บทที่ 1748 การเสียสละของราชันมังกร

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1748 การเสียสละของราชันมังกร

 

การทําลายวิญญาณชะตากรรมจะเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ แต่สถานการณ์ของท์ งห้าภูมิภาคจะยังเหมือนเดิมเพราะเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาว

 

เมื่อปราศจากวิญญาณชะตากรรม ไม่ว่าจะเป็นวังสวรรค์หรือเต่าสวรรค์ก็จะไม่สามารถใช้งานมันได้

 

ในสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกัน มนุษย์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ หลังจากทั้งหมดพวกเขาไม่เคยมองว่าเผ่าพันธุ์อื่นแข็งแกร่ง

 

แต่เทพปีศาจบัวแดงไม่ใช่ปีศาจต่างโลก แล้วเขาจะทําลายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างไร?

 

แม้เขาจะเกิดใหม่นับครั้งไม่ถ้วน แต่เทพปีศาจบัวแดงก็ไม่สามารถหาวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรมได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นในการเกิดใหม่ครั้งนี้เขาจึงมาเกลี้ยกล่อมราชันมังกรให้ร่วมมือกับเขา

 

แต่ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะมีความลับเช่นนี้ แผนการของเทพปีศาจบัวแดงล้มเหลว

 

เทพปีศาจบัวแดงต้องการเกลี้ยกล่อมราชันมังกรแต่ราชันมังกรก็รอโอกาสนี้เพื่อโน้มน้าวศิษย์ของเขาอยู่แล้ว

 

“หงถึง หยุดซะที” ราชันมังกรกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้าเพื่อให้เจ้ากลับใจฝายธรรมะไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียงเท่านั้นแต่มันยังรวมถึงการเสียสละเพื่อมนุษชาติ วังสวรรค์และเทพอมตะกลุ่มดาวเสียสละตัวเอง แล้วเจ้า? บิดามารดาและภรรยาของเจ้าเสียชีวิตเพื่อปูทางให้เจ้าก้าวเข้าสู่ระดับเก้า การเสียสละของพวกเขามีความจําเป็นและมีคุณค่า เจ้ายังไม่เข้าใจอีกขั้นหรือ?ไหงถึงหยุดเดี๋ยวนี้”

 

“ไม่ ข้าจะไม่หยุด” เทพปีศาจบัวแดงยังแน่วแน่ “ท่านอาจารย์ ยกโทษให้ข้าด้วย ข้าทําให้ท่านผิดหวังซ้ําแล้วซ้ําอีก แต่นี่เป็นเส้นทางที่ข้าต้องการเดินต่อไป”

 

ราชันมังกรสายศีรษะ “ข้าไม่ผิดหวัง หากเจ้าตกลง ข้าจะสงสัย ข้ารู้ว่าเจตจํานงของเจ้าจะไม่สั่นไหวโดยง่าย ตอนนี้ให้อาจารย์ใช้ตนเองเป็นแบบอย่างเพื่อสอนเจ้า”

 

“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

 

ขณะที่เทพปีศาจบัวแดงกําลังสับสน ราชันมังกรกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่เตรียมไว้

 

ท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร!

 

ความสับสนของเทพปีศาจบัวแดงถูกแทนที่ด้วยความตกใจเมื่อเขาตระหนักถึงผลกระทบของท่าไม้ตายนี้

 

เทพปีศาจบัวแดงตะโกน “ท่านอาจารย์ ท่านจะสังหารมนุษย์มังการทั้งโลกจริงหรือ? พวกเขาคือบุตรหลานของท่าน!”

 

“ถูกต้อง” ราชันมังกรกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ข้าเป็นบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกร ตั้งแต่ข้าสร้างวิธีเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกร ข้าก็เตรียมสิ่งนี้ไว้แล้ว มันจะทําให้ข้าสามารถกําจัดมนุษย์มังกรทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

“เดิมที่ข้าคิดว่าจะใช้วิธีนี้เมื่อเผ่ามนุษย์มังกรต้องการปกครองโลก อย่างไรก็ตามเจตจํานงของเทพอมตะกลุ่มดาวสั่งให้ข้าปล่อยพวกเขาไปชั่วคราวและใช้มันในอนาคต”

 

