DND.
ฉินเฟยเฉินหรี่ตามองรอบๆ
“อย่าทิ้งข้าไป!นี่อาจเป็นแผนของซือหยู! มันต้องการดึงเจ้าออกจากข้าเพื่อที่จะลอบสังหารข้า! เจ้าห้ามไปไหนจนกว่าเทพเซียนคันฉ่องจะมาถึง!”
ผู้เฒ่ากระวนกระวายแต่เขาก็เข้าใจดีว่าฉินเฟยเฉินคือทายาทของเทพตำรา คนอื่นจะตายก็ได้ แต่ฉินเฟยเฉินจะต้องไม่เป็นอะไร
ผู้เฒ่าที่สิ้นหวังได้แต่มองการล้างบางตระกูลโดยทำอะไรไม่ได้เลย
จากั้นพื้นก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงยักษ์ขนาดหมื่นศอกมาถึงตำหนักเทพตำรา
ซือหยูตะโกนราวกับวีรบุรุษ
“เจ้ามือสังหารไร้ยางอายจากสำนักนรกเจ้าลอบสังหารยอดฝีมือพันธมิตรบูรพาไปมากมาย จงยอมถูกจับตัวซะ!”
เจิ้งหยวนชิงที่อยู่ข้างๆ พูดกับตัวเองเบา ๆ
“เขาไม่โผงผางไปหน่อยหรือ?”
เมื่อเห็นว่าจินกังเริ่มทำการสังหารเจิ้งหยวนชิงก็มิอาจหยุดรอยู่ได้ นางแตะแส้สีทองพุ่งเข้าไปต่อสู้กับจินกัง
แต่เมื่อจินกังเห็นว่านางมาเขาก็หนีโดยไม่คิดสวนกลับ
เหนือศีรษะขุนพลเทพยักษ์คังเตี้ยยี่แอบสื่อสารกับซือหยูผ่านกระแสจิต บอกเขาในเรื่องจุดสำคัญของเรือนเทพตำราและบอกจุดที่ซ่อนขุมทรัพย์เทพตำราอีกด้วย
ซือหยูจึงแอบสั่งจินกังต่อไป
ต่อมาจินกังที่กำลังฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งก็เปลี่ยนทิศทางไปในจุดที่มีคนคุ้มกันแน่นหนา
ฉินเฟิยเฉินตึงเครียด
“นั่นมันเรือนเก็บขุมทรัพย์เทพตำรา!แม่นางหยวนชิง โปรดหยุดมันที!”
เจิ้งหยวนชิงกำลังจะพยักหน้าแต่ก็ได้ยินเสียงของซือหยูจากด้านบน
“เจิ้งหยวนชิงหลีกทางไป! ให้ขุนพลเทพยักษ์จัดการแทน!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบขุนพลเทพยักษ์ก็กำลังเหยียบเท้าขนาดพันศอกลงกับพื้นแล้ว
เจิ้งหยวนชิงจ้องซือหยูตาเขม็งเขาคิดจะเหยียบนางให้ตายหรือยังไงกัน?
นางรีบหลบอย่างรวดเร็วขุนพลเทพยักษ์กระทืบลงอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า แต่มันไม่ได้เหยียบที่จินกัง แต่เป็นจุดที่เก็บทรัพยากรนับไม่ถ้วนของตระกูลเทพตำรา สมบัติต่าง ๆ ต่างระเบิดอยู่ใต้เท้าของมัน!
ปั้ง!
ทรัพยากรนับไม่ถ้วนกระจายไปรอบทิศทางราวกับน้ำตก
เหล่าคนรอบเรือนเทพตำราดีใจมากทุกคนรีบเก็บสมบัติที่หล่นมาจากฟ้า
สมบัติเหล่านั้นคือของล้ำค่าที่ยากจะได้เห็นในโลกภายนอกแต่ละชิ้นมีมีค่าเท่ากับเหรียญเทพหลายเหรียญ
“บัดซบ!ทำไมเรื่องน่าสนุกอย่างเก็บสมบัติถึงไม่มีข้าล่ะ?”
