ตอนที่ 2877 พลังของมังกรหนุ่มขั้นสี่

“ขั้นสี่ !!”

“มังกรหนุ่มขั้นสี่ !! มันคือมังกรหนุ่มขั้นสี่ที่แท้จริง !!!”

สำหรับสิ่งมีชีวิตอย่างมังกรนั้น ใครก็ตามที่ไม่ใช่มือใหม่ที่พึ่งจะเข้าสู่ God domain เมื่อเร็วๆนี้จะต้องเคยได้ยินเรื่องราวของมันมาทั้งหมด สำหรับทุกคนในเมืองหินโบราณนั้นพวกเขาล้วนอยู่กันในขั้นสามเป็นอย่างน้อย ซึ่งมันสามารถจะกล่าวได้เลยว่าพวกเขามีความเข้าใจที่ค่อนข้างจะชัดเจนมากๆเกี่ยวกับมังกรที่แท้จริง ….

และตอนนี้เมื่อได้มาเห็นมังกรที่แท้จริง แถมยังเป็นมังกรหนุ่มขั้นสี่ปรากฎตัวขึ้นนั้น ทุกคนในเมืองหินโบราณก็ยิ่งได้เข้าใจมากขึ้นอย่างชัดเจนว่าความน่ากลัวของมังกรที่แท้จริงนั้นคืออะไร ….

โดยขนาดของมังกรหนุ่มขั้นสี่ตัวนี้ที่ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขานั้นมีความยาวประมาณสี่ถึงห้าร้อยเมตร ซึ่งลำตัวของมันนั้นสามารถจะบดบังเมฆและดวงอาทิตย์ได้อย่างสบายๆเลย ขณะที่ออร่าที่น่ากลัวของมันที่มันแผ่ออกมาก็ได้เข้าปกคลุมรัศมีหลายพันหลา และมันก็ทำให้ผู้เล่นขั้นสามนั้นตัวสั่นมากๆ แถมตอนนี้มังกรหนุ่มขั้นสี่ตัวนี้ก็ยังลอยอยู่เหนือเมืองหินโบราณราวกับเทพเจ้า

“เรื่องนี้มันไม่มีทางจะเป็นไปได้ !!! ใช่แล้วมันไม่มีทางจะเป็นไปไม่ได้ !!! นี่มันต้องเป็นทริคอะไรสักอย่างแน่นอน !!!”

“ผู้เล่นจะอัญเชิญมังกรหนุ่มขั้นสี่ออกมาได้ยังไงกัน ?!! นี่คือมังกรหนุ่มขั้นสี่เลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!!”

ในตอนนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญของผู้มีอิทธิพลในเมืองหินโบราณที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่บนกำแพงเมืองนั้นเริ่มมีการแสดงออกที่ไม่มั่นคงเล็กน้อย ขณะเดียวกันตอนนี้ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว

มังกรหนุ่มขั้นสี่นั้นเปรียบได้กับการดำรงอยู่ของตัวตนขั้นห้าที่ทรงพลังเลย และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นขั้นสี่ในปัจจุบันนั้นจะสามารถต่อกรได้ มันเป็นเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งที่อยู่ในจุดสูงสุดของ God domain

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับสามารถอัญเชิญมังกรหนุ่มขั้นสี่ออกมาได้ จะให้พวกเขาเชื่อเรื่องนี้ได้ยังไงกัน ?

กล่าวได้ว่านี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อซะยิ่งกว่าเรื่องที่ซือเฟิงสามารถเลื่อนขั้นเป็นขั้นห้าได้สำเร็จซะอีก เพราะท้ายที่สุดแล้วมังกรหนุ่มขั้นสี่ทุกตัวนั้นจะได้รับการเลื่อนขั้นให้กลายเป็นมังกรโตเต็มวัยขั้นห้าแน่นอน หากมีเวลามากเพียงพอ

สำหรับมังกรโตเต็มวัยขั้นห้าใน God domain นั้น มันเป็นตัวตนที่แทบจะเป็นอมตะเลย

“ทุกคนไม่ต้องกังวล !! แม้ว่ามังกรหนุ่มขั้นสี่จะน่ากลัว แต่วงเวทย์ป้องกันของเมืองหินโบราณของเราก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน !!!” จักรพรรดิอสูมองไปยังฝูงชนฝั่งของเขาที่เริ่มตื่นตระหนก และอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ “มันก็แค่มังกรหนุ่มขั้นสี่ที่เทียบได้กับการดำรงอยู่ของตัวตนขั้นห้านั่นแหละ !!! ตราบใดที่เราร่วมมือกันเพื่อต่อต้านมัน แบล๊คเฟรมก็จะไม่สามารถทำอะไรกับเราได้แน่นอน !!!”

