บทที่ 419
คุณหญิงใหญ่เซียวรู้สึกสิ้นหวังโดยสิ้นเชิง
เธอไม่อยากให้แรงกายแรงใจที่สร้างมาตลอดชีวิต สุดท้ายทั้งหมดมันก็สูญเปล่า
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่มีอสังหาริมทรัพย์อื่นในเมืองจินหลิง มีเพียงคฤหาสน์หลังนี้เท่านั้น
หากตระกูลเซียวล้มละลาย คฤหาสน์หลังนี้จะต้องถูกยึดอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ตนเองและครอบครัวลูกชายคนโต คงต้องเร่ร่อนอยู่ข้างถนน
ทันใดนั้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าลูกชายคนโตเซียวฉางเฉียนน่าจะยังมีเงินเก็บอยู่ในมือ ดังนั้นเธอจึงรีบถามเขาว่า “ฉางเฉียน ตอนนี้แกมีเงินเก็บอยู่ในมือเท่าไหร่?”
เซียวฉางเฉียนหัวใจกระตุกทีหนึ่ง แล้วตอบว่า “แม่ ในมือของผมมีเงินเก็บอยู่ไม่เท่าไหร่ แค่ไม่กี่ล้าน……”
“ไม่กี่ล้าน? ทำไมถึงน้อยขนาดนี้? ” คุณหญิงใหญ่เซียวขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แค่เซียวอี้เชียนคนเดียวก็ให้เวยเวยไปแล้ว 5 ล้าน หลายปีที่ผ่านมา แกกินและอยู่ที่บ้านนี้ แล้วแกยังได้รับเงินเดือนจากบริษัทเซียวซื่ออีกด้วย เงินเก็บของแกไปไหนหมด?”
เซียวฉางเฉียนร้องไห้แล้วกล่าวว่า “แม่ ผมจะมีเงินเก็บได้อย่างไร หลายปีที่ผ่านมาแม้ว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวในชีวิตประจำวันของผมจะน้อย แต่ผมต้องเลี้ยงดูไห่หลง เวยเวย และหงเย่นสามแม่ลูก และบวกกับผมที่ใช้เงินค่อนข้างมือเติบ ฉะนั้นผมจึงเก็บเงินได้ไม่มาก”
คุณหญิงใหญ่เซียวกล่าวว่า “ก่อนอื่น แกนำเงินก้อนนี้ออกมาลงทุนในบริษัทก่อน สามารถยึดเวลาออกไปได้สักพัก จากนั้นฉันก็จะคิดวิธีหาเงินลงทุนเข้ามา”
เซียวฉางเฉียนรีบกล่าวว่า “แม่ เงินพวกนี้ผมฝากประจำ……ถอนออกมาไม่ได้!”
“แกอย่ามาเล่นมุกนี้!” คุณหญิงใหญ่เซียวกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดเล็กคิดน้อยของแก แกเพียงแค่อยากเก็บเงินของตนเองไว้ใช่ไหม?”
เซียวฉางเฉียนไม่กล้าพูดอะไรอีก
คุณหญิงใหญ่เซียวถามว่า “แกเคยได้ยินประโยคนี้ไหม? ถ้ารังไข่พลิกคว่ำแล้วไข่ก็ย่อมแตก ถ้าหากตระกูลเซียวล้มละลายแล้ว แกคิดว่าแกจะมีชีวิตที่ดีได้เหรอ?”
เซียวฉางเฉียนรีบพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่แม่พูดนั้นถูกต้องแล้ว……..แต่ผมฝากประจำไว้จริง ๆ”
“ฝากประจำแล้วยังไง?” คุณหญิงใหญ่เซียวกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา “ฉันไม่ใช่ไม่เคยฝากเงิน ฝากประจำก็สามารถถอนเงินออกมาได้ เพียงแต่สูญเสียดอกเบี้ยเท่านั้น สถานการณ์ตอนนี้ แกยังคิดอยากได้ดอกเบี้ยเล็กน้อยจากเงินฝากประจำอีก? ฉันให้เวลาแกหนึ่งวัน รีบไปถอนเงินออกมา และโอนไปที่บัญชีของบริษัท หลังจากนั้นฉันจะติดต่อกับเจ้าหนี้สองสามราย ดูว่าจะสามารถผ่อนชำระได้หรือไม่ ทางที่ดีควรผ่อนผันให้พวกเราสักหนึ่งหรือสองปี!”
ในปีนี้ เจ้าหนี้ทวงถามหนี้ถือเป็นเรื่องยุ่งยาก ดังนั้น บางครั้งหากลูกหนี้มีทัศนคติที่ดี สามารถระบุวิธีการชำระหนี้โดยการผ่อนชำระได้อย่างชัดเจน และสามารถจ่ายคืนก่อนได้เล็กน้อย เจ้าหนี้ส่วนใหญ่จะยินยอมที่จะชำระคืนโดยการผ่อนชำระ
สิ่งที่คุณหญิงใหญ่เซียวต้องการคือ เอาเงินหลายล้านของเซียวฉางเฉียนเพื่อรักษาเสถียรภาพของเจ้าหนี้ เพื่อที่จะดึงเวลาให้ตนเองได้มากขึ้นไปอีกหน่อย
มิเช่นนั้น คฤหาสน์หลังนี้ของตนเอง อาจถูกยึดในเดือนหน้า
ในใจเซียวฉางเฉียนไม่ยินยอมเป็นอย่างยิ่ง
เขารู้ว่าตระกูลเซียวเป็นหลุมลึกที่ไม่มีทางเติมเต็มได้ จะพูดยังไงก็เขาไม่ยินยอมนำเงินออกมาทุ่มเข้าไป แต่เนื่องจากแม่ของเขาขอร้องอย่างแข็งก้าว เขาจึงทำได้เพียงแค่พยัก แกล้งทำเป็นตกลง แล้วกล่าวว่า “แม่วางใจได้ สักครู่ผมกับหงเย่นจะไปธนาคารเพื่อถอนเงินฝากประจำออกมา แล้วโอนเข้าบัญชีของบริษัท!”
คุณหญิงใหญ่เซียวถึงรู้สึกพอใจและกล่าวว่า “ฉันเดาว่าแกมีเงินสดอย่างน้อย 10 ล้าน เอาอย่างนี้ แกโอนเงินเข้าบัญชีบริษัท 8ล้านก่อน ไม่พอยังไงค่อยว่ากันอีกที”
เซียวฉางเฉียนแอบด่าในใจ คุณหญิงใหญ่พอจะเดาได้ว่าเขามี10ล้าน เปิดปากก็จะขอเงิน 8 ล้าน?
เงินนี้ ตนเองจะไม่ให้สักแดงเดียว!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาแสดงสีหน้าเป็นเชิงตกลง ขณะเดียวกันก็แอบขยิบตาให้เฉียนหงเย่น
หลังจากนั้น เซียวฉางเฉียนกล่าวกับคุณหญิงใหญ่ว่า “แม่ ผมกับหงเย่นจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ แม่รออยู่ที่บ้านน่ะ”
คุณหญิงใหญ่เซียวรู้สึกพอใจจึงได้พยักหน้า “รีบไปรีบกลับ”
เซียวฉางเฉียนกับเฉียนหงเย่นออกจากบ้าน ทันทีที่เฉียนหงเย่นก้าวออกจากบ้าน เธอแทบอดใจรอไม่ไหวจึงถามว่า “คุณบ้าไปแล้วเหรอ?! ทำไมสัญญากับคุณหญิงใหญ่ ว่าจะให้เงินเธอ 8 ล้าน? เรามีเงินทั้งหมดเพียง 15 ล้านเท่านั้น!”