ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 579 คนที่ข้าสู้ด้วยก็คือผู้สูงส่งจากโลกเบื้องบน!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หวงซวี่ เจ้าสำนักคนปัจจุบันของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ถูกเยี่ยนจ้าวเกอสังหารนอกเขากว่างเฉิงด้วยหนึ่งฝ่ามือ!

จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ ต่างนิ่งอึ้งเป็นไก่ไม้

แม้แต่พวกจางคุนและเหอหนิงแห่งเขากว่างเฉิงก็ยังเหม่อลอยไปชั่วขณะ

ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอปรากฏตัว คนในเขากว่างเฉิงต่างมีความรู้สึกซับซ้อน

ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะเหมือนกับบุตรรัก ทว่าเมื่อยอดฝีมือของสำนักแสงสว่างมายังเขากว่างเฉิงเพราะชายหนุ่ม ก็เหมือนกับเขานำพาภัยพิบัติมาสู่เขากว่างเฉิง

ทว่าในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอปรากฏตัวขึ้นมาจริงๆ แม้ว่าเสียใจที่โทษเขา และยินดีที่เขาปลอดภัยจากการผนึกทะเละตะวันออกก่อนหน้านี้ แต่ทุกคนก็ยังเป็นห่วงเขาอย่างอดไม่ได้

ถึงอย่างไรศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าก็แข็งแกร่งเกินไป ก่อให้เกิดสภาวะบดขยี้ต่อฝั่งตนโดยสิ้นเชิง

เหอหนิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนแรกเตรียมจะมอบเสื้อคลุมนภาให้จางคุน เพื่อให้ลงมือช่วยเหลือเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่ตอนนี้พวกผู้อาวุโสในเขากว่างเฉิงทั้งหมดต่างตกอยู่ในความงุนงง

มองเยี่ยนจ้าวเกอรับมือหยางจ่านหัวและผู้เซิน สองยอดฝีมือ…

มองเยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบองไม้ไผ่แท่งหนึ่งกดดันจนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขวานจามสวรรค์รับมือไม่ไหว…

มองเยี่ยนจ้าวเกอสังหารเจ้าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์หวงซวี่ในฝ่ามือเดียว

แม้ว่าเขากว่างเฉิงกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะเป็นศัตรูคู่อาฆาต แต่เมื่อเห็นเจ้าสำนักของอีกฝ่ายถูกเยี่ยนจ้าวเกอฟาดศีรษะแหลก พวกจางคุนยังขนลุกไปทั่วกายไม่ได้

ถ้าหากเป็นเยี่ยนตี๋หรือหยวนเจิ้งเฟิงยังพอทำเนา ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับสังหารหวงซวี่ได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้คนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์งงงวยเท่านั้น แม้แต่คนในเขากว่างเฉิงเองก็รู้สึกว่าโลกคล้ายกับกลายเป็นไม่จริงขึ้นมา

โดยเฉพาะหวงซวี่ที่ยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขวานจามสวรรค์อยู่ในมือ แต่กลับไม่อาจใช้ประโยชน์ใดๆ ได้

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดหวงซวี่ตายในฝ่ามือเดียว สีหน้าของเขากลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ทั้งยังสั่นกระบองไม้ไผ่ในมือครั้งหนึ่ง ทำให้ขวานจามสวรรค์หลุดจากการควบคุมของหวงซวี่ หล่นลงสู่มือของเขา

แสงสีดำซัดสาดมีการขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

ผู่เจี๋ยสีหน้ากลายเป็นเขียวคล้ำ

ถึงแม้หวงซวี่จะเป็นถึงเจ้าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ แต่เขากลับไม่สนใจความเป็นความตายของอีกฝ่าย

กระนั้นหวงซวี่มายังเขากวางเฉิงโดยร่วมทางกับเขาและหยางจ่านหัว สุดท้ายคนของเขากว่างเฉิงกลับสังหารหวงซวี่ต่อหน้าเขา นี่จะไม่ทำให้ผู่เจี๋ยไม่รู้สึกอับอายได้อย่างไร?

แต่ว่าในตอนนี้เขากำลังเผชิญกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองเช่นเดียวกัน แต่กลับมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เกราะเหมันต์ทระนง ทั้งยังมีหอกเกล็ดมังกรอยู่ในมือ ทำให้เขาไม่อาจช่วยเหลือหวงซวี่ได้ ได้แต่มองเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าหวงซวี่และชิงขวานจามสวรรค์ไปตาปริบๆ

สิ่งที่ทำให้ผู่เจี๋ยอับอายยิ่งกว่าก็คือ ตอนนี้เขายังเอาตัวเองไม่รอด!

