บทที่ 2043 – ประลองกับหลิวตงเฟิง วายุหวนขวานคลั่ง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 2043 – ประลองกับหลิวตงเฟิง วายุหวนขวานคลั่ง
  เหล่าสมาชิกตระกูลอวี้ได้แต่อึ้งตะลึงกับชัยชนะของอวี้ซีหยวน คู่ต่อสู้ของเธอเป็นถึงผู้นำตระกูลหลิว ซึ่งเป็นยอดยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหลิว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำทุกคนไม่มีวันลืม
  ตระกูลอวี้ทุกคนมีความสุข มีเพียงแค่อวี้ติงเหอและชายชราตระกูลอวี้พี่ไม่มีทีท่าจะตกใจหรือแปลกใจแม้แต่น้อย
  ส่วนฝั่งตระกูลหลิว แต่ละคนล้วนกังวล มองไม่เห็นชัยชนะในการแข่งขันอีกแล้ว ไม่สำคัญว่าสุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ สิ่งที่ทุกคนรู้คือขยะของตระกูลทำให้พวกเขาอับอายขายหน้า
  ไม่นานหลังจากชิงสุ่ยขึ้นไปบนเวทีประลอง ชายวัยกลางคนของตระกูลหลิวก็ปรากฏตัว รูปร่างของเขาแม้จะใหญ่โตแต่กลับไร้ซึ่งกล้ามเนื้อ แต่ก็ดึงดูดสายตา ดวงตาของเขาอัดแน่นไปด้วยพลังปราณอันแสนบริสุทธิ์
  ชายคนนี้ก็คือ ผู้นำตระกูลหลิวคนต่อไป หลิวตงเฟิง
  ระดับการฝึกฝนของเขาเทียบเท่าได้กับระดับของผู้นำหลิวคนปัจจุบัน ก้าวเดินแต่ละก้าวหนักแน่นไปด้วยเจตนาสู้ ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย
  “หลิวตงเฟิง ยินดีที่ได้พบ คุณชาย!!”
  ไม่ว่าตระกูลของเขาจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อชิงสุ่ยมันเป็นสิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยอยากชื่นชม
  “ข้าชิงสุ่ย ยินดีที่ได้พบเช่นกัน”
  หลิวตงเฟิงคืออัจฉริยะระดับเหนือกว่าทุกคนในเมืองรุ้งคราม กลุ่มตระกูลราชวงศ์ทั้งหมดต่างก็อิจฉาตระกูลหลิว ไม่ใช่เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จ แต่เพราะพวกเขาสามารถส่งต่ออนาคตให้กับคนของตัวเองได้ทุกคนล้วนอิจฉาหลิวตงเฟิง แม้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะอายุน้อยแต่ก็มีความสามารถน่ากลัวในระดับเดียวกับผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองรุ้งคราม
  ตระกูลหลิวคาดหวังจะขยับขยายออกจากเมืองรุ้งครามเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ทรงพลังแห่งดินแดนฟ้าอุดร เมืองรุ้งครามคือหนึ่งในเมืองที่อ่อนแอที่สุดในดินแดนฟ้าอุดร ถ้าหากตระกูลหลิวมีพลังมากขึ้น สถานะของเมืองรุ้งครามก็จะเพิ่มพูนขึ้นเช่นเดียวกัน
  ชิงสุ่ยเรียกอสูรสยบมังกร และเจ้ากิเลนน้อยออกมา ในเมื่อเขาตั้งใจจะจะตั้งรากฐานในเมืองรุ้งคราม เขาต้องสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน เพื่อไม่ให้พวกเขากล้ายั่วยุ วิธีนี้จะทำให้เขาหายห่วง
  ผู้ชมต่างตะลึงที่ได้เห็นกิเลน มันคือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว แต่ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ได้แข็งแกร่งในระดับเดียวกับอสูรแมงมุมที่ทุกคนต้องได้เห็นไป แม้แต่ตัวชิงสุ่ยเองก็รู้ดีว่าเจ้ากิเลนน้อยในปัจจุบัน ได้กว่าแมงมุมมังกรแล้ว  มีเพียงแค่กลุ่มคนส่วนน้อยเท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นอสูรสยบมังกร หลายคนไม่รู้จักอสูรสยบมังกรเลยแม้แต่น้อย เพราะปัจจุบันขนาดของมันเล็กลงกว่าเดิม แต่จุดเด่นหัวมังกรและเขามังกรก็ยังคงทำให้หลายคนฉุกคิด
  หลิวตงเฟิงรู้สึกท้อแท้ไปชั่วขณะ เขารู้ว่าไม่มีทางเอาชนะศึกครั้งนี้ได้ เพราะตัวเขาเองก็สู้จักรพรรดิกิเลนไฟไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เต็มใจยอมแพ้ ถึงการต่อสู้จะนำพาเขาไปสู่ความตายก็ตาม
  หลิวตงเฟิงไม่ได้เรียกอสูรของตัวเองออกมา ชิงสุ่ยจึงไม่สั่งให้เจ้ากิเลนไฟและอสูรสยบมังกรเคลื่อนไหว ตัวของเขาพุ่งเข้าหาหลิวตงเฟิงด้วยตัวเอง
  ก้าวกระแทกพสุธา!!
