บทที่ 1734 ความยิ่งใหญ่ของเทพอมตะตะวันเดือด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1734 ความยิ่งใหญ่ของเทพอมตะตะวันเดือด

 

“พรวด!”

 

หยวนเชียงตู๋กระอักเลือดและล้มลงบนพื้น

 

เขาได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ด้วยผลกระทบย้อนกลับที่เกิดจากความเสียหายของค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทําให้เขาหมดสติทันที

 

หากไม่มีหยวนเชียงตู๋ การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมจะหยุดลง

 

กงเยี่ยนได้รับผลกระทบเช่นกัน

 

ด้วยท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของกงเยี่ยน เขาสามารถย้ายความเสียหายที่เกิดขึ้นกับค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมมายังร่างกายของตนเอง

 

เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมพังทลายลง กงเยี่ยนจึงได้รับผลกระทบที่รุนแรง

 

เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของเขา เขาทรุดตัวลงกับพื้น โชคดีที่เช่อเว่ยให้ความช่วยเหลือเขาได้อย่างทันท่วงที

 

“อาการของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เช่อเว่ยถาม

 

“ข้ายังไม่ตาย…” กงเยี่ยนกระอักเลือดออกมา

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์เริ่มตื่นตระหนก

“ไปเสริมกําลังเร็วเข้า!”

 

“เราต้องซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณอมตะ!”

 

“หยวนเชียงตู๋รับผิดชอบการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม คนอื่นไม่สามารถรับหน้าที่ต่อได้ในระยะเวลาอันสั้น เราต้องปลุกเขาก่อน!”

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์รีบร้อนพุ่งเข้าไป

 

“เราไม่สามารถทําลายมันได้อย่างสมบูรณ์” ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ดวงตาของปิงช่ายฉวนส่องประกายเย็นเยียบ

 

เขาออกคําสั่ง “ปีศาจกระทิง ปรมาจารย์ห้าธาตุ กลับมา!”

 

แสงแห่งโชคอยู่ได้ไม่นาน ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเมื่อกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์บุกโจมตี

 

ก่อนหน้านี้ผู้อมตะของวังสวรรค์ไม่สามารถให้การสนับสนุนกงเยี่ยนและเช่อเว่ยเพราะพวกเขาไม่ต้องการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ปีศาจกระทิงและปรมาจารย์ห้าธาตุต้องล่าถอยกลับเข้าไปในแท่นบูชาแห่งโชค

 

เช่อเว่ยไม่สามารถทําสิ่งใด

 

ปีศาจกระทิงเข้าสู่แท่นบูชาแห่งโชคและแสดงออกด้วยความกังวล “ท่านหญิงดอกไม้ติดอยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ เราไม่รู้สถานการณ์ที่นั่น”

 

ปิงช่ายฉวนพยักหน้า “เราจะทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมก่อนจะไปช่วยเหลือ…”

 

“บึม!”

 

ปิงช่ายฉวนยังกล่าวไม่จบเมื่อแท่นบูชาแห่งโชคเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

ร่างหนึ่งเหยียบลงบนแท่นบูชาแห่งโชคและฝังมันลงใต้ดิน

 

ราชันมังกร!

 

เจ้าไม่สามารถไปไกลกว่านี้” ราชันมังกรปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมา และทําให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก

 

“บึม บึม บึม”

 

ราชันมังกรเริ่มต่อยแท่นบูชาแห่งโชค

 

แท่นบูชาแห่งโชคจมลงไปใต้พื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของแท่นบูชาแห่งโชคและขยายตัวออกไปก่อนจะเกิดรูช่องโหว่

 

วิญญาณจํานวนมากเสียชีวิต จึงช่ายฉวนเตรียมท่าไม้ตายอมตะเพื่อตอบโต้ ปีศาจกระทิงรับผิดชอบการซ่อมแซมแท่นบูชาแห่งโชค ปรมาจารย์ห้าธาตุอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

“ความเร็วในการทําลายสูงเกินไป ข้าไม่สามารถซ่อมแท่นบูชาแห่งโชคได้ทันเวลา” ปีศาจกระทิงตะโกน

