เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1005
อาคารไม้โบราณ ดูสง่างามสูงส่งอย่างเห็นได้ชัด

สุ่มดูแผ่นไม้สักชิ้น ล้วนเป็นไม้ประเภทสนที่หายากในบ้านเกิดของลู่ฝาน มีประสิทธิภาพเมื่อหน้าหนาวจะอบอุ่น หน้าร้อนจะเย็นสบาย สกัดกั้นน้ำและไฟ และที่นี่ใช้ไม้ประเภทนี้มาปูพื้นเท่านั้น

ใช้ม่านบางกั้นห้อง เห็นเงาคนข้างในอยู่รางๆ

แต่ม่านบางเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของธรรมดา อย่างน้อยจากสายตาของลู่ฝาน บนม่านบางมีอักษรยันต์อย่างน้อยสิบกว่าชนิด อักษรยันต์แต่ละอันล้วนมีประสิทธิภาพของค่ายกล ถ้ามีใครพยายามจู่โจมม่านบางนี้ เขาพบว่าม่านผืนนี้ยังหนากว่ากำแพงเมืองของคูเมืองเสียอีก อีกทั้งยังทำลายยากกว่าด้วย

“ไท่จื่อ พาลู่ฝานมาแล้วครับ!”

เหรินเจียงคำนับด้านหน้าม่านบาง แล้วเอ่ยขึ้น

ทันใดนั้น มีเสียงเกียจคร้านดังมาจากข้างใน

“เข้ามา!”

เมื่อพูดจบ ม่านบางข้างหน้าสั่นไปมา เหมือนอักษรยันต์ด้านบนไร้ประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว แสงหม่นหมองลงไป

เหรินเจียงยกมุมหนึ่งของผ้าม่านขึ้น แล้วพูดกับลู่ฝาน “เชิญครับ!”

ลู่ฝานพยักหน้าแล้วเดินเข้าไป

ไม้จินสื่อหนาน เก้าอี้เสือดาวหนังมังกร กลิ่นดอกไม้หอมฟุ้ง

ฉากที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเหมือนแดนมายา ดูเลื่อนลอยไม่แน่นอน

หมอกควันล้อมรอบ พร้อมกลิ่นไม้จันทน์เป็นระยะ

บนเตียงที่เคลื่อนไหวเหมือนน้ำ ปูด้วยหนังสัตว์อ่อนนุ่ม ขนสีขาวอบอุ่นไหลลงมาบนพื้นที่เหมือนคริสตัล

ห้องใหญ่และสูงมาก สูงเสียดฟ้าเหมือนท้องฟ้ายามราตรี เหลือแค่สีดำเพียงแถบเดียว ท่ามกลางหมอกควัน เห็นได้ยากว่าเป็นพื้นผิวอะไร

ไม่มีรูปภาพ ไม่มีขวดหรือแจกัน ของวางโชว์ทั่วทั้งห้องคือสาวงาม สาวงามแบบต่างๆ

งดงามในรูปแบบที่แตกต่างกัน

ดวงตามีแฝงความรู้สึก แววตาอ่อนโยนเหมือนสายน้ำ

เสื้อผ้าบนตัวพวกเธอมีน้อยมาก ราวกับในห้องร้อนมาก

แต่ในความเป็นจริง ในห้องไม่ร้อนเลย แต่คนที่เห็นสาวงามพวกนี้ร้อนมากต่างหาก

อย่างเช่น ลู่ฝาน ตอนนี้รู้สึกว่าลมหายใจขึ้นเล็กน้อย

เขาก็เป็นผู้ชายนะ ชายแท้ปกติ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสาวงามเยอะขนาดนี้

ดูร่างกายขาวๆ นั่นสิ ดูใบหน้าเล็กที่ดึงดูดใจนั่นสิ

ลู่ฝานสูดหายใจลึก

แมวสาวตัวหนึ่งปีนมาที่เท้าของเขา ใช้หางขาวๆ ของตัวเองแหยเสื้อของลู่ฝาน

จากนั้นใช้ดวงตาโตเงยหน้ามองลู่ฝาน หูแมวงอลงเล็กน้อย ลู่ฝานเห็นแล้วจิตใจหวั่นไหวมาก!

“ลู่ฝาน! ฮ่าๆ ในที่สุดนายก็มาสักที”

บนเตียงนอน ผู้ชายคนหนึ่งปีนออกมาจากกองสาวงาม

ภายนอกดูหล่อเหลา กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ไม่ได้ใส่อะไรเลย ยืนขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง มองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม

เหรินเจียงที่อยู่ข้างๆ คำนับแล้วพูดว่า “ไท่จื่อ!”

ลู่ฝานเห็นคนคนนี้ นี่คือฉินอวิ่น ไท่จื่อของประเทศอู่อานงั้นเหรอ

ลู่ฝานค่อยๆ กำหมัดคารวะ พูดด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า “ยินดีที่ได้พบไท่จื่อ!”

ฉินอวิ่นยิ้มบางๆ กางแขนทั้งสองข้างออก

สาวงามสองสามคนที่อยู่ข้างๆ เอาชุดคลุมออกมาใส่ให้ไท่จื่ออย่างรู้งาน

ระหว่างที่สวมเสื้อผ้า สาวงามที่อยู่ด้านล่างสุด ยังเริ่มมอบบริการสุดพิเศษให้ไท่จื่อ

ลู่ฝานเห็นภาพนี้ สีหน้าอึมครึมเล็กน้อย รู้สึกว่าสะดุดตาเล็กน้อย

เขาค่อยๆ หันหน้าไปทางอื่น มองสาวงามเผ่าเหนือมนุษย์คนอื่นดีกว่า

“ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย ฉันเป็นคนสบายๆ เป็นกันเอง มานั่งสิ!”

ฉินอวิ่นเพลิดเพลินกับการ “สวมเสื้อผ้า” ไปพลางพูดออกมา

สาวงามสองสามคนเลื่อนเก้าอี้หัวมังกรขนาดใหญ่ออกมา ลู่ฝานค่อยๆ นั่งลง ส่วนเหรินเจียงยืนอยู่ด้านข้าง

ค่อยๆ นั่งลง ลู่ฝานรู้สึกว่าร่างกายตัวเอง จะจมไปกับเก้าอี้ตัวใหญ่ตัวนี้แล้ว พูดตามตรง เก้าอี้ตัวนี้สบายมากเลย

รออยู่ครู่หนึ่ง ฉินอวิ่นชะงักไปทั้งตัว ในที่สุดก็ “สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว” เขาดันสาวงามข้างๆ ออกไป นั่งลงตรงข้ามลู่ฝาน