กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1219
จัสมินยิ้มเหมือนเด็ก ๆ ที่กำลังได้ขนมที่โปรดปราน เมื่อได้ยินว่าชารืลีต้องการจะทำเครื่องรางของขลังให้เธอ
เธอไม่รู้ว่าเครื่องรางของขลังนั้นมีหน้าตาเช่นไรหรือทำงานอย่างไร แต่เธอมีความสุขมากที่รู้ว่า ชาร์ลีอยากจะทำเครื่องรางของขลังให้เธอโดยเฉพาะด้วยมือของเขาเอง แค่เหตุผลนี้ก็เพียงพอจะทำให้เธอลอยขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดได้แล้ว
ดวงตาของเธอแดงก่ำชุ่มไปด้วยน้ำตา เธอพูดขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจว่า “ปรมาจารย์เวดคะ คุณใจดีกับฉันมากเกินไป ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดีเลยค่ะ!”
ในขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นี้ ก็มีเสียงของเธอดังก้องขึ้นในหัวว่า ‘ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากอุทิศชีวิตนี้ให้กับคุณ เพื่อตอบแทนความกรุณาของคุณ ฉันหวังว่าฉันจะสามารถอยู่กับคุณไปจนตลอดชีวิต และอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป’
แต่อย่างไรก็ตาม นายหญิงที่มีความภาคภูมิใจแห่งตระกูลใหญ่จะพูดออกมาดัง ๆ อย่างนี้ได้อย่างไรกัน!
ชาร์ลีไม่ค่อยให้ความสนใจตรงนี้ เนื่องจากเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ ความชอบธรรม และความรู้สึกสำนึกในบุญคุณ
จัสมินไม่ใช่ผู้มีพระคุณของเขา แต่เธอเป็นเพื่อน… เพื่อนที่มีความหนักแน่นและไว้ใจได้
เขามีความบริสุทธิ์ใจเป็นอย่างมากที่มีเพื่อนเช่นนี้อยู่เคียงข้าง
นอกจากนี้ ชาร์ลียังรู้สึกคลุมเครืออยู่เสมอว่า จัสมินดูไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ มีบางอย่างในมิตรภาพของพวกเขาที่มีความพิเศษและไม่เหมือนใคร
ชาร์ลีชื่นชมบุคลิกและรูปแบบพฤติกรรมของจัสมิน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองคนมีชะตากรรมที่เกือบจะคล้ายคลึงกัน พวกเขาทั้งคู่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย
เส้นทางชีวิตของเธอดีกว่าเขาเล็กน้อย อย่างน้อยเธอก็ยังได้อยู่กับครอบครัวและไม่ได้จบลงที่อื่น
เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้เขาชื่นชมจัสมินในฐานะคนคนหนึ่ง และยึดมั่นในมิตรภาพนั้นก็คือ ความรู้สึกที่อยากจะดูแลเธอให้มากขึ้นอีกนิด มันเป็นความรู้สึกแบบดิบ ๆ โดยธรรมชาติ จากเพื่อนคนหนึ่งถึงเพื่อนอีกคนหนึ่ง
จัสมินจงใจขับรถด้วยระดับความเร็วแบบสบาย ๆ เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาอยู่กับชาร์ลีสองต่อสองในรถได้มากขึ้น
คฤหาสน์มัวร์กับธอมป์สัน เฟิร์สที่ชาร์ลีอาศัยอยู่นั้นมีแม่น้ำที่ดูโอ่อ่างดงามคั่นอยู่ตรงกลาง ในขณะที่จัสมินขับไปใกล้ถึงสะพาน จู่ ๆ เธอก็หันไปมองชาร์ลีด้วยสายตาที่ชื่นชมและเปี่ยมไปด้วยความหวัง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ปรมาจารย์เวดคะ ถ้าคุณพอจะมีเวลา ช่วยพาฉันไปเดินเล่นริมแม่น้ำหน่อยได้ไหมคะ?”
ชาร์ลีพยักหน้าและพูดว่า “ได้สิครับ”
จัสมินยิ้มด้วยความยินดีแล้วพูดว่า “เยี่ยมไปเลยค่ะ ฉันรู้จักสถานที่ที่มีความเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัว เราเดินเล่นเลียบริมแม่น้ำไปที่นั่นกันพร้อมกับรับลมเย็น ๆ ในระหว่างทาง”
จากนั้นจัสมินก็ขับรถไปที่ถนนสายเล็ก ๆ เลียบแม่น้ำ หลังจากขับเข้าไปประมาณหนึ่งหรือสองกิโล จัสมินก็จอดรถไว้ตรงริมถนนแล้วพูดว่า “มีถนนลงไปที่แม่น้ำ เราลงเดินกันที่นี่กันเถอะค่ะ”
ชาร์ลีพยักหน้า เปิดประตูรถแล้วลงไป
ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับเขา
จัสมินสวมเสื้อโค้ชผ้าขนสัตว์ที่คลุมทับชุดราตรีสุดหรูหราที่เธอใส่ในงานเลี้ยงวันเกิดของเธอ ส่วนในมือก็ถือกระเป๋าสีแดงของ Hermès
ในขณะที่มีลมแรง ๆ พัดมานั้น เส้นผมที่ยาวสลวยของเธอก็ปลิวไสวไปตามสายลม มีเส้นผมสีดำสองสามเส้นถูกลมโบกสะบัดขึ้นไปคลอเคลียอยู่ตรงใบหน้าของเธอ ทำให้เกิดภาพที่ดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ
ไม่มีทั้งคนและรถอยู่ในบริเวณนั้นเลย จัสมินยืนรับลมเย็น ๆ นั้นพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ ยิ้มเริงร่า แล้วพูดว่า “ฉันชอบมาเดินเล่นริมแม่น้ำตั้งแต่เด็ก ๆ แต่พอโตขึ้นมาก็งานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาดื่มด่ำกับความเงียบสงบแบบนี้เลยค่ะ”
จากนั้นเธอหันไปหาชาร์ลีแล้วพูดว่า “ปรมาจารย์เวด เดินลงไปกันเถอะค่ะ”