จังหวะ

 

ระดับของจ้าวจิ้นหรานในปัจจุบันมีสกิลของฮีโร่เยอะมาก ๆ ที่ยังไม่คุ้นเคย แน่นอนว่าย่อมดูไม่ออกสักนิดว่าการเล่นของเหออวี้เมื่อครู่นี้ต้องคำนวณถึงสกิลฮีโร่และหลักการมากมายก่อนจะตัดสินใจและปฏิบัติได้ ถึงแม้ว่าคนพูดจะเป็นโจวม่อเขาก็ยังกังขา หลังจากอธิบายรายละเอียดยิบย่อยให้ฟังแล้วก็ยังคงงงงวย สุดท้ายยิ่งสงสัยหนักกว่าเดิมอีก “เหออวี้ไม่ใช่แค่ platinum ปะ”

ในความคิดของเขาความแข็งแกร่งของทุก ๆ คนในคลื่น 7 นั้น เกาเกอและโจวม่อย่อมต้องแกร่งกว่าเขา ส่วนเขาก็เหนือกว่าเหออวี้ เขาเป็นถึง diamond ในโหมดจัดอันดับซึ่งถือว่าเป็นโหมดที่เป็นทางการที่สุด platinum เทียบชั้นไม่ได้เลย แต่ตอนนี้เหออวี้กลับสามารถทำในสิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจได้เลย นี่ทำลายระบบเทียบชั้นความแข็งแกร่งที่เขาเคยเชื่อหมดใจไปจนสิ้น

“ถึงเหออวี้จะเพิ่งเล่นเกมได้ไม่นาน แต่ว่าเขาสนใจเกี่ยวกับ The Kings of Glory มานานมากแล้ว ดังนั้นก็เลยเข้าใจมากกว่าหน่อย” โจวม่อยังคงอธิบายให้จ้าวจิ้นหรานฟังอย่างอดทน

“อ้อ” ในใจจ้าวจิ้นหรานวุ่นวายสับสน มีเพียงตอนนี้ถึงรู้ว่าตัวเองอยู่บ๊วยสุดของคลื่น 7 เขาอดหันไปเหลือบมองม่อเซี่ยนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่ได้ แล้วก็หันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว เจ้าแรงค์ conqueror คนใหม่นี่ยังมีดาวมากกว่าเกาเกอกับโจวม่อหลายสิบดาวด้วยซ้ำ อย่าไปเอาเจ้านี่มาเป็นตัวเปรียบเทียบดีกว่า!

เหออวี้ตั้งสมาธิอยู่กับเกม สองหูไม่ได้ยินบทสนทนาข้างกายสักนิด หลังจากเก็บคิลของกงซุนหลีไปได้แล้ว เหออวี้ก็ส่งสัญญาณไปที่ป่าบัฟฟ้าของฝ่ายตรงข้าม ตอนนี้อีกฝ่ายโดนฆ่าตายไปสามคน ถือเป็นโอกาสที่ดีมากในการไปเวดป่าฝ่ายตรงข้ามเพื่อกดการเงินของอีกฝ่าย เขาเห็นว่าตอนนี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปวอแวกับซัพพอร์ตอย่างจางเฟยให้มากมายนัก

แต่ว่าจู้เจียอินตอนนี้ก็ได้แสดงนิสัยใจคอดั้งเดิมออกมาแล้ว มีคิลอยู่แค่ปลายนิ้วมือไหนเลยจะมีเหตุผลให้ปล่อยไปได้เล่า ไล่ตามจางเฟยไปฟันใส่อย่างดุเดือด จางเฟยเลเวลสามไม่มีทางสู้กับอาเคอที่มีค่าประสบการณ์เหนือกว่าได้ ทำได้เพียงรีบหนีเข้าไปใต้ป้อม เหออวี้ดูแล้ว นี่มันไม่ใช่ทางผ่านไปป่าบัฟฟ้าพอดีเลยหรือไง ก็เลยช่วยอาเคอทำดาเมจส่ง ๆ ไปสักหน่อย ผลก็คือลาสซ็อตสุดท้ายแล้วกลับตกลงมาที่ตัวเจงกิสข่าน เหออวี้วุ่นวายมาตลอดทั้งวันในที่สุดก็ได้แต้มคิลมาหนึ่งแล้ว

