บทที่ 1737 รากฐานของวังสวรรค์

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1737 รากฐานของวังสวรรค์

 

หลิวหลิวเข้าสู่สนามรบตั้งแต่แรก กลุ่มผู้อมตะภาคเหนือที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมเขาถูกกําจัดไปหมดแล้ว

 

การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงเกินไป ความตายของผู้อมตะระดับแปดกลายเป็นเรื่องธรรมดา

 

หลิวหลิวมีความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาสามารถสังหารผู้อมตะของวังสวรรค์อย่างน้อยแปดคน ด้วยประสบการณ์ เขาตระหนักว่าเทพธิดาจื่อเว่ยเป็นกุญแจสําคัญของการต่อสู้ครั้งนี้

 

เขาเตรียมตัวลอบโจมตีนางมานานแล้ว

 

ขนทั่วร่างของเทพธิดาจื่อเว่ยตั้งชันขึ้น นางรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตระหนักว่านางไม่สามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูแต่นางไม่มีเวลาที่จะใช้มาตรการอื่นๆ

 

ขณะที่นางกําลังจะตาย ผู้อมตะของวังสวรรค์ผู้หนึ่งกลับพุ่งมาจากด้านข้าง

 

มันคืออู๋ซวงที่ช่วยสนับสนุนราชันมังกรก่อนหน้านี้

 

ด้วยการขัดจังหวะของอู๋ซวง มีดสีเทาของหลิวหลิวพลาดจุดตายของเทพธิดาจื่อเว่ย มันแทงเข้าไปที่ไหล่ของนาง

 

“บัดซบ! ชายผู้นี้ขัดขวางการโจมตีของข้า!” หลิวหลิวรีบเร้นกายและหายตัวไปอีกครั้ง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อู๋ซวงเสียชีวิต

 

หลิวหลิวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

 

“บึม!”

 

ราชันมังกรถูกส่งลอยกลับหลังไปหลายร้อยก้าว

 

เขาสามารถป้องกันการโจมตีของความสิ้นหวังทั้งเจ็ดแต่เขาก็ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล เช่นกัน

 

มือของเขากลายเป็นไร้เรี่ยวแรง เกล็ดมังกรบนหน้าอกของเขาถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์ขณะที่เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ราชันมังกรเร่งรักษาตัวเอง แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดที่อยู่บนมือของเขาหนาแน่นมากและขัดขางการรักษาของเขา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ราชันมังกร เจ้าถูกโจมตีโดยอสรพิษทมิฬกลืนกินชีวิต ต้องการรักษาอาการบาดเจ็บได้ในระยะเวลาสั้นๆงั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!” เสียงเย้ยหยันดังมาจากภายในยักษ์ทองคํา 

 

แท่นบูชาแห่งโชคเร่งโจมตีราชันมังกร

 

กรงทรงกลมสีทองกักขังราชันมังกรเอาไว้ภายใน มันหดเล็กลงและบีบอัดราชันมังกรอย่างต่อเนื่อง

 

ปิงช่ายฉวนถอนหายใจเมื่อเห็นราชันมังกรถูกจับกุม

 

ความเร็วของราชันมังกรน่าตกใจเกินไปขณะที่แท่นบูชาแห่งโชคค่อนข้างช้า

 

โชคดีที่ผู้อมตะภาคเหนือเชี่ยวชาญในการต่อสู้ พวกเขาสามารถสังเกตเห็นจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมมือระหว่างแท่นบูชาแห่งโชคและความสิ้นหวังทั้งเจ็ด พวกเขาจึงสามารถสร้างโอกาสโจมตีศัตรู

 

“แค่ก!”

 

เขามังกรของราชันมังกรแตกหัก

 

ขนสีม่วงทองปลิวไปตามสายลม

 

ท่าไม้ตายอมตะเก้ามังกรคุ้มภัยแทบไม่สามารถต่อต้านแรงบีบอัดจากกรงสีทอง

 

“ราชันมังกร วิญญาณชะตากรรมจะเป็นของถ้ำสวรรค์นิรันดร! สําหรับเจ้า มีเพียงความตายที่รออยู่!” ปิงช่ายฉวนกระจายเสียงไปทั่วสนามรบเพื่อลดขวัญกําลังใจของผู้อมตะวังสวรรค์

 

หัวใจของสมาชิกวงสวรรค์สั่นไหวเมื่อพวกเขาเห็นราชันมังกรถูกจับกุม

 

แต่ราชันมังกรยังหัวเราะ “แม้ข้าจะตายที่นี่แล้วอย่างไร? ผู้อมตะภาคเหนือไม่กลัวตาย แล้วพวกเจ้าคิดว่าสมาชิกวงสวรรค์กลัวตายงั้นหรือ?”

