ตอนที่ 2870 ส่งกลับ

คำพูดของไฟเออร์แดนซ์นั้นดังก้องไปทั่วห้องรับรอง และมันก็ได้ทำให้ทั้งห้องรับรองนั้นเงียบไปชั่วขณะ ในขณะเดียวกันหยวนเทียนซินกับเพอเพิ้ลเจดก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังไฟเออร์แดนซ์

“นี่เธอบ้าไปแล้วงั้นหรอ ?!”

ซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยาง เทียนเหอนั้นเป็นล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงในกิลของตัวเอง และพวกเขาทั้งสองนั้นก็เป็นตัวตนที่แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงหลายคนของกิลพวกเขาก็ยังต้องเกรงใจ

แม้ว่าทั้งคู่จะให้ความสนใจในการจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกอย่างมาก แต่หากสภาสิบแปดปีกทำให้ทั้งคู่รู้สึกอับอายแบบนี้ ผลที่ตามมามันจะเป็นหายนะแน่นอน

แม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองสภาสิบแปดปีก และเป็นสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกที่มีทั้งผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ และ NPC ขั้นสี่ประจำการอยู่จำนวนมาก แต่หากทั้งสองเริ่มลงมือแล้ว มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะปราบปรามทั้งสองให้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ และถ้าทั้งสองเลือกจะก่อปัญหาใหญ่ๆก่อนที่จะหนีไป มันก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีกที่จะจับพวกเขาให้ได้

และจุดที่สำคัญที่สุดก็คือทั้งสองนั้นเป็นตัวแทนของซุเปอร์กิลไมโทโลจี้ และวิหารหยินหยาง

อิทธิพลของซุเปอร์กิลทั้งสองแห่งในทวีปด้านตะวันออกนั้นมีมากกว่าอีกสามซุเปอร์กิลที่เหลือมาก แม้ว่าตอนนี้ซุเปอร์กิลทั้งสองจะไม่สามารถทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกได้ แต่ซุเปอร์กิลทั้งสองก็จะสามารถจัดการทำลายอาณาจักรสตาร์มูนกับอาณาจักรทวินทาวเวอร์ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของสภาสิบแปดปีกได้ง่ายๆแน่นอน

ตอนนี้กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นนั้นกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ความแข็งแกร่งของ NPC ในอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆนั้นมันก็มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่กองกำลังของอาณาจักร และจักรวรรดิต่างๆจะดูแลดินแดนทั้งหมดของพวกเขาได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นนั้นกำลังจะเริ่มสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเมื่อเป็นดังนี้นั้นสิ่งที่ซุเปอร์กิลทั้งสองจะต้องทำก็แค่เข้าไปร่วมวงด้วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมันก็จะใช้เวลาไม่นานแน่นอนก่อนที่อาณาจักรสตาร์มูน และอาณาจักรทวินทาวเวอร์จะถูกทำลายลงทั้งหมด

ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกไม่ได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรสตาร์มูน และอาณาจักรทวินทาวเวอร์ ในตอนนี้แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะมีเมืองสภาสิบแปดปีกที่มีวงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีป แต่ผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับมันก็จะลดลงมากๆ

เพราะท้ายที่สุดแล้วสภาสิบแปดปีกนั้นมีเส้นทางเทเลพอร์ตสำหรับสาธารณชนเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นเพื่อที่จะใช้ในการเดินทางมายังเมืองสภาสิบแปดปีก ซึ่งนั่นก็คือที่เมืองสกายสปริง โดยหากอาณาจักรทวินทาวเวอร์ถูกทำลาย มันก็แปลว่าเมือง
สกายปริงจะหายไปด้วย และนี่มันก็หมายความว่าสภาสิบแปดปีกจะขาดเส้นทางการเทเลพอร์ต ซึ่งจะส่งผลให้การเดินทางมายังเมืองสภาสิบแปดปีกของสาธารณชนทั่วไปนั้นเป็นไปได้ยากมากเลยทีเดียว

และสิทธิพิเศษในการเชื่อมเส้นทางเทเลพอร์ตเข้ากับเมืองกิลของตัวเองที่สภาสิบแปดปีกได้รับมาจากวิหารเทพสงครามนั้นมันก็ทำได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เว้นแต่ว่าสภาสิบแปดปีกจะกลายเป็นหนึ่งในสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ God domain จริงๆซะก่อน ทุกอย่างมันจึงจะมีการเปลี่ยนแปลง ….

