คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1158
ในเวลานั้น เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนก็เดินขึ้นมายืนตรงหน้าแดร์ริลทันที “ท่านแม่ เขาเป็นขันทีคนสนิทของลูก ลูกเป็นคนบังคับให้เขาเล่นกับลูกเอง ได้โปรดยกโทษให้เขาด้วยท่านแม่”
เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนอ้อนวอนจักรพรรดินีด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะหาขันทีที่ถูกใจได้ แล้วเธอจะปล่อยให้เขาถูกประหารชีวิตได้อย่างไร?
ในเวลาเดียวกัน แดร์ริลก็รีบคุกเข่าลงและแสดงสีหน้าหวาดกลัวทันที ถึงแม้ว่าเขาลังเลที่จะต้องทำเช่นนั้นแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
แดร์ริลจะต้องอดทนต่อความอัปยศอดสูเพราะเขายังต้องการอยู่ในพระราชวังเพื่อตามหาควินซีและนำแก่นแท้ของมังกรกลับคืนมาให้ได้เสียก่อน
จักรพรรดินีถอนหายใจยาวขณะจ้องหน้าแดร์ริลพร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้ฉันจะไว้ชีวิตนาย แต่จะไม่มีครั้งหน้า!”
เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนเป็นลูกสาวคนเล็กของจักรพรรดินี เธอจึงได้รับการเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ ดังนั้น เมื่อจักรพรรดินี้ได้เห็นสายตาที่อ้อนวอนของเจ้าหญิงเอเวอร์กรีน ความโกรธในใจของจักรพรรดินีจึงลดลงไป
เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนสวมกอดจักรพรรดินีอย่างยินดี “ลูกรู้ว่าท่านแม่จะปฏิบัติต่อลูกดีที่สุดเสมอ!”
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนก็กระพริบตาเพื่อส่งสัญญาณให้แดร์ริล
แดร์ริลเข้าใจและรีบกล่าวขึ้นทันที “ขอบคุณจักรพรรดินีที่เมตตาผม!”
เมื่อพูดจบแดร์ริลก็รีบลุกขึ้นและถอยหลังไปด้านนอก เขากลัวว่าถ้าหากเขาอยู่ใกล้เกินไป ตัวตนของเขาอาจจะต้องถูกเปิดเผย
เมื่อออกมาด้านนอกแล้วแดร์ริลก็ยกมือขึ้นและปาดเหงื่อบนหน้าผาก
แดร์ริลแทบจะรอไม่ไหว เขาอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพราะเขามาที่นี่เพื่อตามหาควินซีและนำแก่นแท้ของมังกรคืนมาจากเธอ แต่ที่ด้านนอกมีราชองครักษ์ที่คอยคุ้มกันจักรพรรดินีอยู่มากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเสี่ยงและทำได้เพียงยืนรออยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ
ภายในห้องโถง จักรพรรดินีสั่งให้สาวใช้ทั้งหมดออกไป
“ลูกสาวที่รัก ในวันพรุ่งนี้นักการทูตจากทวีปเวสต์ริงตันจะมาเยือนทวีปโลกใต้เมฆีของเรา ดังนั้นลูกจะต้องไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อเข้าร่วมการสนทนากับพวกเขา ลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้นลูกจะต้อง เริ่มต้นทำความเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับทวีปโลกใต้เมฆีของเราให้มากขึ้น” จักรพรรดินีกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“นักการทูตจากเวสต์ริงตันอย่างนั้นเหรอ?”
เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนถามขึ้นด้วยความสงสัย “ทวีปโลกใต้เมฆีและทวีปเวสต์ริงตันไม่เคยมีความสัมพันธ์ต่อกัน แล้วทำไมจู่ ๆ ทวีปเวสต์ริงตันถึงได้ส่งนักการทูตมา?”
จักรพรรดินียิ้มและอธิบายว่า “แม่เดาว่าทวีปเวสต์ริงตันต้องการยึดครองทวีปโลกใต้เมฆีของเรา และนายกองคมนตรีโดน็อกก็มีอาวุธมหาประลัยอันยิ่งใหญ่อยู่ในครอบครอง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทวีปเวสต์ริงตันต้องการขยายอาณาเขตของตนเองโดยพยายามพิชิตทวีปอื่น ๆ มาตลอด ดังนั้นการเดินทางมาที่นี่ของพวกเขาก็เพื่อต้องการที่จะพิชิตทวีปโลกใต้เมฆีของเรา พวกเขาต้องการมาสำรวจกำลังของพวกเรา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาส่งนักการทูตมา”
เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนพยักหน้าและกำหมัดแน่น “ลูกเข้าใจแล้ว…” จากนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “ท่านแม่ไม่ต้องกังวล เรามีคุณป้าควินซีอยู่ทั้งคน! ถ้าหากทวีปเวสต์ริงตันกล้าที่จะโจมตีทวีปโลกใต้เมฆีของเรา พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”
ทุกคนรู้ดีว่าควินซีเป็นผู้พิทักษ์แห่งโลกใต้เมฆี เธอเป็นถึงจักรพรรดิยุทธขั้นห้า! ตราบใดที่พวกเขามีควินซีอยู่ก็จะไม่มีใครหน้าไหนสามารถพิชิตทวีปโลกใต้เมฆีได้!
“ใช่” จักรพรรดินีพยักหน้า “นั่นเป็นเหตุผลที่แม่ บอกให้คุณป้าของลูกกลับมายังไงล่ะ เมื่อมีเธออยู่ใกล้ ๆ แม่ก็รู้สึกโล่งใจ”
ถึงแม้ว่าจักรพรรดินีจะเป็นผู้นำของประเทศ แต่เธอก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา เธอไม่ใช่ผู้บ่มเพาะ
จักรพรรดินีพูดคุยกับเจ้าหญิงเอเวอร์กรีนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานเธอก็จากไปพร้อมกับสาวใช้และราชองครักษ์ของเธอ
เมื่อจักรพรรดินีออกไปแล้ว เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนก็รีบกวักมือเรียกแดร์ริลที่ยืนอยู่ข้างนอกทันที “เข้ามาได้แล้วสุดหล่อ!”
เจ้าหญิงเอเวอร์กรีนกลับสู่ตัวตนที่ซุกซนของเธอทันที ทว่าเธอกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธออยู่กับแดร์ริล เธอไม่ทำตัวอำมหิตเหมือนเช่นเคยอีกต่อไป เธอเองก็แทบจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะสามารถทำตัวอ่อนโยนกับขันทีได้ถึงเพียงนี้ อาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนแรกที่กล้าเฆี่ยนตีเธอ
เมื่อสังเกตเห็นความตื่นเต้นของเจ้าหญิงเอเวอร์กรีน แดร์ริลก็รู้สึกหงุดหงิดและพูดขึ้นว่า “วันนี้เราเล่นสนุกกันมามากพอแล้วเจ้าหญิง ไปพักผ่อนได้แล้ว ฉันขอตัวก่อน”