอได้ยินที่โจวเหวินพูดมา นางก็ไม่สงสัยอีกเลย เพราะว่าภายในคำนั้นมันมีความหมายมากกว่าที่คิด เป็นระดับของภาษาที่คนนอกไม่อาจเข้าใจได้เลย คำง่ายๆแค่นั้นก็ทำให้จิ้งจอก9หางเข้าใจได้มากมายเลยทีเดียว

โจวเหวินเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ตรงนั้นนาน ภายในภูเขาฉีซือนั้นมีระดับความกลัวมากมายไปหมด นอกเหนือจากจิ้งจอก9หางแล้ว มันต้องมีระดับความกลัวตัวอื่นแน่ๆ อย่างเช่นรูปปั้นเทพปีศาจที่โจวเหวินเคยเห็นก่อนหน้านี้ โจวเหวินเองก็สงสัยว่าบางทีพวกมันเองก็อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติด้วยเหมือนกัน

หลังจากออกมาแล้วโจวเหวินก็รีบออกมาจากหลูไท่ทันที

“เขาทำอะไรอยู่นะ ไม่ใช่ว่าเราวาปมาที่โลกแล้วเหรอ” สาวหิมะที่อยู่ในน้ำเต้าไม่ได้รู้สถานการณ์ภายนอกเลยแม้แต่น้อย แต่พอเวลาผ่านไปโจวเหวินยังไม่ถึงที่หมายอีกทำให้นางเริ่มสงสัย

“เอ้า ออกมาได้แล้ว”โจวเหวินเปิดปากน้ำเต้า

สาวหิมะตอนแรกก็ลังเลเล็กน้อยเพราะด้วยความที่นางเป็นระดับความกลัวในต่างมิติ การที่จะลงมาอยู่บนโลกนั้นพลังของนางจะโดนโลกนี้จำกัดพลังเอาไว้ ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรักษาระดับพลังโดยปรกติของนางไว้ได้

แต่ตอนนี้นางกลับไม่รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายโดนจำกัดพลังแม้แต่น้อย นางเลยไม่คิดว่าตัวเองมาอยู่ที่โลกแล้ว

แต่ในเมื่อโจวเหวินปล่อยเธอออกมาแล้ว เธอเลยไม่ทำลายน้ำเต้าแล้วออกมาจากน้ำเต้าแต่โดยดี

ทันทีที่เธอออกมาจากน้ำเต้า เธอก็พบว่ารอบตัวของเธอนั้นกลับกลายเป็นพื้นที่มิติว่างเปล่าที่ไร้พรมแดน และไม่เจอตัวโจวเหวินเลยแม้แต่น้อย ไม่เห็นโลกด้ววย ทำให้นางรู้ได้ทันทีว่านี้มันผิดปรกติแล้ว

“เจ้าทำอะไรน่ะ”สาวหิมะเปลี่ยนร่างกลายเป็นร่างความกลัวทันทีก่อนจะยิงลำแสงขึ้นฟ้า เพื่อให้รู้ก่อนว่านางอยู่ที่ไหนกันแน่

แต่แสงเยือกแข็งนั้นถูกยิงออกไปโดยไม่มีเป้าหมาย รอบตัวของนางนั้นไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆทั้งนั้น แสงเยือกแข็งเองก็พุ่งตรงไปอย่างไร้จุดหมาย มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ทำให้สาวหิมะหน้าเสียเข้าไปใหญ่

“ที่นี้ละคือโลก เรามาถึงโลกแล้ว แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เธอโดนพลังของโลกกดทับ ทำให้ฉันต้องหาที่อยู่ชั่วคราวให้กับเธอ เพื่อให้เธออยู่ในนั้นชั่วคราวได้อย่างสงบยังไงละ”โจวเหวินพูด

“เจ้ารู้ตัวใช่ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นถ้าข้าออกไปได้เมื่อไร เจ้าก็คงรู้ว่ามันจะจบยังไง”สาวหิมะพูดด้วยความโกรธหน้าตาย

โจวเหวินเองก็ไม่ได้โกรธ เขาพูด “โถ่ ฉันอุส่าห์หาที่ดีๆให้ เธอก็ควรจะจ่ายค่าเช่าสถานที่ฉันบ้างนะไม่ใช่จะฆ่าแกงกันอย่างเดียว”

“เจ้าตายแน่”สาวหิมะอัญเชิญปราสาทน้ำแข็งออกมาทันที

ปราสาทน้ำแข็งนั้นค่อยๆใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆในห้วงมิตินั้นแล้วกลับกลายเป็นขนาดปรกติ จากนั้นนางก็เดินเข้าไปในปราสาทแล้วหยิบระฆังนภาออกมา

โจวเหวินเองก็ไม่ได้กลัวอะไร เพราะถึงนางจะเคลื่อนย้ายมิติไปมาในห้วงมิติได้แต่ยังไงเธอก็ออกมาจากที่นี้ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้ระฆังอยู่ในมือของเขาแล้ว โจวเหวินสามารถเอาตัวของนางไปให้จักรพรรดินีแล้วให้จักรพรรดินีจัดการด้วยตัวเองเลยก็ได้

สาวหิมะลั่นระฆัง พยายามจะวาปออกจากห้วงมิติให้ได้ แต่หลังจากสั่นแล้วสั่นอีก เธอก็พบว่าปราสาทน้ำแข็งนั้นยังคงอยู่ที่เดิมวาปออกไปไม่ได้นั้นทำให้เธอตกใจและโกรธมากทันที

เธอไม่รู้จักห้วงมิติของโจวเหวินมาก่อน และเธอก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี้ได้ด้วย ตอนนี้เธอเลยโดนขังอยู่ในนี้ต่อไป

พอเห็นว่าเธอออกมาไมได้โจวเหวินก็เริงร่าแล้วพูด “อื้ม คิดอีกทีแล้วถ้าเกิดเอาระฆังนภามาให้ฉันก่อนละก็ บางทีฉันอาจจะอารมณ์ดีปล่อยเธอไปก็ได้นะ”

“ฝันไปเถอะ”สาวหิมะโกรธจัดๆ เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมาลงเอยอยู่ในเงื้อมมือของโจวเหวิน