ตอนที่ 1788 แค่มือเดียวยังไม่ไหว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“พวกเจ้าได้ยินกันไหม? ไอ้หมอนั่นที่มันตั้งกลุ่มกับท่านพี่ไป่หลี่โดนนางเตะออกกลุ่มแล้ว”

“ได้ยินมาสิ แล้วพวกเจ้าอยากจะไปหาตัวมันกันหรือ? ข้าได้ยินมาว่าใครที่ไปหามันล้วนแล้วแต่ถูกปล้นจนหมดตัวไม่เหลือแม้แต่กางเกงใส่กลับเลยนะ!”

“ไอหมอนี่มันจะโหดร้ายเกินไปแล้ว! ไม่นึกเลยว่าแท้จริงมันจะเก่งกาจขนาดนี้! แต่ไม่ว่ายังไงมันก็คงต่อสู้ข้ามขั้นไปได้อีกไม่นานนัก ข้าได้ยินว่าตอนนี้ต้วนชิงหงและจงฮันหลินก็เริ่มออกตามหาตัวมันกันแล้ว”

ไป่หลี่ชิงหยานนั้นมั่นใจในความเก่งกาจของตัวเองมากทำให้สถานที่ที่นางไปล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่เปี่ยมไปด้วยอันตราย ไม่เช่นนั้นนางก็คงไม่ได้ไปเจอสัตว์อสูรที่ทรงพลังอย่างเจ้าอสูรขนหนาหยกสามตาเข้า

สถานที่เช่นนั้นมันย่อมมีผู้เข้าสอบคนอื่นๆ เข้าไปน้อยมาก

เมื่อเย่หยวนแยกตัวจากไป่หลี่ชิงหยาน มันจึงเป็นการดึงดูดให้ผู้คนจำนวนมากรีบเข้ามาหาตัวเขากันในทันที

คนทั้งหลายต่างคิดว่าเขาอ่อนแอและจะมารังแกให้หายอิจฉา ใครจะไปคิดว่าแทนที่จะได้กินไก่ กลับเป็นตัวพวกเขาเองที่ถูกเย่หยวนปล้นกลับจนไม่เหลือแก้วอสูรศักดิ์สิทธิ์ติดตัวแม้สักชิ้น

ตอนนี้ในพื้นที่เปิดโล่งหนึ่ง เย่หยวนกำลังถูกกลุ่มคนมากมายรายล้อมไว้

คนทั้งหลายนั้นมีคลื่นพลังที่แข็งแกร่ง พวกเขานี้ต่างเป็นถึงราชันพระเจ้าไม่เจ็ดก็แปดดาวทั้งสิ้น

และในหมู่คนนั้นก็มีเจ่าเจาและเจ่าชูรวมอยู่ด้วย

“เย่หยวน ข้าอยากรู้เสียจริงว่าทีนี้เจ้าจะหนีไปที่ใด!” เจ่าชูบอกออกมาด้วยสีหน้าได้ใจหลังคิดว่าตัวเองต้นเย่หยวนจนมุมได้

เย่หยวนยิ้มตอบกลับมาอย่างเย็นเยือก “ข้าไปบอกตอนไหนว่าจะหนี? ข้าอยู่ตรงนี้รอพวกเจ้าเอาแก้วอสูรศักดิ์สิทธิ์มาส่งให้ต่างหากเล่า”

เจ่าเจาหัวเราะขึ้น “รอให้เราเอาแก้วอสูรศักดิ์สิทธิ์มามอบให้? ไอ้เจ้าคางคกปากเก่ง มันช่างเป็นคำพูดที่แสนอวดดีนัก! เจ้าคงไม่คิดจะอ้างว่าตัวเองมาดักรอเพื่อปล้นชิงเอาแก้วอสูรศักดิ์สิทธิ์ของเราไปหรอกใช่ไหม?”

เย่หยวนพยักหน้า “ดูท่าพวกเจ้าก็ไม่ได้โง่นัก”

เมื่อได้ยินคำของเย่หยวนคนทั้งหลายต่างก็แทบหัวเราะออกมา

ไอ้เจ้าหมอนี่สมองมันเพี้ยนหรือ?

เจ่าเจาได้แต่ส่ายหัวออกมาพร้อมหัวเราะไม่ขาดปาก “บรรลุขึ้นมาเป็นราชันพระเจ้าหกดาวแล้วเลยเก่งกล้าถึงขั้นนี้? เจ้าคงไม่คิดว่าการที่เจ้าบังเอิญชนะน้องสามข้าได้แล้วเจ้าจะมีปัญญามาชนะข้าด้วยหรอกนะ? ถ้าเจ้ายังคิดเช่นนั้นคงต้องบอกว่าอ่อนหัดนัก!”

