“ไม่ผิด!” จิวมั่วเหอจ้องมองเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ เอ่ยต่อว่า “ในเมื่อข้าวางแผนให้ร้ายเจ้าเพื่ออำนาจของตนเอง แต่ก็ต้องบอกว่าวันนี้ก็ถือว่าข้าช่วยเจ้า ทำให้เจ้าเห็นธาตุแท้ของราชาที่เจ้าจงรักภักดีว่าไร้คุณธรรมน้ำใจเพียงใด เจ้าคิดให้ดีเถอะว่า เจ้าจะกอดความภักดีโง่งมต่อราชาเช่นนี้ ทำให้คนตระกูลเจ้าตายตกกันทั้งหมด หรือว่าจะภักดีต่อข้าจิวมั่วเหอ รักษาชีวิตคนในครอบครัวเจ้าไว้!”
จิวมั่วเหอเอ่ยออกมาทีละคำให้เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ฟัง
เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ไม่อาจสะกดความเจ็บใจปนเศร้าโศกในหัวใจได้ น้ำตาบุรุษไหลลงมาอย่างสุดจะกลั้น ต่อให้ฝัน เขาก็ไม่คิดว่าราชาที่เขาจงรักภักดีจะเป็นคนไร้คุณธรรมน้ำใจถึงปานนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสั่งประหาร แม้แต่ตระกูลของเขาก็ยังไม่ยอมปล่อย ถึงกระทั่งบังคับขืนใจสตรีของตน
ส่วนคนที่เขาเห็นเป็นศัตรูชนิดไม่เจ้าตายข้าก็ม้วยมาโดยตลอด ถึงจะวางแผนให้ร้ายเขา แต่ก็ยินยอมมอบทางรอดให้กับเขา
เรื่องที่ทิ่มแทงคนมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องประมาณนี้แล้ว
เห็นเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ไม่เอ่ยวาจา จิวมั่วเหอก็เอ่ยต่ออีก “เชื่อว่าเจ้าคงเข้าใจ เทียบกับเขาแล้ว ข้าจิวมั่วเหอย่อมเป็นราชาที่ดีกว่า! ให้คิดถึงความสงบสุขของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ คิดถึงผลประโยชน์ของต้ามั่ว ท่านลองคิดดูให้ดีแล้วกัน ท่านยอมตายเพื่อคนแบบนี้ คุ้มค่าแล้วจริงหรือ”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เขาเห็นเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ก้มหน้าไม่ตอบ จิวมั่วเหอก็รู้แล้วว่าตัวเองจวนบรรลุเป้าหมายเต็มที
สุดท้ายเขาจึงเอ่ยว่า “แม่ทัพเฮ่อเหลียน ยังมีเวลาอีกสองวัน ท่านข่านก็จะประหารท่านแล้ว! ท่านยังมีเวลาใคร่ครวญอีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้จิวมั่วเหอจะมาใหม่ ถึงเวลานั้นท่านค่อยให้คำตอบข้าก็ยังไม่สาย!”
จิวมั่วเหอเอ่ย เตรียมจากไป
ในเวลานี้เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่พลันเงยหน้าขึ้นมองไปที่จิวมั่วเหอ จากนั้นเขาหลับตาลง น้ำตาพลันไหลอาบใบหน้าแล้ว ถือเป็นการสิ้นสุดความภักดีอย่างโง่เขลาในตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาของเขา เขาเอ่ยเสียงต่ำว่า “ไม่จำเป็นแล้ว!”
จิวมั่วเหอชะงักฝีเท้า
เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น คุกเข่าข้างเดียวเอ่ยกับจิวมั่วเหอ “เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ ยินดีจงรักภักดีต่อท่านข่านในภายหน้า!”
