DND.
แต่จะอย่างไรก็ตามผู้มาชมการประลองวันนี้มีหลายฝ่าย ว่าที่เทพที่มาอาจจะเป็นว่าที่เทพจากโลกสักใบก็ได้ เทพจิงจึงไม่ติดใจนัก
“เจ้าหนูข้าลาเจ้าก่อนก็แล้วกัน”
เทพจิงกล่าว
ซือหยูพยักหน้าเขาไม่อยากจะให้เทพจิงร่วมการต่อสู้กับว่าที่เทพที่มาจากสำนักนรก
ซือหยูรู้ว่าว่าที่เทพสองคนถูกตระกูลเทพตำราส่งมาสังหารเขาซือหยูยังรู้เรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับเจิ้งหยวนชิงนั้นเกี่ยวโยงไปถึงฉินคั่วอีกด้วย
ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าเทพจิงจะโกรธเพียงใดเมื่อรู้ว่าเขาถูกหลอกหากไม่ฆ่าเทพจิง แล้วความโกรธของเขาจะหายไปได้เฉย ๆ หรือ?
เขาเองก็ไม่มั่นใจด้วยว่าจะทำอะไรกับเทพจิงได้หรือไม่
หากเทพโกรธขึ้นมาการจัดการย่อมยากกว่าจัดการมือสังหารจากสำนักนรกเป็นพันเท่า!
ซือหยูจึงไม่กล้าที่จะให้เทพจิงยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
“พรุ่งนี้เราจะทำตามแผน”
ซือหยูกล่าว
เทพจิงพยักหน้าเงียบๆ และบินจากไป
มีเหตุผลดีที่เทพกระบี่ให้ซือหยูดื่มโอสถทันทีมิใช่เพียงแค่ขับฤทธิ์โอสถไปถึงขั้นสูงสุด แต่ยังทำให้การดูดซึมพลังนั้นง่ายอีกด้วย
เมื่อเทพจิงจากไปซือหยูก็ดูดซับพลังของโอสถจนหมดแล้ว
ซือหยูสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าดวงวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากโข!
จากดวงวิญญาณอสูรเนรมิตรขั้นสี่ตอนนี้ดวงวิญญาณเขาแข็งแกร่งในระดับเซียนขั้นหนึ่งแล้ว
พลังวิญญาณของเทพกระบี่นั้นแข็งแกร่งมากมันต่างจากอสูรเนรมิตรโดยสิ้นเชิง
ในขณะนี้ซือหยูไม่ได้จงใจใช้สัมผัสของตัวเอง แต่เขาก็บอกได้อย่างชัดเจนว่ามีผู้ที่ปิดบังจิตสังหารอย่างระมัดระวังอยู่ในหมู่คน
“มือสังหารสำนักนรก!พวกเจ้ามาแค่คนเดียวรึ?”
ซือหยูกระพริบตามองรอบๆ
ยิ่งไปกว่านั้นความคิดของเขายังเฉียบคมขึ้น เขาสามารถคิดอ่านได้อย่างรวดเร็ว สภาวะจิต ความคิด และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงวิญญาณของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด
เขายิ่งแตกใจเมื่อเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดวงวิญญาณของเขาทำให้เขากำลังจะทะลวงขอบเขตใหม่
พลังรองของมันคือการหลอกศัตรูขณะที่พลังหลักคือการลอกเลียนแบบพลังวิเศษของศัตรู หากใช้ร่วมกัน มันจะสามารถ…ควบคุมศัตรูได้!
แต่เรื่องการควบคุมศัตรูนั้นเป็นสิ่งที่ซือหยูทำได้นานแล้วด้วยโอรสสวรรค์จ้องนภาทำไมเขาจะต้องย้อนกลับไปใช้พลังเดิมเมื่อมีพลังมากกว่าเดิมเล่า?
ในตอนนั้นเองมีข้อความปรากฏในหัวของซือหยู
“จริงด้วย!ขั้นต่อไปแข็งแกร่งกว่าการลอกเลียนพลังเพียงอย่างเดียว!”
ซือหยูแอบดีใจเกิดอีกความคิดหนึ่งกับเขา
แต่ในเวลาเดียวกันซือหยูก็สัมผัสได้ว่ามีจิตสังหารแล่นผ่านเขาไป!
