เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 963
คนหนึ่งคือผู้นำตระกูลหนิง

อีกคนคืออดีตผู้นำตระกูลหยุน

ทั้งคู่เป็นผู้นำตระกูลมหาเศรษฐี!

พวกเขาล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจล้นฟ้าแต่ต่างเป็นคนของสำนักยมบาล!

อำนาจของสำนักยมบาลในจงโจวได้ทะลุทะลวงไปถึงระดับนี้แล้ว

แล้วสำนักยมบาลจะแข็งแกร่งขนาดไหน!

และนอกจากนี้

สำนักยมบาลต้องการทำอะไรกันแน่?

เขาพยายามที่จะควบคุมต้าเซี่ยทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จหรือ?

คิดมาถึงนี่

หยางเฟิงกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ความโหดและความเยือกเย็นถึงขีดสุดแผ่ซ่านไปทั่ว!

ไม่ว่าสำนักยมบาล จะเป็นเดียรัจฉานที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน

แค่มันกล้าทำผิดต่อต้าเซี่ยและผู้คนนับร้อยพัน หยางเฟิงจะทำลายมันแม้ว่าตัวของเขาจะถูกทุบเป็นชิ้นๆก็ตาม!

ขณะเดียวกัน.

หยางเฟิงก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมแม่ของเขาไม่กล่าวโทษหยางติ่งเทียน ไม่กล่าวโทษตระกูลหยางตอนที่เธอกำลังจะตาย!

อีกทั้งยังบอกกับเขาว่า

โตแล้วอย่าเกลียดพ่อ! อย่าเกลียดตระกูลหยาง!

ฟู๋ป๋พูดต่อ: “คุณชาย คุณรู้ว่าชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรมีทั้งหมดเก้าชิ้น คุณได้ชิ้นหนึ่งมาจากตระกูลหยางและของตระกูลหนิงน่าจะถูกสำนักยมบาลเอาไปแล้ว!”

“ตอนนี้ หยุนจงเฮ่อถูกทูตอันดับหนึ่งของสำนักยมบาลช่วยไปแล้ว เกรงว่าชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรของตระกูลหยุนจะตกอยู่ในมือของเจ้าสำนักสำนักยมบาลอย่างแน่นอน! ”

“ไม่รู้ว่าภาพมกุฎมังกรเก้าชิ้นเจ้าสำนักรวบรวมได้กี่ชิ้นแล้ว!”

“ว่ากันว่าเพียงแค่หาชิ้นส่วนเก้าชิ้นของภาพมกุฎมังกรพบ ก็จะพบสมบัติที่มกุฎมังกรเก็บไว้ และพบโอกาสที่สำเร็จบู๊ขั้นที่สาม! อย่างไรก็ตามสมบัติดังกล่าวใช่ว่าใครก็จะฝึกได้ ต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างสูงจึงจะซึมซับได้!”

หยางเฟิงพยักหน้า

ฟู๋โป๋พูดถูก

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หยางเฟิงได้ศึกษาชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนตั้งแต่อายุยังน้อย แต่หยุนจงเฮ่อที่อายุแปดสิบกว่าปีซึ่งค้นคว้ามานานหลายสิบปี แต่ซึมซับภาพมกุฎมังกรได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

พรสวรรค์ของหยางเฟิง

ไร้เทียมทาน!

แต่หยางเฟิงไม่กล้าพูดว่าพรสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งที่สุดในโลก

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้

นัยน์ตาของหยางเฟิงค่อยๆ ฉายแววความอาฆาต

ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ยอมให้เจ้าสำนักสำนักยมบาลรวบรวมชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรทั้งเก้าชิ้นได้เป็นอันขาด!

แม้ว่าจะไม่รู้เจ้าสำนักสำนักยมบาลต้องการจะทำอะไร

แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

สำหรับต้าเซี่ยปัจจัยที่เป็นภัยย่อมไม่ใช่เรื่องดี!

เมื่อเห็นว่าหยางเฟิงเงียบไป

หลงโยวหลิงอ้อนวอน: “หยางเฟิงอย่าฆ่าติ่งเทียนได้ไหม ถ้าต้องการฆ่าก็แค่ฆ่าฉันเถอะ!”

“ตอนนั้นฉันเป็นคนหน้าด้านและแย่งพ่อของแกไป!”

“ฉันเป็นเมียน้อย ฉันเป็นมือที่สามหน้าด้าน!”

ในที่สุด

หลงโยวหลิงร้องไห้เสียงดัง

เธอมีความน้อยเนื้อต่ำใจมากเหลือเกิน

ในตอนนั้น หลังจากเธอแต่งเข้าตระกูลหยาง เธอถูกครหาว่าเป็นเมียน้อย

ทุกคนคิดว่าเธอทำให้หยางเฟิงสองแม่ลูกต้องเร่ร่อนข้างถนน

แต่ใครจะไปรู้ หลายปีมานี้เธอใช้ชีวิตอย่างไรในตระกูลหยาง?

แม้ว่าเธอจะแต่งงานกับหยางติ่งเทียน

แต่หยางติ่งเทียนไม่เคยแตะต้องเธอเลย

เธอเหมือนแม่หม้าย!

“ไม่!”

“โยวหลิงมันไม่ใช่ความผิดของคุณ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม!”

“คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หรูเยียนเป็นคนขอร้องให้คุณแต่งงานกับผม! ถ้าไม่มีคุณตระกูลหยางคงจะพังพินาศไปนานแล้ว!”

“เฟิงเอ๋อร์ ถ้าแกต้องการฆ่าก็ฆ่าฉันเถอะ!”

ทันใดนั้นเป็นครั้งแรกที่หยางติ่งเทียนกอดหลงโยวหลิวไว้แน่น แม้ว่าตัวเขาจะมีเลือดไหลออกและลำบากใจ หลงโยวหลิงหลังจากอึ้งไปสักพักก็สวมกอดหยางติ่งเทียนไว้แน่น