บทที่ 641 คุณไม่นึกถึงภรรยากับลูกๆของคุณบ้างเหรอ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 641 คุณไม่นึกถึงภรรยากับลูกๆของคุณบ้างเหรอ?
“พวกคุณแม้แต่คนของตัวเองยังกล้าทำร้ายได้ลงคอ เพราะอะไรผมถึงต้องเชื่อคุณ คุณเอาร่างของเธอกลับไป จะทำพิธีฝังศพให้เธออย่างนั้นเหรอ”

“แสนรัก!!”

ในที่สุดม็อกกาก็ถูกคำพูดนี้เย้ยหยันจนหมดความอดทนลง

“ผมจะบอกคุณนะ ภารานินคนนี้ คุณต้องให้มา ไม่ให้ก็ต้องให้ นี่เป็นเรื่องของตระกูลเทวเทพ ผมปรามคุณไว้ก่อนดีที่สุดคืออย่ายื่นมือเข้ามา”

คำพูดสุดท้ายของเขา เต็มไปด้วยสัญญาณการเตือน ภายในดวงตา มองเห็นความอาฆาตได้อย่างชัดเจน

น่าเสียดาย ตอนนี้เขาคงไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าของเขานี้ เดิมทีเขาไม่ได้นามสกุลหิรัญชา

เขาเองก็นามสกุลเทวเทพ เป็นผู้สืบสกุลของอารองของเขา ยิ่งเป็นทุกอย่างของภารานิน สุดท้ายต้องใช้ชีวิตเพื่อแลกกับลูกชายแท้ๆ!

“งั้นผมก็จะบอกคุณเหมือนกัน ม็อกกา ภารานินเป็นคนในครอบครัวของผม ขอแค่ผมแสนรักยังมีชีวิตอยู่ คุณอย่าคิดที่จะพาตัวเธอไป ไม่งั้น คุณลองดูสิ”

น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง ใบหน้าอันหล่อเหลานั้น แฝงไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

แต่ว่า น้ำเสียงนี้ไพเราะขนาดไหน ยิ่งทำให้คนหวาดกลัวขนาดนั้น รอยยิ้มสดใสขนาดไหน ภายในนั้นแอบแฝงด้วยแรงอาฆาตขนาดนั้น แม้แต่ขนหัว ยังลุกขึ้นมา

ม็อกกาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!

เขาทั้งตกใจทั้งโกรธจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่ไม่ได้ไว้หน้าเขาสักนิดคนนี้ มีอะไรเข้ามากระทบจิตใจจึงเหมือนที่เคยเป็น หยิบปืนบนร่างกายออกมาแล้วเล็งไปที่เขา

แต่ว่า ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากครั้งนี้เขามองเห็นดวงตาทั้งสองที่เหมือนปีศาจของเขา ภายในใจเกิดความกลัวขึ้นมา ปืนนั้น ยิงไม่ออกแล้ว

“แสนรัก ปะทะกับตระกูลเทวเทพ ไม่มีข้อดีอะไรเลย คุณอย่าลืมว่าคุณยังมีลูกและภรรยา”

“ทำไมเหรอ ตระกูลทหารที่สูงสง่า สุดท้ายจะใช้กลอุบายดังกล่าวเพื่อบังคับให้ผมยอมจำนนอย่างนั้นหรือ”ชายหนุ่มหรี่ตาลงในทันใด รัศมีแห่งความน่ากลัวแผ่ออกมาอย่างรุนแรง

ม็อกกายิ้มออกมา

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ตระกูลเทวเทพของพวกเราเป็นราชวงศ์ที่มีความซื่อตรงและมีอำนาจสง่างาม แต่ว่าก็มีบ้างเพื่อปกป้องผลประโยชน์จำเป็นต้องลงแรง จึงเชิญคนบางคนไปที่บ้านของพวกเราเพื่อดื่มน้ำชา ก็มีอยู่บ่อยครั้ง”

“……”

“แสนรัก ผมแนะนำให้คุณตระหนักถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ แต่ว่า สุดท้ายคุณก็เป็นแค่ประชาชน แต่ตระกูลเทวเทพของพวกเราเป็นข้าราชการ มีอำนาจ คุณคิดว่าจะสามารถต่อสู้ชนะพวกเราได้อย่างนั้นเหรอ”

ม็อกกาคนนี้ สุดท้ายในประโยคนั้นพูดออกมาอย่างหมดเปลือก

ประชาชน สู้ไม่ชนะข้าราชการจริงๆ

นี่เป็นคำพูดที่มีแต่เดิมมาเป็นพันปี แต่นั่นก็เป็นเรื่องของพันปี

แต่ว่า เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน น้ำสามารถรองรับเรือได้แต่ก็สามารถทำให้พลิกคว่ำได้ ตั้งแต่เดิมมา ประชาชนเพื่อชาติ ชาติถึงจะสงบร่มเย็น ไม่มีประชาชน? จะมีพวกเขาตระกูลทหารผู้สูงสง่าในวันนี้ได้อย่างไร?