  ก้าวกระแทกพสุธาซึ่งกระบวนท่าที่พัฒนามาจากพสุธาเอราวัณ แรงกระแทกของมันจะทำให้ศัตรูมึงงง และยังกระจายคลื่นสะท้อนสู่ผู้คนรอบข้าง  พื้นที่เวทีประลองสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว แรงอัดของอากาศระเบิดทั่วทั้งเวที
  หลิวตงเฟิงรีบกระโดดลอยจากพื้น พร้อมจะหยิบคมมีดสีทองคำออกมา ใบมีดของมันมีรูปร่างคล้ายกับขวาน ช่างแปลกหูแปลกตา ให้ความรู้สึกดุเถื่อน
  ดาบขวานขนาดยักษ์ฟาดฟันผ่าอากาศสร้างรอยแยกสีแดง ประสานกลายเป็นร่างตาข่าย
  วายุหวนขวานคลั่ง
  อากาศเหมือนถูกแบ่งแยกออกโดยตัวขวาน ชิงสุ่ยปลดปล่อยกระบวนท่า และเพลงหมัดอื่นๆตามที่ตัวเองพึงพอใจ การเคลื่อนไหวของเขาล้วนแสดงออกมาในท่วงท่าอันแสนงดงามด้วยสัญชาตญาณ
  ชิงสุ่ยกระแทกหมัดเข้ากับคมดาบขวานของหลิวตงเฟิง จุดศูนย์ถ่วงที่ไม่สมมาตร ทำให้แรงผลัก กระแทกตัวหลิวตงเฟิงกลับไป ชิงสุ่ยยังคงก้าวเดินโจมตีต่อ ด้วยหมัดกระทุ้ง  หลิวตงเฟิงโต้ตอบด้วยปฏิกิริยาอันรวดเร็ว เขาสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ขณะก้มหลบหมัดตรงของชิงสุ่ย แต่ชิงสุ่ยก็เปลี่ยนมาตรงให้กลายเป็นค้อนยักษ์
  ดูเหมือนว่าหลิวตงเฟิงจะไม่อาจหยุดมันของชิงสุ่ยอีกแล้ว เขาจึงเปลี่ยนทิศทางขวานยักษ์เข้าตรงกลางระหว่างตัวหมายจับต้านทานการโจมตีชิงสุ่ย
  ปังงงง!!
  ชิงสุ่ยฟาดข้อศอกกระแทกกับขวานส่งเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น อย่างไรก็ตาม พลังโจมตีของชิงสุ่ยดูเหมือนจะอ่อนข้อความหลิวตงเฟิง ทำให้เขาถูกผลักกลับไปแทน ในขณะเดียวกันหลิวตงเฟิงก็ใช้โอกาสนี้เข้าโจมตีชิงสุ่ย
  ขวานสะบั้นคลั่ง!!
  คมขวานขนาดยักษ์กลายเป็นสีแดงโลหิตราวกับมันถูกทำให้ร้อนขึ้น และผ่าลงอย่างรวดเร็ว  หลิวตงเฟิงรู้ดีว่ากระบวนท่าของชิงสุ่ยนั้นงดงามและรวดเร็ว แต่ยังขาดพลัง เมื่อเห็นจุดด้อย เขาก็ไม่ยอมแพ้ตราบเท่าที่มีความหวัง
  13 ขวานผ่าวายุโลหิต
  หลิวตงเฟิงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ เขาปลดปล่อยกระบวนท่าสำคัญ พลังมหาศาลรอบตัวกลายเป็นสายลมใหญ่ ผนึกกำลังร่วมกับขวานยักษ์ ไล่โจมตีชิงสุ่ยอย่างกับกระแสน้ำวน เสียงระเบิดดังสะท้านไปทั่วท้องฟ้า เกิดขึ้นต่อเนื่องยิ่งกว่าเสียงประทัด
  ย่างก้าว 9 เทวา!!
  ดวงตาของชิงสุ่ยส่องประกาย หลิวตงเฟิงพยายามได้ดีมาก ที่สำคัญที่สุดคือเขาอายุยังน้อยแต่มีจิตใจแข็งแกร่งเหนือผู้อื่น แม้จะรู้ว่าไม่อาจสู้คู่ต่อสู้ได้แต่ก็พยายามสรรหาวิธีพลิกกระแสการต่อสู้ แล้วยังปลดปล่อยการโจมตีที่ไม่ธรรมดาออกมา ช่างเป็นภาพที่น่าดูจริงๆ!!
  ชิงสุ่ยเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยหมัด เขายังไม่ได้ใช้ทักษะสำคัญอย่างเนตรสวรรค์หรือปราณจักรพรรดิที่ลดความสามารถของศัตรู เพื่อให้เกียรติศัตรู เขาใช้ความเร็วของตัวเองในการโจมตีเข้าไปยังจุดอ่อนแอต่างๆบนตัวศัตรู
  หลังจากโจมตีไปชั่วขณะหนึ่ง มันก็ถึงเวลาที่จะจบการต่อสู้สักที ชิงสุ่ยปลดปล่อยมือออกไปสะบัดนิ้วทั้งห้า กลายสภาพเป็นมังกรทอง
  ฝ่ามือกระชากมังกร!!