ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1147

ชายคนนั้นหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น

“เจ้าหน้าที่ของรัฐน่ะเหรอ? ช่างน่ายกย่องเสียนี่กระไร! น่ากลัวจัง น่ากลัวสุด ๆ !”

“นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอกเหรอว่าคีธ เยตส์ไปยั่วโมโหหัวหน้าผู้ฝึกสอนและยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทหารอีกทั้งอาการของเขาก็ยังคงอยู่ในขั้นโคม่าอยู่เลย!”

“ตระกูลเยตส์ยังเหลือใครอีกไหม? อย่าบอกนะว่าตอนนี้พวกคุณทุกคนกำลังพึ่งพาอำนาจกระจอก ๆ ของฟินน์อยู่?”

ฟินน์ตัวสั่นด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น

พวกคนเหล่านี้ไม่เคารพเขาในฐานะผู้บัญชาการลำดับสามของกรมตำรวจบัควู้ดเลยแม้สักนิด

แต่นี่ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ

เพราะว่าเหล่าซัพพลายเออร์ได้กระจายข่าวเกี่ยวกับตระกูลเยตส์ออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าตรู่

ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าตระกูลเยตส์เป็นเพียงแค่ภาพวาดของเสือโคร่งไม่ได้น่ากลัวและยิ่งใหญ่อย่างที่คิด พวกเขาจึงจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อเงินทองของพวกเขา หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาอาจจะพลาดโอกาสทองนี้ไป

ทันใดนั้น ฟีบีก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามและพูดขี้นมาว่า “พวกแก พวกแกทั้งหมดไม่รู้บ้างเลยหรือว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะมาที่คฤหาสน์ของพวกเราในอีกไม่กี่วันนี้?”

“พวกแกไม่กลัวตายบ้างเลยเหรอไง ถ้าหัวหน้าผู้ฝึกสอนรู้ว่าพวกแกมาก่อความวุ่นวายในคฤหาสน์ของพวกเราตอนนี้?”

เหล่าคนจากกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างก็มองหน้ากัน หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาต่างก็ระเบิดหัวเราะออกมา

“นังสารเลวนี่พยายามจะขู่พวกเราอยู่เหรอ?”

“หัวหน้าผู้ฝึกสอนเปรียบเสมือนเทวดาผู้พิทักษ์ของประเทศ H คนอย่างเขาจะจัดการทุกอย่างอย่างยุติธรรมแน่นอน!”

“อย่าบอกนะว่าเขากำลังจะมาแล้ว!”

“แม้ว่าเขาจะมาจริง เขาก็จะอยู่ข้างพวกเราอยู่ดี! โทรหาเขาแล้วถามเขาสิ!”

“พวกแก…”

ตระกูลเยตส์ทั้งกังวลและโมโหเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น พวกเขาจะไปมีหมายเลขโทรศัพท์ของหัวหน้าผู้ฝีกสอนได้อย่างไร?

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของคุณย่าเยตส์ก็ได้ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จักและชุดตัวเลขที่โชว์บนหน้าจอนั้นยังเป็นชุดตัวเลขที่สวยมาก

หลังจากรับสาย เสียงของอีธาน ฮันต์ก็ได้ดังก้องขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์

“นี่ใช่เบอร์ของคุณย่าเยตส์หรือเปล่าครับ? ผมเอง อีธาน ฮันต์จากค่ายศัสตราวุธ”

คุณย่าเยตส์รู้สึกราวกับว่าเธอได้คว้าฟางเส้นสุดท้ายที่จะสามารถช่วยชีวิตของตระกูลเยตส์เอาไว้ได้หลังจากที่ได้ยินเสียงของอีธาน จากนั้นเธอก็รีบละล่ำละลักตอบพร้อมกับอาการสั่น ๆ ว่า “ท่านคือเทพสงครามจากค่ายศัสตราวุธ อีธาน ฮันต์เหรอ! มีอะไรให้พวกเรารับใช้คะ?”

“หัวหน้าผู้ฝึกสอนได้ส่งข่าวมาบอกว่าเขาจะไปที่บ้านของคุณหลังจากนี้อีกสามวัน”

เสียงของอีธานนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง และไม่สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกใด ๆ ได้จากน้ำเสียงของเขา

“ได้ ได้ ได้ พวกเราจะจัดการเตรียมการต้อนรับการมาเยือนของท่านให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติของหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างแน่นอนค่ะท่าน!”

คุณย่าเยตส์พยักหน้าและโค้งคำนับแม้ว่าเธอจะกำลังคุยผ่านโทรศัพท์อยู่ก็ตาม

“อ้อใช่ ดิฉันมีเรื่องที่อยากจะขอรบกวนท่านหน่อยค่ะ ท่านเทพสงคราม!” คุณย่าเยตส์พูดอย่างมั่นอกมั่นใจต่อหน้าของกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลายที่อยู่เบื้องหน้าของเธอ

“ว่ามาเถอะ”

“เราเพิ่งเข้ามาครอบครองซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เมื่อไม่นานมานี้เอง แต่กลุ่มคนที่ซื้อวิลล่าที่นี่ไปได้นำทนายความของพวกเขามาร้องเรียนขอเงินคืน ท่านช่วยมาพูดให้พวกเราเหล่าตระกูลเยตส์หน่อยได้ไหมคะท่าน?”

ใบหน้าของคุณย่าเยตส์นั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

อีธานตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “คุณย่าเยตส์ ผมเป็นทหาร ทหารต่อสู้ในสงครามเท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นนอกเหนือจากนั้น”

จากนั้นเขาก็วางสายหลังจากที่พูดจบทันที

กลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างก็พากันหัวเราะเยาะหลังจากที่ได้ยินการสนทนาของพวกเขาทั้งสองในขณะเดียวกันพวกเขาก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์

หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “อะไรกัน? คุณจะใช้เทพสงครามเพื่อมากดดันพวกเราน่ะเหรอ? คุณไม่ได้ยินที่เขาพูดเหรออย่างไร?”

“ทหารไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว!”

“จ่ายมาเดี๋ยวนี้!”

“ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเราจะกระจายข่าวว่าตระกูลเยตส์กลั่นแกล้งเอาเปรียบลูกค้าของตัวเองอย่างไร้ซึ่งยางอายเพียงเพราะคุณมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนคอยช่วยเหลือสนับสนุนพวกคุณอยู่เบื้องหลัง! และเท่าที่รู้ ๆ มาถึงนิสัยใจคอของหัวหน้าผู้ฝึกสอนแล้ว ฉันไม่คิดว่าท่านจะมาเยี่ยมคุณอีกต่อไป!”

คำพูดดังกล่าวได้เชือดเฉือนเหล่าตระกูลเยตส์เป็นอย่างมาก

หัวหน้าผู้ฝึกสอนคือความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลเยตส์ในการไต่อันดับขึ้นไประดับสูง ๆ อีกครั้ง เขาเป็นดั่งฟางเส้นสุดท้ายในชีวิตของเหล่าตระกูลเยตส์

พวกเขาจะมาสูญเสียโอกาสนั้นเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้อย่างไร?

คุณย่าเยตส์รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “เร็วเข้า ให้เงินพวกเขาไป!”

“แต่คุณย่า! พวกเรามีเงินไม่พอ!”

“จำนองบ้าน! เร็วเข้า!”