บทที่ 2045 – เสือใหญ่ อ่างสมบัติ
1 เดือนผ่านไปโดยไม่รู้ตัว หอคอยจักรพรรดิของชิงสุ่ยและภัตตาคารของอวี้ซีหยวนยังคงเปิดทำการอย่างราบรื่น ชื่อเสียงของพวกเขากระจายออกไปไกลแม้แต่เมืองรอบๆเมืองรุ้งครามก็รู้จักหอคอยจักรพรรดิและภัตตาคารหยกรัญจวน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเวลาที่มากกว่า ทำให้ชื่อเสียงของภัตตาคารหยกรัญจวนดูจะสูงกว่าหอคอยจักรพรรดิอยู่เล็กน้อย วิธีการจัดการคนของภัตตาคารหยกรัญจวนยังคงเป็นเหมือนเดิมคือการแบ่งแยกผู้คนโดยเรียนตรา เหรียญตราจะแบ่งออกเป็นหลายระดับ ระดับต่ำสุด จะได้เข้าภัตตาคารเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นไม่สามารถนำพาแขกคนอื่นมาด้วยได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเข้ามาแวะเวียนได้เพียงแค่สัปดาห์ละครั้ง
ส่วนผู้ที่มีระดับเหรียญสูงกว่าก็จะสามารถพาแขกเข้ามาร่วมรับประทานอาหารได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนระดับต่อไปก็จะเพิ่มจำนวนแขกเป็น 2 คนและ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนระดับสูงสุดจะนำแขกมาด้วยถึง 5 คน และเข้ารับประทานอาหารได้ถึง 5 ครั้งต่อสัปดาห์
ชิงสุ่ยและอวี้ซีหยวนสร้างการค้าของตนไม่ใช่เพื่ออะไรได้ แต่เพื่อกระจายชื่อเสียงของตัวเองให้รวดเร็ว ราคาที่แขกจะต้องตายเพื่อให้ได้รับประทานอาหารอันแสนเพลินสูงเกินกว่าที่คนธรรมดาจะกิน มีเฉพาะผู้คนที่ร่ำรวยหรือตระกูลราชวงศ์ หรือไม่ก็นิกายเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าถึง
อิทธิพลของภัตตาคารขยาย หอคอยจักรพรรดิก็ขยับขยายมากขึ้น จุดประสงค์ของภัตตาคารหยกรัญจวนอาจมีเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยคือ มันสร้างขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูล และเป็นข้อมูลสำคัญที่รวบรวมได้ง่ายกว่าที่อื่น
ภายใน 1 เดือนนั้น ชิงสุ่ยยังคงเปิดรักษาผู้คนโดยไม่คิดเงิน และไม่ได้ให้การรักษากับผู้มีอิทธิพลใด เวลา 1 เดือนถือว่าสั้นมาก แม้จะมีคนป่วยและคนบาดเจ็บ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีหมอประจำตัวทำให้พวกเขาไม่ได้ไปยังหอคอยจักรพรรดิ ทุกคนรู้ถึงพลังของชิงสุ่ยจึงรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่กล้าเข้าไป ยุ่งเกี่ยว เว้นเสียแต่พวกเขาจะหมดปัญญาไม่อาจรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองได้อีกแล้ว ถ้าหากมันเป็นอย่างนั้น การลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย
นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หอคอยจักรพรรดิไม่โด่งดังเท่ากับภัตตาคารหยกรัญจวน คนจากตระกูลใหญ่หลายคนต่างไม่ยอมทิ้งโอกาสที่จะได้รับประทานอาหารรสเลิศในภัตตาคารยกรัญจวน กระแสลูกค้าของภัตตาคารอาจจะดูน้อยในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนที่ผ่านเงื่อนไขก็จะมีมาก ทำให้กระแสของลูกค้าเพิ่มขึ้น เหรียญตราไม่ได้สร้างขึ้นมาเพียงเพื่อใช้จ่ายเงิน แต่มันยังใช้เพื่อแลกเปลี่ยนกับสมุนไพรรักษาโรคหรืออื่นๆตามเงื่อนไขตกลงได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไร ที่พวกเขาจะสามารถแลกสมุนไพรล้ำค่ากับเหรียญตราได้ ทุกคนรู้ดีว่าภัตตาคารหยกรัญจวนและหอคอยจักรพรรดิเป็นพันธมิตรการค้ากัน หอคอยจักรพรรดิรวบรวมยาอันล้ำค่าที่แม้แต่ตระกูลใหญ่ยังต้องค้นหาสิ่งล้ำค่ามาเพื่อแลกเปลี่ยน ชิงสุ่ยเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์เหล่านี้ เขายังคงตามหาวัสดุที่ตามหาเพื่อสร้างมีดบินไม่ว่าจะเป็น หญ้าเมฆแดง ก้านจันทราทนง และผลอัสนีบาต ซึ่งเขาก็หวังว่าเขาจะโชคดีหาพวกมันเจอ
และเมื่อ 2 วันก่อน ชิงสุ่ยก็เพิ่งได้รับอ่างสมบัติ