ซึ่งมันก็เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ไมโทโลจี้ และวิหารหยินหยางนั้นไม่กลัวสภาสิบแปดปีกเลย โดยเฉพาะกับไมโทโลจี้ที่ทำสงครามกับสภาสิบแปดปีกมาหลายครั้ง แต่ตอนนี้พวกเขากับกล้าที่จะมาเจรจาขอร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก

ในเวลาเดียวกันนั้นซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยาง เทียนเหอก็หันไปมองไฟเออร์แดนซ์ด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“สาวน้อย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่คนระดับเราจะเดินทางมาที่สภาสิบแปดปีกเพื่อเจรจาขอร่วมมือกับกิลคุณด้วยตัวเอง นี่คือวิธีที่สภาสิบแปดปีกปฎิบัติต่อแขกงั้นหรอ ?” ซือถู ฉิงเทียนกล่าวพลางมองไปยังไฟเออร์แดนซ์ “ถ้าสภาสิบแปดปีกไม่ต้องการจะร่วมมือกับไมโทโลจี้ของเรา เราก็คงจะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ถ้าสภาสิบแปดปีกต้องเจอกับปัญหาใหญ่ๆในอนาคตก็อย่ามาโทษไมโทโลจี้ของเราก็แล้วกัน …”

“แม้ว่าฉันจะไม่ชอบขี้หน้าซือถู ฉิงเทียน แต่ครั้งนี้ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของเขานะ …” ซื่อหยาง เทียนเหอจ้องมองไปยังไฟเออร์แดนซ์อย่างเย็นชา ก่อนที่จะกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เรามาที่นี่ด้วยความตั้งใจอันดี เพราะท้ายที่สุดตอนนี้กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นกำลังจะเริ่มสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว และเมื่อพวกเราร่วมมือกันเท่านั้น พวกเราจึงจะสามารถหยุดการรุกรานของกองกำลังจากโลกอื่นได้ …. แต่ถ้าสภาสิบแปดปีกไม่สนใจ ฉันก็คงต้องบอกแบบเดียวกับซือถู ฉิงเทียน คือ ถ้าสภาสิบแปดปีกเจอปัญหาใหญ่ๆในอนาคตก็อย่ามาโทษวิหารหยินหยางของเราก็แล้วกัน …”

เมื่อได้ยินดังนี้ใบหน้าของไฟเออร์แดนซ์ก็มืดมนลง

เธอไม่คิดเลยว่าพอเธอทำแบบนี้นั้นซุเปอร์กิลทั้งสองจะคิดที่จะผนึกกำลังกันเพื่อกดดันสภาสิบแปดปีกจริงๆ ….

ซือถู ฉิงเทียนมองไปยังไฟเออร์แดนซ์ที่มีท่าทีเงียบลงไป ก่อนที่เขาจะยิ้มและพูดว่า “ช่วยบอกฉันทีสิว่าเมื่อกี้คุณเผลอพูดผิดไปใช่ไหมสาวน้อย ?”

พูดกันตามตรงซือถู ฉิงเทียนนั้นไม่กล้าที่จะไม่ไว้หน้าสภาสิบแปดปีกอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุดตอนนี้ผลประโยชน์ของเมืองสภาสิบแปดปีกมันมีมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามเขาก็จำเป็นจะต้องสอนบทเรียนให้กับไฟเออร์แดนซ์สักหน่อยในเรื่องการวางตัวให้เหมาะสม และเขาก็ต้องการจะให้เธอรู้ด้วยว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่เธอจะสามารถยั่วยุได้

ซื่อหยาง เทียนเหอะพยักหน้าให้กับคำพูดของซือถู ฉิงเทียน ก่อนที่เขาจะกล่าวเสริมว่า “สาวน้อย ถ้าคุณไม่แก้คำพูดของคุณในวันนี้ คุณ และกิลของคุณจะต้องรับผลที่ตามมาที่มันร้ายแรงมากๆเลยทีเดียว !!!”