“ข้าลังเลมาตลอด หงถึง เจ้าเคยเห็นบุตรหลานของข้า พวกเขาเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสําหรับข้า พวกเขาทําให้ข้าเพลิดเพลินไปกับวัยชรา เห้อ…ข้าแก่แล้ว”

 

“ท่านอาจารย์…” เทพปีศาจบัวแดงไม่สามารถกล่าวสิ่งใด

 

ดวงตาของราชันมังกรเปลี่ยนเป็นสีแดง เทพปีศาจบัวแดงไม่เคยเห็นแง่มุมที่อ่อนไหวของราชันมังกรมาก่อน

 

ราชันมังกรกล่าวต่อ “แม้วิญญาณชะตากรรมจะไม่กําหนดให้มนุษย์มังกรปกครองโลก แต่เผ่ามนุษย์มังกรก็ยังเป็นภัยคุกคามต่อวังสวรรค์และเผ่ามนุษย์”

 

“เผ่ามนุษย์มังกรถูกสร้างขึ้นโดยข้า อายุขัยของมนุษย์มังกรยืนยาวกว่ามนุษย์ แล้วมนุษย์จะไม่ต้องการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรได้อย่างไร? เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์มังกรจะเพิ่มจํานวนขึ้นเรื่อยๆขณะที่ประชากรมนุษย์จะลดลงอย่างต่อเนื่อง”

 

“สิ่งที่น่ากลัวก็คือมนุษย์มังกรเกิดจากมนุษย์ นั่นจะทําให้ความระวังตัวของมนุษย์ลดลงตามธรรมชาติ โดยปราศจากชื่อเสียงของข้าและการปกป้องของเทพอมตะ ผู้ใดจะสามารถกดขี่เผ่ามนุษย์มังกร?”

 

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เผ่ามนุษย์มังกรจะปราบปรามเผ่ามนุษย์ในอนาคต หากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดวิญญาณชะตากรรมจะกําหนดให้เผ่ามนุษย์มังกรปกครองโลกอีกครั้ง ผลที่ตามมาจะไม่สามารถจินตนาการ”

 

ราชันมังกรมองเทพปีศาจบัวแดงอย่างลึกซึ้ง “เมื่อเจ้ามาที่นี่และพยายามเกลี้ยกล่อมข้า ข้าก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่คือช่วงเวลาที่เทพอมตะกลุ่มดาวพยากรณ์ไว้ เผ่ามนุษย์มังกรไม่ควรมีอยู่ แต่การกําจัดพวกเขาก็ต้องมีคุณค่าเช่นกัน คุณค่านี้มีไว้เพื่อโน้มน้าวเจ้า ศิษย์ของข้าไหงถึงอาจารย์ต้องการสอนจิตวิญญาณแห่งการเสียสละแก่เจ้า ข้าจะแสดงจิตวิญญาณของมนุษย์ให้เจ้าเห็น!”

 

เทพปีศาจบัวแดงอุทาน “ท่านอาจารย์…”

 

ร่างของราชันมังกรสั่นสะท้านขึ้นและไม่สามารถกลั้นน้ําตาเอาไว้ได้อีกต่อไป

เขาฆ่าบุตรหลานทั้งหมดของเขาด้วยตนเอง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเจ็บปวดแต่ไม่มีร่องรอยของความเสียใจ

 

เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง “หงถึง ศิษย์ของข้า เส้นทางของเจ้าไม่สามารถไปต่อ เจ้าไม่สามารถเอาชนะวังสวรรค์!”

 

“ พลังอํานาจของวังสวรรค์ไม่ได้มีเพียงรากฐานหรือวิญญาณชะตากรรม!”

 

“พลังอํานาจที่แท้จริงของมันมาจากการเสียสละของผู้อมตะจากรุ่นสู่รุ่น ทุกคนต่างปกป้องมนุษยชาติ!”

 

“หากปราศจากการเสียสละเหล่านี้ เผ่ามนุษย์จะถูกเหยียบย่ําและตกเป็นทาสของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เราจะไม่มีชีวิตที่ดีเช่นตอนนี้”

 

“หงถึง อาจารย์สอนเจ้า วังสวรรค์หล่อเลี้ยงเจ้า สิ่งที่เจ้าได้รับคือผลของการอุทิศตนและการเสียสละตนเองของบรรพบุรุษของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน!”

 

“กลับมาเถอะ หงถึง!”

