บทที่ 1743 โอกาสสุดท้าย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1743 โอกาสสุดท้าย

 

“มันสายเกินไปที่จะถอย ทุกคน โปรดร่วมมือกันต่อต้านวังสวรรค์ พวกเขาจึงใช้วิญญาณชะตากรรม พวกเขาไม่สามารถใช้มันได้ในระยะเวลาสั้นๆ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเรา!” ปิงช่ายฉวนตะโกนเสียงดัง

 

กลุ่มผู้อมตะตอบสนองทันที พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยฟันที่กัดแน่น

 

ปิงช่ายฉวนกล่าวได้ถูกต้อง หอคอยดวงตาสวรรค์รวดเร็วเกินไป พวกเขาไม่สามารถหลบหนี

 

ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้ใดคิดใช้ประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อถ่วงเวลาให้ตนเองหลบหนี แต่สิ่งสําคัญก็คือภาคกลางใหญ่โตเกินไป แม้พวกเขาจะหลบหนีไปในทิศทางที่แตกต่างกัน หอคอยดวงตาสวรรค์ ก็ยังมีเวลาพอที่จะไล่ล่าและกําจัดพวกเขา

 

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือเข้าใจสถานการณ์ พวกเขาต้องต่อสู้เท่านั้น

 

ทุกคนใช้ทุกสิ่งที่ตนเองมีออกมาอย่างสิ้นหวัง

 

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

“จื่อเว่ย ประกาศข่าวการกลับมาของวิญญาณชะตากรรมให้โลกรู้หรือยัง?” ราชันมังกรติดต่อเทพธิดาจื่อเว่ย

 

หลังจากไม่นานเทพธิดาจื่อเว่ยก็ตอบกลับ “ข่าวถูกเผยแพร่ออกไปในสวรรค์สีเหลือง แล้ว นอกจากนั้นฉากการต่อสู้ในขณะนี้ของท่านราชันมังกรก็กําลังถูกเผยแพร่อยู่ทุกหนทุกแห่ง ด้วยวิธีบนเส้นทางมนุษย์”

 

การเผยแพร่ข่าวการฟื้นคืนของวิญญาณชะตากรรมเป็นการยกขวัญกําลังใจผู้อมตะภาคกลาง และข่มขู่ศัตรูของพวกเขา

 

ผู้อมตะและผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนได้ยินข่าวและได้เห็นฉากการต่อสู้ในปัจจุบัน

 

การกระทําของวังสวรรค์แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในชัยชนะของพวกเขา

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า วังสวรรค์จะไม่แพ้

 

เทพธิดาจื่อเว่ยต้องการใช้โอกาสนี้แสดงความแข็งแกร่งของวังสวรรค์โดยการจับกุมผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือในครั้งเดียว

 

ราชันมังกรเข้าใจความคิดของเทพธิดาจื่อเว่ยแต่เขายังขมวดคิ้ว

 

“ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกเขาเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกต้อนเข้ามุมและพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย นี่ทําให้เรากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้มันจะเป็นเรื่องชั่วคราวก็ตาม…”

 

เนื่องจากเทพธิดาจื่อเว่ยลงมือทําไปแล้ว ราชันมังกรจึงต้องให้ความร่วมมือกับนาง

 

พวกเขาต้องแสดงพลังอํานาจของวังสวรรค์ที่ไม่สามารถต่อต้านออกมา

 

ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า หลังจากวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ พลังอํานาจของท่าไม้ตายนี้ยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาไม่สามารถใช้งานติดต่อกัน มันต้องใช้เวลาพักฟื้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

“ดูเหมือนข้าต้องเคลื่อนไหวด้วยตนเอง มิฉะนั้นการแสดงของเราอาจดูไม่ดี”

 

ราชันมังกรออกคําสั่งให้ผู้อมตะหลายคนเข้าควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์ขณะที่เขาบินออกไป

 

“ราชันมังกรออกมาแล้ว ระวังเขาให้มาก!” ชิงช่ายฉวนเตือนคนอื่นๆ

 

“โจมตีพร้อมกัน!” เหยากวงตะโกน

 

บ้านไม้ไผ่สายลมและคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆเคลื่อนไหวเช่นกัน

ราชันมังกรถูกปิดล้อมทันที

 

ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดจํานวนนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาและทําให้โลกตกตะลึง

 

“ระวัง!”

 

“บัดซบ!”