“ดี งั้นคุณลองดูสิ คุณเชื่อหรือไม่ ผมลงแรงสักหน่อย ก็ทำให้ตระกูลเทวเทพของพวกคุณล่มสลายหายไปจากบนโลกใบนี้แล้ว”

แสนรักก็ยิ้มออกมาแล้ว

เขาพิงไปที่พนักพิงของเก้าอี้ด้านในอย่างสบายๆ ไม่ได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย ในตอนนี้เขาสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก แม้แต่ในมือยังถือปากกาเล่น ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรสักนิด

ม็อกกาโมโหขึ้นมาอย่างมาก!

“ดี แสนรัก คุณคอยดูก็แล้วกัน!”หลังจากนั้น เขาเดินออกไปอย่างโกรธจัด

เคมีที่รออยู่ด้านนอกตลอด ได้เห็นว่าในที่สุดคนคนนี้ก็ออกไปแล้ว ทันใด เขาที่อยู่ด้านนอกจึงรีบวิ่งเข้ามา

“ท่านประธาน เป็นยังไงบ้าง เขาพูดอะไรกับคุณบ้าง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”

เขากลัวมากว่าBOSSใหญ่คนนี้จะถูกทำร้าย

แต่ความจริงแล้ว……

“ปัง——”

เสียงดังมากเสียงหนึ่งดังมาจากในออฟฟิศ ชายหนุ่มคนนี้ ในช่วงพริบตาเดียว พังสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะลงมากระจัดกระจาย!!

“เขาคิดว่าตระกูลเทวเทพเป็นใคร เป็นผู้ปกครองโลกใบนี้หรือ ถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้ ห๋า”

ในที่สุดเขาก็ระเบิดอารมณ์ทั้งหมดออกมา หลังจากนั้นตะโกนออกมา ทั้งออฟฟิศดังก้องวังวานขึ้นมา!

เขาอดทนเอาไว้จนถึงที่สุดแล้ว

ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ตระกูลทหารที่รับผิดชอบปกป้องประเทศชาติ กลับเป็นอย่างนี้

เอาอำนาจรัฐวางไว้ในปาก ใช้มาเป็นเครื่องมือในการทำเรื่องชั่วช้าของพวกเขา พวกเขาเอามาใช้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการมา เอามาใช้กำจัดสิ่งที่กีดขวางทางของพวกเขาทุกอย่าง

อีกทั้งยังพูดออกมาต่อหน้าเขา ว่า“ประชาชนไม่มีทางต่อสู้ชนะข้าราชการ”!

มิน่าล่ะบิดาของเขาถึงได้เสียไป

มิน่าล่ะเขาถึงยินยอมที่จะแต่งงานกับแม่ของเขา ไม่ยอมฟังในสิ่งที่ตระกูลของเขาได้วางเอาไว้!

เดิมที นั่นเป็นสถานที่ชั่วร้ายและมืดมนอย่างมาก

“ผมจะบอกคุณนะ ต้องมีสักวัน ผมจะเอาพวกเขาตระกูลเทวเทพมาเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าของผม ให้พวกเขามาคุกเข่าลงกับพื้นให้กับคนเหล่านั้นที่ถูกพวกเขาทารุณจนเสียชีวิต คารวะรับผิดซะ!!”

หลังจากที่พังโต๊ะลงมา ชายหนุ่มที่ถูกทำให้โมโหอย่างขีดสุด และก็ยังถูกเยาะเย้ยด้วย สัญญาออกมาทีละคำพร้อมทั้งตบโต๊ะไปด้วย

รวมทั้งพ่อแม่ของเขา

เคมีถือว่าฟังเข้าใจแล้ว ทันใด ภายในใจของเขาก็เกิดความกังวลขึ้นมา

“ท่านประธาน งั้นอย่างงี้ก็พูดได้ว่า คุณกับเขาเจรจาจนแตกหักไปแล้วงั้นเหรอ”

“คุณยังคิดว่าจะเจรจากับผมได้เหรอ”

“ไม่ใช่ ผมแค่อยากจะเตือนสติคุณ ถ้าเจรจาแตกหักไปแล้ว งั้นคุณผู้หญิงกับคุณหนูพวกเขาจะทำอย่างไร เมื่อกี้ผมเหมือนจะได้ยินตอนที่เขาอยู่ด้านในข่มขู่คุณเรื่องนี้ งั้น……ในที่สุดก็มาถึงจุดนี้แล้วเหรอ”

เคมีเตือนสติออกไปอย่างระมัดระวัง

ปรากฏว่า คำพูดนี้พูดออกไป สีหน้าของชายหนุ่มคนนี้ยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม

แต่ว่า เขาไม่ได้เสียการควบคุมไป แต่เหมือนจุดประกายอะไรสักอย่างขึ้นมา หลังจากนั้นเขาเดินไปที่ด้านหน้าของหน้าต่างบานใหญ่บานหนึ่ง