เจ่าชูหัวเราะออกมาตามๆ กัน “ช่างเป็นไอ้โง่ไม่เจียมตัว! เจ้าลองคิดสิว่าทำไมฮันยองมันถึงกลัวพี่ใหญ่ข้านัก? มันเป็นเพราะพี่ข้าผสานแนวคิดแห่งน้ำและแนวคิดแห่งไฟได้ การผสานสองแนวคิดเข้าด้วยกันเช่นนี้มันคงหาศัตรูได้ยากแล้ว ที่สำคัญเรายังมีจำนวนมากมายแถมยังมีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าเจ้า เจ้าจะต้องโง่เง่าแค่ไหนถึงได้มาอวดอ้างความเก่งกาจของตัวเองต่อหน้าพวกข้าเช่นนี้?”

เส้นสายของนิกายคชสารมารในนิกายเงาจันทร์นั้นมันแข็งแกร่งมาก ที่สำคัญพวกเขานั้นยังมีนิกายพันธมิตรอีกหลายพวก

คนเหล่านี้ทั้งหลายต่างล้วนเป็นยอดคนของฝั่งคชสารมาร

ในหมู่คนพวกนี้มีหลายคนทีเดียวที่เป็นถึงราชันพระเจ้าแปดดาว

เย่หยวนได้แต่ยักไหล่และกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส “เรอะ? งั้นพวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันได้เลย ข้าขอดูฝีมือของพวกเจ้าหน่อย ข้าจะใช้แค่มือข้างเดียวเท่านั้น หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังมากนะ”

พูดจบเย่หยวนก็ไขว้มือซ้ายไว้ด้านหลังทันทีด้วยท่าทางแสนหยิ่งผยอง

เหล่าศิษย์นิกายคชสารมารต่างมึนงงสงสัย เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วแน่!

แค่มือเดียวกลับคิดต่อสู้กับคนมากมายเช่นนี้?

ต่อให้เป็นพวกต้วนชิงหงทั้งสามก็ยังไม่กล้าจะอวดเก่งได้ขนาดนี้เลยใช่ไหม?

“ฮ่าๆๆ ยอดอัจฉริยะเย่หยวนคิดอยากเห็นพลังฝีมือของมือใหม่อย่างพวกเราล่ะ ทุกคนโปรดอย่าออมมือและจัดการดูแลเขาให้ดี เขานั้นเก่งกาจเราต้องไม่ทำให้เขาผิดหวัง!” เจ่าเจาตะโกนบอกด้วยเสียงหัวเราะ

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็หัวเราะออกมาตามๆ กัน

“ไอ้หมอนี่มันไม่ได้เก่งกาจมากมายแต่คำพูดของมันนั้นช่างยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า!”

“นี่สินะที่เขาเรียกว่าศักดิ์ศรีท่วมหัวแต่ดันเอาตัวไม่รอด? ฮ่าๆ”

“ทุกคนอย่าได้ลงมือรุนแรง ไปนวดข้อต่อกระดูกให้มันหน่อยอย่าได้ปล่อยให้มันได้ตายง่ายนัก เช่นนั้นมันจะหมดสนุกกันพอดี”

เจ่าเจายกมือเป็นสัญญาณบอกให้เหล่าศิษย์นิกายคชสารมารพุ่งตัวเข้าหาเย่หยวนพร้อมๆ กันอย่างน่าเกรงกลัว

ฟุบ!

ฟุบ!

ฟุบ!

หลายต่อหลายร่างพุ่งมาถึงในเวลาเดียวกัน แสงเงาจากดาบของพวกเขานั้นล้อมเย่หยวนไว้ทุกทิศ

แต่ว่าเย่หยวนกลับยืนนิ่งราวผาชัน

จู่ๆ มือขวาของเย่หยวนก็ปล่อยงูวิญญาณออกมารัดร่างของศิษย์คนหนึ่งที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าไว้

แกรก!

ข้อมือของศิษย์คนนั้นถูกเย่หยวนบิดหัดจนอาวุธในมือต้องร่วงลงสู่พื้นดิน

ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็ยังโจมตีเย่หยวนอย่างดุดัน เพียงแค่ว่ามันไม่มีการโจมตีใดที่ถูกโดนตัวเย่หยวนเลย

ตุบ!

เย่หยวนสบัดหลังมือฟาดเข้าที่หน้าของศิษย์อีกคนจนร่างของเขาลอยลิ่วไปหลายพันเมตร

เย่หยวนในตอนนี้กำลังใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาอย่างเต็มที่

หากการโจมตีธรรมดาๆ พวกนี้อยากโดนตัวเขา มันคงยากเสียยิ่งกว่าการขึ้นไปจุติบนสวรรค์

หากอีกฝ่ายมีพลังบ่มเพาะที่เหนือล้ำกว่าเขามาก คนเหล่านั้นจะสามารถใช้พลังโลกกลบฝังพลังแนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาไว้ได้

แต่หากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็มีแต่ต้องถูกโจมตีฝ่ายเดียว

เหล่าศิษย์นิกายคชสารมารนี้ส่วนมากต่างเป็นแค่ราชันพระเจ้าเจ็ดดาว หากให้พูดถึงพลังบ่มเพาะแล้วมันไม่ได้เหนือล้ำกว่าเย่หยวนมากมายเลย

