บทที่ 644 เป็นครั้งแรกที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน
บทที่ 646 เว้นแต่จะหมดใจจริงๆ
ดลธีที่ยังอยู่บนถนนแห่งนั้นยังคงถูกรถยนต์สีดำหลายคันนั้นตามฆ่า ถ้าไม่ได้พาร่างของภารานินมาด้วยละก็ ความจริงแล้วเขาไม่ต้องกลัวพวกคนเหล่านั้นก็ได้
หรือชน หรือทำลายไปซะ……
พวกคนเหล่านี้ มีวิธีสลัดออกไปได้
แต่ว่า เขาทำแบบนั้นไม่ได้ ต่อให้เขาจะไม่รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ ก็ต้องปกป้องศพของร่างนี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์
“ปัง——”
เป็นลูกปืนอีกหนึ่งลูกที่ถูกยิงเข้ามา ดลธีจำเป็นต้องหักพวงมาลัย หลังจากนั้นดริฟท์รถอย่างรวดเร็ว เป็นอีกครั้งที่รอดปลอดภัยไปได้
“เชี้ย หัวหน้าธี ไอ้พวกนี้ ผมจะฆ่ามัน!!”เพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน อดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว หยิบปืนขึ้นมาแล้วลดกระจกลง
หลังจากนั้น วินาทีนี้“ปัง——”ได้ยินเพียงเสียงปืนที่ดังขึ้นมาอีก ดลธีหันมาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พบว่าเพื่อนรักคนนี้ถูกลูกปืนยิงทะลุผ่านระหว่างคิ้วไป ทันใดนั้นก็ไม่ขยับอีกแล้ว!
“พี่ธี ปืนไรเฟิล ไอ้คนพวกนี้มันใช้ปืนไรเฟิล!!”
บอดี้การ์ดคนอื่นๆที่นั่งอยู่ในรถได้เห็นแล้ว ใจสั่นขึ้นมา แต่ละคนหน้าซีดขึ้นมาครึ่งหนึ่ง
ปืนไรเฟิล เป็นอาวุธที่น่ากลัวมากอันหนึ่ง
อีกทั้งเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกลียดจนต้องกัดกรามขึ้นมา ทั้งๆที่พวกเขากำลังขับอยู่อย่างรวดเร็ว แต่ลูกปืนกลับยิงเข้ามาตรงกลางระหว่างคิ้ว ก็พูดได้ว่า ต้องอยู่ในรถคันใดคันหนึ่งนั้น
น่ากลัวมาก!
ตระกูลเทวเทพนี้ สิ่งที่ได้ยินมานั้นเป็นเรื่องจริง แม้แต่คนที่ฝีมือดีขนาดนี้ยังมีอยู่
ภายในใจของดลธีเย็นวาบขึ้นมาแล้ว
ในตอนที่เขาสติหลุดไป มองเห็นรถคันที่ใกล้กับเขาที่สุดด้านในมีคนยกปืนขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้น ลูกกระสุนลูกหนึ่งที่ลอยมาเร็วยิ่งกว่าของคนคนนั้นลอยมาจากทางด้านหลังของรถคันนั้น
“ปัง——!”
ไม่เลวเลยทีเดียว ลอยทะลุกระจกด้านหลังของรถคันนั้นมา ตรงกลางระหว่างคิ้วของคนคนนั้นพอดี!
ดลธีอึ้งไป
กาวินมาแล้ว?
ชื่อของคนคนหนึ่งลอยเขามาในหัวของเขา หลังจากนั้นจากทั้งสองฝั่งได้ยินเพียงเสียง“ปรื้น”ดังมา มอเตอร์ไซค์สองคันที่ผ่านการดัดแปลงมา บินผ่านไปเหมือนลูกธนูที่ดีดออกมาจากเชือก
แวบเดียว ดลธียังไม่ทันได้เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รถสีดำสองคันนั้นที่ขวางอยู่ที่ด้านหน้าเขาได้ยินเพียงเสียง “ปึง”ดังออกมาอย่างดัง
รถคันนั้น ถูกระเบิดจนลอยขึ้นมาจากพื้นสูงกว่าสิบฟุต!
