ตอนที่ 1284 โปรเจคสายลับ โดย Ink Stone_Fantasy
ในตอนที่โรแลนด์ได้รับรายงานที่เขียนขึ้นโดยผู้บังคับบัญชาของกองทัพที่หนึ่งกับผู้บังคับบัญชาของกองเสนาธิการทหารใหญ่ เขาก็คิดถึงโครงเรื่องของหนังสายลับที่เขาเคยดูมาทันที
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนที่มีโอกาสสำเร็จสูงมาก
เขาคิดลึกซึ้งกว่าเอดิธส์มากขึ้นไปอีก
สายลับนั้นเป็นอาชีพที่มีมาแต่โบราณ ในยุคสมัยที่ต่างกันก็มีคำเรียกที่ต่างกัน แต่คำนิยามและภาพลักษณ์ของสายลับที่เขาคุ้นเคยนั้นคือสายลับในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกับครั้งที่สอง เมื่อก่อนการส่งข้อมูลข่าวกรองต่างๆ นั้นเป็นการติดต่อกันแบบสองทางอย่างง่ายๆ แล้วก็ไม่มีการใช้ระบบที่เข้มงวดอะไร แต่เมื่อรัฐบาลเริ่มควบคุมประชากรที่อยู่ภายใต้การปกครองเข็มงวดขึ้นเรื่อยๆ พวกหน่วยสอดแนมและสายสืบต่างๆ จึงยากที่จะอยู่ได้ มันถึงได้เริ่มมีระบบสายลับที่มีความซับซ้อนเกิดขึ้นมา
นี่หมายความว่าหากเป็นเมืองที่มีระบบการควบคุมอย่างหลวมๆ ของพวกขุนนางศักดินา เช่นนั้นก็จะไม่มีทางกำจัดสายลับออกไปได้ ขอเพียงฝึกสอนให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพวกสายลับนิดหน่อย แล้วก็ตัดการติดต่อระหว่างคนให้ข้อมูลกับคนรับข้อมูลไม่ให้รู้จักกัน ด้วยวิธีการซ้อนแผนที่กระจอกของขุนนางพวกนั้น ต่อให้พลิกทั้งเมืองเมื่อควานหา ก็ไม่มีทางที่จะเจอคนที่ซ่อนตัวอยู่ได้
เพราะสำหรับคนที่ให้ข้อมูลแล้ว คนที่รับข้อมูลนั้นคือบุคคลที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ต่อให้เป็นไนติงเกลไปสอบปากคำก็ไม่มีทางที่จะได้ข้อมูลอะไรกลับมา
โรแลนด์อนุมัติแผนการนี้ทันที
แต่ว่าเขาไม่ได้คิดที่จะมอบหมายเรื่องนี้ให้เอดิสธ์เป็นคนจัดการทั้งหมด นี่ไม่ได้เกี่ยวกับความไว้วางใจ หากแต่ภารกิจสายลับนี้ต้องใช้เวลาและกำลังในการวางแผนอย่างมาก เขาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์และความสามารถในการมองภาพรวมซึ่งหาได้ยากในยุคสมัยนี้ของไข่มุกแห่งดินแดนทางเหนือมากกว่า ถ้าหากให้เธอไปทำเรื่องนี้ มันดูจะไม่คุ้มค่ากับความสามารถของเธอเท่าไร
งานเฉพาะแบบนี้ก็ต้องให้คนที่มีความเป็นมืออาชีพทำ
เขากางกระดาษจดหมายแผ่นใหม่ออกมา ก่อนจะจ่าหัวจดหมายถึงฮิลล์ ฟ็อกซ์
สถานการณ์ในอาณาจักรตอนส่วนใหญ่สงบลงแล้ว หัวหน้าคณะกายกรรมคนนี้คงจะว่างงานจนรู้สึกเบื่อแล้วล่ะมั่ง?