เมื่อเอ่ยจบ เขาก็โขกหัวลง
ทว่าในเวลานี้ เขาไม่เพียงไม่รู้สึกผิดอย่างที่คิด ซ้ำยังรู้สึกผ่อนคลายลงมาก ความจริงนับตั้งแต่แรก เขาก็เข้าใจดีว่าราชาต้ามั่วหาใช่นายเหนือหัวที่ดีอะไรนัก หลายปีที่เขาภักดีต่อคนผู้นี้ ไม่ใช่ว่าในใจจะไม่ขัดแย้ง
วันนี้เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ไร้ทางถอยกลับอีก
ต่อให้เขาเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเหลือทางรอดให้คนในตระกูลของตนเอง
ยิ่งกว่านั้นจิวมั่วเหอพูดถูก
อาศัยความสามารถของจิวมั่วเหอ ภายหน้าเขาย่อมทำอะไรได้มากกว่าราชาต้ามั่วองค์ปัจจุบันอย่างแน่นอน
จิวมั่วเหอหมุนตัวกลับมา
พยุงเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ขึ้น เอ่ยปากว่า “ในเมื่อข้าใส่ร้ายท่าน ข้าย่อมไม่ทวงบุญคุณจากท่าน ข้าจะช่วยท่านพาคนในตระกูลออกมา ทั้งยังช่วยท่านหนีออกจากคุก เพียงแต่หวังว่าคำพูดของแม่ทัพเฮ่อเหลียนจะเชื่อถือได้ อย่าได้คิดสั้น!”
เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่พลันตกตะลึงไป
คิดไม่ถึงว่าความคิดฆ่าตัวตายของเขา จิวมั่วเหอยังคาดเดาได้
ไม่ผิด เมื่อถูกบีบคั้นถึงขั้นนี้ เขาเคยมีความคิดที่จะตายให้จบสิ้นไป คิดไม่ถึงว่าคำพูดของจิวมั่วเหอ กลับทำให้เขาใจอ่อนลง
มาจนถึงวันนี้ คนที่ใส่ใจชีวิตของเขา ใส่ใจความตายของเขา กลับเป็นศัตรูทางการเมืองตลอดหลายปีของตน เรื่องนี้ช่างทิ่มแทงใจเหลือเกิน!
เขาก้มหน้าลง “แม่ทัพจิวมั่ววางใจเถอะ ข้าไม่รนหาที่ตายแน่! ทั้งยังพูดจริงทำจริง ยินยอมเป็นกำลังช่วยเหลือท่าน!”
“อย่างนั้นจิวมั่วเหอต้องขอบคุณแม่ทัพเฮ่อเหลียนแล้ว!”
จิวมั่วเหอพูดไป พลางประสานหมัดโค้งให้เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่อย่างเกรงอกเกรงใจ ท่าทางมีมารยาทเช่นนี้ ยิ่งทำให้เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่างจิวมั่วเหอและท่านข่าน
ยามนี้เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ตระหนักได้แล้วว่าการเลือกของตัวเองนั้นถูกต้อง
บางทีก่อนหน้านี้ก็สมควรเลือกทางนี้แล้ว!
……
จิวมั่วเหอเดินออกจากคุกด้วยอารมณ์เบิกบานไม่น้อย
ข้ารับใช้ถามเขา “ท่านแม่ทัพ ท่านเกลี้ยกล่อมเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ได้แล้วหรือ”
“อืม!” จิวมั่วเหอพยักหน้า “ต้องขอบคุณท่านข่านที่ช่วยเหลือข้า ข้าเดาได้แต่แรกแล้วว่าจากนิสัยไร้คุณธรรมของเขา หลังจากมั่นใจว่าเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่คิดก่อกบฏ ต้องมีคำสั่งให้ประหารเขาทั้งตระกูลแน่ เขายังมองออกนานแล้วว่าท่านข่านสนใจตัวอนุของเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ เพียงแต่เขาบีบให้สตรีนางนั้นตาย ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ!”
ข้ารับใช้อดใจไม่ไหว ถามขึ้นอีกประโยค “เป็นเช่นนี้จริงๆ คิดไม่ถึงว่าเรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ต้องให้ท่านลงมือทำอะไรเลย ท่านข่านปิดทางเดินของตัวเองจนหมดสิ้น! ยังดีที่ท่านข่านโง่งม ช่วยให้ท่านมีกำลังรบเพิ่มขึ้น!”
“เรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณเยี่ยเม่ยด้วย นางปล่อยเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่กลับมาให้ข้าต่อหน้าคนมากมายเช่นนั้น ไม่ง่ายเลยจริงๆ! เรื่องนี้ข้าติดค้างน้ำใจนาง” พูดถึงเยี่ยเม่ยแล้ว จิวมั่วเหออารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว
ข้ารับใช้ถามขึ้นอย่างอดใจไม่ไหวว่า “ท่านแม่ทัพ ท่านจะร่วมมือกับเยี่ยเม่ยต่อไปหรือไม่”
“แน่นอน!” จิวมั่วเหอมองเขา หัวเราะเบาๆ “นางเป็นคนที่คู่ควรจะร่วมมือด้วย อีกอย่างในโลกนี้บุรุษที่มีน่าเชื่อถืออย่างนางยังมีไม่มากด้วยซ้ำ ในเมื่อร่วมมือกันแล้วก็ต้องเชื่อใจถึงที่สุด ข้าต้องการให้เฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่กลับมาอย่างปลอดภัย นางยังไม่ถามก็ปล่อยคนแล้ว สตรีเช่นนี้ร่วมมือกับนาง ไว้ใจได้!”
“อย่างนั้นท่าน…” ข้ารับใช้ถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านร่วมมือกับลู่หวานหว่านกลับเตรียมบิดพลิ้ว อย่างนั้นท่านกับเยี่ยเม่ย…”
“ฮ่าฮ่า!” จิวมั่วเหอหัวเราะออกมาทันใด มองข้ารับใช้ “ร่วมมือกับคนแบบไหนก็ใช้ลูกไม้แบบนั้นแหละ อีกอย่างความเชื่อใจของลู่หวานหว่าน ข้าทรยศแล้วจะทำไม นางทำอะไรข้าไม่ได้ ส่วนความเชื่อใจของเยี่ยเม่ย ในโลกนี้คงไม่มีใครกล้าทรยศแน่! อย่างไรเสียเยี่ยเม่ยก็มีความสามารถ ค่าตอบแทนที่ทรยศนาง ไม่ใช่ใครก็แบกรับไหว!”
ข้ารับใช้คล้ายเข้าใจแล้ว จากนั้นก็เหมือนไม่เข้าใจอีก
สุดท้ายจิวมั่วเหอหัวเราะเอ่ยว่า “ความจริงก็ง่ายมาก ในโลกนี้ไม่ว่ายามไหน มีความสามารถเป็นวาจา เยี่ยเม่ยมีความสามารถ ดังนั้นไม่มีใครกล้าผิดคำพูดกับนางง่ายๆ ลู่หวานหว่านผู้ไร้สามารถ ดังนั้นก็เป็นแค่หมากให้คนเอาเปรียบเท่านั้น!”
ยามนี้ข้ารับใช้เข้าใจแล้ว
“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว !”
“ส่งข่าวให้เยี่ยเม่ยเถอะ บอกนางว่าครั้งนี้ข้าติดค้างนาง ให้นางจดเอาไว้ น้ำใจครั้งนี้มาทวงกับข้าได้ทุกเมื่อ!” จิวมั่วเหอสั่งการ “แล้วก็บอกให้นางเตรียมแผนขั้นต่อไปด้วย!”
“ขอรับ!”
……
ยามที่เยี่ยเม่ยได้รับจดหมายจากจิวมั่วเหอ ก็รู้สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่ทั้งหมด เหมือนกับการคาดเดาของเป่ยเฉินอี้ไม่ผิดเลย
อีกอย่าง จิวมั่วเหอก็ทำได้ด้วย!
เสี้ยวขณะนี้ นางยิ่งรับรู้ถึงความร้ายกาจของเป่ยเฉินอี้แล้ว เป่ยเฉินอี้เข้าใจสถานการณ์ในราชสำนักต้ามั่วมากกว่านาง ทั้งยังเข้าใจจิวมั่วเหอ ราชาต้ามั่วรวมถึงเฮ่อเหลียนเฮ่าเยว่มากกว่านางด้วย
เยี่ยเม่ยสูดลมหายใจลึกคำหนึ่ง นางยิ่งระมัดระวังมากขึ้น จากนั้นก็เรียกคนเข้ามา “ฟังคำสั่งข้า!”