บทที่ 806 เกรงว่าชีวิตน้อยๆ ของเขาจะร่อแร่แล้ว

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 806 เกรงว่าชีวิตน้อยๆ ของเขาจะร่อแร่แล้ว
หากเป็นยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงเพียงคนเดียว พวกเขาร่วมแรงกันยังพอสู้ได้

แต่กลับเป็นระดับหกสองคน…

พวกเขาบางบาดเจ็บสาหัส บ้างเสียชีวิต ไหนเลยยังจะสามารถเอาชนะได้อีก

“สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”

“คนเงาคุ้นเคยกับเผ่าหยกเหลือเกิน สุดยอดผู้อาวุโสเกรงว่าคนเงาจะทำการวุ่นวาย จึงให้ทุกคนถอยเข้ามาอยู่ในอุโมงค์ลับนี่ สุดยอดผู้อาวุโสบอกว่าที่นี่ปลอดภัยมาก แม้แต่คนเงาก็ไม่รู้ที่นี่”

“แล้วเตาหลอมยาล่ะ?”

เตาหลอมยาอยู่ในที่ลับยิ่งในแดนต้องห้าม และมีการอารักขาหลายชั้น เผ่าเทียนเฟิ่นต้องหาไม่พบแน่

แต่ไม่แน่ว่าคนเงาจะหาพบ

ถ้าเตาหลอมยาถูกคนเงาทำลาย ถึงตอนนั้นจะหลอมมุกมังกรอย่างไร

“สุดยอดผู้อาวุโสคิดถึงเรื่องนี้แต่แรกแล้ว จึงเก็บเตาหลอมยาไว้ในแหวนมิติ นี่ อยู่ที่นี่”

ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ายื่นแหวนมิติให้กู้ชูหน่วน

พื้นที่ในแหวนมิติมีไม่มาก เก็บเตาหลอมยาได้สองเตาพอดี

ถ้าเป็นสมัยก่อน แหวนมิติต้องบรรจุเตาหลอมยาไม่ได้แน่ แต่หลังจากไป๋จิ่นและคนอื่นๆ สังเวยต่อชี่พิฆาตแล้ว เตาหลอมยาจึงไม่ต่างอะไรกับเตาหลอมธรรมดา

“ข้าจะไปดูสุดยอดผู้อาวุโสสักหน่อย”

“ไอ้หยา เจ้าอย่าไปแล้ว เจ้าก็บาดเจ็บไม่แพ้ไปกว่าพวกเขา” ผู้อาวุโสหกดึงนางไว้ ยืนยันไม่ให้นางลุกขึ้น

“นั่นสิ ตอนนี้เจ้าพักผ่อนให้ดีก่อนเถอะ ไม่รู้ว่าต้องรักษาแผลบนตัวนานเท่าไรถึงจะหาย”

“ท่านหัวหน้าเผ่า ต่อไปอย่าได้ทำเรื่องอันตรายเช่นนี้อีกเลย ระดับสี่ต่อกรกับระดับหกขั้นสูง อันตรายเกินไป เที่ยวนี้ยังดีที่ไม่เป็นอะไร ถ้าท่านเกิดเรื่องแล้วพวกเราจะไปพบหน้าบรรพชนได้อย่างไร”

กู้ชูหน่วนพิงกับผนัง เอ่ยด้วยความอึดอัด “สุดยอดผู้อาวุโสบอกไว้หรือไม่ว่าเมื่อไรจะไปจากที่นี่?”

คนทั้งเผ่าอยู่ที่นี่หมด เสบียงกรังก็คงพออยู่ได้อีกไม่นานแล้วกระมัง

“ท่านกับผู้อาวุโสทั้งหลายบาดเจ็บสาหัสมาก เอาไว้ให้อาการบาดเจ็บคงที่บ้างแล้วค่อยไปจากที่นี่ แต่ผู้อาวุโสเจ็ดนำคนจำนวนหนึ่งเดินทางไปก่อนบ้างแล้ว”

กู้ชูหน่วนไม่ได้ถามว่าที่คนจากไปจะไปที่ไหน

ในเมื่อเผ่าหยกเตรียมอุโมงค์ลับนี้ไว้ ก็ต้องมีสถานที่รองรับพวกเขา

นางพิงอยู่กับผนังเงียบๆ ไม่เอ่ยปากอยู่ค่อนวัน

ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

ทว่าอารมณ์ของทุกคนหนักอึ้ง

สถานที่ที่อาศัยอยู่กว่าค่อนชีวิต บัดนี้กลับถูกยึดไปทั้งอย่างนี้ ส่วนตัวเองต้องมาหลบอยู่ที่นี่ ช่างน่าคับแค้นใจยิ่งนัก

เงียบกริบ

ในห้องลับเป็นความเงียบงันอันแปลกประหลาด มีเพียงเสียงตำสมุนไพรของไป๋เฉ่าเท่านั้น

ผ่านไปนาน กู้ชูหน่วนจึงค่อยๆ ปริปาก

“ข้าสลบไปนานแค่ไหน?”

“สามวันพอดี”

“ซี้ด…”

กู้ชูหน่วนนั่งตัวตรงอย่างไม่ทันคิดจึงกระตุกถูกบาดแผล เจ็บจบนางสูดลมเย็นเฮือกหนึ่ง

“ก็บอกแล้วว่าเจ้าบาดเจ็บหนักมาก ต้องนอนดีๆ ไยเจ้าจึงลุกขึ้นมาอีกเล่า ดูสิ ปากแผลปริอีกแล้ว เจ้าไม่รู้ว่าตัวเจ้ามีบาดแผลมากเท่าใดหรือ?”

กู้ชูหน่วนพลันเอ่ย “ท่านบอกว่าข้าสลบไปสามวันหรือ?”

“ใช่…ใช่สิ…ทำไมหรือ?”

“ไม่ได้การ ข้าต้องออกไปสักครั้ง”

เวินเส้าหยีถูกนางซ่อนเอาไว้ที่ห้องลับในห้องนอนของนาง นอกจากนางก็ไม่มีผู้ใดทราบอีก

เวินเส้าหยีบาดเจ็บหนักมาก หากไม่ได้รักษาให้ดี อย่างมากสามวันเขาต้องจบชีวิตแน่แล้ว

และสามวันนี้ นางหมดสติตลอด ไม่อาจรักษาบาดแผลให้เขาได้

และเป็นไปไม่ได้ที่ไป๋เฉ่าจะรักษาให้เขา

ผู้อาวุโสหกก็ไม่รู้วิชาการแพทย์

นางต้องไปดูสักหน่อยว่าเวินเส้าหยีเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

เมื่อนั้นผู้อาวุโสทั้งหลายจึงโมโห “หัวหน้าเผ่า ท่านพูดล้อเล่นหรือ? อย่าว่าแต่ข้างนอกมีแต่คนของเผ่าเทียนเฟิ่น ตอนนี้ท่านบาดเจ็บอยู่ จะเดินออกไปข้างนอกไหวหรือ?”