มือสังหารสำนักนรกลงมือแล้ว!
เมื่อเหล่าเทพกลับไปการจู่โจมก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
มือสังหารเป็นชายร่างกำยำพลังเทพที่มองไม่เห็นและมองเห็นของเขาบ่งบอกว่าเขานั้นแข็งแกร่ง เขาคือว่าที่เทพ!
ซือหยูไม่ทันระวังเมื่อถูกจู่โจมมีดพิษในมือของมือสังหารกำลังจะถึงตัวซือหยู
ไม่ว่ามันจะแทงถึงภายในของซือหยูหรือไม่หากผิวของเขาถูกเฉือนแม้แต่นิดเดียว พิษที่มีก็มากพอที่จะสังหารซือหยูแล้ว
แต่ซือหยูเตรียมตัวมาอย่างดีเขาเรียกศรทองคำออกมาพร้อมกับแทงว่าที่เทพโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายตั้งตัว
การโจมตีทั้งสองเกิดขึ้นเกือบจะพร้อมกันแต่ศรทลายฟ้านั้นยาวกว่ามีด อาวุธทั้งสองเดินทางในระยะที่เท่ากัน มือสังหารกำลังจะถูกธนูแทงก่อน
มือสังหารใจหายเล็กน้อยซือหยูตอบสนองได้รวดเร็วกว่าที่เขาคาดคิด เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าการจัดระดับซือหยูของพวกเขาถูกต้อง มีกับดักรอคอยพวกเขาอยู่!
“สลาย!”
มือสังหารที่โจมตีล้มเหลวสั่งระเบิดมีดอย่างเฉียบขาดเสียงดังเบา ๆ มีดสลายไปในทันที
มีดสลายเป็นเสี่ยงๆ เมฆามีดพิษร้ายปะทุออกมาพุ่งเข้าใส่ซือหยู
ศรทลายเทพในมือซือหยูเปลี่ยนทิศทางมาป้องกันเศษมีดแทนซือหยูป้องกันเศษมีดทั้งหมดไว้ได้
มือสังหารร่ายคำพูดเบาในจังหวะที่ซือหยูป้องกันเศษมีดเขารวบรวมพลังเทพมาจากท้องของตัวเอง!
ทันทีที่พลังเทพออกมามันได้กลายเป็นแสงสีทองพุ่งเข้าใส่หัวใจซือหยู
ซือหยูพยายามป้องกันเศษมีดและไม่ทันได้โต้ตอบ
แม้จะตกอยู่ในอันตรายการตัดสินใจของมือสังหารก็รวดเร็วแทบจะเป็นสัญชาตญาณ เขาช่วงชิงจังหวะที่ซือหยูมีจุดอ่อนได้อย่างรวดเร็ว
ซือหยูหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะกับดักที่เขาวางเอาไว้ใช้ไม่ได้ผลเลย!
ซือหยูกระซิบ
“จางตี๋เก้อ!”
แขนเขาเปล่งแสงจางตี๋เก้อพุ่งออกมาพร้อมกับผีเสื้อที่บินร่อนบนหัวนางอย่างแผ่วเบา
“ผีเสื้อน้อยมันอยากจะขโมยอาหารเจ้าไปกิน!”
ทันใดนั้นเองผีเสื้อที่เงียบสงบก็โมโหขึ้นมา จางตี๋เก้อสอนความชิงชังเดียวให้กับมัน และนั่นก็คือความชิงชังต่อการถูกขโมยอาหาร!
ผีเสื้อโกลาหลจดจำใส่ใจเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าพยายามจะคว้าบางอย่าง มันก็กระพือปีกด้วยความโกรธ!
แสงสังหารที่พุ่งตรงมายังซือหยูแตกสลายไปภายใต้พลังของปีก!