เทพไม้บินออกมาด้วยความโมโหเพียงความคิดเดียว เถาวัลย์มากมายก็งอกออกมาจากพื้นเก็บรวบรวมสมบัติที่หล่นจากท้องฟ้าด้วยความเร็วเหนือเสียง
หากพูดให้ตรงกว่านั้นเหล่าคนที่มาเก็บสมบัติก็เป็นเป้าหมายของเถาวัลย์เช่นกัน
เหล่าคนโลภที่เข้ามานั้นถูกปล้นเอาแหวนมิติของสำคัญ หรือแม้แต่เสื้อผ้าคุณภาพสูงไปโดยเถาวัลย์
“หากเป็นนักสะสมสมบัติก็มีสิทธิ์เก็บทุกอย่าง! จงเก็บทุกอย่างและไม่เหลือสิ่งใดเอาไว้ซะ!”
เทพไม้ชี้แนะเหล่าคนที่มาเก็บสมบัติใกล้ๆ
คนที่เสียแม้กระทั่งเครื่องแต่งกายเหล่านั้นตะโกน
“เจ้าต่างหากที่ปล้นเรา!!”
สมบัติที่กระจายออกมานั้นเป็นเพียงหนึ่งในร้อยของตระกูลเทพตำราเท่านั้นอีกเก้าสิบเก้าส่วนที่เหลือได้กลายเป็นเถ้าถ่านเมื่อตอนถูกเหยียบแล้ว
ฉินเฟยเฉินโกรธแค้น
“ซือหยู!ทำอะไรของเจ้า?”
แม้แต่เจิ้งหยวนชิงก็อ้าปากค้างซือหยูกำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตัวเอง เขาทำลายทรัพย์สินของเทพตำราทั้งหมดในก้าวเดียว!
มันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของตระกูลเทพตำราแต่อย่างน้อยก็เป็นครึ่งส่วน มันเป็นสิ่งที่ตระกูลเทพตำราสะสมมากว่าแสนปี!
ซือหยูพูดด้วยหน้าเศร้า
“ขออภัยด้วยเฟยเฉินหลานรัก แต่การทำลายสำนักนรกถือเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน เจ้าคงไม่ว่าอะไรนะ!”
ขุนพลเทพยักษ์ยกขาเหยียบไปทางจินกังอีกครั้ง
ขณะนี้จินกังอยู่ด้านในตำหนักขนาดยักษ์ที่มีรูปร่างคล้ายตำรา
ผู้เฒ่าตกใจจนแทบจะเสียสติเขารีบพูด
“อย่านะ!นั่นเป็นที่บ่มเพาะลับของตระกูลเทพตำรา มันถูกสร้างด้วยความพยายามของเทพตำราทุกคน…”
ปั้ง!
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งตำหนักขนาดยักษ์พังทลายอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ มิติที่ถูกบีบอัดข้างในระเบิดออกมา…
พื้นที่ลับเองก็ถูกทำลายไปแล้ว!
ทรัพยากรอีกมหาศาลกระจายปลิวออกมาจากแรงกระแทกตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเทพไม้ที่เก็บรวบรวมสมบัติทั้งหมด
น่าแปลกที่เหล่านักล่าสมบัติทั้งหลายเลิกล้มความคิดและทิ้งสมบัติไปพวกเขามองเทพไม้เก็บรวบรวมสมบัติเงียบ ๆ
“เฟยเฉินหลานรักเราต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเหนือสิ่งอื่นใด! โปรดทนไว้ก่อน!”
ซือหยูพูดด้วยหน้าเศร้า
จากนั้นจิงกังก็พุ่งไปอีกที่
“อย่าไปที่นั่นนะ!มันคือห้องบ่มเพาะฎีกาสวรรค์ที่เทพตำรารุ่นก่อนทิ้งเอาไว้ มันมีฎีกาสวรรค์ที่อดีตเทพหลายคนบรรลุ มันคือจุดสำคัญของตระกูลเทพตำ…”
ปั้ง!