 

“หลบ!”

 

ทั่วทั้งภาคกลางโดยเฉพาะสิบนิกายโบราณ ผู้อมตะจํานวนมากอุทานด้วยความตกใจ

 

พวกเขาเห็นราชันมังกรถูกปิดล้อมและรู้สึกกังวล

 

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ภายใต้ฝุ่นควัน ราชันมังกรยังไม่เคลื่อนไหว

 

ปราณมังกรทั้งเก้าที่เกิดจากท่าไม้ตายอมตะเก้ามังกรคุ้มภัยรัดพันอยู่รอบตัวราชันมังกรและ พ่นลมหายใจออกมาปัดเป่าฝุ่นควันออกไป

 

ราชันมังกรลอยอยู่ที่เดิมด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่ง

 

เขามองไปรอบๆอย่างไม่แยแส “พวกเจ้าต้องการเกาที่คันให้ข้างั้นหรือ?”

 

“แข็งแกร่งนัก!” หัวใจของเหยากวงและคนอื่นๆสั่นไหว แม้พวกเขาจะได้รับข้อมูลมาแล้ว แต่ พวกเขายังตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของราชันมังกร

 

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่น “เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า! ตอนนี้เราไม่มีค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณความสิ้นหวังทั้งเจ็ด เราไม่สามารถต่อสู้กับเขา ข้าควรทําอย่างไร?”

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกร!

 

ท่าไม้ตายอมตะร้อยตะขาบ!

 

ฟางหยวนและจักรพรรดิสวรรค์ไปซูส่งท่าไม้ตายอมตะของพวกเขาออกไปพร้อมกัน

 

กองทัพภูตมังกรดาบบรรพกาลและตะขาบสีเทาบินไปทั่วสนามรบ

 

ผู้ชมของภาคกลางกรีดร้องด้วยความตกใจและห่วงใยราชันมังกร

 

ท่ามกลางทะเลตะขาบ เสียงที่ไร้กังวลของราชันมังกรดังขึ้น “เป็นท่าที่ดี แต่ยังไม่พอ”

 

ท่าไม้ตายอมตะลมหายใจดาบ!

 

“บึม!”

 

กองทัพภูตมังกรดาบบรรพกาลและตะขาบสีเทาถูกทําลายในครั้งเดียว

 

ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์มีความคิดที่แตกต่างกัน

 

“ท่านแม่ คนที่มีเขามังกรเป็นผู้อมตะภาคกลางของเราใช่หรือไม่?”

 

“ท่านราชันมังกรเป็นอาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดง เขาแข็งแกร่งมาก!”

 

“วังสวรรค์เคลื่อนไหวแล้ว ถอยกันเถอะ”

 

“ข้าปล้นทรัพยากรมามากมายแล้ว ข้าควรจากไปเดี๋ยวนี้”

 

เป็นไปตามคําทํานายของราชันมังกรและเทพธิดาจอเว่ย ผู้อมตะที่บุกภาคกลางเริ่มล่าถอย ขวัญกําลังของคนภาคกลางพุ่งสูงขึ้น

 

“กลยุทธ์ของพวกเราไร้ประโยชน์ต่อหน้าเขา” ใบหน้าของจักรพรรดิสวรรค์ไปซูกลายเป็นซีดเผือด

 

“ถึงคราวของข้าแล้ว” ราชันมังกรกล่าวเบาๆก่อนจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน

 

“เร็วมาก!”

 

“เขาอยู่ที่ใด?”

 

อี้ห่าวฟางรู้สึกสังหรณ์ร้าย เขารีบเงยหน้าขึ้นและพบกับราชันมังกร

 

กรงเล็บมังกรพุ่งลงมา อี้ห่าวฟางยกมือขึ้นป้องกัน

 

“ยิ้ม!”

 

อี้ห่าวฟางพุ่งลงจากท้องฟ้าและสร้างหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้น

 

เขากระอักเลือดคําโตออกมาและอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ การโจมตีนี้ทําลายการป้องกันของเขาและยังทําให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

 

ปราณมังกรปรากฏขึ้นด้านหน้าอี้ห่าวฟางอีกครั้ง

 

แต่ปรมาจารย์ห้าธาตุกับขื่อชิวหยูปรากฏตัวขึ้นด้านข้างราชันมังกรอย่างกะทันหัน

 

“ราชันมังกร เจ้าตกหลุมพรางแล้ว!”