 

ศีรษะของปรมาจารย์ห้าธาตุเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขาพยายามอนุมานค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอย่างบ้าคลั่ง

 

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่น “อดทนไว้”

 

ราชันมังกรทรงพลังมาก กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะตะวันเดือดก็ยังไม่สามารถอดทนต่อการโจมตีที่ไม่สิ้นสุดของคนผู้นี้

 

“ขึ้นไป!” ปิงช่ายฉวนตะโกน แท่นบูชาแห่งโชคพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง

 

ราชันมังกรยังต่อยแท่นบูชาแห่งโชคอย่างต่อเนื่อง

 

“ลงไป!” ราชันมังกรตะโกนและยกกําปั้นขึ้น

 

ท่าไม้ตายอมตะค้อนมังกรถล่มปฐพี!

 

แท่นบูชาแห่งโชคถูกส่งลงไปราวกับลูกบอลยาง

 

หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของแท่นบูชาแห่งโชคและเผยให้เห็นปิงช่ายฉวนที่อยู่ภายใน

 

ปิงช่ายฉวนไม่สามารถปกปิดความตกใจบนใบหน้า

 

ความแข็งแกร่งของราชันมังกรเหนือจินตนาการของเขาไปแล้ว

 

กระทั่งสมาชิกวงสวรรค์ยังตกตะลึง

 

“ทุกคน ไป!” กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือที่ถูกอัญเชิญมาจากอดีตเร่งเข้าไปสนับสนุน

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์เผชิญหน้ากับผู้อมตะของภาคเหนือโดยตรง

 

การต่อสู้ที่วุ่นวายปะทุขึ้นอีกครั้ง

 

ด้านหลังฉากการต่อสู้ที่วุ่นวายนี้ ราชันมังกรทุบทําลายแท่นบูชาแห่งโชคอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว

 

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดปูทางด้วยเลือดและเข้าถึงตัวราชันมังกรในที่สุด

 

แท่นบูชาแห่งโชคไม่สามารถต่อต้านราชันมังกร” ปิงช่ายฉวนต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้

 

เมื่อความสิ้นหวังทั้งเจ็ดมาถึง ปิงช่ายฉวนจึงมีเวลาพักหายใจ เขาควบคุมแท่นบูชาแห่งโชคต่อสู้กับราชันมังกรร่วมกับความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

 

ท่าไม้ตายอมตะเขี้ยวมังกรบิน!

 

ราชันมังกรเปิดปากส่งเขี้ยวมังกรพุ่งออกไป

 

เขี้ยวมังกรบินไปรอบๆแท่นบูชาแห่งโชคราวกับพายุดาบ

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขี้ยวของราชันมังกรงอกออกมาอีกครั้งและถูกส่งออกไปโจมตีความสิ้นหวังทั้งเจ็ด

 

ความสิ้นหวังทั้งเจ็ดและแท่นบูชาแห่งโชคได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

ท่าไม้ตายอมตะกรงเล็บมังกร!

 

ท่าไม้ตายอมตะหมัดมังกรโกลาหล!

 

กรงเล็บมังกรและหมัดมังกรโจมตีความสิ้นหวังทั้งเจ็ดและแท่นบูชาแห่งโชคอย่างบ้าคลั่ง

 

โชคกลายเป็นซากปรักหักพัง ปีศาจกระทิงไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ทันเวลา

 

ท่าไม้ตายอมตะเก้ามังกรคุ้มภัย!

 

ปราณมังกรสีม่วงทองเก้าตัวรัดพันอยู่รอบตัวราชันมังกร

 

ทุกการโจมตีของความสิ้นหวังทั้งเจ็ดและแท่นบูชาแห่งโชคถูกปิดกั้นโดยเก้ามังกรคุ้มภัยราชันมังกรเหนือกว่าอย่างชัดเจน

 

เมื่อเวลาผ่านไปฝ่ายของถ้ำสวรรค์นิรันดรจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

 

“พวกเจ้ากล้าบุกวังสวรรค์ของข้า พวกเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!” ราชันมังกรคําราม

 

“ พวกเจ้าไม่เหลือความหวังแล้ว” ราชันมังกรโจมตีแท่นบูชาแห่งโชคก่อนจะส่งความสิ้นหวังทั้งเจ็ดบินออกไป

 

“พวกเจ้ามาได้ไกลที่สุดเท่านี้!”