“หลานรักเฟยเฉินเรื่องนี้สำคัญกว่าทุกสิ่ง โปรดทดไว้ก่อน!”
“อย่าไปที่นั่นนะ!นั่นคือที่ที่เทพตำรารุ่นก่อน…”
ปั้ง!
“หลานรักเฟยเฉินเจ้าอดทนก่อนเถอะ!”
“อย่าเหนียบนะนั่นมัน…”
ปั้ง!
“หลานรักเฟยเฉินอย่าได้คิดเล็กคิดน้อย ทนไว้ก่อน”
“อย่านะ…”
ปั้ง!
“เอ๋หลานรักเฟยเฉิน เจ้าจะพูดอะไรนะ? อย่าอะไรนะ?”
ฉินเฟยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
จินกังยังคงหนีต่อไปซือหยูก็ไล่ตามเขาขณะที่บังคับขุนพลเทพยักษ์ให้ทำลายพื้นที่สำคัญมากมายของตระกูลเทพตำราตลอดทาง
จินกังได้ผ่านจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชะตาของตระกูลเทพตำราตามที่คังเตี้ยยี่บอก
สุดท้ายก็คือจุดที่สำคัญที่สุด…ขุมทรัพย์เทพตำรา!
เหตุผลเดียวที่เทพตำราสามารถมีเกียรติยศกับเหล่าเทพอื่นได้ก็เพราะว่าเทพอื่นนั้นหวาดกลัวขุมทรัพย์เทพตำรานั่นเอง!
ใครจะไม่กลัวคนที่รู้ความลับทุกเรื่องของตัวเองเล่า?
เทพทั้งหมดชิงชังขุมทรัพย์เทพตำราจนถึงกระดูกแต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะเป็นผู้นำมาทำลายมันเพราะเทพตำราเป็นคนสำคัญในห้าลำดับเทพของเทพทั้งร้อยคน!
เขาเป็นคนมีอำนาจพอที่จะทำให้พันธมิตรระส่ำระสายได้
ดังนั้นจึงไม่มีเทพใดกล้าทำลายขุมทรัพย์เทพตำรา!
และนี่ก็เป็นเหตุที่เทพตำราออกจากโลกของตัวเองได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาทำอะไรกับขุมทรัพย์เทพตำราของเขา
จินกังบินหนีไปยังส่วนลึกที่สุดของตำหนักเทพตำรามันอยู่ข้างหน้าภูเขาสีเขียวขจีสิบลูก
สุดท้ายฉินเฟยเฉินก็มิอาจนั่งเฉยได้อีกต่อไป
“ทิ้งข้าได้แล้ว!หยุดจินกังก่อนที่มันจะเข้าไปหาขุมทรัพย์เทพตำรา!”
เมื่อได้รับคำสั่งผู้เฒ่าที่เหงื่อแตกพลั่กรีบพุ่งเข้าไปหาจินกัง
เขาติดชะงักอยู่ในระดับพลังว่าที่เทพขั้นต้นมาหลายปีพลังของเขาจึงเหนือกว่าจินกัง เมื่อเขาใช้พลัง ปรากฏการณ์ประหลาดจึงได้เกิดขึ้นบนฟ้าดิน
ใบหน้าจินกังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขาไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดและหันไปป้องกันตัวเอง
แต่ทันใดนั้นเองเท้าขนาดยักษ์ก็เตะเข้ามาทำลายร่างของผู้เฒ่าเป็นเสี่ยง ๆ ในทีเดียวและเหลือเพียงดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณนั้นโกรธแค้น เขาถือจิตวิญญาณเทพของตัวเองเอาไว้
ฉินเฟยเฉินโกรธจนเลือดในกายเดือดพล่านเขาตะโกนจนเป็นเสียงคำราม
“ซือหยู?เจ้าทำอะไรอยู่?”
ซือหยูยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“ว่าที่เทพนั่นรนหาที่ตายเอาหัวมาโขกกับเท้าขุนพลเทพยักษ์จนร่างกายแหลกสลาย ข้าจะทำอะไรได้เล่า? ศัตรูอยู่ตรงหน้า ข้าไม่มีเวลามาปลอบใจคนที่หมดหวังหรอกนะ!”