เมื่อบลัดฟิสต์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่มีอิทธิพลที่สุดของเมืองหินโบราณได้ยินคำพูดของจักรพรรดิอสูร เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะตอนนี้หากปราศจากความช่วยเหลือจากวงเวทย์ป้องกันของเมืองหินโบราณ พวกเขาจะไม่สามารถต่อกรกับสภาสิบแปดปีกได้แน่นอน

อย่างไรก็ตามหลังจากการต่อสู้วันนี้ผ่านไป มันก็น่าจะไม่มีใครใน God domain ที่กล้าจะยั่วยุสภาสิบแปดปีกแล้ว และนี่มันก็จะทำให้สภาสิบแปดปีกกลายเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงของ God domain

เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวตนขั้นห้า และมังกรหนุ่มขั้นสี่ในระยะนี้ของเกม มันจะมีกองกำลังใดใน God domain ที่จะสามารถต่อกรกับพวกเขาได้กัน ?

แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของกิลสายความมืดที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่บนกำแพงเมืองหินโบราณก็เริ่มรู้สึกเสียใจแล้วที่พวกเขาตัดสินใจจะเป็นศัตรูกับสภาสิบแปดปีกในวันนี้ พวกเขาอาจจะรอดจากภัยพิบัติในวันนี้ไปได้ด้วยเมืองหินโบราณ แต่แล้วในอนาคต
ล่ะ ?

พวกเขาไม่สามารถจะซ่อนตัวในเมืองหินโบราณไปได้ตลอดนี่นา ถูกไหม ?

ในขณะที่หลายคนบนกำแพงเมืองหินโบราณกำลังเริ่มรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง ท้องฟ้าเหนือพวกเขานั้นมันก็เริ่มซีดลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ….

บลัดฟิสต์มองไปยังฉากที่เกิดขึ้น และอดไม่ได้ที่จะหันมาถามว่า “รองหัวหน้าอู๋
หยา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? มังกรหนุ่มนั่นกำลังจะทำอะไรกัน ?”

สำหรับมังกรหนุ่มขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยหกสิบห้าที่ลอยอยู่เหนือเมืองหินโบราณนั้นเขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยจากออร่าของมันว่ามันเป็นมังกรที่แท้จริงแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลอื่นๆของมันได้ เพราะมันจำเป็นจะต้องใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงในการตรวจสอบ ….

แต่รองหัวหน้าอู๋หยา ซึ่งเป็นหนึ่งในรองหัวหน้าของกองกำลัง God’s Vestige นั้นมีสกิลตรวจสอบขั้นสูงแบบนี้อยู่ โดยสกิลตรวจสอบขั้นสูงนี้นั้นมันจะช่วยให้เขาสามารถมองเห็นสิ่งที่สกิลตรวจสอบทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้

“ไม่จริงน่า !!” อู๋หยาส่ายหัวด้วยกับนัยน์ตาแห่งความสิ้นหวัง “มันไม่ใช่แค่มังกรหนุ่ม …. แต่มันเป็นมังกรศักสิทธิ์ !!! มังกรเงินศักสิทธิ์ !!!”

“มังกร …. ศักสิทธิ์ !!!” เมื่อได้ยินดังนี้บลัดฟิสต์ก็ตกตะลึง ก่อนที่เขาจะมองไปยังอู๋หยา และกล่าวว่า “รองหัวหน้าอู๋หยา นี่คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ? หากคิดจะทำให้เรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลก หรือล้อเล่น ฉันต้องบอกเลยนะว่าฉันหัวเราะไม่ออก ….”

มังกรศักสิทธิ์คืออะไร ?

มันคือราชันในหมู่มังกรเลย ความแตกต่างระหว่างมังกรหนุ่มทั่วไป กับมังกรศักสิทธิ์นั้นมันก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างมอนสเตอร์ทั่วไป กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย โดยมันเป็นสิ่งมีชีวิตสองชนิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ….

อู๋หยามองไปที่บลัดฟิสต์ ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “ฉันเองก็หวังให้เป็นแบบนั้นนะ แต่ตอนนี้คุณคิดว่าฉันล้อเล่นจริงๆงั้นหรอ ? …”

ในตอนนี้อู๋หยารู้สึกเสียใจมากๆที่ได้ใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงของเขาตรวจสอบมังกรหนุ่มที่อยู่เหนือเมืองหินโบราณ เพราะถ้าเขาไม่ได้ใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูง เขาก็คงจะยังมีความหวังเหลืออยู่ในใจบ้าง แต่ตอนนี้มันหมดแล้ว ….

