ตอนที่ 2010 อาจารย์ก็เหมือนพ่อ!

Xian Ni ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่ 2010 อาจารย์ก็เหมือนพ่อ! โดย Ink Stone_Fantasy

หลังจากพูดขึ้น ทุกคนเงียบลงและรวมสายตามาที่หวังหลิน ตามที่ชายชราพูดเอาไว้ ในอาณาเขตเต๋า นอกจากมหาชั้นฟ้าแล้วทุกคนที่เห็นจักรพรรดิเต๋าจะต้องคุกเข่า!

นี่คือสัญลักษณ์ของสายเลือดราชวงศ์ หากมีคนไม่เชื่อฟังนั่นถือว่าเป็นการไม่เคารพต่อสายเลือดราชวงศ์!

และในเผ่าโบราณ เรื่องการไม่เคารพนี้เคร่งเครียดยิ่งกว่าการทำความผิดเรื่องอื่นเสียอีก!

แม้แต่ซวนลั่วก็ตกตะลึงที่ได้ยินคำพูดนี้ ถึงเขาจะเป็นมหาชั้นฟ้าก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตเต๋า ก่อนที่เขาจะได้กลายเป็นมหาชั้นฟ้ายังต้องคุกเข่าต่อจักรพรรดิเพื่อแสดงความเคารพ

จักพรรรดิเต๋ายิ้มแย้มและมองมาที่หวังหลินแต่ก็เยาะเย้ยอยู่ในใจ เขามาวันนี้ก็เพื่อพิสูจน์ว่าคนที่ทำให้เตาธูปผิดปกติเป็นคนที่เขาคาดเดาเอาไว้จริงหรือไม่

หากไม่เป็น เขาก็จะชักชวนคนผู้นั้นเป็นพวก

แต่หากเป็นคนที่เขาคาเดา เขาต้องการเห็นว่าคนผู้นี้มีอะไรพิเศษ!

‘เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้กลายเป็นศิษย์ของซวนลั่วแต่ข้ากลับถูกปฏิเสธ? ทำไมข้าถึงมีโลหิตหกหยด ส่วนเจ้า…เจ้ามีสิบหยด!! และหยุดสุดท้ายยังเป็นโลหิตวิญญาณ!!’

‘เรื่องนี้ซวนลั่วปิดเอาไว้ ดังนั้นอาณาเขตเต๋าจึงไม่รู้ ซวนลั่วถึงกับพูดว่าหากใครแพร่เรื่องนี้ออกไปเขายอมละเมิดกฎสังหารคนผู้นั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม!!’

‘มหาชั้นฟ้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าข้าควรอยู่หรือตาย เหตุผลที่เขาพูดเมื่อตอนนั้นเป็นเพราะคิดว่าศิษย์ของตัวเองจะได้รับการยอมรับจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว!’

‘แต่เขาไม่ได้เป็นลูกหลานของสายเลือดราชวงศ์ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะได้รับการยอมรับจากมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว!!’ จักรพรรดิเต๋ายังคงยิ้มอ่อนโยน แต่เบื้องหลังคือความอิจฉานับร้อยปี!

ความอิจฉานี้มีมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่หวังหลินได้รับโลหิตวิญญาณ กระทั่งตอนนี้ที่ได้เห็นว่าหวังหลินเป็นผู้สูงส่งชั้นเทวะผมขาวจริงๆ อันดับหนึ่งใต้มหาชั้นฟ้า ความอิจฉาจึงปะทุขึ้นในฉับพลันแต่ก็ระงับเอาไว้

หวังหลินมีสีหน้าสงบนิ่ง สายตากวาดผ่านจักรพรรดิไปยังชายชราที่ร้องคำรามใส่ ดวงตาเปล่งประกายสีทอง

หวังหลินพูดขึ้น “เจ้าพูดอะไรนะ? ทวนอีกครั้ง”

ชายชรามีระดับบ่มเพาะผู้สูงส่งชั้นเทวะ แต่กระนั้นภายใต้สายตาหวังหลิน สีหน้าท่าทางเขาจึงเปลี่ยนไป

เขาหน้าซีดทันที พลังโบราณปั่นป่วนอยู่ในร่าง รับรู้ถึงแรงกดดันที่ออกมาจากร่างหวังหลินและไม่สามารถยืนได้ยอย่างมั่นคง