หลังให้ไนติงเกลเอาจดหมายไปส่งให้ฮันนี่เสร็จ โรแลนด์ก็เริ่มคิดถึงเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง
นั่นก็คือเครือข่ายข่าวกรอง
พวกข้อมูลข่าวสารทั้งหมดที่เขาจัดการในตอนแรก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสงครามหรือการเมืองก็ดี ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่อยู่ในอาณาจักรเกรย์คาสเซิล หลังจากที่ศึกทาคิลาเริ่มต้นขึ้น การส่งจดหมายผ่านทางนกนั้นดูล่าช้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่ตอนนั้นซีกัลสามารถบินไปกลับระหว่างเมืองเนเวอร์วินเทอร์กับแนวหน้าของสนามรบได้ภายในวันเดียว นั่นจึงพอจะใช้ซีกัลในการส่งข้อมูลแทนนกได้
แต่ตอนนี้สนามรบหลักๆ อยู่ในวูล์ฟฮาร์ทกับอีเทอร์นอลวินเทอร์ ปัญหาในการสื่อสารจึงปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน
อย่างเช่นรายงานที่อยู่ในมือเขาฉบับนี้ก็ใช้วิธีส่งมาทางเรือเดินทะเล วันที่ที่ลงชื่อคือเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ถึงแม้ถ้าใช้นกส่งจดหมายมันจะเร็วกว่า แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลา 2 – 3 วันเหมือนกัน ที่สำคัญกว่านั้นก็คือนกที่สามารถบินไกลๆ เป็นพันกิโลเมตรที่ฮันนี่ควบคุมเอาไว้อยู่ก็มีไม่เยอะ อันที่จริงเธอสามารถให้สัตว์ฟังคำสั่งของตัวเองได้เท่านั้น แต่เธอไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงนิสัยที่มีมาแต่เดิมของมันได้
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ใช้นกที่มีระยะใกล้ๆ จำนวนที่ของพวกมันก็มีอยู่อย่างจำกัด พลังเวทมนตร์ของฮันนี่ไม่พอที่จะควบคุมนกให้เพียงพอต่อความต้องการของทั้งดินแดนตะวันตกได้ นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงทั้งอาณาจักรหรือนอกอาณาจักรเลย เอาไว้เมื่อไรที่แผนการสายลับเริ่มดำเนินการ การจะส่งข่าวกรองกลับมาอย่างไรให้มีความรวดเร็วนั้นเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องทำการแก้ไข
ภายในใจโรแลนด์รู้ดี วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการสื่อสารผ่านทางวิทยุ
หลักการของโทรเลขนั้นง่ายมาก แต่มันมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทาง ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ในตอนนี้เลย ต่อให้ทำให้ระยะทางเพิ่มขึ้นอีกเท่านึงได้ นั่นมันก็แค่ร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้น ถ้าจะทำให้ระยะทางยาวขึ้นกว่านั้นก็จำเป็นต้องเพิ่มตัวขยายสัญญาณ อย่างเช่น หลอดสุญญากาศ
แต่ปัญหาคือถ้าเขาสามารถสร้างหลอดสุญญากาศขึ้นมาได้ อย่างนั้นเขาก็ย่อมต้องสร้างวิทยุขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ในยุคสมัยนี้ยังไม่มีใครรู้จักคำว่ามลพิษทางแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กที่ผ่านการปรับแต่งมาแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเสียงร้องของทารกในเวลากลางคืนเลย ขอเพียงตั้งเสาส่งสัญญาณขึ้นที่เทือกเขาสิ้นวิถีได้ การจะส่งสัญญาณออกไปเป็นพันกิโลเมตรก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ถ้าสามารถสร้างวิทยุได้สำเร็จ ข่าวกรองจากแนวหน้าของสนามรบก็จะส่งมาถึงห้องทำงานเขาภายในเวลาไม่กี่นาที ถ้าเขาสามารถติดตั้งวิทยุสื่อสารให้กับทั้งกองทัพได้ เช่นนั้นความสำคัญทางกลยุทธ์ของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าโปรเจคเรเดียชั่นเลย
แต่แน่นอน รู้มันก็ส่วนรู้ ส่วนเรื่องที่ว่าจะทำอย่างไรนั้น เขายังไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว
บางทีอาจจะต้องมอบหมายงานให้กับศูนย์ออกแบบเกรย์คาสเซิลอีกซัก 2 – 3 งานซะแล้ว โรแลนด์คิดในใจ
….
