ตอนที่ 1091

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าข้าเชี่ยวชาญทักษะจิตเจ็ดสังหารและเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีพลังต่อสู้เก้าดาว แล้วถ้าข้าสามารถสยบอีกฝ่ายได้ด้วยทักษะจิตเจ็ดสังหาร อย่างน้อยข้าก็มีโอกาสครึ่งหนึ่งที่จะเป็นฝ่ายชนะ”

“หากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าข้ามีพลังต่อสู้เก้าดาว”

“แต่ถ้าข้าพบกับคู่ต่อสู้แปดดาว แต่สามารถป้องกันสัมผัสสวรรค์ของข้าได้ ข้าก็จะเป็นฝ่ายแพ้”

“เช่นนั้นข้าก็จะมีพลังต่อสู้ต่ำกว่าแปดดาว”

“แต่เนื่องจากอัจฉริยะแปดดาวไม่ได้ฝึกฝนทักษะโจมตี มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะอัจฉริยะเก้าดาว นี่เป็นเรื่องแปลก ทั้งที่ข้าสามารถเอาชนะอัจฉริยะเก้าดาวได้ แต่อัจฉริยะแปดดาวกลับสามารถเอาชนะข้าได้”

เฒ่าหม่าหัวเราะและพูดว่า “ไม่เลว ตอนนี้เจ้าค้นพบปัญหาแล้ว ในความเป็นจริงมันก็เป็นเหมือนระดับทลายมิติที่วัดจากความแข็งแกร่ง ซึ่งพลังระดับขอบเขตพระเจ้าเองก็ขึ้นอยู่ความแข็งแกร่งเช่นกัน ท้ายที่สุดพลังก็คือพื้นฐานของทุกสิ่งทุกอย่าง”

หลิงฮันพยักหน้า มันน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะทั้งสองคนมีความแข็งแกร่งเท่ากัน แต่พวกเขาฝึกฝนกันคนละแบบ ดังนั้นจุดแข็งของทั้งสองคนจึงแตกต่างกัน

ในกรณีนี้ เขาเป็นอัจฉริยะห้าดาว แต่นี่ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา ความแข็งแกร่งของเขายังเพิ่มขึ้นได้อีกและเป็นไปได้มากที่จะบรรลุระดับหกดาว

“เจ้าบรรลุระดับทลายมิติยี่สิบดาว นั่นหมายความว่าเจ้าบรรลุได้อย่างสมบูรณ์แบบ มิฉะนั้นเจ้าคงไม่บรรลุระดับทลายมิติยี่สิบดาว” เฒ่าหม่ากล่าวอีกครั้ง “แต่เจ้าเพิ่มทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูง ซึ่งพลังต่อสู้มากที่สุดที่เจ้าสามารถบรรลุได้คือหกดาว”

พลังต่อสู้หกดาว มันยังไม่เพียงพออีกหรือ?

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหนู จักรวาลนั้นกว้างใหญ่กว่าที่เจ้าคิด! ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่ขาดไม่ได้คืออัจฉริยะ!” เฒ่าหม่าส่ายหัว “ในตอนที่ข้ายังเยาว์วัย ข้าเคยเดินทางไปทั่วโลกและเห็นอัจฉริยะมากมาย แล้วนั่นทำให้ข้ารู้ว่าตัวเองเหมือนกับกบก้นบ่อ”

หลิงฮันพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “โปรดให้คำแนะนำข้าด้วย!”

เฒ่าหม่าแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ ชายหนุ่มคนนี้ไม่หยิ่งยโสจองหอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขีดจำกัดของจอมยุทธควรเป็นสิบดาว!”

พรวด!

หลิงฮันแทบกระอัก อัจฉริยะห้าดาวเป็นดั่งตำนาน แต่ขีดจำกัดที่แท้จริงคือสิบดาว?

พลังต่อสู้สิบดาว? มันเป็นไปได้ด้วยหรือ?

เขามีความทนงพอตัว ทุกระดับพลังจะฝึกฝนให้อยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ แต่เฒ่าหม่าพูดว่าเขาไปได้มากที่สุดแค่หกดาว ซึ่งยังห่างจากสิบดาวเกือบครึ่งหนึ่ง

“หากเจ้าต้องการเผชิญหน้ากับโลกที่กว้างใหญ่อย่างไม่หวั่นเกรง เจ้าจะต้องเป็นอัจฉริยะสิบดาว!” เฒ่าหม่ากล่าว “ช่องว่างดังกล่าวมีเพียงแค่อัจฉริยะเก้าดาวเท่านั้นที่ทำได้แค่เงยหน้ามอง ถึงแม้เจ้าจะเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง แต่ก็ยังสามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นได้”

หลิงฮันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าจอมยุทธระดับภูผาวารีจะสามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับสุริยันจันทราได้ แต่ถ้าเป็นอัจฉริยะสิบดาว เขาก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

แน่นอนว่าที่เฒ่าหม่ากล่าวมีเหตุผล แต่เขาจะต้องเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้น มิฉะนั้นแม้จะเป็นอัจฉริยะระดับสิบดาวก็ไร้ประโยชน์

“แต่ผู้อาวุโส ตามที่ท่านกล่าว ข้าฝึกฝนถึงขั้นสมบูรณ์แบบทุกระดับพลัง แต่ทำไมข้าถึงมีพลังต่อสู้แค่หกดาว?” หลิงฮันไม่เข้าใจ

เฒ่าหม่ายิ้มและพูดว่า “เจ้าต้องอดทน” เขาลุกขึ้นยืน “ตามข้ามา”

ทั้งสองคนเดินไปที่ป่าทึบข้างทะเลสาบ และเฒ่าหม่าก็พูดว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่า ระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด…แท้จริงแล้วมันยังไม่ใช่จุดที่สมบูรณ์แบบ!”

หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ ทั้งที่อยู่จุดสูงสุดแล้วแต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ?

“จุดสูงสุดของระดับภูผาวารีคือภูผาวารีห้าสายไม่ใช่สี่!” เฒ่าหม่ากล่าว ทำให้หลิงฮันตกใจยิ่งกว่าเดิม

หลิงฮันอ้าปากกว้าง เขาตกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากจริงๆ

ระดับภูผาวารี โดยทั่วไปแล้วได้รับการยอมรับว่าเป็นเริ่มต้น หลังจากที่สร้างภูผาวารีได้สี่สายก็จะเริ่มสร้างสุริยันจันทราขึ้นมาได้และทะลวงผ่านระดับถัดไป

แต่เฒ่าหม่ากับพูดว่ายังสามารถสร้างภูผาวารีขึ้นมาได้ห้าสาย!

หากเป็นเช่นนั้นจะสามารถสร้างภูผาวารีหกและเจ็ดสายได้หรือไม่?

“ฮ่าฮ่าฮ่า ภูผาวารีห้าสายคือขีดจำกัดที่แท้จริง และเป็นไปไม่ได้อีกแล้วที่จะสร้างเพิ่ม!” เฒ่าหม่าส่ายหัว “ความเป็นไปได้ดังกล่าวมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นที่สามารถทำได้ และหากทำสำเร็จเจ้าก็จะกลายเป็นอัจฉริยะระดับสิบดาว!”

หลิงฮันไม่เข้าใจที่เฒ่าหม่ากล่าวและพูดว่า “จากระดับหกดาวไปสิบดาวเลย แล้วระดับเจ็ดดาวถึงเก้าดาวล่ะ?”

เฒ่าหม่าหัวเราะและพูดว่า “เจ้าคิดว่าหลังจากที่สร้างภูผาวารีได้ห้าสายมันก็คือจุดสูงสุดแล้วไม่ใช่หรือ? หากเจ้าไม่สามารถสร้างได้ก็จะเป็นได้แค่อัจฉริยะระดับเจ็ดดาว แปดดาว และเก้าดาวเท่านั้น”

อย่างนั้นนี่เอง

หลิงฮันถอนหายใจและพูดว่า “หากเป็นเช่นนั้น ระดับสุริยันจันทราเองก็สามารถสร้างสุริยันจันทราได้ห้าดวงเหมือนกัน? แล้วระดับดาราก็สามารถสร้างดาราได้ห้าดวง? แล้วเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีอัจฉริยะระดับสิบเอ็ดดาว สิบสองดาว?”

“ใช่แล้ว!” เฒ่าหม่าหัวเราะ “อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่ผิด”

เฒ่าหม่าชูนิ้วและพูดว่า “ทุกระดับพลังจะต้องบรรลุถึงระดับที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เจ้าถึงจะคงพลังระดับสิบดาวเอาไว้ได้ มิฉะนั้นหากเจ้าไม่บรรลุถึงระดับที่สมบูรณ์แบบระดับใดระดับหนึ่ง ระดับพลังของเจ้าก็จะลดลงกลายเป็นเก้าดาว แปดดาว และเจ็ดดาว”

หลิงฮันอ้าปากค้าง มันเป็นเรื่องยากมากที่จะรักษาระดับพลังสิบดาวเอาไว้ เพราะเขาต้องบรรลุถึงระดับที่สมบูรณ์แบบทุกระดับพลัง

“ผู้อาวุโส ท่านเคยเห็นอัจฉริยะระดับสิบดาวมาก่อนหรือไม่?” หลิงฮันถาม

แสงอันร้อนแรงลุกโชติอยู่ในดวงตาของเฒ่าหม่า และใบหน้าของเขาดูสั่นเล็กน้อย หลังจากที่ใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่นาน ในที่สุดเขาก็เปิดปากพูดว่า “ข้าไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง แต่เคยได้ยินข่าวลืออยู่บ้าง ซึ่งคนพวกนั้นถูกขนานนามว่าจักรพรรดิไร้พ่าย”

หลิงฮันรู้สึกตกตะใจ อัจฉริยะระดับสิบดาวมีมากกว่าหนึ่งคน?

เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร? ต้องทราบก่อนว่าเพื่อที่จะบรรลุระดับทลายมิติยี่สิบดาว เขาต้องได้รับพลังจากสวรรค์และปฐพีที่มาจากการเปิดสวรรค์ มิฉะนั้นจะบรรลุได้สูงสุดแค่สิบเจ็ดดาว

เฒ่าหม่าสังเกตเห็นความสงสัยของหลิงฮันและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่ามีขุมพลังบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งคนไปโลกใบเล็กและให้พวกเขาเปิดสวรรค์ขึ้นมา?”