สิ่งสำคัญไปกว่านั้นภายใต้สายตาของหวังหลิน เขารู้สึกสั่นสะท้านออกมาจากสายโลหิต ราวกับหวังหลินมีสายโลหิตบริสุทธิ์เหนือจินตนาการจนทำให้โลหิตของชายชราถึงกับสั่นสะเทือน

“พอแล้ว เจ้ามาที่นี่เพื่อทำให้ศิษย์ข้าคุกเข่าหรือ? เขาคือองครักษ์ในอนาคตของอาณาเขตเต๋าที่ข้าเลือกมาแล้ว” ซวนลั่วเผยใบหน้าไม่เป็นสุข

จักรพรรดิเต๋ายิ้มและหันกลับไปมองชายชราด้วยสายตาเย็นเยียบ

“ศิษย์ของซวนลั่วมีสถานะเดียวกันกับข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์พูด!”

ชายชรารีบพยักหน้า ร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไม่รู้ว่ามาจากเสียงคำรามของจักรพรรดิหรือกลัวต่อสายตาหวังหลิน

“หวังหลิน ใช่แล้ว ข้าได้ยินชื่อเจ้ามานักต่อนัก โดยเฉพาะผู้สูงส่งชั้นเทวะผมขาวผู้สั่นคลอนเผ่าเทพ! ตอนแรกที่ข้าได้ยินชื่อเจ้า ข้ารู้สึกเสียใจว่าอัจฉริยะแบบนี้ทำไมไม่เกิดขึ้นในเผ่าโบราณ!”

“แต่ตอนนี้ข้ามีความสุขมาก!”

“เซียนทรงพลังผู้นี้ อันดับหนึ่งใต้เหล่ามหาชั้นฟ้า เป็นคนของอาณาเขตเต๋า! ช่างเป็นเรื่องน่ายินดี!” จักรพรรดิเต๋ายิ้มออกมาราวกับมีความสุขมาก

“ฉางฉี!” เพียงจักรพรรดิเต๋ายิ้มออกมา ชายชราอีกคนด้านหลังจึงโค้งคำนับทันที

“ผู้ต่ำต้อยอยู่นี่แล้ว!”

“แจ้งเผ่าบัญชาโบราณว่าหวังหลินคือองครักษ์ในอนาคตของอาณาเขตเต๋าและมีสถานะเท่ากับข้า นอกจากพิธียิ่งใหญ่ของทั้งเผ่าพันธุ์ ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า! หากใครกล้าขัดคำสั่ง ทั้งตระกูลจะต้องถูกสังหาร!”

ชายชราพูดอย่างเคารพ “ตามที่ท่านสั่ง!”

“หวังหลิน ข้าเสนอเรื่องนี้ให้กับเจ้า เพียงเท่านี้เจ้าก็สามารถเข้าและออกราชวังได้ตามที่ต้องการ ข้ามีลูกชายอยู่หลายคน ข้าต้องการให้เจ้าไปเจอและเลือกรัชทายาทมาให้ข้าด้วยตัวเอง!” จักรพรรดิยิ้มและสะบัดแขน หินหยกสีม่วงปรากฏขึ้นมาและลอยตรงหน้าหวังหลิน รอให้เขารับไว้ด้วยสองมือ

หวังหลินขบคิดเงียบๆ จักรพรรดิเต๋าไม่ได้เร่งรีบและรอคอยต่อไป

ซวนลั่วยืนเงียบอยู่ด้านข้าง เขารู้ว่าหากหวังหลินต้องการอยู่ที่นี่ คงต้องรวมเข้ากับอาณาเขตเต๋าและยอมรับพลังอำนาจของราชวงศ์

ความจริงแล้วตั้งแต่แรกเริ่มซวนลั่วไม่กังวลนักเพราะหวังหลินอ่อนแอมาก และหลังจากออกมาจากโลกถ้ำ การรับหวังหลินเป็นพลังอำนาจของทางราชวงศ์เป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง

แต่การเติบโตของหวังหลินเหนือล้ำเกินกว่าการคาดการณ์ของซวนลั่ว แม้เขาจะยินดีในการเปลี่ยนแปลงของหวังหลินแต่ก็รู้สึกเสียใจด้วย เพราะด้วยระดับบ่มเพาะของหวังหลิน การจะให้เขายอมรับพลังอำนาจแห่งราชวงศ์ยังต้องใช้เวลา