อีกด้านหนึ่งตัวแทนของจักรวรรดิโลกใต้พิภพอย่างเรลอสนั้นก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังไฟเออร์แดนซ์พลางส่ายหัวเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่านี่มันเป็นกับดักของซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยางเทียนเหอชัดๆ พวกเขาทั้งสองนั้นจงใจก่อสถานการณ์แบบนี้ขึ้นเพื่อให้ไฟเออร์แดนซ์เข้ามาหุบเหยื่อ และตอนนี้พวกเขาก็พยายามจะบีบให้ไฟเออร์แดนซ์ซึ่งเป็นตัวแทนของสภาสิบแปดปีกละอายใจเพื่อที่จะได้เรียกผลประโยชน์เพิ่มเติมได้

สำหรับการจะไล่คนของซุเปอร์กิลทั้งสองไปนั้นมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เว้นแต่ว่าสภาสิบแปดปีกต้องการจะสละอาณาจักรทวินทาวเวอร์ และอาณาจักรสตาร์มูน สถานการณ์นี้มันก็เหมือนกับการที่ซุเปอร์กิลทั้งสองนั้นไม่เต็มใจที่จะแบ่งส่วนผลประโยชน์ของเมืองสภาสิบแปดปีกกับใคร
ต้องบอกเลยว่าในครั้งนี้ไฟเออร์แดนซ์พลาด เพราะความไร้เดียงสาของเธอจริงๆ ….

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ไฟเออร์แดนซ์ไม่รู้จะพูดอะไรนั้น ประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างที่สูงใหญ่ร่างหนึ่งจะเดินเข้ามาในห้อง และมองไปยังซือถู ฉิงเทียน กับซื่อหยาง เทียนเหอ พลางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่พวกคุณกล้าทำแบบนี้ และไม่ไว้หน้าผู้บัญชาการกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกเลยงั้นหรอ ?”

“งั้นตอนนี้ในเมื่อฉันมาแล้ว ฉันก็จะทำให้มันชัดเจนเลยแล้วกัน คำพูดของไฟเออร์แดนซ์เมื่อกี้ก็คือคำพูดที่มาจากฉันนั่นแหละ ดังนั้นพวกคุณออกไปกันได้แล้ว !!!”

แม้ว่าซือเฟิงจะไม่ได้พูดดังมากนัก แต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน และพวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกตกตะลึงกับคำพูดของซือเฟิงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยาง เทียนเหอ

สำหรับไฟเออร์แดนซ์ เธอเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเช่นกัน เมื่อเธอได้ยินคำพูดของซือเฟิง

ตอนนี้ซือเฟิงได้ใช้คำพูดไล่ตัวแทนของซุเปอร์กิลทั้งสองแบบตรงๆเลย !!!

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณทำแบบนี้มันจะไม่มากไปหน่อยงั้นหรอ ?” ซือถู ฉิงเทียน อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเย็นชาว่า “เราสองกิลมาที่นี่ด้วยความจริงใจนะ แต่คุณกับคิดจะออกโรงปกป้องสาวน้อยคนนี้และยอมให้เสียการใหญ่งั้นหรอ ? และการกระทำของคุณแบบนี้มันก็แปลว่าคุณยินยอมจะให้อาณาจักรสตาร์มูน และอาณาจักรทวินทาวเวอร์ถูกทำลายงั้นหรอ ?”

ขณะเดียวกันในด้านของซื่อหยาง เทียนเหอะ เขาก็รีบกล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ คุณอย่าให้สาวน้อยคนเดียวมาทำให้ต้องเสียการใหญ่กันเลย …. ”

“หื้ม ?” ซือเฟิงมองไปที่ตัวแทนของซุเปอร์กิลทั้งสองด้วยความเหยียดหยาม “พวกคุณประเมินตัวเองกันสูงเกินไปแล้ว !!! ฉันให้เวลาพวกคุณห้าวินาที รีบออกไปจากที่นี่ซะ !!! ไม่งั้นฉันจะส่งพวกคุณกลับไปที่เมืองของพวกคุณเอง !!!”

คำพูดล่าสุดของซือเฟิงนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง

“นี่เขาไม่ได้อยากจะทำแบบนี้จริงๆใช่ไหม ?” หยวนเทียนซินมองไปที่ซือเฟิง และตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าซือเฟิงนั้นบ้าคลั่งยิ่งกว่าไฟเออร์แดนซ์ซะอีก

ก่อนหน้านี้ที่ไฟเออร์แดนซ์ทำไปนั้นมันสามารถบอกได้เลยว่าเป็นการรักษาหน้าของสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับกำลังจะกระทำการฉีกหน้าซุเปอร์กิลทั้งสองแบบตรงๆ

โดยนี่มันก็ได้ผลักดันให้สถานการณ์ทั้งหมดไปไกลเกินกว่าที่จะเคลียร์กันให้จบด้วยคำพูดได้แล้ว ….

“ดี ! ดีมาก !!” ซือถู ฉิงเทียนมองไปยังซือเฟิงก่อนจะยิ้มออกมาและกล่าวว่า “เนื่องจากหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมต้องการจะเป็นศัตรูกับไมโทโลจี้ของเรา และถึงขั้นยอมแลกกับสองอาณาจักร ชายชราผู้นี้ก็ต้องขอกล่าวชื่นชม แต่อย่างไรก็ตามชายชราผู้นี้อยากเห็นจังว่าหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมจะส่งชายชราผู้นี้กลับเมืองของตัวเองได้ยังไงกัน ?!!”

เมื่อพูดจบจบซือถูฉิงเทียนก็ได้ลุกขึ้น ก่อนที่เขาจะชักดาบสงครามสายฟ้ามืดของเขาออกมาจากฝัก และเริ่มแผ่ออร่า กับโดเมนของตัวเองออกมา ซึ่งมันก็น่ากลัวซะจนทำให้ไฟเออร์แดนซ์ และรุ่นเยาว์คนอื่นๆต้องถอยห่างออกไปเลย ….

“ดูเหมือนว่าซือถู ฉิงเทียนจะสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยสิบห้าเปอเซ็นต์แล้วสินะ …. และด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เขาจะสามารถเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดในเลเวลเดียวกัน ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวได้อย่างไม่มีปัญหาเลย !!!” เรลอสกล่าวพลางมองไปยังซือถู ฉิงเทียนด้วยความประหลาดใจ

“ทุกคนล้วนพูดกันว่าหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดอันดับหนึ่งใน God domain ดังนั้นชายชราจึงอยากรู้สักหน่อยว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงไหม !!!”

เมื่อซือถู ฉิงเทียนเริ่มเคลื่อนไหวนั้น ซื่อหยาง เทียนเหอก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยเขาก็ได้หยิบคทาไฟเลือดของเขาออกมา และเริ่มเข้าสู่สถานะเตรียมต่อสู้ โดยทั้งออร่า และโดเมนของเขานั้นก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าซือถู ฉิงเทียนเลย แถมเลเวลของเขายังมากกว่าซือถู ฉิงเทียนที่เป็นเบอเซิกเกอร์อยู่หนึ่งเลเวลด้วย ซึ่งตัวซื่อหยาง เทียนเหอนั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบสี่
“สุดยอด ! นี่มันสุดยอดเลย !! นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสัตว์ประหลาดจากสองในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดงั้นหรอ ?!!” หยวนเทียนซินพึมพำ ขณะที่มองไปยังซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยาง เทียนเหอด้วยความประหลาดใจ

ในปัจจุบันด้วยความที่เขาเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต่อกรกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดในเลเวลเดียวกันได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะจัดการกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดในเลเวลเดียวกันแบบตัวต่อตัวเลย ….

แต่ตอนนี้สัตว์ประหลาดสองคนจากสองในห้าของซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดกับมีความแข็งแกร่งมากพอจริงๆ และด้วยเรื่องนี้มันก็สามารถจะบอกได้เลยว่าพลังการต่อสู้ของทั้งสองคนนี้นั้นก็จะต้องอยู่ในจุดสูงสุดของ God domain แน่นอน

พูดกันตามตรงต่อให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปขั้นสี่นับโหลเข้ารุมทั้งสองคนนี้ มันก็ยังไม่แน่เลยว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะทั้งสองคนนี้ได้ไหม ….