 

คํากล่าวเพียงไม่กี่คําขอของราชันมังกรทําให้ขวัญกําลังใจของสมาชิกวังสวรรค์พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

 

“เราจําศีลเพราะหน้าที่ มันไม่ใช่ความกลัวตาย!”

 

“เราจะกลัวตายได้อย่างไร? พวกเราเป็นสมาชิกของวังสวรรค์!”

 

“เราปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษยชาติ เราไม่เคยกลัวการเสียสละ!”

 

ผู้อมตะวังสวรรค์เริ่มโต้กลับโดยใช้ร่างกายของพวกเขาป้องกันค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม พวกเขาไม่กลัวตายแต่พยายามดึงผู้อมตะภาคเหนือให้ตกตายไปพร้อมกัน

 

ผู้อมตะภาคเหนือเต็มไปด้วยความกล้าหาญแต่ผู้อมตะวังสวรรค์กําลังบ้าคลั่ง

 

“ไม่ดีแล้ว!” ปิงช่ายฉวนตระหนักถึงสถานการณ์ เขาตั้งใจลดขวัญกําลังใจของศัตรูแต่คํากล่าวของราชันมังกรกลับทําลายแผนการของเขา

 

ปิงช่ายฉวนหัวเราะเสียงดังไปทั่วสนามรบอีกครั้ง “น่าขัน! การเสียสละของพวกเจ้าไร้ความหมาย ผู้อมตะภาคเหนือถูกสร้างขึ้นโดยท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจบัวแดง พวกเขาไม่เคยมีชีวิตอยู่ตั้งแต่แรก แลกชีวิตของพวกเจ้ากับคนตายเหล่านี้มากเท่าที่พวกเจ้าต้องการ สุดท้ายถ้ำสวรรค์นิรันดรจะเป็นผู้ชนะ! วังสวรรค์ของพวกเขามีรากฐานเท่าใด สิ่งนี้จะดําเนินต่อไปได้นานเพียงใด?”

 

“รากฐานงั้นหรือ?” ราชันมังกรหัวเราะเย้ยหยัน “เรามีมากเกินพอ!”

 

ราชันมังกรเริ่มตอบโต้

 

เขาไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างแต่กลิ่นอายของเขากลับรุนแรงขึ้น

 

ราชันมังกรมองแท่นบูชาแห่งโชคด้วยความเกลียดชัง “ถ้ำสวรรค์นิรันดรของพวกเจ้าต่อตั้งมาเพียงสามแสนปี แต่วังสวรรค์ของข้าคงอยู่มาถึงสามล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นเก้าพันหกร้อยแปดสิบเจ็ดปี ถ้ำสวรรค์นิรันดรของพวกเจ้าจะสามารถเปรียบเทียบกับพวกเราได้อย่างไร? อย่าประเมินรากฐานของวังสวรรค์ต่ำเกินไป มันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าไม่สามารถจินตนาการถึง!”

 

“ปิงช่ายฉวน ดูสุสานอมตะแล้วมองดูสายธารแห่งกาลเวลาที่น่าขันของเจ้า!”

 

การแสดงออกของปิงช่ายฉวนกลายเป็นมืดครื้ม

 

เขาไม่จําเป็นต้องมอง เขาเข้าใจเรื่องนี้มาตลอด

 

ผู้อมตะภาคเหนือลดจํานวนลงแต่ผู้อมตะของวังสวรรค์ยังตื่นขึ้นจากสุสานอมตะอย่างต่อเนื่องรากฐานของวังสวรรค์ไม่อาจหยั่งถึง

 

ราชันมังกรกล่าวต่อ “ตระกูลของพวกเจ้ามีอัจฉริยะกี่คน? ดูภาคกลางของเรา เราคัดเลือกอัจฉริยะจากทุกแห่งหน!”

 

“อัจฉริยะที่เกิดขึ้นในตระกูลจะเหนือกว่าอัจฉริยะที่เกิดจากนิกายของเราได้อย่างไร?”

 

เสียงของราชันมังกรเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ผู้อมตะภาคเหนือกล้าบุกวังสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่ความเข้าใจของพวกเจ้าถูกผูกมัดโดยระบบตระกูล พวกเจ้าประเมินรากฐานของวังสวรรค์ต่ำเกินไปมาก!”