พอตกกลางคืนหลังเข้ามาในโลกแห่งความฝัน เมื่อเขาส่งซีโร่ไปโรแลนด์แล้ว เขาก็ขับรถตรงมาที่ไซต์ก่อสร้างของกลุ่มทุนโคลฟเวอร์ทางชานเมืองฝั่งตะวันตกของเมือง
ต้องยอมรับเลยว่าการ์โดนั้นเป็นนักธุรกิจที่ทำอะไรรวดเร็วจริงๆ ขอเพียงเป็นเรื่องที่รับปากไปแล้ว เขาก็จะรีบจัดการให้ในทันที อีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะมอบสิทธิ์ในการบริหารโรงงานให้กับเขา หากแต่ยังทำการปรับปรุงโรงงานให้ใหม่ทั้งหมดด้วย กำแพงที่ขึ้นสนิมก็ทาสีให้ใหม่ อีกทั้งยังเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องทำงานด้วย
ถ้าไม่เป็นเพราะกลุ่มทุนโคลฟเวอร์ยังคงดึงดันที่จะเวนคืนที่ตรงเขตตึกถงจึ โรแลนด์ก็คงจะรู้สึกชื่นชอบที่จะติดต่อกับคนแบบนี้อย่างมากทีเดียว
เขาจอดรถ ก่อนจะพบว่าพื้นที่ด้านนอกโรงงานดูแปลกไป ปกติที่นี่จะไม่ค่อยมีใครมาสนใจ แต่วันนี้เขากลับเป็นคนงานก่อสร้างมายืนอยู่ข้างนอกหลายคน
ขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงคำรามอันเป็นลักษณะเฉพาะของเครื่องจักร
โรแลนด์เดินฝ่ากลุ่มคนเขาไป ก่อนจะเป็นเครื่องจักรตีนตะขาบรูปร่างแปลกๆ เครื่องหนึ่งอยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเครื่องจักรนี้ยังไม่สมบูรณ์ มันสร้างเสร็จแค่เพียงส่วนล่างเท่านั้น ถ้าดูแค่ตีนตะขาบกับล้อของมัน มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แต่ที่มันสามารถดึงดูดความสนใจจากเหล่านคนงานได้นั้นเป็นเพราะระบบลูกสูบไอน้ำที่โผล่ออกมาจากด้านบนของมัน กับรถแทรคเตอร์อีกคันที่คอยจ่ายไอน้ำให้
เมื่อเห็นภาพนี้ โรแลนด์จึงหลุดหัวเราะออกมาทันที
ที่แท้นี่ก็เป็นวิธีที่อาจารย์เซี่ยคิดขึ้นมานี่เอง เพื่อที่จะทำให้ผลกระทบของเตาต้มน้ำและแทงค์น้ำในจินตนาการต่ำที่สุด เขาจึงเอาชิ้นส่วนทั้งหมดนี้ไปติดตั้งไว้บนรถแทรกเตอร์อีกคันหนึ่ง ในที่ทดสอบรถทั้งสองคันจะต้องวิ่งไปพร้อมกัน เครื่องจักรไอน้ำถึงจะทำงานได้ ในสายตาของคนนอกจะเหมือนกับว่ารถแทรกเตอร์คันหนึ่งไม่เพียงแต่จะต้องทำให้ตัวเองวิ่งได้ แต่มันยังต้องส่งพลังงานไปให้รถแทรกเตอร์ทดลองอีกคันหนึ่งด้วย
“แค่กๆ….เถ้าแก่ คุณมาแล้วเหรอครับ” อาจารย์เซี่ยเหมือนจะรู้สึกว่าวิธีของเขามันดูโง่ เขาจึงทักทายแบบเขินๆ นิดหน่อย
แต่โรแลนด์กลับกล่าวชื่นชมออกมา “ทำดีมาก นี่แหละคือสิ่งที่ผมต้องการ!”
เขาจะแวะเข้ามาดูความคืบหน้าในโรงงานทุกๆ หนึ่งสัปดาห์ ครั้งล่าสุดที่มา รถแทรกเตอร์ที่อยู่ในแผนการนั้นยังมีแค่โครงเปล่าๆ เท่านั้น แต่ครั้งนี้มันกลับวิ่งได้ด้วยตัวเองแล้ว เรียกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นพยายาทำงานอย่างเต็มที่จริงๆ
“งะ…งั้นเหรอครับ?” อาจารย์เซี่ยเกาหัวล้านๆ ของตัวเอง “คุณแน่ใจนะว่าเพื่อนนักสะสมของคุณจะสนใจเจ้าสิ่งนี้จริงๆ?”
“ชิ้นส่วนของรถทดลองล้วนแต่ใช้เครื่องจักรในโรงงานทำขึ้นมาใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ เรื่องนี้ผมรับรองได้” อาจารย์เซี่ยรีบถูมือ “แต่ว่าอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเตาเผากับแทงค์น้ำที่อยู่บนรถแทรกเตอร์อีกคัน ผมซื้อเป็นของมือสองมา ตอนนี้ผมจ่ายไปประมาณ 3 แสนแล้วครับ…”
“เงินไม่ใช่ปัญหาครับ” โรแลนด์โบกมือ เพราะยังไงก็มีคนคอยสนับสนุนเรื่องเงินให้เขาอยู่แล้ว “ขอเพียงใช้มือผลิตขึ้นมา เพื่อของผมจะต้องสนใจแน่ ตั้งใจทำให้ดีนะครับ เอาไว้งานนี้เสร็จแล้ว ผมจะจ่ายเงินเดือนให้คุณพิเศษเพิ่มอีกหนึ่งเดือน!”
……………………………………………………………………….