 

“ทําตามสิ่งที่ชะตากรรมกําหนด!”

 

เทพปีศาจบัวแดง “”

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

ความทรงจําของราชันมังกรผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

เขามองวังมังกรและเย้ยหยัน “น่าเสียดาย จิตวิญญาณมังกร การดํารงอยู่ของเจ้าถูกอนุมานไว้แล้วโดยเทพธิดาจื่อเว่ย เจ้าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น”

 

ในเวลาต่อมาราชันมังกรกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้ท่าไม้ตายอมตะนี้เพื่อเกลี้ยกล่อมเทพปีศาจบัวแดงแต่ไม่สําเร็จ

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้มันมากเกินพอที่จะฆ่าไปหนิงปิง

 

ท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร!

 

ร่างของไปหนิงปิงสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง หัวใจของนางราวกับถูกบางคนบดขยี้ นางล้มลงบนพื้นและไอออกมาเป็นเลือด

 

จิตวิญญาณมังกรกรีดร้องด้วยความตกใจ “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

มันไม่รู้ความลับในอดีต

 

ในความเป็นจริงมันพึ่งถือกําเนิดขึ้นหลังจากเผ่ามนุษย์มังกรถูกทําลายล้างโดยราชันมังกร

 

ภายใต้การเฝ้ามองของจิตวิญญาณมังกร ไปหนิงปิงเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ศพที่เย็นเยียบของนางนอนอยู่ในวังมังกร

 

วังสวรรค์

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเดินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะที่กักขังเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

นางมาที่นี่เพื่อตรวจสอบบางสิ่ง

 

“ข้ากังวลมากเกินไป แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะดุร้ายและทรงพลัง แต่เทพปีศาจจิต วิญญาณในปัจจุบันเป็นเพียงดวงวิญญาณที่เหลืออยู่ โดยปราศจากวิญญาณและพลังงานอมตะ เขาจะทําสิ่งใดได้? เขาไม่แม้แต่จะสามารถหลบหนีออกจากที่นี่”

 

“โอ้ จิตวิญญาณมังกรปรากฏตัวขึ้นแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผน” เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มบางเมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้

 

นางอนุมานการคงอยู่ของจิตวิญญาณมังกรเนื่องจากความสงสัยเกี่ยวกับการกดขี่แม่ทัพมังกรทั้งสี่ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

 

หลังจากค้นพบการควงอยู่ของจิตวิญญาณมังกร ราชันมังกรและเทพธิดาจื่อเว่ยจึงวางแผนทั้งหมด

 

นี่เป็นกับดักสําหรับผู้อมตะของทะเลตะวันออกรวมถึงจิตวิญญาณมังกระและตี้จางเฉิง

 

หากไม่มีกลยุทธ์ดังกล่าว เทพธิดาจื่อเว่ยจะกล้าใช้ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคนและแสดงภาพเหตุการณ์ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติได้อย่างไร?

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เก็บวิญญาณอมตะความเมตตาเอาไว้

 

นางคิดกับตนเอง “ตอนนี้ถึงเวลาจัดการวิญญาณกาลเวลาของฟางหยวนแล้ว”

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

“บึม!”

 

วังมังกรถูกส่งลอยกลับหลัง จิตวิญญาณมังกรกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันถูกทําลาย หอคอยดวงตาสวรรค์กลับมาอีกครั้งผู้อมตะของวังสวรรค์หัวเราะอย่างเต็มที่ แผนการของพวกเขาประสบความสําเร็จ

 

“บัดซบ! ทั้งหมดเป็นอุบายของวังสวรรค์” ฟางหยวนต้องยอมรับความจริง เราแพ้การต่ อสู้ครั้งนี้!”