ขณะเดียวกันผู้เล่นที่อพยพออกจากเมืองหินโบราณและไปคอยเฝ้าดูอยู่จากระยะไกลนั้นก็ล้วนตกตะลึงกับเรื่องนี้เช่นกัน

“นี่คือสิ่งที่ทำให้สภาสิบแปดปีกมีความมั่นใจ และเลือกจะเข้าโจมตีเมืองหินโบราณงั้นหรอ ?”

“มังกรศักสิทธิ์ !! ฉันต้องฝันไปแน่ๆ !!!”

“ใช่แล้ว ! ทั้งหมดนี่มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ !! ในตอนนี้ฉันยังไม่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่เลย แต่ทำไมเขาถึงเลื่อนขั้นเป็นขั้นห้าได้แล้ว ? แถมเขายังสามารถอัญเชิญมังกรศักสิทธิ์ออกมาได้อีก นี่มันจะต้องเป็นความฝันแน่ๆ !!!”

ในตอนนี้หลายคนมองไปที่มังกรศักสิทธิ์บนท้องฟ้า และอดไม่ได้ที่จะเริ่มปลอบใจตัวเอง

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิอสูรนั้นเห็นได้ชัดว่ายังคงไม่มีความตั้งใจจะยอมแพ้ โดยเขาได้จ้องมองไปยังมังกรศักสิทธิ์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุด “ฉันไม่เชื่อ !! มังกรศักสิทธิ์แล้วยังไงล่ะ ?!! ฉันได้ใช้ทั้งกำลังคนและทรัพยากรไปเป็นจำนวนมากเพื่อตามหาวงเวทย์ป้องกันโบราณที่สาปสูญนี้ ดังนั้นมันจะต้องสามารถป้องกันการโจมตีของมังกรศักสิทธิ์ได้แน่นอน !!!”

อย่างไรก็ตามก่อนที่จักรพรรดอสูรจะทันได้พูดอะไรจบ มังกรเงินศักสิทธิ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็เริ่มอ้าปากขึ้น หลังจากนั้นมานาในรัศมีหลายหมื่นหลาก็ถูกดูดให้เข้ามารวมอยู่ที่บริเวณปากของมัน

“โฮก !!!”

เมื่อมังกรเงินศักสิทธิ์เปล่งเสียงคำรามออกมา ทั่วทั้งเมืองหินโบราณก็ถูกกลืนกินโดยลำแสงศักสิทธิ์ทันที

เสียงคำรามของมังกรศักสิทธิ์ !!!

ซึ่งลำแสงศักสิทธิ์นี้มันก็สว่างจ้ามากๆจนผู้เล่นทุกคนทำได้แค่หลับตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงแสงสว่างนี้ และเมื่อลำแสงศักสิทธิ์นี้หายไป ทุกคนจึงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นเพื่อตรวจสอบทุกอย่าง
“นี่มัน … เป็น … เป็นไปได้ยังไง …?!!!”

ผู้เล่นที่อยู่ไกลออกไปหลายพันหลาที่เฝ้าดูอยู่นั้นล้วนมองไปยังฉากตรงหน้าของพวกเขาด้วยความตกตะลึงอย่างถึงขีดสุด

เนื่องจากในตอนนี้นั้นไม่เพียงแต่วงเวทย์ป้องกันของเมืองหินโบราณจะพังทลายลงไป แต่แม้แต่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองหินโบราณที่เปรียบได้ดั่งหัวใจของเมืองก็ยังหายไป โดยมันเหลือทิ้งไว้เพียงแต่หลุมลึกเท่านั้น แถมนอกเหนือจากนี้แล้ว สิ่งก่อสร้างอื่นๆ รวมทั้งผู้เล่นในเมืองหินโบราณก็ยังหายไปทั้งหมด ยกเว่นก็แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่บนกำแพงเมืองที่เปิดใช้งานงานสกิลช่วยชีวิตของตัวเองทัน กับ มอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายชั้นยอด เลเวลหนึ่งร้อยหกสิบสองตัว

ถูกต้อง !!

เมืองหินโบราณทั้งหมดยกเว้นบริเวณกำแพงเมืองกลายเป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าไปแล้ว !!!

“ไม่ !! ไม่ !! นี่มันเป็นไปไม่ได้ !!!”

จักรพรรดิอสูรที่ลอยอยู่กลางอากาศมองไปยังเมืองหินโบราณที่กลายเป็นดินแดนรกร้างตรงหน้าเขาด้วยความสับสน และไม่อยากจะเชื่อ ในเวลานี้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิอสูรเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ บลัดฟิสต์ และอู๋หยาเองก็เช่นกัน ….

ทุกอย่างที่พวกเขาทำมามันจบสิ้นแล้ว ….

ความพยายามอย่างหนักทั้งหมดที่พวกเขาทำมาตอนนี้มันได้ถูกทำลายล้าง และกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว ….

และในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นบลัดฟิสต์ หรืออู๋หยา พวกเขาต่างก็พูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานาน ….

การโจมตีเดียว !!

แค่การโจมตีเดียว !!!

เมืองหินโบราณที่มีความแข็งแกร่งแทบจะเทียบเท่ากับเมืองหลักได้หายไป !!!

ใครกันจะเชื่อเรื่องนี้ ?

สำหรับสมาชิกสภาสิบแปดปีกที่อยู่บนเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้น พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากเช่นกัน โดยเฉพาะจี้ลั่วหรง และปีศาจสีเลือดที่เคยอาศัยอยู่ในทวีปด้านตะวันตกมาก่อน พวกเขานั้นตกตะลึงอย่างสุดจะพรรณนา

มันมีข่าวลือเกิดขึ้นในทวีปด้านตะวันตกว่าเมื่อมังกรแบบนี้ปรากฎตัวขึ้น มันจะสามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้สบายๆเลย และหากมังกรแบบนี้โกรธมากๆ พวกมันจะสามารถทำลายอาณาจักรทั้งอาณาจักรได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันเป็นแค่นิทานเรื่องเล่าปรัมปรา ….

แต่ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่ามันไม่ใช่แบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด !!!

อันที่จริงแล้วนับประสาอะไรกับจี้ลั่วหรง และปีศาจสีเลือด แม้แต่ซือเฟิงที่ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับออร์เบ็คมานานก็ยังตกตะลึงกับฉากนี้

“นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมังกรศักสิทธิ์งั้นหรอ ?!”

ซือเฟิงนั้นรู้สึกพูดอะไรแทบไม่ออกจริงๆเมื่อได้เห็นสิ่งที่ออร์เบ็คสามารถจะทำได้ ….

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้เชี่ยวชาญขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าทำลายเมืองทั้งเมืองมาก่อนในชีวิตที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับเรื่องของผู้เชี่ยวชาญขั้นหกแล้ว ความตกตะลึงที่เกิดขึ้นจากการที่มังกรเงินศักสิทธิ์ออร์เบ็คทำลายเมืองหินโบราณนั้นมันยิ่งใหญ่กว่ามาก

เพราะมังกรเงินศักสิทธิ์ออร์เบ็คนั้นอยู่แค่ในขั้นสี่เท่านั้น !!!

เดิมทีเขาคิดว่าด้วยการโจมตีเมื่อครู่ของมังกรเงินศักสิทธิ์ออร์เบ็คนั้น มันน่าจะสามารถทำให้วงเวทย์ป้องกันของเมืองหินโบราณต้องใช้แหล่งพลังงานส่วนใหญ่ที่มีไป แต่ตอนนี้เมืองทั้งเมืองมันกับหายไปแล้วจริงๆ ….

ในเวลานี้ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังจักรพรรดิอสูรที่มีท่าทีบ้าคลั่งด้วยความรู้สึกขอโทษในใจ เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับจักรพรรดิอสูรว่าเขาไม่ได้คิดจะทำขนาดนี้จริงๆ ….

แต่แน่นอนว่านี่มันก็เป็นเพียงแค่ความเห็นอกเห็นใจเท่านั้น ซือเฟิงไม่ใช่คนใจอ่อน หลังจากนั้นเขาก็ได้ชักดาบ Abyssal Blade ออกมาจากฝัก และพุ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับจักรพรรดิอสูร รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนอื่นๆ ซึ่งเขาก็ได้ใช้ดาร์คเนสไบรน์จัดการพันธนาการจักรพรรดิอสูรและผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนอื่นๆไว้อย่างสมบูรณ์

โดยหลังจากวงเวทย์ป้องกัน และเมืองหินโบราณทั้งเมืองถูกทำลายไปนั้น มันก็ทำให้จักรพรรดิอสูร และผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนอื่นๆไม่สามารถระดมมานาจากภายนอกมาใช้ได้ สำหรับค่าสถานะพื้นฐานของพวกเขา พวกเขาก็เหลืออยู่มากกว่าผู้เล่นขั้นสามทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นต่อหน้าซือเฟิง พวกเขาจึงไม่สามารถจะต่อต้านใดๆได้เลย พวกเขาทำได้เพียงแค่รอให้ซือเฟิงมาจับเท่านั้น และแม้ว่าพวกเขาอยากจะตาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะตายได้

หลังจากซือเฟิงทำลายเมืองหินโบราณ และจัดการจับกุมจักรพรรดิอสูร กับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนอื่นๆได้อีกมากมาย ข่าวเรื่องผลลัพธ์ของสงครารมครั้งนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างบ้าคลั่ง และรวดเร็วทั่ว God domain