บทที่ 1527 สวยมาก / บทที่ 1528 สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนที่รัก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1527 สวยมาก

กลุ่มหญิงสาวที่ยืนข้างกายเยี่ยหวันหวั่นได้แต่ยืนอึ้ง หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาเหลือเชื่อ

ตอนแรกนึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนกับพวกเธอ…แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นถึงแขกที่ตระกูลเสิ่นเชิญมา!

ถึงขั้นรู้จักกับจี้หวง นายแห่งอาชูร่ายังเรียกเธอว่าหัวหน้าไป๋เฟิ่ง…

ไป๋เฟิ่ง…ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแห่งรัฐอิสระ…

ตอนนี้พี่โจวทำหน้าหวาดกลัว ใบหน้าซีดเซียว นี่เธอทำอะไรกับแบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ยกันเนี่ย…

“หัว…หัวหน้าไป๋…มะ…เมื่อกี้ฉัน…” พี่โจวมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วเอ่ยเสียงละล่ำละลักด้วยความแตกตื่น

แต่พี่โจวยังไม่ทันพูดอะไร เยี่ยหวันหวั่นก็ออกเดินไปกับคนของตระกูลเสิ่น โดยไม่หันมามองซักนิด เหมือนไม่ได้ยินเสียงเธอด้วยซ้ำ

พอพวกเยี่ยหวันหวั่นเดินออกไป เสียงฮือฮาก็ดังระงมไปทั่วบริเวณ

“สวรรค์…ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้ก่อตั้งพันธมิตรอู๋เว่ย ไป๋เฟิ่ง แบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ย!”

“ได้ยินว่าแบดเจอร์ฆ่าคนไม่กระพริบตา กลุ่มอำนาจอื่นไม่กล้าไปยุ่งกับเธอง่ายๆ…”

“ไม่นึกเลยว่าไป๋เฟิ่งจะสาวขนาดนี้ ตอนแรกฉันนึกว่าไป๋เฟิ่งจะหน้าตาน่ากลัว มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ซะอีก…นี่มันไม่ใช่เลยนี่นา…”

ผู้หญิงที่ใส่ชุดเดรสสีขาว รองเท้าส้นสูง หน้าตาสะสวยอย่างกับนางในวรรณคดีคนนี้ ไม่นึกเลยว่า…จะเป็นแบดเจอร์…

ผ่านไปครู่หนึ่ง หญิงสาวหน้าตาดีรอบๆ ต่างก็หันไปมองพี่โจว แล้วแค่นเสียง “คุณโจว จะกลัวอะไร คนระดับหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิ่งจะมาแค้นคุณได้ยังไง ไป๋เฟิ่งคงเห็นคุณเป็นอากาศธาตุตั้งแต่แรกแล้ว…”

“นั่นสิ ไม่รักชีวิตแล้วรึไง ไม่รู้ฐานะคนอื่นเขาแล้วยังกล้าวางท่าขนาดนี้ อย่าว่าแต่เธอคนเดียวเลย ถึงตระกูลโจวทั้งตระกูลมาเอง เจอกับสมาชิกอู๋เว่ยแค่คนเดียวก็ยังต้องก้มหัวให้ แต่ยัยคุณหนูโจวนี่กลับกล้าวางท่าใส่หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย เพิ่งเคยพบเคยเห็นจริงๆ”

“หึๆ ไป๋เฟิ่งเขาน่ะเป็นถึงพยัคฆ์ จะสนใจหมาตัวหนึ่งได้ยังไง…อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย นึกว่าหัวหน้าไป๋เฟิ่งจะแก้แค้นตัวเองจริงๆ รึไง…น่าขำจริงๆ”

เสียงซุบซิบนินทารอบข้างทำให้พี่โจวหน้าเปลี่ยนสีไปมาไม่หยุด แต่กลับพูดอะไรไม่ออกซักคำ

……

เวลานี้ คนของตระกูลเสิ่นพาเยี่ยหวันหวั่น จี้ซิวหร่านกับซือเยี่ยหานเดินไปทางตระกูลเสิ่น ตลอดทางที่เดินมา พวกเขากลับไม่ได้พูดคุยอะไร