วิญญาณผู้เฒ่าสั่นด้วยความโกรธแค้นถึงขีดสุดเจ้าต่างหากที่เตะข้า! ข้าเอาหัวไปโขกขุนพลยักษ์ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ฉินเฟยเฉินโกรธแค้นซือหยูที่พูดผิดให้เป็นถูกน้ำขุ่นๆ!
แม้กระนั้นเมื่อจ้องมองขุนพลเทพยักษ์สูงหมื่นศอก ฉินเฟยเฉินก็ได้แต่อดกลั้น
ฉินเฟยเฉินสัมผัสจิตสังหารจากซือหยูที่มาถึงเขาได้อย่างชัดเจนหากซือหยูมีข้ออ้างให้ลงมือเมื่อใด ซือหยูจะฆ่าเขาด้วยทุกสิ่งที่มี เช่นเดียวกับที่เขาทำลายกายหยาบของผู้เฒ่า!
ฟึ่บ!
จินกังหายตัวไปในภูเขาเขียวสิบลูกซือหยูถอนหายใจแรงและบังคับขุนพลเทพยักษ์ให้เหยียบมัน
ปั้ง!
ภูเขาเขียวสั่นแต่ก็ไร้ความเสียหาย!
คลื่นพลังเทพอันแข็งแกร่งแผ่ตามมาหลายลูกจากภายในภูเขาทั้งสิบ
ซือหยูแววตาเริ่มตึงเครียดตามที่คังเตี้ยยี่บอก ขุมทรัพย์เทพตำรานั้นซ่อนอยู่ใต้ภูเขาทั้งสิบ ภูเขาทั้งสิบคือผนึกป้องกันที่เทพตำรารุ่นก่อนสิบคนทิ้งเอาไว้เพื่อปกป้องไม่ให้ขุมทรัพย์เทพตำราถูกทำลายนั่นเอง
ว่าที่เทพทั่วไปมิอาจคลายผนึกเหล่านั้นได้
เมื่อเห็นว่าซือหยูทำลายไม่ได้ฉินเฟยเฉินโล่งอกเล็กน้อย ตระกูลเทพตำราตั้งรากฐานในพันธมิตรได้ทั้งหมดก็เพราะขุมทรัพย์เทพตำรา
ถ้าหากมันเสียหายฐานะของตระกูเทพตำราก็คงจะเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรงเช่นกัน
แต่ซือหยูไม่ได้ไม่พอใจเขากลับยิ้มอย่างมีเลศนัยที่มุมปาก เขาพูดเมื่อมองท้องนภา
“เรากำลังเสียเปรียบขณะที่ตามล่ามือสังหารจากสำนักนรกหากเทพใดดูอยู่ โปรดให้ข้ายืมมือด้วย!”
เมื่อเขาพูดจบคลื่นพลังเทพที่มีกลิ่นอายซับซ้อนก็ได้ซัดลงมาจากฟากฟ้าในพริบตา มันปะทะกับภูเขาลูกแรก
ม่านพลังผนึกบนภูเขาลูกแรกแตกออกในทันที!
ซือหยูยิ้มมีเทพคนอื่นมิอาจรออยู่เฉยได้ พวกเขาต้องการใช้โอกาสนี้ทำลายขุมทรัพย์เทพตำราเหมือนกับซือหยู!
ซือหยูพูดต่อด้วยใบหน้าเศร้า
“ท่านเทพเอ๋ยมือสังหารเจ้าเล่ห์นัก ข้าเกรงว่าแค่การโจมตีไม่กีครั้งจะไม่เข้าเป้า เพิ่มพลังโจมตีอีกสักหน่อยไม่ได้หรือ?”
ฉินเฟยเฉินตะโกนสวนกลับทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของซือหยู
“ใครที่กล้าทำลายหัวใจของตระกูลเทพตำ…”
ปั้ง!ปั้ง! ปั้ง!