 

ชิงช่ายฉวนตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน

 

การกลับมาของหอคอยดวงตาสวรรค์ทําให้ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น

 

ถึงเวลาล่าถอย” สายตาของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขามีท่าไม้ตายท่องแดนอมตะ เขามีโอกาสหลบหนีหากใช้มันในเวลาที่เหมาะสม

 

อย่างไรก็ตามกลุ่มที่ปิดล้อมฟางหยวนและคนอื่นๆนําโดยลั่วเว่ยหยิน

 

ถั่วเว่ยหยินเข้าใจสถานการณ์และเร่งใช้ท่าไม้ตายอมตะแดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศ

 

แดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศสามารถหยุดการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทั้งหมด

 

ท่าไม้ตายอมตะของแท่นบูชาแห่งโชคก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ทุกคนตกตะลึงกับความสามารถนี้ของถั่วเว่ยหยิน

 

การเคลื่อนไหวของถั่วเว่ยหยินทําให้ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือจมลงสู่ความสิ้นหวัง

 

อีกด้านหนึ่งราชันมังกรสามารถหลบหนีจากตี้จางเฉิงและพุ่งไปยังวังมังกร

 

จางเฉิงต้องการไล่ตามแต่มันถูกกีดขวางโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์

 

“ราชันมังกร คนทรยศของเผ่ามนุษย์มังกร!” จิตวิญญาณมังกรกรีดร้องขณะซ่อนตัวอยู่ในส่วนลึกของวังมังกร

 

ราชันมังกรไม่สามารถค้นหามันได้ในเวลาอันสั้น เขาทําได้เพียงใช้กําลังบังคับปรับแต่งวังมังกรอีกครั้งเท่านั้น

 

เขาหัวเราะ “ข้าต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับจางเฉิง ตอนนี้ตราบเท่าที่ข้าสามารถควบคุมวังมังกร ตี้จางเฉิงจะกลายเป็นทาสของข้า วังสวรรค์จะได้รับสัตว์อสูรแรกกําเนิดที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!”

 

จิตวิญญาณมังกรสาปแช่งราชันมังกรที่น่ารังเกียจและน่าสะพรึงกลัวด้วยความโกรธ มันใช้ความพยายามทั้งหมดต่อต้านการปรับแต่งของราชันมังกรขณะเดียวกันก็เรียกต์จางเฉิงกลับมา

 

ตี้จางเฉิงคํารามซ้ําแล้วซ้ําอีกและพยายามหลบหนีจากสิ่งกีดขวาง

 

แนวป้องกันของวังสวรรค์เกือบพังทลายแต่ในช่วงเวลาสําคัญหอคอยดวงตาสวรรค์สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะยอมจํานนต่อโชคชะตาอีกครั้ง

 

ตี้จางเฉิงถูกโจมตีอย่างหนัก

 

ผู้อมตะเกือบครึ่งที่อยู่รอบข้างฟางหยวนเสียชีวิตทันที

 

พลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าน่ากลับเกินไป

 

มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่สามารถต่อต้านพลังอํานาจของท่าไม้ตายอมตะยอมจํานต่อโชคชะตา

 

“ฟางหยวน อย่าคิดว่าจะรอด!”

 

“เจ้าหนีไม่พ้น”

 

“ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้เตรียมมาเป็นพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ รับไป!”

 

ผู้อมตะระดับแปดเกือบสิบคนปิดล้อมฟางหยวนและใช้ท่าไม้ตายอมตะโจมตีเขาจากทุกทิศทาง

 

“พวกเขาพยายามปิดผนึกวิญญาณกาลเวลาของข้า บัดซบ!” ฟางหยวนกัดฟันแนน

 

เขาไม่ลังเลที่จะใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกรแต่พวกมันยังถูกปราบปรามโดยกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์

 

ทันใดนั้นเสียงคํารามของมังกรก็ดังไปทั่วสนามรบ ศีรษะขนาดมหึมาของจางเฉิงพุ่งชนทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวฟางหยวน

 

สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานตัวนี้กําลังรีบร้อนเช่นกัน มันอดทนต่อท่าไม้ตายอมตะจํานวนมากและพยายามไปเสริมกําลังให้กับวังมังกร

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ช้าไปแล้ว!” ราชันมังกรหัวเราะเสียงดัง เขาปรับแต่งวังมังกรส่วนใหญ่ไปแล้วและกําลังจะจับจิตวิญญาณมังกร

 

จิตวิญญาณมังกรตะโกน “ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าสมปรารถนา!”

 

“บึม!”