เปิดหน้าต่างฮีโร่ขึ้นมาดู กงซุนหลีของหลิวหลิวเดิมทีมีจังหวะการฟาร์มที่ราบรื่นสุด ๆ แต่ว่าหลังจากถูกฆ่ารอบนี้จังหวะก็พังหมดแล้ว อาเคอฝ่ายตัวเองหลังจากที่ได้สี่คิลกับหนึ่งแอสซิสมาการเงินก็พุ่งกระฉูดนำโด่งกว่าทุกคน เจงกิสข่านของเหออวี้อาศัยการแอสซิสบวกกับคิลเมื่อคู่นี้ทำให้มีการเงินดีกว่ากงซุนหลีอยู่หน่อย ๆ สำหรับเพื่อนร่วมทีมอีกสามคนของตัวเองเหออวี้ก็ขี้เกียจจะไปเหลือบดูพวกเขาแม้แต่แวบเดียวแล้ว

เข้าป่าบัฟฟ้าของอีกฝ่ายไปพร้อม ๆ กับอาเคอ ครีปป่าเกิดใหม่ไปก่อนหน้านี้แล้ว อาเคอที่ฆ่ากงซุนหลีจนได้บัพคู่ยกบัฟฟ้าให้เจงกิสข่านของเหออวี้ ตอนที่ทั้งสองคนกำลังรีบเร่งโจมตีป่า เหออวี้ก็เห็นอิ๋งเจิ้งกับไป๋ฉีเกิดใหม่มาทีละคน แล้วแต่ละคนก็เดินไปตามเลน

อิ๋งเจิ้งไม่มี Flicker

เหออวี้จำได้ว่าก่อนที่อิ๋งเจิ้งจะตายได้ Flicker ลงโลงไป สกิลอันแสนสำคัญนี้อยู่ในช่วงคูลดาวน์หรือไม่ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญมากในเวลาสู้รบ เหออวี้ที่เรียนรู้มาจากการแข่งขันอาชีพจับจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ตอนนี้เห็นตำแหน่งของอิ๋งเจิ้ง ทางหนึ่งก็ส่งตาเหยี่ยวออกไป อีกทางหนึ่งก็ส่งสัญญาณให้โจมตีอีกครั้ง!

ล้วงเข้าไปฆ่าในป้อม!

อิ๋งเจิ้งจะอย่างไรก็ไม่คิดว่าการโจมตีของอาเคอกับเจงกิสข่านจะเฉียบขาดขนาดนี้ กลับมาโจมตีเขาจากด้านหลังป้อมอย่างเหนือความคาดหมาย เจงกิสข่านเข้าไปในพุ่มที่อยู่ในระยะของป้อมทางด้านขวาก่อน พอออกมาทำดาเมจใส่อิ๋งเจิ้งได้หนึ่งรอบแล้วก็ถอนตัวออกจากระยะของป้อมทันที เงาร่างของอาเคอที่เปิดร่ายรำเหนือโลกดูเหมือนว่ายังรวดเร็วกว่าลูกศรของเจงกิสข่านอีก ในขณะที่ป้อมยิงใส่เจงกิสข่านก็เฉียดร่างผ่านไป ขยิบตาสะกดใจบวกกับแสงโค้งทิ้มใส่อิ๋งเจิ้งที่วิ่งหนีอย่างแตกตื่นและสังหารได้สำเร็จ

อาเคอที่คูลดาวน์ของสกิลถูกล้างหมดเปิดร่ายรำเหนือโลกอีกครั้งพุ่งออกจากป้อมไปในอีกด้านหนึ่ง ตลอดกระบวนการ เจงกิสข่านกับอาเคอเพียงแค่ถูกป้อมยิงไปคนละดอก หนึ่งคนถูกยิงหนึ่งครั้ง แต่ส่งอิ๋งเจิ้งกลับไปที่บ่อแล้ว

“โจมตีป้อมศัตรู!”