มือสังหารชักสีหน้าเขารีบถอย
แต่ถึงอย่างนั้นซือหยูก็เห็นว่าร่างกำยำของเขามีรอยแผลตั้งแต่หัวจรดเท้าแม้แต่ดวงวิญญาณของเขาก็สาหัส
มือสังหารตกตะลึงผีเสื้อนรกนี่มาจากไหนกัน? แค่กระพือปีกครั้งเดียวเขาก็เกือบตายแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังเทพในร่างที่ปกป้องกายหยาบเอาไว้เขาก็คงจะสูญเสียไปทั้งดวงวิญญาณเมื่อครู่ก่อนอย่างมิอาจหนีพ้น
แต่มือสังหารยังไม่ยอมแพ้เขาหยิบบางอย่างในมือเข้าปาก ร่างกายและดวงวิญญาณที่สาหัสของเขาถูกฟื้นฟูทันที
มือสังหารเช่นเขาย่อมไม่ขาดแคลนโอสถฟื้นฟู
เขาที่เพิ่งจะฟื้นฟูรู้สึกถึงบางสิ่งที่อันตรายมันอันตรายอย่างไม่น่าเชื่อและกำลังจะมาถึงตัวเขา
เขาเห็นซือหยูยื่นมือชี้มาที่เขาจากระยะไกล
มันเป็นแสงสีเงินที่ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็นจากนั้นง้าวสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกที่เต็มไปด้วยพลังปีศาจก็ทะลวงออกมา
มือสังหารตกตะลึงสิ่งที่มีในง้าวนั้นคือจิตวิญญาณชั่วร้ายถึงขีดสุด!
แค่ได้เห็นเขาก็หวาดกลัวแล้ว!
และจิตวิญญาณปีศาจเหล่านั้นยังมีพลังระดับเทพอีกด้วย!
ถ้าหากง้าวนี้ถึงตัวเขาเขาจะตายอย่างแน่นอน!
มือสังหารกัดลิ้นและพ่นโลหิตสีทองออกมามันคือโลหิตของเทพ
โลหิตกลายเป็นเกราะกำบังพยายามจะต้านทานง้าว
แต่เทพไม้ที่มีพลังเต็มที่ยังถูกหอกนี้พันธนาการมานับพันปีโลหิตของว่าที่เทพจะต้านทานได้หรือ?
ฉึก!
ม่านเกราะจากโลหิตเทพต้านทานง้าวไม่ได้แม้แต่น้อย
มือสังหารหมดกำลังใจและกัดฟันเรียกมนุษย์ที่ตัวติดกันสามคนออกมาซึ่งสามคนนั้นดูคล้ายกับเขาเป็นอย่างมาก
เขาขว้างมนุษย์ทั้งสามออกไปคนละติดทางการเคลื่อนไหวของง้าวดูช้าลง ดูเหมือนว่ามันจะหาเป้าหมายไม่เจอ
สำหรับการรับรู้ของง้าวทิศทางของตัวปลอมคือตัวมือสังหาร!
มือสังหารใช้โอกาสนี้สวนกลับเขาก้าวพริบตาหลบหอกและพุ่งเข้าไปสังหารซือหยูด้วยตัวเอง!
ซือหยูเบิกตากว้างเล็กน้อยคนทั่วไปคงคิดหนีไปแล้วหากเจอกับศัตรูที่มีอาวุธสุดยอด แต่มือสังหารผู้นี้คิดอ่านได้รวดเร็ว เขารู้ว่าโอกาสดีที่สุดที่จะสวนกลับคือตอนไหน!
“ตายซะเถอะ!”
เสียงของมือสังหารแล่นผ่านเวหามีดพิษปรากฏจากมือ เขาแทงมันเข้าใส่ซือหยูอย่างดุร้าย
ซือหยูเรียกศรทลายเทพออกมาป้องกันโดยไม่ต้องคิด
แต่มือสังหารก็ตะโกนเสียงดัง
“ช่วงชิง!”
เกิดเรื่องประหลาดขึ้นศรทลายเทพในมือซือหยูหายไปและไปอยู่ที่มือสังหารแทน!
นี่คือพลังเทพที่เขาปิดบังเอาไว้!
เมื่อถึงเวลาคับขันใครเล่าจะรอดชีวิตได้เมื่อถูกชิงอาวุธไป?
เมื่อมือสังหารอยู่ห่างจากซือหยูเพียงคืบเดียวทันใดนั้นดัชนีขาวก็ยื่นออกมาจากแขนของซือหยู
ดัชนีนั้นสัมผัสมีดของมือสังหารเบาๆ
มือสังหารหวาดผวา!