 

วังมังกรระเบิดตัวเองอย่างรุนแรง วังมังกรที่เคยยิ่งใหญ่เหลือเพียงซากปรักหักพัง

“จังหวะนี้!”ด้วยการใช้ประโยชน์จากความโกลาหล ฟางหยวนสามารถหลบหนีออกจากวงล้อม

 

“ปีศาจกําลังจะตอบโต้ ข้าจะปกป้องทุกคน!” ถั่วเว่ยหยินตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะแดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศอีกครั้ง

 

“ได้เวลาแล้ว!” ในเวลาเดียวกันเทพธิดาจื่อเว่ยก็กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาที่เท่าเทียม!

 

ราชันมังกรฉีกกระชากแดนศักดิ์สิทธิ์แปดทิศเพื่อเปิดทางเข้าไปหาฟางหยวน

 

จางเฉิงที่อยู่ระหว่างทางก้มหน้าลงทําความเคารพราชันมังกร

 

“ฟางหยวน ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” ราชันมังกรปรากฏตัวต่อหน้าฟางหยวนราวกับการเคลื่อนย้ายข้ามมิติ

 

ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย ฟางหยวนพยายามใช้ท่าไม้ตายทั้งหมดแต่พวกมันยังไร้ประโยชน์

 

“ปัง!”

 

ฟางหยวนถูกโจมตีโดยราชันมังกรโดยตรง ร่างของเขาระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษเลือดเนื้อและกระดูกกระเด็นไปทุกหนทุกแห่ง

 

เขาตายแล้ว!

 

ฟางหยวนตายแล้ว ความหวังสุดท้ายหายไปแล้ว

 

ชิงช่ายฉวยและคนอื่นๆเหมือนทหารที่พ่ายศึก พวกเขายืนมีนงงอยู่ในจุดเกิดเหตุ

 

หลังจากชั่วครูบางคนคิดที่จะมอบตัว ขณะที่ปิงช่ายฉวยตะโกนเสียงดังและพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร

 

ราชันมังกรหัวเราะเย้ยหยันก่อนจะสังหารชิงช่ายฉวยและคนอื่นๆ

 

หลังจากไม่นานสงครามอันยาวนานก็สิ้นสุดลง

 

“เราชนะ!”

 

“วังสวรรค์จงเจริญ ราชันมังกรจงเจริญ!”

 

ผู้อมตะภาคกลางโห่ร้องด้วยความยินดี

 

ราชันมังกรกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะหยุดสายตาที่ถั่วเว่ยหยิน

 

ถั่วเว่ยหยินโค้งคํานับ “ท่านราชันมังกรโปรดออกคําสั่ง?”

 

ราชันมังกรหัวเราะ “เราเป็นหนี้เจ้าที่ให้ยืมวิญญาณความเมตตา เจ้าเข้าข้างพวกเราในการต่อสู้ครั้งนี้ วังสวรรค์จะตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน”

 

ถั่วเว่ยหยินรีบขอบคุณ

 

ราชันมังกรลอบติดต่อเทพธิดาจื่อเว่ย “ใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาที่เท่าเทียมหรือยัง?”

 

เทพธิดาคือเว่ยกล่าว “เรียบร้อยแล้ว พวกเราจะโจมตีลัวเว่ยหยินตอนนี้หรือไม่?”

 

ราชันมังกรตอบกลับ “ปล่อยเขาไป หากเราทําร้ายเขา ผู้ใดจะกล้าเข้าข้างพวกเรา ในอนาคต?ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาที่เท่าเทียมเป็นการตอบโต้วิญญาณกาลเวลา ไม่ว่าฟางหยวนจะกําเนิดใหม่หรือไม่ ตราบเท่าที่ข้ายังอยู่ เขาจะไม่สามารถทําสิ่งใด”

 

ราชันมังกรสูดหายใจลึกก่อนกล่าว “ในที่สุดแผนการของเราก็ประสบความสําเร็จ”

 

เสียงของเทพธิดาจื่อเว่ยเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก “ถูกต้อง โดยใช้แผนการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมล่อให้ผู้อมตะอีกสี่ภูมิภาคเข้ามาและกระตุ้นให้คนภาคกลางเกิดความเกลียดชัง เราสามารถกําจัดศัตรูและภัยคุกคามภายใน ยุคที่ยิ่งใหญ่กําลังจะมาถึง ภาคกลางของเราจะรวมเป็นหนึ่ง พวกเขาจะเชื่อฟังคําสั่งของวังสวรรค์”

 

นางรู้ว่าราชันมังกรกําลังจะตาย

 