เหออวี้ส่งสัญญาณตามมาอีกครั้ง หลังจากทั้งสองคนเคลียร์ครีปเลนกลางแล้วก็นำครีปเข้าป้อม ตอนนี้สามนาทีผ่านไปแล้ว ป้อมไม่มีกลไกป้องกันตัว ทั้งสองคนนำครีปชุดนี้พังป้อมแรกของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นกงซุนหลีกับจางเฟยถึงได้เกิดใหม่ตาม ๆ กันแล้วมาสนับสนุน ทั้งสองคนเลือกล่าถอย รีบไปที่เลนล่าง

เดิมทีเลนล่างเป็นหน้าที่ของเหออวี้ เนื่องจากไปร่วมมือกับอาเคอก็เลยไม่ได้สนใจครีปมาสองชุดแล้ว เหล่าฟู่จื่อดันเลนอยู่คนเดียว ตอนนี้ก็ตีป้อมแรกที่เหออวี้ต้องป้องกันแตกไปแล้วและกำลังคืบหน้าต่อไป

เหออวี้ปล่อยนกเหยี่ยวให้อาเคอได้รับทราบตำแหน่งของเหล่าฟู่จื่อ สายลับเลนกลางตะโกนว่า “ไปจับเลนล่างแล้ว” แต่ก็ไร้ประโยชน์ ทั้งสองคนเดินไล่ตามรอยเท้าของเหล่าฟู่จื่อไป ตอนที่เหล่าฟู่จื่อได้รับคำเตือนก็รีบหันร่างกลับมา เจอกับทั้งสองคนพอดี

Flicker!

เหล่าฟู่จื่ออยู่ ๆ ก็ Flicker ไปข้างหน้า เมื่อถูกอีกฝ่ายตัดทางหนีไปเขาก็ไม่คิดแล้วว่าจะถอนตัวได้อย่างไร เตรียมที่จะแลกชีวิตกับอีกฝ่าย Flicker บวกกับท่าอัลติพลังแห่งปราชญ์ มัดได้คนไหนก็เอาคนนั้น

แต่ว่าเหออวี้มีความตระหนักรู้แค่ไหนกัน จู้เจียอินก็เป็นนักแคสฝีมือดี พอเห็นเหล่าฟู่จื่อจะไม่ระวังท่าอัลติของเขาได้เหรอ เมื่อเผชิญหน้ากัน เจงกิสข่านของเหออวี้ก็รีบถอยหลังสังเกตระยะทาง อาเคอของจู้เจียอินใช้สกิลสองขยิบตาสะกดใจถอยไปด้านข้างทันที

Flicker กับท่าอัลติของเหล่าฟู่จื่อก็ควบคุมได้อย่างลื่นไหลรวบเดียวจบ แสงตะเกียงส่องสว่างขึ้นมา แต่ว่าใต้ตะเกียงกลับไม่มีใครสักคนที่ถูกมัดเอาไว้ ไม้บรรทัดที่อยู่ในมือไม่รู้ว่าจะเอาไปสั่งสอนใครดีทันที สถานการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าขายหน้าที่สุดสำหรับฮีโร่ที่ต้องอาศัยท่าอัลติในการสร้างภัยคุกคามแล้ว : อัลติวืด

แล้วหลังจากนั้นก็คือการส่งมอบคิลออกมาอย่างไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นสักนิด

ทั้งสองคนถือโอกาสเคลียร์ครีปไปอีกชุดหนึ่ง ตาเหยี่ยวของเจงกิสข่านของเหออวี้ส่งทิศทางใหม่ออกมา : ป่าบัฟฟ้าฝ่ายตัวเอง!