 

“พวกเจ้าจะล้มเหลว วังสวรรค์จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์!”

 

เสียงของราชันมังกรดังไปทั่วสนามรบ

 

“หากพวกเจ้ายังมีวิธีใดก็ใช้ออกมาให้หมด ข้าจะส่งพวกเจ้าไปสู่หุบเหวแห่งความสิ้นหวังด้วยตนเอง!” ราชันมังกรกล่าวอยู่

 

ปิงช่ายฉวนอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช

 

สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆแต่ดวงตาของเขายังสว่างไสว

 

ความทรงจําผุดขึ้นในใจของเขา

 

“นี่คือวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงงั้นหรือ? อัศจรรย์นัก! สมกับเป็นสมบัติของท่านจริงๆ” ปิงช่ายฉวนยืนอยู่ด้านข้างเทพอมตะตะวันเดือด

 

เทพอมตะตะวันเดือดกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ บุตรหลานของข้าจะแข็งแกร่งขึ้น”

 

“ท่านช่างมีเมตตานัก” ปิงช่ายฉวนชื่นชม

 

“อย่างไรก็ตาม…” เทพอมตะตะวันเดือดเปลี่ยนน้ำเสียง “มันจะพังทลายลงในที่สุด”

 

“อันใด!?”

 

“ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้มันพังทลายลงในวันหนึ่ง ปิงช่ายฉวน เจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา จงเข้าสู่การจําศีล เมื่อวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลงในอนาคต มันจะเป็นเวลาที่เราบุกโจมตีวังสวรรค์”

 

ภายในแท่นบูชาแห่งโชค

 

“แม้ข้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้สถานการณ์จะสิ้นหวัง แม้ข้าจะใช้ไพ่ตายไปหมดแล้ว แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้เพราะนี่เป็นแผนการของเทพอมตะตะวันเดือด!”

 

ค์นิรันดรจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ!”

 

ปิงช่ายฉวนตะโกน

 

“เจ้ายังทุกข์ทรมานไม่พองั้นหรือ?” ราชันมังกรเย้ยหยัน

 

ปิงช่ายฉวนกันเสียงเย็น “เจ้าไม่มีวันเข้าใจความยิ่งใหญ่ของชายผู้นั้น!”

 

ห่างออกไป

 

“บึม!”

 

พังพอนหางสุนัขเหมาหลีชิวกลายเป็นควันและหายตัวไปจากที่เกิดเหตุ

 

“ในที่สุดเราก็สามารถกําจัดร่างแยกสมบูรณ์!”

 

“มันคู่ควรกับเป็นท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์”

 

“ที่นี่คือวังสวรรค์ ด้วยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกฏสี่คน เราสามารถถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะร่างแยกสมบูรณ์ได้ในที่สุด”

 

พังพอนหางสุนัขใช้ท่าไม้ตายอมตะร่างแยกสมบูรณ์ต่อสู้กับสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานสองตัวของวังสวรรค์

 

โชคดีที่ผู้อมตะของวังสวรรค์ที่ตื่นขึ้นช่วยทําลายท่าไม้ตายนี้

 

“เข้ามาสู้กับข้าอีกครั้ง!”

 

“เจ้าหมาน้อย เจ้าทําให้ขนของข้าหลุดออกเกือบหมด!”

 

พยัคฆ์ปีศาจและกระเรียนหยกเขียวรวมถึงกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์ปิดล้อมพังพอนหางสุนัข เหมาหลี่ชิว

 

แม้เหมาหลี่ชิวจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่สามารถต่อต้านศัตรูจํานวนมากพร้อมกัน ในไม่ช้ามันก็ได้รับบาดเจ็บ

 

สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานทั้งสองไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเช่นกัน

 

“เจ้าบ้านไม่กลัวตาย!”