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแทงหอกอย่างดุดัน ทำลายประกายกระบี่ของผู่เจี๋ยเป็นชิ้นๆ เขาพยายามหลบหลีก ทว่าก็ยังคงได้รับบาดเจ็บ เลือดกระจายเต็มฟ้า

และในตอนนี้ วังฝูงมังกรกำลังสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง แสงสว่างรูปร่างมังกรมากมายที่กระจายออกมาค่อยๆ เริ่มแตกสลาย

เงาร่างที่เปล่งแสงเจิดจ้าดิ้นหลุดออกมาจากการสะกดของวังฝูงมังกร!

ผู่เจี๋ยยินดี ในที่สุดหยางจ่านหัวก็เป็นอิสระแล้ว!

บนมือของหยางจ่านหัวมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์มงกุฎตะวันฟ้าสาง สามารถต่อสู้กับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกและเกราะเหมันต์ทระนงได้

สิ่งที่น่ากริ่งเกรงเพียงอย่างเดียวก็คือ ไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าอันแปลกประหลาดของเยี่ยนจ้าวเกอ

ผู่เจี๋ยเพิ่งคิดจะเตือนหยางจ่านหัว แต่กลับเห็นร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกควงหอก ร่างถอยหลังโดยไม่บุกต่อ

ไม่ใช่เพราะร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกหวาดกลัว มันแทบจะเป็นลำแสง เร็วจนคนอื่นมองไม่ทัน เข้าไปใกล้หยางจ่านหัวและวังฝูงมังกรในชั่วพริบตา

ผู่เจี๋ยเสียเปรียบอยู่แล้ว ความเร็วยังสู้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ได้ จึงไม่อาจขัดขวาง ได้แต่ตะโกนว่า “จ่านหัวระวัง!”

หยางจ่านหัวเพิ่งจะพุ่งออกมาจากการสะกดของวังฝูงมังกรได้ไม่ทันไร อีกทั้งปราณมังกรหลายสายตรงหน้ายังไม่ทันสลาย เขาก็รู้สึกว่าด้านหน้าพร่าเลือน

คมหอกอันบ้าคลั่งเข้ามาใกล้เขาในชั่วอึดใจ!

หยางจ่านหัวไม่ทันหลบ ได้แต่กระตุ้นพลังของวิชารัศมีสาดส่องของตัวเองจนถึงขีดสุด ประสานกับพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์มงกุฎตะวันฟ้าสางบนศีรษะ ใช้วรยุทธ์สายตรงของสำนักแสงสว่าง ที่เรียกว่าร่างนิภาไม่อับแสงอย่างเต็มกำลัง

เหมือนกับแสงสว่างสาดส่อง คงอยู่ชั่วนิรันดร์ แสงอันเจิดจ้ารวมกับร่างของหยางจ่านหัว ทำให้เขาเหมือนกับกลายเป็นมนุษย์แสง

พลังป้องกันอันแข็งแกร่งต้านทานการโจมตีของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ทำให้หอกของมันไม่อาจแทงทะลุแสงวิเศษคุ้มกายของเขาได้

ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ร่างกายของหยางจ่านหัวก็ยังถอยหลัง ถูกฟาดกระเด็นออกไป

ที่ด้านหลังเขา ประตูวังฝูงมังกรเปิดออกเหมือนกับมังกรยักษ์อ้าปาก กลืนเขาในคำเดียว

จากนั้นประตูก็ปิดดังเปรี้ยงเหมือนกับมังกรยักษ์หุบปากอย่างไรอย่างนั้น

หยางจ่านหัวที่เปล่งแสงเจิดจ้าเมื่อก่อนหน้าหายไปในชั่วอึดใจ ติดอยู่ในวังฝูงมังกรอีกครั้ง

จุดสูงสุดและต่ำสุดของชีวิตคนเร็วเกินไปจริงๆ จิตใจที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงเพราะหยางจ่านหัวเป็นอิสระ บัดนี้พลันตึงเขม็งขึ้นอีกครั้ง

ผู่เจี๋ยเห็นร่างแยกสมทุรสุดขอบโลกไม่ได้ไล่ตามเข้าไปในวังฝูงมังกร กลับหมุนกายเล็งหอกมาที่เขาอีกครั้ง เข่นฆ่าเข้ามาชั่วเวลาสายฟ้าแลบ!