พวกเขาเดินเคียงกันเป็นแถว เยี่ยหวันหวั่นเดินข้างจี้ซิวหร่านอย่างเป็นธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่าสนิทกับใครมากกว่า

“เสี่ยวเฟิ่ง มีเวลากลับบ้านไปกินข้าวบ้างนะ” จี้ซิวหร่านหันไปมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วพูดยิ้มๆ

เยี่ยหวันหวั่นอึ้ง ไม่นานก็ได้สติ หันไปพยักหน้าให้จี้ซิวหร่าน “ได้สิ!”

อีกด้านหนึ่ง นัยน์ตาราวน้ำค้างแข็งของซือเยี่ยหานตวัดมองจี้ซิวหร่าน

เอ่ยจบ นัยน์ตาราวกับผิวมหาสมุทรใต้สายลมอ่อนของจี้ซิวหร่านก็หันไปจับจ้องหญิงสาวข้างกายที่วันนี้แต่งกายต่างจากปกติโดยสิ้นเชิง

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของจี้ซิวหร่าน เยี่ยหวันหวั่นก็หันไป “ทำไมเหรอ?”

จี้ซิวหร่านมองพิจารณาหญิงสาว “วันนี้เธอแต่งตัว…”

เยี่ยหวันหวั่นกระดกคิ้ว “ทำไม แปลกมากเหรอ?”

จี้ซิวหร่านเอ่ย “สวยมาก”

“ใช่ไหมล่ะ ฉันก็ว่างั้นแหละ!” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างพอใจ

เธอไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายจะไม่แพ้ทางให้ผู้หญิงสวยบอบบางน่าทนุถนอม อย่างน้อยเธอก็มัดใจซือเยี่ยหานได้ เมื่อก่อนเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอแกล้งทำเป็นอ่อนแอ เธอก็จะทำให้เขาตามใจได้สำเร็จทุกครั้ง

————————————————————————————-

บทที่ 1528 สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนที่รัก

จี้ซิวหร่านยิ้ม “ไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวแบบนี้เลย”

เยี่ยหวันหวั่นแสร้งทำเป็นหันไปมองนายแห่งอาชูร่า แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา “สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนที่รักไง!”

จี้ซิวหร่านยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร

กิ่งไม้แห้งที่ถูกใครบางคนบังเอิญเหยียบได้แหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว…

เยี่ยหวันหวั่นแอบมองใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์เงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับกำลังแผ่รังสีอำมหิตอย่างชัดเจน ว่าแล้วเชียว…

เซนส์ของเธอไม่ผิด เมื่อไหร่ก็ตามที่จี้หวงอยู่ด้วย คนบางคนก็จะแสดงพิรุธให้เห็นง่ายๆ…

ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเยี่ยหวันหวั่นก็เดินมาถึงหน้าบ้านตระกูลเสิ่น

มองดูตระกูลเสิ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก นี่เหรอที่พวกเขาเรียกว่าบ้านที่อยู่อาศัย…แม่เอ็ง นี่มันพระราชวังแล้วมั้ง?!

ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็เข้าใจว่าทำไมเมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นถึงได้บอกว่าระวังหลงทางในตระกูลเสิ่น…พอเห็นคฤหาสน์ตระกูลเสิ่นแล้ว ก็อาจเกิดเรื่องอย่างงั้นขึ้นได้จริงๆ

หน้าตระกูลเสิ่น มีรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่สองตัว ยาวประมาณหลายสิบเมตร ดูมีชีวิตราวกับเป็นมังกรจริงๆ

“ฮ่าๆๆ จี้หวง แขกผู้มีเกียรติ ไม่เจอกันนานจริงๆ เป็นเกียรติของตระกูลเสิ่นจริงๆ ที่คุณมาร่วมงานเลี้ยงวันนี้ด้วย” ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังเหม่อมองรูปปั้นมังกร ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม ท่าทางร่ำรวยมีอันจะกินคนหนึ่งสาวเท้ายาวๆ เดินมาทักทายซือเยี่ยหานกับจี้ซิวหร่านพร้อมรอยยิ้ม