 

“แม้มันจะตาย มันก็อาจกัดเนื้อของข้าออกไปในการโจมตีครั้งสุดท้าย”

 

พยัคฆ์ปีศาจตะโกน “เหล่าหลีชิว เหตุใดเจ้าต้องสละชีวิตเพื่อเทพอมตะตะวันเดือด? เขาเลี้ยงดูเจ้าเพราะความสามารถโดยกําเนิดของเจ้าและต้องการฆ่าเจ้าเพื่อยืดอายุของเขา!”

 

“แล้วอย่างไร?” เหมาหลีชิวหัวเราะ

 

ความทรงจําผุดขึ้นในใจของมัน

 

บนภูเขาท่ามกลางอาทิตย์อัศดง เหมาหลีชิวขดตัวเหมือนลูกสุนัขอยู่ข้างเท้าของเทพอมตะตะวันเดือด

 

เทพอมตะตะวันเดือดลูบศีรษะของมัน

 

อายุขัยของเทพอมตะตะวันเดือดใกล้สิ้นสุดแล้ว เขาอาจต้องการฆ่ามันเพื่อยืดอายุขัยของเขา

 

แต่เหมาหลีชิวไม่กล้าต่อต้าน มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพอมตะตะวันเดือด

 

“อย่ากลัว เหมาหลี่ชิว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเพื่อยืดอายุขัยของข้า” เทพอมตะตะวันเดือดหัวเราะ

 

ร่างของเหมาหลีชิวกลายเป็นแข็งค้าง

 

เทพอมตะตะวันเดือดมองท้องฟ้ายามเย็นและกล่าว “ข้ายังจําวันแรกที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่ได้ดี ฮ่าฮ่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เจ้าเติบโตขึ้นแล้ว”

 

“กล่าวตามตรง ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นเหมือนบุตรชายของข้า”

 

“ในฐานะบิดา ข้าจะทําร้ายบุตรชายของตนเองได้อย่างไร?”

 

เหลาหลีชิวรู้ว่าเทพอมตะตะวันเดือดไม่ได้โกหกเพราะเขาไม่มีความจําเป็นต้องโกหก

 

เหมาหลีชิวถามด้วยความงุนงง “แต่นายท่าน ท่านสามารถยืดอายุขัยด้วยการฆ่าข้า”

 

“ยืดอายุสั้นหรือ?” เทพอมตะตะวันเดือดหัวเราะ “มันเป็นเพียงการยื้อเวลาเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น สุดท้ายทุกคนก็ต้องตาย”

 

เขาส่ายศีรษะ “การมีชีวิตอยู่ภายใต้โชคชะตาจะมีความหมายใด? ความตายไม่ใช่เรื่องยากที่จะยอมรับ”

 

“นายท่าน…”

 

“สัญญากับข้าว่าเจ้าจะใช้ชีวิตต่อไปให้ดี ทําในสิ่งที่เจ้าชอบ ข้าจะไม่ออกคําสั่งใดๆกับเจ้า จงเป็นตัวของเจ้าเองและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

 

“นายท่าน…”

 

ความทรงจําของเหมาหลีชิวจบลง

 

มันกวาดตามองศัตรูทั้งหมดก่อนจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “นายท่าน แม้ข้าจะตาย ข้าก็จะตอบแทนความเมตตาของนายท่าน!”

 

“มันตัดสินใจที่จะตาย!”

 

“ถูกต้อง มันกําลังจะต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย!”

 

“ระวังการโจมตีครั้งสุดท้ายของมัน!”

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรค์แสดงออกอย่างเย็นชา

 

สวรรค์สีดํา

 

วังสวรรค์แห่งโชค

 

ผีดิบอมตะตะวันเดือดนั่งไขว้

 

ฉากการต่อสู้ในวังสวรรค์สะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา

 

ใบหน้าของเขาไม่แสดงความโศกเศร้าหรือปิติขณะที่เขายกมือขวาขึ้นอย่างช้าๆ