พลังเทพหลายสิบคลื่นพุ่งลงมาจากท้องนภาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมันเข้าระเบิดภูเขาทั้งเก้า!
แค่พริบตาเดียวผนึกทั้งเก้าก็พังทลายสลายไป
ฉินเฟยเฉินมองภูเขาที่พังทลายด้วยความมึนงงชิงชัง และโกรธแค้น เขายิ่งโกรธแค้นเมื่อเห็นว่าเทพทั้งหมดทำเป็นตามืดบอดอ ภูเขาทั้งสิบถูกระเบิดหายไปแล้ว แต่จุดเล็ก ๆ ที่จินกังยืนอยู่นั้นไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย!
เขาไม่พอใจอย่างมากความจริงคือเทพทั้งหมดที่มาที่นี่กำลังแอบช่วยซือหยูขณะที่เทพตำราไม่อยู่ในโลกของตัวเอง!
ถึงอย่างนั้นฉินเฟยเฉินก็มิอาจหยุดยั้งพวกเขาได้ และทำได้แต่มองดูการทำลายล้างทั้งหมดโดยที่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว
เมื่อผนึกป้องกันหายไปทุกคนก็ได้เห็นขุมทรัพย์เทพตำราที่ซ่อนอยู่ภายใน
มันคือชั้นตำราเก่าแก่ที่ดูโบร่ำโบราณ
ตำราหลายเล่มจัดเรียงอยู่อย่างเรียบร้อยบนชั้นพวกมันมีทั้งเก่าและใหม่ รวมกันเป็นพันเล่ม!
แต่ละเล่มนั้นมีมิติของตัวเองอยู่ภายในซึ่งมีตำราหลายพันล้านเล่มอัดแน่นอยู่!
โดยเฉพาะตำราที่ชื่อ‘บันทึกร้อยเทพ’!
สิ่งที่เขียนอยู่ข้างในคือความลับของเทพทุกคน!
เมื่อได้เห็นตำราเล่มนั้นซือหยูสัมผัสได้ถึงความกระวนกระวายจากเบื้องบน เทพทุกคนกำลังรบเร้าให้ซือหยูทำลายมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
ดูจากขนาดของตำราเล่มนี้ข้อมูลที่ความลับที่เก็บเอาไว้คงจะมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
ถ้าชั้นตำรานี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เองด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาล มันก็ไม่ใช่สิ่งใดในพันธมิตรที่ขุมทรัพย์เทพตำราจะบอกไม่ได้
“สิ่งนี้ต้องถูกกำจัด!”
ซือหยูหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเขาใช้ขุนพลเทพยักษ์ชกมันด้วยหมัด!
แต่ในตอนนั้นเองเสียงอันน่าสะพรึงกลัวหนึ่งก็ดังมาจากสวรรค์
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เสียงอันยิ่งใหญ่นี้ดังก้องโลกเทพตำรา
ซือหยูชักสีหน้าเล็กน้อยมีเทพที่คิดจะหยุดเขาด้วยหรือ?
เมื่อสัมผัสพลังนั้นได้เทพหลายคนที่ร่วมมือกันเมื่อครู่หนีไปทันที!
ราวกับว่าการปรากฏตัวของคนผู้นี้คือสิ่งที่น่ากลัว
“เทพเซียนคันฉ่อง!”
ฉินเฟยเฉินร่าเริงขึ้นมาทันทีไม่มีร่องรอยความโกรธแค้นอยู่บนใบหน้าของเขาอีกแล้ว
เจิ้งหยวนชิงบินไปที่ข้างซือหยูนางพูดกับเขาผ่านกระแสจิต
“เทพเซียนคันฉ่องเป็นมารดาของผู้คุมกฎคันฉ่องแห่งตำหนักพันธมิตรนางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทพตำรา”
“เจ้าต้องหยุดเดี๋ยวนี้!อย่าได้ทำมากกว่านั้น มิเช่นนั้นจะไม่มีใครปกป้องเจ้าได้!”
นางกล่าว