เขาที่ใช้หมัดเปล่าได้แต่พึ่งพลังฝึกปรือของตัวเอง เผชิญกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่บรรจุอาวุธเต็มอัตรา พลันเจออันตรายรอบด้าน รับมือเป็นพัลวัน

‘หวังว่าพวกผู้อาวุโสเติ้งจะยังอยู่ที่ปฐพีพิภพนั่น หากยังไปไม่ไปถึงทะเลตะวันออก ก็น่าจะรีบมาที่นี่ได้ทัน!’ ผู่เจี๋ยแค่นเสียง ใจกลางฝ่ามือพลันปรากฏหยกแขวน ใช้แรงบี้ทำลาย

ในตอนนี้เอง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสาวเท้ามาเบื้องหน้า และแทงหอกใส่เขา

ผู่เจี๋ยฝืนหลบ แต่ว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเร็วดุจสายฟ้า ก้าวออกมาหนึ่งก้าว ย่นระยะห่างระหว่างทั้งสอง จากนั้นก็ขวางหอก ฟาดใส่อกของผู่เจี๋ย

อีกฝ่ายกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ละทิ้งโอกาส มือขวากำด้ามหอก มือซ้ายยืดออกเหมือนสายฟ้าแลบ ใช้กระบวนท่ากรงเล็บเทพคุนเผิงจับแขนของผู่เจี๋ย ไม่ให้เขาได้ถอย

จากนั้นมือขวาก็กำหอกกลับด้าน หัวหอกแทงเข้าทรวงอก

ผู่เจี๋ยไม่ได้มองร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก เพียงถลึงมองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ไกลออกไป “เด็กน้อย ฝีมือเจ้าโหดเหี้ยมนัก!”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเรียบเฉย “กล่าวเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้ จะมีความหมายหรือ?”

มุมปากของผู่เจี๋ยมีเลือดไหลออกมา “ตอนแรกเพียงตามหาเจ้าเพื่อคิดถามที่อยู่ของของวิเศษที่ใช้สะกดร่องแยกนพยมโลกในปฐพีพิภพบนโลกแห่งนี้เท่านั้น แต่ตอนนี้เจ้าหาที่ตายแล้ว เจ้า และสำนักที่อยู่เบื้องหลังเจ้าจะต้องพินาศ!”

ชายหนุ่มมีสีหน้าสงบนิ่ง “อ้อ ของวิเศษชิ้นนั้นที่พวกท่านตามหาอยู่ที่ข้านี่เอง แต่ข้าไม่คิดให้พวกท่านหรอก”

ผู่เจี๋ยเบิกตาโพลง “เจ้ากล้า…”

“ถ้าหากทุกคนแลกเปลี่ยนอย่างเสมอภาค แต่ดูจากท่าทีของพวกท่านแล้ว ข้อแรกพวกท่านไม่คิดว่าพวกเราเท่ากัน ข้อสองพวกท่านไม่คิดจะแลกเปลี่ยนกัน กลับกัน ข้ายังสงสัยว่าพวกท่านมีสิ่งของที่มีค่ามากกว่าของวิเศษชิ้นนี้หรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน

“เด็กน้อย เจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเกินไปแล้ว มีของวิเศษบางอย่างที่เจ้าไม่อาจควบคุมและครอบครอง ของวิเศษชิ้นนั้นไม่ใช่สิ่งที่โลกของพวกเจ้าจะเก็บรักษาไว้ได้ เจ้าเก็บไว้ติดตัวรังแต่นำหายนะมาสู่ตัวเอง!” ผู่เจี๋ยกล่าว พลางจ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอ

“มอบให้สำนักแสงสว่างเสีย แล้วสำนักแสงสว่างจะไม่เอาเปรียบเจ้า นี่เป็นทางออกเดียวของเจ้าแล้ว!”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ท่านลองดู สุดท้ายก็ยังต้องลงมืออยู่ดี ข้าบอกว่าข้าคิดเก็บไว้ พวกท่านเหมือนไม่ต้องการละทิ้ง ยังคงคิดแย่งชิง”

“พวกท่านต้องการแย่ง ข้าไม่ต้องการมอบให้พวกท่าน เช่นนั้นทำอย่างไร? ก็ได้แต่สู้เท่านั้น”

“เหอะๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างเรียบเฉย “ผู้สูงส่งจากโลกเบื้องบน? คนที่ข้าสู้ด้วยก็คือผู้สูงส่งจากโลกเบื้องบนอย่างพวกท่าน”

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้พลังอย่างเหี้ยมหาญ

ผู่เจี๋ยถลึงตวาดขึ้น “เจ้า…”

เสียงยังไม่ทันขาดลง พลังอันยิ่งใหญ่ของเผิงคุณก็แหวกอกของเขาออกทันที!