พิษบนมีดนั้นเต็มไปด้วยพลังเทพของเขาแต่มีดนั้นแทงแขนของซือหยูไม่เข้า ราวกับว่าดัชนีนั้นมีพลังเหนือมีดและรวมถึง…ตัวเขาด้วย!
“นี่มันอาวุธร้ายไม่ใช่รึ?เจ้าต้องเก็บให้พ้นมือเด็กใช่ไหม? ต่อให้เด็กไม่เป็นอะไร แค่คิดว่ามันจะทำร้ายบุพผากับต้นไม้ข้าก็เจ็บปวดแล้ว ข้าขอมันจากเจ้าก็แล้วกัน”
ดัชนีคีบมีดพลิกกลับด้านมือสังหารถูกพลังมหาศาลพลิกตัวเองจนลอยขึ้น
และมีดของเขาก็ค้างอยู่ที่ดัชนีที่ยื่นออกมาจากแขนของซือหยู
จากนั้นแขนก็ยื่นออกมาจากแสงสีฟ้าเด็กสาวงดงามในชุดสีมรกตปรากฏตัวออกมาในทันที นางรีบเก็บมีดเข้าตัวด้วยความเร็วที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้
มือสังหารที่เห็นนางเป็นครั้งแรกตัวแข็งทื่อ
“เทพ!!!”
ใช่แล้วนางคือเทพ พลังเทพที่ปล่อยออกมาจากตัวนางไม่ใช่ของปลอม
แม้มือสังหารจะรู้ตัวอย่างรวดเร็วว่าเทพที่เขาเห็นบาดเจ็บหนักและไม่ได้แกร่งอย่างที่เขาคิดแต่เทพที่เขากำลังเจออยู่ก็แข็งแกร่งกว่าเขาไม่ผิดแน่!
กับดักอะไรกันแม้แต่เทพก็เป็นส่วนหนึ่งในกับดักนี้!
มือสังหารพลิกตัวหนีในทันที
เทพไม้หัวเราะพร้อมกับไล่ตาม
“อย่าเพิ่งไปสิ!ข้าขอเตือนเจ้าสักหน่อย โลกนี้มีคนเลวมากมายนัก และถ้าก็เก็บของล้ำค่ากับตัวไว้มากมาย มันอันตรายมากนะ ข้ามีเกียรติและยังเป็นเทพที่ห่วงใย ทิ้งสมบัติเจ้าให้ข้าเก็บเอาไว้เถอะ ข้าจะจ่ายดอกเบี้ยกับเจ้าทุกปีเลย”
“เจ้านั่นแหละคนชั่วที่สุดในโลก!”
มือสังหารที่กำลังหนีคิดเขาก้าวยาวจนเกือบจะล้ม
“โอ้เจ้าจะล้มก็ไม่เป็นไรหรอก ตราบเท่าที่สมบัติเจ้าไม่เป็นอะไร!”
หนึ่งเทพหนึ่งว่าที่เทพ อีกคนไล่ล่าอีกคนหนี ทั้งสองประชิดกันในไม่นาน
ซือหยูถอนหายใจเมื่อมองความเละเทะบนพื้น
“จัดการกับว่าที่เทพเป็นเรื่องยากจริงๆ!”
ซือหยูเอาชนะปู้หลูยี่ที่เป็นเซียนขั้นสูงสุดได้ไม่ยากแต่ว่าที่เทพทำให้ซือหยูรู้สึกถึงภัยคุกคามไม่หยุดหย่อน และนี่ยังเป็นกรณีที่ซือหยูเตรียมกับดักมาเต็มที่ หากเขาไม่เตรียมตัวเลย เขาก็คงจะตายเพราะมีดพิษไปแล้ว
สุดท้ายเขาก็ต้องพึ่งพาเทพไม้
แต่ทันทีที่ทุกคนเริ่มรู้สึกโลกใจซือหยูก็ถอนหายใจแรงและพูด
“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว!”
เพลงกระบี่เก้าสุริยา!
ท้องนภาปกคลุมไปด้วยแสงจากไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์เก้าเล่มแสงกระบี่กระจายตัวทั่วฟ้าโดยมีซือหยูเป็นจุดศูนย์กลาง พวกมันล้อมรอบเขาอย่างใกล้ชิดจนแทบจะไม่มีที่ให้หายใจ
��