ราชันมังกรหัวเราะอย่างเต็มที่ เขาไม่สนใจความตายของตน “มีเจ้าอยู่ ข้าสามารถพักผ่อนได้อย่างสงบสุข”

 

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาจะไม่ต่อสู้ในแนวหน้า พวกเขามีประโยชน์มากกว่าในการวางแผน

 

“ท่านอาจารย์!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟงจินฮวงภายใต้การคุ้มครองของฟงจิวเก้อมาถึงและกรีดร้

 

นางรู้เช่นกันว่านี่คือช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของราชันมังกร

 

ราชันมังกรลูบศีรษะฟงจินฮวงและกล่าว “วันหนึ่งผู้คนก็ต้องตาย ใบไม้ร่วงหล่นและหวนคืนสู่รากเหง้า ต้นไม้ต้นใหม่จะโผล่ขึ้นมาแทนต้นเก่า ศิษย์ของข้า ไม่จําเป็นต้องโศกเศร้า”

 

ในเวลาเดียวกันราชันมังกรลอบส่งเสียงและออกคําสั่ง “ฮวงเอ๋อ เจ้าจะกลายเป็นเทพอมตะและน้ําวังสวรรค์สู่ความรุ่งโรจน์ ภาคกลางตั้งอยู่ระหว่างสีภูมิภาค เราไม่มีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ แต่เราเหนือกว่าพวกเขา เรามีระบบนิกายที่คงอยู่มานาน ก่อนหน้านี้ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะอาจไม่พอใจวังสวรรค์ที่ครอบครองทรัพยากรมากมาย”

 

“แต่หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ เราจะไม่มีภัยคุกคามภายใน ใจของผู้คนเปลี่ยนไปแล้ว เจตจํานงของพวกเราหลอมรวมเป็นหนึ่ง พวกเขาต้องการแก้แค้น วังสวรรค์จะกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคน วังสวรรค์คงอยู่มาหลายล้านปี เรายังมีวิญญาณชะตากรรม หลังจากนี้เราจะพิชิตโลกทั้งใบ รวมมนุษยชาติเป็นหนึ่ง สร้างกองกําลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนและคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์!”

 

“อาจารย์ทําให้เจ้าได้เพียงเท่านี้”

 

หลังกล่าวจบคําราชันมังกรก็มองไปยังเส้นขอบฟ้า

 

อาทิตย์กําลังจะตกดิน ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

แสงสุดท้ายสองมาที่ร่างของราชันมังกร

 

เขามังกรของเขาหักแต่มันทําให้เขายิ่งดูชั่วร้ายและน่าเกรงขามมากขึ้น

 

ดวงตามังกรของเขายังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

 

เกล็ดมังกรแตกและเต็มไปด้วยบาดแผล กรงเล็บมังกรของเขาคร่าชีวิตผู้อมตะระดับแปดมานับไม่ถ้วน

 

กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์มองเขาอย่างเงียบๆ

 

ไม่มีผู้ใดส่งเสียงออกมา

 

ตี้จางเฉิงก้มศีรษะลงและไม่ขยับเขยื้อน

 

โลกเกิดการสั่นสะเทือนและส่งเสียงดังไปทั่ว

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่กําแพงภูมิภาคหายไปอย่างสมบูรณ์ เส้นโลหิตปฐพีของห้าภูมิภาคเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว

 

โดยปราศจากกําแพงภูมิภาค ผู้คนสามารถเดินทางผ่านห้าภูมิภาคได้อย่างอิสระ ในเวลาเดียวกันความแตกต่างของปราณสวรรค์พิภพก็ค่อยๆหายไป

 

ราชันมังกรยิ้มและกล่าวอย่างมีความหวัง

 

“อา…ยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึงแล้ว…”

 

นี่คือประโยคสุดท้ายของเขา

 

เขาปิดเปลือกตาลงอย่างช้าๆ

 

เวลาของเขาหมดลงแล้ว

 

เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า บุคคลในตํานานล่วงลับไปแล้ว

 

แต่ร่างกายที่ยิ่งใหญ่ของเขายังอยู่ในสายตาของคนภาคกลางทั้งหมด

 

การเสียสละทั้งหมดของเขาเหมือนประกายไฟที่ลุกกองเพลิงขึ้นในหัวใจของผู้คน

นี่คือราชันมังกร