หลังจากกงซุนหลีของหลิวหลิวเกิดใหม่แล้วในป่าของตัวเองไม่มีครีปป่าให้ฟาร์ม ด้านเลนกลางก็มีครีปให้กินแค่ตัวเดียว การคำนวณเวลาเกิดของป่าต่าง ๆ โดยเฉพาะบัฟถือได้ว่าเป็นสกิลพื้นฐานสำหรับนักแคสที่เชี่ยวชาญเกมนี้อย่างเธอ ตอนนี้รวมตัวกับจางเฟยตรงไปยังป่าบัฟฟ้าของพวกเหออวี้ และในเวลาเดียวกันก็ส่งสัญญาณออกมาเรียกให้เลนบนไป๋ฉีมาด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเธอก็ทราบชัดว่าอาเคอในขณะนี้มีการเงินที่ส่งผลคุกคามต่อตัวเธอเป็นอย่างมาก ถ้าปล่อยให้มีโอกาสก็อาจจะใช้คอมโบชุดเดียวส่งเธอกลับบ้านเก่าไปเลยก็ได้ ไม่ว่าจะวาร์ปหรือจางเฟยก็อาจจะมาปกป้องเธอไม่ทัน ยังคงใช้คนมากเพื่อความปลอดภัยดีกว่า

อีกฝ่ายมีเพื่อนร่วมทีม ส่วนฝ่ายตนไม่มีเพื่อนร่วมทีม มีแค่ตัวบาง ๆ สองตัว ถึงแม้ว่าการเงินจะนำไม่น้อย แต่ภายใต้สถานการณ์ที่อีกฝ่ายมีโล่มนุษย์ตัวหนาสองตัวป้องกันอยู่ การเงินเท่านี้ก็ไม่พอที่จะเล่นสองต่อสามให้สำเร็จ เหออวี้เห็นแล้วก็ได้แต่ปรับเปลี่ยนแผนการ เปลี่ยนไปจิ้มส่งสัญญาณที่พุ่มเลนกลางแทน

“ระวังโดนซุ่มโจมตีเลนกลาง” คราวนี้คนยังไม่ทันไป พอเห็นสัญญาณที่ส่งมา เลนกลางก้านเจี้ยงก็พูดออกมาแล้ว

“หมอนี่นี่มัน…” เหออวี้ส่ายหน้ารัว ๆ “พยายามกันตั้งขนาดนี้แล้วไม่ทำให้เขาสะเทือนใจบ้างเลยเหรอ”

“ไม่ใช่แค่เขาหรอก” เกาเกอกล่าว “สามคนนั้นก็ไม่สะเทือนใจกันหมดเลยใช่ไหม”

“หลิวหลิวทำไมไม่เตือนพวกเขาแล้วล่ะ” เหออวี้พูด

“ถามได้ดี” เกาเกอพูด

ซุ่มโจมตีเลนกลางคือการรอให้อีกฝ่ายเคลียร์ป่าบัฟฟ้าเสร็จแล้วแยกย้าย ไป๋ฉีน่าจะกลับไปที่เลนของเขา จากนั้นถ้ากงซุนหลีกับจางเฟยย้ายที่จะตรงนี้ไปจุดใด ๆ ก็อาจจะมีโอกาสสังหารกงซุนหลีอีกครั้ง การที่การซุ่มโจมตีถูกแฉออกมาอย่างนี้เป็นเรื่องจนใจ แต่เหออวี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแผนการ เจงกิสข่านเคลื่อนที่ไปยังเลนกลาง จู้เจียอินเห็นแล้วก็ตามไป ถึงแม้ว่าตอนนี้คนที่เป็นภัยคุกคามศัตรูที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นเธอ แต่ว่าเรื่องของจังหวะการเล่นกลับเป็นเจงกิสข่านที่เริ่มต้นและควบคุม จุดนี้จู้เจียอินยังทราบชัดอยู่

………………………………………………………