พูดจริงๆ ถ้าพูดถึงพลังทำลายล้าง บนโลกใบนี้ เกรงว่าจะไม่มีแก๊งไหนจะสามารถชนะดราก้อน แชนท์ได้
เพราะว่า หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นธนากร หรือว่าแสนรัก ทั้งระเบิดและปืนที่พวกเขาได้เก็บสะสมเอาไว้นั้น ต่างเป็นของที่ดีที่สุดในโลก ต่อให้เป็นตระกูลเทวเทพที่เป็นทหาร ก็ไม่อาจมีอาวุธแบบนี้
ดลธีมองไปอย่างอึ้งทึ่ง
จนชายหนุ่มที่สะอาดสะอ้านคนนี้ถือ115A3กระบอกนั้นเดินเข้ามา
“หืม วิน คุณเปลี่ยนเป็นคนที่รุนแรงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน พี่ชายไม่อยู่ คุณยิ่งมุทะลุดุดันขึ้นมาอย่างง่ายดาย” ดลธีมองเห็นชายหนุ่มคนนี้ ทันใดจึงลืมความตื่นตระหนักในเมื่อสักครู่ไปแล้ว หลังจากนั้นก็ล้อเล่นออกไปอย่างหน้าไม่อาย
วิน กาวิน
ไม่ผิดหรอก หนุ่มหล่อที่มีคุณสมบัติครบที่อยู่ตรงหน้าเขา ก็คือกาวินเป็นน้องชายของกาโร่
ได้ยินดลธีคนนี้เปิดปากเรียกตัวเองออกมาแบบนี้ บนร่างกายที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของดินปืน ทันใดใบหน้าที่ขาวสะอาดก็เริ่มขุ่นเคืองขึ้นมา
“เชื่อหรือไม่ตอนนี้ผมจะยิงคุณบ้าง”
“อย่าสิ ผมผิดไปแล้ว หัวหน้ากาวิน ผมขอโทษคุณนะ นั่นอะไรเหรอ ร่างของคุณหญิงอยู่ที่ด้านหลังของผม ท่านประธานบอกว่า ให้ผมนำศพไปเผา แต่ตอนนี้มองดูแล้ว พวกเราคงจะทำไม่ได้ไม่งั้นพาไปไว้ที่ดราก้อน แชนท์ก่อนไหม”
ทันใดดลธีก็จริงจังขึ้นมา เริ่มพูดเรื่องราวของวันนี้ออกมาทีละน้อย
กาวินก็มีความคิดแบบนี้พอดี
ตระกูลเทวเทพตามฆ่าพวกเขามาตลอดทาง โลงศพก็น่าจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน แบบนี้ พาไปที่ดราก้อน แชนท์ดีที่สุด
กาวินให้คนนำเอาร่างของภารานินที่อยู่บนรถย้ายลงมา:“โอเคแล้ว งั้นผมเอาไปแล้วนะ คุณกลับไปรายงานท่านประธานด้วย”
ดลธี:“……”
ไม่ใช่สิ เจ้าเด็กคนนี้โยนความยุ่งเหยิงมาให้เขาซะงั้น? เขาจะไม่ช่วยเขาอธิบายหน่อยเหรอ เรื่องนี้ยังจัดการไม่เสร็จ ที่ท่านประธานให้ภารกิจมา
ดลธีได้เพียงแต่กระทืบเท้า
“ช่างเถอะ พี่ธี กาวินคนนี้ ตั้งแต่เด็กก็แปลกประหลาด หลังจากที่พี่ชายของเขาเสียไป ยิ่งหนักกว่าเดิม คุณอย่าได้สนใจเขาเลย พวกเรากลับกันไปก่อนเถอะ”
บอดี้การ์ดที่มาด้วยกันได้เห็นแล้ว รีบปรามเอาไว้
ในท้ายที่สุด ดลธีจึงกลับไปเพียงแบบนี้
——
เรืองรอง
หลังจากที่เส้นหมี่พาลูกๆกลับมา เป็นเวลาเนิ่นนาน ที่เธออยู่ในห้องครัวไม่ยอมออกมา
เธอถูกทำร้ายเข้าแล้วจริงๆ
ถ้าพูดว่าหลายวันมานี้ ชายหนุ่มคนนี้พูดเรื่องอย่าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาพูดสิ่งเหล่านั้นกับเธอ เธอยังพอรับได้ สุดท้ายแล้วเธอสามารถไม่เอามาใส่ใจได้
วันนี้ที่เขาพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา ทำให้เธอรับไม่ได้ขึ้นมาจริงๆแล้ว
เหมือนกับว่าเอาเข็มทิ่มลงไปแรงๆบนหัวใจของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะดึงออกมาแล้ว บาดแผลอันนั้นก็ยังคงอยู่
ทำไมกัน?
ทำไมเขาถึงได้ไม่เชื่อใจเธอขนาดนี้?
สุดท้าย เพื่อที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ ยังตั้งใจวางแผนการ ระหว่างพวกเขา มาถึงจุดจุดนี้แล้วจริงๆเหรอ? พวกเขาผ่านอะไรมาตั้งมากมาย แม้แต่ความเชื่อใจที่เขามีต่อเธอยังไม่มีเลย?
เส้นหมี่ไม่เคยโศกเศร้าเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลย
“เอ๋? ทำไมเด็กน้อยอย่างพวกคุณมาอยู่ที่นี่กัน แม่ของพวกคุณล่ะ”
ชั้นล่าง แสงดาวกลับมาอย่างกะทันหัน มองเห็นมีเพียงเด็กน้อยทั้งสามคนที่นั่งดูทีวีอยู่ที่นั่น เธอจึงอ้าปากถามถึงเส้นหมี่ขึ้นมา