“ตอนนี้มาดูกันหน่อยดีกว่าว่าแบล๊คเฟรมจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง !!!”

โคลท์ชาโด้วที่เฝ้าดูสถานการณ์นี้อยู่จากด้านข้างอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

เธอนั้นไม่รู้เลยว่าซื่อหยาง เทียนเหอแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เธอนั้นรู้ดีว่าซือถู ฉิงเทียนแข็งแกร่งแค่ไหน และเธอก็ไม่ได้เห็นเขาต่อสู้มานานแล้ว

แต่ในเวลานี้เมื่อทั้งสองร่วมมือกัน แม้แต่สัตว์ประหลาดอย่างซือเฟิงก็ยังจะรับมือกับทั้งสองได้อย่างยากลำบากแน่นอน

ซือเฟิงนั้นเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดเป็นอันดับหนึ่งใน God domain และในตอนนี้เขาก็จะต้องมาต่อสู้กับตัวตนระดับตำนานสองคน นี่มันจึงนับเป็นศึกการต่อสู้ชั้นยอดใน God domain แน่นอน หากทั้งสองฝ่ายใช้เวลาต่อสู้กันนาน เธอก็จะสามารถใช้โอกาสนี้เก็บเกี่ยวหลายสิ่งจากสองฝ่ายเพื่อไปพัฒนาตัวเองได้ด้วย

ไม่ใช่แค่โคลท์ชาโด้วเท่านั้นที่คิดแบบนี้ เพอเพิ้ลเจด เด็กหนุ่มสวมหน้ากาก และรุ่นเยาว์คนอื่นๆทั้งหมดนั้นก็ล้วนคิดแบบเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาทุกคนล้วนอยากรู้มากว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ….

“เนื่องจากพวกคุณสองคนต้องการให้ฉันส่งพวกคุณกลับเมือง ! ดังนั้นฉันก็จะสงเคราะห์ให้ และฉันก็จะทำมันแบบสมบูรณ์แบบเลย !!!”

ซือเฟิงมองไปที่ทั้งสองคนก่อนที่เขาจะปลดปล่อยออร่าและพลังทั้งหมดของเขาออกมา

ซึ่งในขณะที่ซือเฟิงทำแบบนี้นั้น ภายในห้องรับรองทั้งหมดมันก็ดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง พร้อมกันนั้นมานาภายในห้องรับรองมันก็ยังทำการปราบปรามทุกคนอย่างหนัก และแม้แต่ซือถู ฉิงเทียน กับซื่อหยาง เทียนเหอก็ยังไม่สามารถจะทำอะไรได้ก่อนจะถูกบังคับให้ถอยไปสองก้าว ก่อนที่พวกเขาจะหันกลับขึ้นมามองซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสับสน

“ขั้นห้า ?”

คำถามผุดขึ้นมาจากส่วนลึกในสมองของพวกเขา แต่ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะทันได้ตอบสนองอะไร ซือเฟิงก็ได้มาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขา และใช้ดาบที่แหลมคมแทงเข้าไปยังหัวใจของพวกเขาแล้ว

จากนั้นซือเฟิงก็ได้กลับไปยืนอยู่ที่บริเวณหน้าต่างของห้องรับรองด้วยท่าทีสงบ โดยการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขานั้น มันก็รวดเร็วมากๆจนหลายคนมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเขาชักดาบออกจากฝักไปโจมตี และกลับมายืนอยู่ที่บริเวณหน้าต่างของห้องรับรอง พร้อมกับเก็บดาบเรียบร้อย เมื่อไหร่ ….

ในขณะเดียวกันซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยางเทียนเหอซึ่งทั้งคู่มี HP มากกว่าสิบล้านนั้น พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ HP ของพวกเขาลดลงถึงศูนย์ พวกเขามารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายของพวกเขาทรุดลงไป พร้อมกับทัศวิสัยที่เริ่มมืดลงแล้ว โดยตั้งแต่ต้นจนจบนั้น พวกเขาไม่สามารถจะตอบสนองใดๆได้เลย ….