แต่ความเข้มข้นของพลังปราณเทวะที่เย่หยวนมีนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่เหล่าราชันพระเจ้าเจ็ดดาวจะมาเทียบเคียงได้

แนวคิดที่เหนือล้ำ วรยุทธบ่มเพาะสุดแกร่ง มันเป็นการต่อสู้ที่นับไม่ได้ว่าเป็นการต่อสู้เสียด้วยซ้ำ

เมื่อภาพอันน่าสมเพชปรากฏขึ้นตรงหน้ามันจึงทำให้เจ่าเจาและเจ่าชูต้องหน้าถอดสี

“แนวคิดแห่งห้วงมิติ! มิน่าล่ะมันถึงได้อวดเก่งมากมายนัก ที่แท้มันสำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติได้!” เจ่าชูร้องบอก

เจ่าเจานั้นได้แต่ทำหน้าเหยเก เพราะฝีมือของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจินตนาการไปมาก

“โจมตีเข้าไปพร้อมกัน!”

เจ่าเจาสั่งบอก ก่อนจะพุ่งร่างตามออกไป

เจ่าชูสะดุ้งตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังตามพี่ใหญ่ของตัวเองออกไปทัน

“มังกรแฝดถล่มมุก!”

“เพลงดาบลมพลัน!”

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นเจ่าเจาและเจ่าชูมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำกว่าใคร

การเพิ่มคนทั้งสองเข้ามามันทำให้กลุ่มคนนี้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาก

แต่ว่าเย่หยวนกลับหัวเราะออกมา ตั้งท่าดาบด้วยมือเปล่าก่อนจะชี้ออกมาทำลายมังกรทั้งสองของเจ่าเจาที่ผสานแนวคิดแห่งน้ำและไฟจนแตกสลายลงทันที

จากนั้นเขาก็หุบนิ้วลงและจับรับดาบของเจ่าชูไว้ได้อย่างพอดี

เจ่าเจานั้นเหมือนถูกโจมตีเข้าอย่างแรงจนต้องกระอักเลือดออกมาคำโตร่างกายปลิวลอยไปด้านหลัง

ส่วนนิ้วของเย่หยวนนั้นมันหนักแน่นราวเสาเหล็กทำให้เจ่าชูไม่สามารถขยับดาบของตนได้แม้แต่น้อย

“นี่คือพลังของนิกายคชสารมารของพวกเจ้า? ช่างน่าผิดหวังจริง!” เย่หยวนส่ายหัวออกมา

เจ่าชูโกรธจนหน้าเขียวแดง แต่ไม่ว่าเขาจะใช้พลังไปมากมายแค่ไหนดาบของเขาก็ยังคงติดอยู่ระหว่างนิ้วของเย่หยวนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะขยับ

ไม่ว่าจะยังไงมันก็ช่างเป็นเรื่องน่าอับอาย

ก่อนหน้านี้ซ่งถิงถึงขั้นบอกว่านิกายคชสารมารนั้นไม่ได้อ่อนแอจนให้ใครมาลูบหัวได้ แต่ตอนนี้แม้พวกเขาจะส่งคนออกมามากมาย มันกลับถูกเย่หยวนกำจัดลงด้วยมือข้างเดียว

เรื่องนี้มันทำให้ผู้คนเหงื่อแตกด้วยความอับอาย

“หึ! ช่างเป็นขยะเสียจริง! คนตั้งมากมายขนาดนี้กลับไม่สามารถจัดการราชันพระเจ้าหกดาวคนเดียวลงได้!”

ตอนนี้เองก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางดูถูก

“เฮอะ ไอ้เด็กคนนี้มันสำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้อวดเก่งนัก! ด้วยพลังฝีมือของขยะพวกนี้มันไม่แปลกหรอกที่จะแพ้พ่าย” อีกเสียงดังขึ้น

สองร่างนี้หนึ่งเดินมาจากเหนือ หนึ่งเดินมาจากใต้ ค่อยๆ เผยร่างออกมาจากเงาป่า

เมื่อพวกเจ่าเจาได้เห็นคนทั้งสอง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางดีใจออกมา

ต้วนชิงหง!

จงฮันหลิน!

เมื่อคนทั้งสองมาถึงแล้วเย่หยวนย่อมไม่มีทางรอดไปได้!

ต่อให้เย่หยวนจะสำเร็จแนวคิดแห่งห้วงมิติ ผลลัพธ์มันก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

เมื่อมียอดคนพันธมิตรคชสารมารอันดับหนึ่งมาเช่นนี้ เย่หยวนมันย่อมอ่อนแอเกินไปที่จะยืนสู้ต่อหน้าเขา

จงฮันหลินมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแสนเย็นเยือก “เด็กน้อย คราวก่อนเจ้ามีน้องไป่หลี่คอยปกป้องหรอกนะ คราวนี้อย่าหวังว่าจะได้โชคดีอีก!”

………………………..