‘นี่คือคำสัญญาของข้า…ข้าสามารถอดทนได้!’ หวังหลินถอนหายใจ เขามองเห็นความหมายที่จักรพรรดิสื่อได้เป็นอย่างดี แต่หวังหลินไม่ต้องการพูดมาก หลังจากถอนหายใจจึงก้าวไปข้างหน้าและรับหินหยก จากนั้นคำนับฝ่ามือให้กับจักรพรรดิ

“ขอบคุณ…จักรพรรดิ” หวังหลินถือหินหยกโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขาถอยออกมาและยืนข้างซวนลั่ว

จักรพรรดิเต๋าพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขามองซวนลั่วและคำนับฝ่ามือ

“ข้าจะไปแล้ว ข้ามีความสุขมากที่เจอเจ้าวันนี้ หวังหลิน การเลือกของท่านซวนลั่วก็เพื่ออนาคตของอาณาเขตเต๋า!” หลังจากเห็นซวนลั่วพยักหน้า จักรพรรดิจึงผายมือพลางหันตัวกลับและจากไปโดยไม่ได้มองหวังหลิน องครักษ์ของเขาโค้งคำนับให้แก่ซวนลั่วและรีบจากไป

ไม่นานนักหมอกสีม่วงในท้องฟ้าก็หายไปและกลับคืนสู่ปกติ

ภายในวังของเมืองลอยฟ้า จักรพรรดิปรากฏตัวในตำหนักแห่งโปรด ใบหน้าผุดรอยยิ้มและเริ่มหัวเราะ

‘เป็นศิษย์ของซวนลั่วแล้วอย่างไร? มีหยดโลหิตของบรรพชนโบราณแล้วอย่างไร? กระทั่งมีโลหิตวิญญาณแล้วอย่างไร?! หวังหลิน เบื้องหน้าข้า เจ้าก็ยังต้องคุกเข่า!’

‘และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้ง! เจ้าจะไม่กล้าทำร้ายข้าเพราะข้ามีมหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวปกป้อง เมื่อซวนลั่วเข้าไปวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ ข้าอยากให้เจ้ารู้ว่าหากข้าต้องการสังหารเจ้า มันก็ง่ายดายเพียงแค่ยกฝ่ามือ!’

ด้านนอกอารามเต๋า ซวนลั่วมองหวังหลินด้วยสีหน้าซับซ้อนและขบคิดเงียบๆ

ตรงข้ามกันหลังจากจักรพรรดิเต๋าจากไป หวังหลินยิ้มและพูดเบาๆ กับซวนลั่ว

“อาจารย์ ข้ารอของขวัญที่ท่านสัญญาว่าจะให้มาสามวันแล้ว” รอยยิ้มของหวังหลินทำให้สีหน้าซวนลั่วยิ่งซับซ้อนมากขึ้น

“เจ้ามาจากโลกถ้ำและตำแหน่งของเจ้าก็สูงมาก ในเผ่าเทพเจ้าเป็นถึงผู้สูงส่งชั้นเทวะผมขาว อันดับหนึ่งใต้มหาชั้นฟ้า! แต่ในเผ่าโบราณ เพียงเพราะอำนาจสูงสุดของพลังสายโลหิตราชวงศ์ เจ้าถึงกับต้องก้มศีรษะ…”

“อาจารย์คาดเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าได้ทำผิดกับเจ้า…” ซวนลั่วมองศิษย์ของตัวเอง

‘อาจารย์ไม่ต้องคิดมาก ไม่มีอันตรายอันใด ในเมื่อศิษย์ตัดสินใจจะมาที่นี่ ศิษย์ก็สามารถเมินเฉยเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้อยู่แล้ว’

‘ในเมื่อพลังสายโลหิตราชวงศ์คือจุดสูงสุดในเผ่าโบราณและจักรพรรดิต้องการข่มเหงข้า เช่นนั้นศิษย์จะคุกเข่าระหว่างในพิธี หากเขาสามารถอดทนได้ ศิษย์ก็จะคุกเข่า’

‘ในโลกถ้ำ ศิษย์ได้สัญญากับอาจารย์ว่าจะปกป้องอาณาเขตเต๋า แค่เรื่องนี้…ศิษย์จะยอมทำตาม’ หวังหลินพูดด้วยรอยยิ้ม

ซวนลั่วขบคิด ผ่านไปสักพักจึงตัดสินใจ

“เจ้าคือศิษย์คนเดียวของอาจารย์ หากเจ้ารู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมาะสมกับเจ้า เจ้าก็ไม่ต้องรักษาสัญญาในอดีตอีกต่อไป เจ้าสามารถไปได้ทุกเมื่อ!”