 

ปิงช่ายฉวนเงียบ

 

เขาต้องการโต้กลับแต่เขาไม่สามารถกล่าวสิ่งใด

 

เพราะมันคือความจริง

 

มีผู้อมตะจํานวนนับไม่ถ้วนจําศีลอยู่ในสุสานอมตะของวังสวรรค์

 

สามล้านปีก่อน

 

เทพอมตะแรกกําเนิดมองผู้อมตะเผ่ามนุษย์ที่มารวมตัวกันอยู่รอบๆและพยักหน้าเล็กน้อย “ผู้อมตะของภาคกลางทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ นอกจากนี้ยังมีสหายสองสามคนมาจากอีกสี่ภูมิภาค”

 

“ท่านเทพอมตะ เรารีบมาที่นี่หลังจากได้รับคําเชิญจากท่าน เราจะฟังคําแนะนําและคําสอนของท่าน”

 

เทพอมตะแรกกําเนิดยิ้ม “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปภาคกลางจะก่อตั้งนิกายและรับสาวกเพื่อถ่ายทอดทักษะของเราไปสู่อนาคต”

 

“อันใด!?”

 

“ยกเลิกระบบตระกูลสั้นหรือ?”

 

“ข้าเคยได้ยินข่าวลือนี้มาแล้ว แต่ท่านเทพอมตะต้องการทําสิ่งนี้จริงๆงั้นหรือ?”

 

กลุ่มผู้อมตะรู้สึกไม่เต็มใจ

 

หลายคนพยายามเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “ท่านเทพอมตะ ท่านเป็นผู้อมตะระดับเก้า หากท่านต้องการสร้างกองกําลังของท่าน มันจะเป็นกองกําลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้อย่างแน่นอน บุตรหลานของท่านจะสืบทอดชื่อเสียงและทักษะของท่าน กองกําลังของพวกเราจะยอมรับกองกําลังของท่านเป็นผู้นํา”

 

เทพอมตะแรกกําเนิดสายศีรษะ “ตระกูลงั้นหรือ? ข้าขอถาม ในประวัติศาสตร์มีตระกูลใดที่ยืนยาวที่ใด? เมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ทางสายเลือดจะเบาบางลง มันเป็นเพียงเพราะข้ายังมีชีวิตอยู่ กองกําลังของมนุษย์จึงสามารถสร้างความร่วมมือ ข้าต้องการสร้างนิกายที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด”

 

ผู้อมตะบางคนยิ้ม “ท่านเทพอมตะ ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ระบบตระกูลอาจทําให้เกิดความแตกแยกโดยง่าย แต่ท่านสามารถบรรลุสู่ระดับเก้าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่อนาคตอาจไม่มีผู้อมตะระดับเก้าปรากฏขึ้นอีก”

 

“การดํารงอยู่ของท่านจะทําให้กองกําลังต่างๆสามารถสร้างความร่วมมือ”

 

เทพอมตะแรกกําเนิดพยักหน้า “เจ้าพูดถูก แต่หากเขาไม่อยู่จะเกิดสิ่งใดขึ้น? ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้นานเพียงใด?”

 

บางคนตอบ “ท่านเทพอมตะ ท่านอยู่บนจุดสูงสุดในขณะนี้!”

 

อีกคนกล่าวต่อ “เราสามารถค้นหาวิญญาณอายุยืนและทําให้ท่านมีอายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์”

 

เทพอมตะแรกกําเนิดกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “แต่ข้ายังต้องตาย ผู้ใดจะสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ตลอดไป?”

 

เขาส่ายศีรษะและถอนหายใจ “ไม่มี”

 

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

 

เทพอมตะแรกกําเนิดกล่าวต่อ “นอกจากวิญญาณอายุยืน วิธีการยืดอายุวิธีอื่นล้วนมีข้อบกพร่อง แม้เราจะสามารถรวบรวมวิญญาณอายุยืน แต่มันก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ”

 

กลุ่มผู้อตะยังเงียบ

 

“นี่คือเจตจํานงของสวรรค์” เทพอมตะแรกกําเนิดเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า “สวรรค์รักษาสมดุลเสมอ ไม่มีสิ่งชีวิตใดที่สามารถดํารงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ ต้นไม้ที่สูงที่สุดจะได้รับความเสียหายจากสายลมกรรโชกแรง เนินทรายจะถูกกระแสน้ำกัดเซาะและพังทลายลงในที่สุด อัจฉริยะรุ่นใหม่จะมาแทนที่คนรุ่นเก่า เผ่ามนุษย์ของเราก็เช่นกัน”

 

“ข้าอาจอยู่บนจุดสูงสุดบนโลกใบนี้ แต่มันเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ข้าจะตายในวันหนึ่ง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับชะตากรรม ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในตํานานมนุษย์คนแรก”