คนผู้นั้นเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ชิงสุ่ยได้ช่วยพัฒนาพลังของเขาจนบรรลุระดับเทวะเซียนเทียน และบุคคลนั้นก็ได้รับการว่าจ้างให้ช่วยงานภายในหอคอยจักรพรรดิ และยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงอาหารรสเลิศจากภัตตาคารหยกรัญจวน
บุคคลธรรมดาคนนี้ถูกเรียกกันว่าเสือใหญ่ เขามีอายุมากกว่า 30 ปีแล้วและมาจากตระกูลที่แสนยากจนทั้งยังเป็นโสด เขามีความซื่อสัตย์มาก คอยดูแลแต่แม่ชรา แม่ของเขาป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บและได้รับการรักษาฟรีโดยชิงสุ่ย ตั้งแต่นั้นมาอาการของเธอก็ดีขึ้น เขาจึงเอาสมบัติที่เป็นของตกทอดในตระกูลมาแสดงความขอบคุณแก่ชิงสุ่ย
เมื่อเสือใหญ่นำสิ่งของชิ้นนี้มาให้ ชิงสุ่ยก็รู้สึกอายเล็กน้อย เพราะมันคือมรดกตกทอดของตระกูลอันแสนสำคัญ ในสายตาของเขามันเป็นสิ่งของที่ไม่มีค่า และเคยคิดที่จะนำไปขาย เพียงแต่เงินที่ผู้คนรับซื้อไม่มากพอจะนำมาซื้ออาหารได้สักมือ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาล้มเลิกการขายมรดกของตระกูล
อย่างไรก็ตาม บรรพบุรุษของเขาก็ย้ำเตือนกับเขาว่านี่คือสิ่งของล้ำค่า เสือใหญ่จึงได้มอบมันให้กับชิงสุ่ย แม้ในใจจะยังคงคิดว่ามันเป็นสิ่งของด้อยค่าเกินกว่าจะมอบให้ชิงสุ่ย
ตอนที่ชิงสุ่ยเห็น เขาไม่ได้รู้สึกอะไร สิ่งที่พิเศษของมันคือเต็มไปด้วยภาพแท่งโลหะมากมาย อย่างไรก็ตามมันก็ดูโบราณมาก ผู้คนมักจะพอใจจากการมองครั้งแรก ฉะนั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันมีความดูสกปรก จึงไม่มีใครอยากสัมผัสมัน
แต่เมื่อชิงสุ่ยใช้ทักษะเบิกเนตรสวรรค์มองดูอ่างสมบัติ เขาก็ต้องตกตะลึง สถานะของมันบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวมันเองนั่นคือสมบัติล้ำค่า อย่างไรก็ตาม มันจะเปิดใช้งานได้ก็ต่อเมื่อได้รับแก่นแท้โลหิต ซ้ำยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวด ชิงสุ่ยต้องใช้เวลาเพื่อตรวจสอบว่าอ่างสมบัตินี้มีประโยชน์อะไร
ชิงสุ่ยเพียงแค่เอ่ยปากถามเสือใหญ่ว่าสนใจจะมาทำงานในหอคอยจักรพรรดิหรือไม่ เสือใหญ่ตอบกลับด้วยความยินดีไม่มีท่าทีปฏิเสธหรือลังเล ชิงสุ่ยยังให้เสือใหญ่กลับไปพาแม่เข้าไปอยู่ไหนลานกว้างเล็กๆที่เป็นส่วนหนึ่งของหอคอยจักรพรรดิ
เมื่อเห็นว่าเสือใหญ่ไม่มีพลัง ชิงสุ่ยจึงมอบยาเม็ดเซียนเทียนให้กับเขารวมถึงเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้เขาได้ซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของอื่นๆให้กับแม่ของเขา
ด้วยความช่วยเหลือต่างๆมากมาย เสือใหญ่จึงอยากจะคุกเข่ากราบชิงสุ่ย แต่ก็ถูกหยุดเอาไว้ก่อน
“เสือใหญ่ ข้าอายุมากกว่าท่าน ถ้าไม่รังเกียจ ก็เรียกข้าว่าพี่ใหญ่ก็ได้”
“พี่ใหญ่ชิง ขอบคุณมากจริงๆ”เสือใหญ่ดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“ทุ่มเทแรงกายแรงใจเรียนรู้ทุกอย่าง ข้ากำลังตามหาหมอเพื่อมาทำงานในหอคอยจักรพรรดิ พวกเขาจะได้ใช้เวลาเรียนรู้สิ่งต่างๆจากข้า และข้าก็จะสอนให้กับเจ้าด้วย เรียนรู้เก็บเกี่ยวให้มาก”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
“พี่ชายชิง ข้าเป็นคนเรียนรู้ช้า กลัวว่าจะเรียนรู้ไม่ได้ “เสือใหญ่ลูบหัวและกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“เจ้าไม่ได้เรียนรู้ช้ากว่าคนอื่นหรอก เพียงแค่ใส่ใจเรียนรู้ หรือว่าเจ้าไม่อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่อยากจะแต่งงานมีลูก?”ชิงสุ่ยปฏิเสธการมองโลกในแง่ร้ายของเขา
“ข้าอยากจะมีชีวิตที่ดี อยากจะมีความรักและอยากจะมีลูก แต่ข้ากลัวว่าท่านแม่จะไม่มีเวลาเหลือให้เห็นถึงวันนั้น”เสือใหญ่กล่าวน้ำตาคลอเบ้า
“ข้ารับรองได้เลยว่าแม่ของเจ้าจะต้องได้เห็นวันนั้นของเจ้าอย่างแน่นอน นางจะได้เห็นวันที่ลูกๆของเจ้าเติบโต วันที่เจ้ามีครอบครัว ข้าเป็นหมอ เชื่อใจข้า”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างมั่นใจและตบไหล่เสือใหญ่