 

“เจ้าต้องติดอยู่ที่นี่!” ผู้อมตะทั้งสองกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“มดปลวกต้องการจับข้างั้นหรือ?” ราชันมังกรเย้ยหยัน ร่างของเขาระเบิดแสงออกมา

 

“เพล้ง!”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับกระจกแตก ปรมาจารย์ห้าธาตุและจื่อชิวหยูได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับ

 

แต่ราชันมังกรก็พลาดโอกาสสังหารอี้ห่าวฟางเช่นกัน

 

อี้ห่าวฟางบินขึ้นมาจากหลุมและรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองด้วยความหวาดกลัว

 

พลังของราชันมังกรเหนือจินตนาการมากเกินไป

 

อี้ห่าวฟางเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ แต่เขาเกือบถูกสังหารโดยการโจมตีไม่ถึงสามกระบวนท่าของราชันมังกร

 

“อาจมีเพียงผู้อมตะระดับเก้าเท่านั้นที่สามารถปราบปรามเขา”

 

“ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การป้องกัน หรือการเคลื่อนไหว ราชันมังกรเหนือกว่าในทุกด้าน แม้เราจะปิดล้อมเขา เขาก็ยังสามารถตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย

 

“ผู้ใดจะสามารถหยุดคนเช่นนี้”

 

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือรู้สึกหวาดกลัว

 

พวกเขาไม่สามารถก้าวข้ามราชันมังกรโดยไม่ต้องกล่าวถึงหอคอยดวงตาสวรรค์ที่มีวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า

 

แล้วพวกเขาควรทําอย่างไร?

 

ราวกับการตอบคําถามของกลุ่มผู้อมตะ เสียงคํารามสายหนึ่งดังขึ้นและทําให้พื้นดินแตกแยก

 

“ครื่น…”

 

พื้นดินแยกออกขณะที่มังกรยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวทะยานร่างขึ้นมา

 

“ราชันมังกร ข้าจะฉีกร่างเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” มังกรยักษ์คํารามเสียงดัง

 

มันคือสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานาน จางเฉิง!

 

“หือ?” ราชันมังกรรู้สึกประหลาดใจ เขากุนเสียงเย็นและพุ่งเข้าเผชิญหน้าโดยไม่หลบเลี่ยง

 

การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะและสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานปะทุขึ้นทันที

 

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

“ตั้งแต่เมื่อใดที่ตี้จางเฉิงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?” ผู้อมตะวังสวรรค์ตกตะลึง

 

“ห้าภูมิภาคกําลังรวมเป็นหนึ่ง ความโกรธแค้นของผู้คนทําให้จางเฉินแข็งแกร่งขึ้น!”

 

“แต่ไม่ใช่ว่าตี้จางเฉิงถูกขังอยู่ในถ้ํามังกรเร้นงั้นหรือ? เหตุใดมันจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่?” กลุ่มผู้อมตะรู้สึกมึนงง

 

แต่พวกเขารู้ว่าราชันมังกรเป็นคนปราบปรามจางเฉิง ดังนั้นการมาแก้แค้นของจางเฉิงจึงเป็นเรื่องปกติ

 

เป็นไปตามคํากล่าวของราชันมังกรก่อนหน้านี้ ตอนนี้พลังอํานาจของตี้จางเฉิงเทียบเท่ากับเขาแล้ว

 

“หากมันไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ตี้จางเฉิงจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”

 

“มหัศจรรย์นัก โอกาสมาถึงแล้ว”

 

“ฉวยโอกาสนี้ถอย!”

 

“เราถอยไม่ได้!” ฟางหยวนตะโกน “นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตี ราชันมังกรถูกหยุดโดยตี้จางเฉิง ตอนนี้เราสามารถไปที่หอคอยดวงตาสวรรค์และทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

 

หลังกล่าวจบคํา ฟางหยวนเป็นผู้นําบินเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์

 

ปิงช่ายฉวนเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เขาเรียกผู้อมตะภาคเหนือและติดตามไปอย่างใกล้ชิด

 

ผู้อมตะภาคใต้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเช่นกัน

 

“พวกเจ้ากล้างั้นหรือ?” ราชันมังกรกังวลแต่เขาถูกเหนี่ยวรั้งไว้โดยตี้จางเฉิง เขาทําได้เพียงมองฟางหยวนและคนอื่นๆพุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น