“ไม่ว่าเจ้าจะเลือกทางไหน ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ไหน ข้าซวนลั่ว คืออาจารย์ของเจ้า!”

คำพูดของซวนลั่วมีความซื่อตรงและทำให้หวังหลินเกิดความอบอุ่นขึ้นในใจ ความอบอุ่นนี้เหมือนชาที่ดื่มเมื่อสามวันก่อนและทำให้หวังหลินรู้สึกอุ่นใจอีกครั้ง

เขาพยักหน้า

“เอาละ อย่าพูดเรื่องนี้เลย อาจารย์จะพาเจ้าไปยังที่ที่จะช่วยเรื่องแก่นแท้ของเจ้าได้อย่างมหาศาล!” ซวนลั่วยิ้มและสะบัดแขน เขาพาหวังหลินและหายไปตัวไป!

อาณาเขตเต๋า แคว้นผิงเทียน!

แคว้นแห่งนี้เป็นพื้นที่ราบและไร้ภูเขา! พื้นที่ราบปกคลุมด้วยใบหญ้า เพียงสายลมพัดผ่าน เกิดเป็นเสียงกรอบแกรบเริ่มดังขึ้นและเป็นที่น่าพอใจ

ทางทิศเหนือของพื้นที่ราบแห่งนี้มีบ่อน้ำลึกส่งกลิ่นเหม็นเน่า แตกต่างจากส่วนที่เหลือของพื้นที่อย่างสิ้นเชิงและมันไม่ควรมีอยู่

“ที่นี่ถูกพบจากมหาชั้นฟ้ารุ่นก่อนของอาณาเขตเต๋าและถูกปิดผนึกเพื่อรักษามันเอาไว้ หลังจากข้าผ่านมา จึงตั้งใจจะใช้มันหลอมเป็นสมบัติแห่งศรัทธาในอนาคต แต่หลังจากรับเจ้าเป็นศิษย์ ข้าพบว่าที่นี่คงจะช่วยเจ้าได้อย่างมาก ดังนั้นข้าจะมอบมันให้!”

“บ่อน้ำแห่งนี้มีมานานมาก ข้าศึกษามันรอบเดียวและตัดสินว่ามันเป็นเหมือนสนามรบโบราณ บ่อน้ำแห่งนี้มีจิตสังหารทรงพลังและน่าจะช่วยแก่นแท้สังหารของเจ้าให้แข็งแกร่งได้!”

“มีสถานที่ลักษณะนี้อีกหลายแห่งที่มีแก่นแท้แตกต่างกันออกไปและข้าจะพาเจ้าไปทีละแห่ง อีกหลายแห่งอยู่ในอีกสองอาณาเขต แต่ข้ามีข้อตกลงกับอีกสองมหาชั้นฟ้าเมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้วว่าจะให้เจ้าไปหลอมและดูดซับพวกมัน” ซวนลั่วยิ้มให้กับหวังหลินอยู่ข้างบ่อน้ำ

เขาไม่ได้บอกหวังหลินว่าต้องจ่ายอะไรถึงทำให้มหาชั้นฟ้าอีกสองคนยอมตกลง แต่ราคาคงไม่ใช่น้อยๆ!

“สุดท้าย ข้าจะพาเจ้าไปเจอบรรพชนของเผ่าโบราณ มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าว! เพราะมีเขาอยู่จึงทำให้เผ่าเทพไม่กล้าล่วงเกิน!”

“มหาชั้นฟ้ากุ้ยต้าวปิดด่านบ่มเพาะตลอดทั้งปี ข้ารายงานสถานะของเจ้าให้เขาเมื่อคราวก่อนแล้ว ดังนั้นเมื่อข้าพาเจ้าไป เขาน่าจะยอมพบเจ้า”

“บางทีนี่อาจจะเป็นโชควาสนามหาศาลสำหรับเจ้า!” ซวนลั่วมองหวังหลินอย่างเมตตา เขาปูทางให้หวังหลินในช่วงหลายร้อยปีที่เหลืออยู่!

………………………………………………………