“คุณลุงเสิ่นพูดเกินไปแล้ว เป็นเกียรติของผมมากกว่าที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลเสิ่น” จี้ซิวหร่านยิ้มตอบ

“ฮ่าๆ จี้หวงให้เกียรติกันเกินไปแล้ว” ผู้นำตระกูลเสิ่นหัวเราะเบิกบาน จากนั้นก็หันไปมองซือเยี่ยหาน “นายแห่งอาชูร่า พวกเราเองก็ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วสินะ วันนี้ยังไงพวกเราก็ต้องดื่มฉลองกันหน่อย ดีไหม”

ซือเยี่ยหานพยักหน้าให้ผู้นำตระกูลเสิ่น กล่าวว่า “คุณลุงเสิ่นเกรงใจแล้ว ในเมื่อคุณลุงพูดอย่างงี้แล้ว ผมย่อมไม่ขัด”

ในรัฐอิสระ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอำนาจเล็กหรือใหญ่ล้วนมีสายสัมพันธ์ด้านการเงินกับตระกูลเสิ่น แม้แต่กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ก็ยังต้องให้เกียรติตระกูลเสิ่นบ้าง

มองดูชายวัยกลางคนร่างท้วมตรงหน้า เยี่ยหวันหวั่นอดถอนหายใจไม่ได้ ผู้นำตระกูลเสิ่นไม่วางมาดอวดดี ผูกไมตรีกับทุกฝ่าย เป็นมิตรกับทุกกลุ่มอำนาจ ไม่น่าล่ะถึงได้กุมเส้นชีพจรเศรษฐกิจของรัฐอิสระไว้ได้อยู่หมัด ขยายธุรกิจไปทั่วทุกซอกมุมของรัฐอิสระ…

“ฮ่าๆ จี้หวง นายแห่งอาชูร่า แขกผู้มีเกียรติทั้งสองรีบตามผู้น้อยเสิ่นเข้ามาเร็ว ผู้น้อยเสิ่นเตรียมงานใหญ่ไว้รอพวกคุณทั้งสองแล้ว” ผู้นำตระกูลเสิ่นพูดจบก็คว้ามือซือเยี่ยหานกับจี้ซิวหร่านอย่างสนิทสนม แล้วเดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น

มองดูผู้นำตระกูลเสิ่นจูงมือนายแห่งอาชูร่ากับจี้ซิวหร่านเดินห่างออกไป…ทำไมรู้สึก…แปลกๆ ยังไงไม่รู้…

“คุณผู้หญิงท่านนี้ รบกวนแสดงการ์ดเชิญหน่อยค่ะ” คนรับใช้ของตระกูลเสิ่นหันมากล่าวกับเยี่ยหวันหวั่นพร้อมรอยยิ้ม

เยี่ยหวันหวั่นยื่นการ์ดเชิญให้หญิงสาว

หญิงสาวยังไม่ทันพูดอะไร คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นก็เดินมาทางนี้ ดวงตาเป็นประกาย จ้องมองเยี่ยหวันนหวั่นไม่วางตา พร้อมกับส่ายหัวแล้วจิ๊ปาก

“คนสวย…เราเจอกันอีกแล้ว…ดีใจจังที่เจอเธอ ถ้าเธอไม่มา งานเลี้ยงของฉันคงไม่มีความหมาย…” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นตะโกนทักทายเยี่ยหวันหวั่นเสียงดัง

เยี่ยหวันหวั่นเงียบไม่พูดอะไร แม่เอ็งเถอะ งานเลี้ยงเลิกราของนายเกี่ยวอะไรกับฉันจะมาหรือไม่มาด้วย……

“เอ้า…รับไปสิ…” เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นก็ยื่นบัตรเอทีเอ็มที่ไม่รู้เอามาจากไหนให้เธอ

“นี่มัน…” เยี่ยหวันหวั่นจ้องบัตรเอทีเอ็มที่ถูกคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นยัดใส่ฝ่ามือด้วยความสงสัย